ทั้งนี้ Marvel Studios เปิดตัวภาพยนตร์ในปี 2021 ด้วย ‘Black Widow’ ที่ีทำรายได้ไป 183.6 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 6,100 ล้านบาท ตามมาด้วย ‘Venom: Let There Be Carnage ที่ทำรายได้ไป 212.5 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 7,000 ล้านบาท, ‘Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings’ ที่ทำรายได้ไป 224.5 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 7,460 ล้านบาท, ‘Eternals’ ที่ทำรายได้ไป 164.6 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 5,470 ล้านบาท และปิดท้ายปีด้วยรายได้อันมหาศาลของ ‘Spider-Man: No Way Home’ ที่ทำไปสูงถึง 609.9 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 20,300 ล้านบาท
กล่าวถึือภาพยนตร์ของ Marvel Studios ได้ติด 10 อันดับภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดประจำปี 2021 ของสหรัฐฯ มากถึง 5 เรื่อง เลยทีเดียว
สำหรับรายได้โดยรวมของบ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐฯ ในปี 2021 นั้น สูงขึ้นถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับรายได้เมื่อปี 2020 ที่มีการระบาดของ COVID-19 อย่างรุนแรงจนทำให้โรงภาพยนตร์มากมายต้องระงับการให้บริการชั่วคราว
เว็บไซต์ The Wrap ได้รายงานว่า ภาพยนตร์ของ Marvel Studios สามารถสร้างเซอร์ไพรส์ในปี 2021 ไปด้วยการครองส่วนแบ่งบ็อกซ์ออฟฟิศตลอดทั้งปี 2021 ของสหรัฐฯ สูงถึง 30% ของรายได้ทั้งหมด โดยภาพยนตร์ที่ครองส่วนแบ่งรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐฯ เมื่อปี 2021 สูงสุดก็คือ ‘Spider-Man: No Way Home’ ที่ทำไปสูงถึง 12% ของรายได้ทั้งหมด
ทาง The Wrap ได้ระบุว่า นี่เป็นสตูดิโอที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในปี 2021 ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้แก่ Marvel Studios อย่างมหาศาล และเป็นการช่วยให้อุตสหกรรมโรงภาพยนตร์สหรัฐฯ กลับมาฟื้นตัวเร็วขึ้น
ข้อมูลอ้างอิง : screenrant
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส