เป็นที่ทราบกันดีว่าในสองปีที่ผ่านมา สถานการณ์โควิดทั่วโลกมีความรุนแรงมาขึ้นเรื่อย ๆ เดิมทีทาง Marvel Studios’ ได้มีกำหนดฉายภาพยนตร์เรื่องแรกในเฟส 4 อย่าง Black Widow ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2020 ซึ่งก็ได้มีการเลื่อนฉายมาเรื่อย ๆ เนื่องจากโรงภาพยนตร์ส่วนใหญ่ทั่วโลกถูกสั่งปิดชั่วคราวเพื่อลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 จนได้ฉายในโรงภาพยนตร์ในสหรัฐฯ ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2021
แต่ในการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในสหรัฐฯ ในครั้งนี้ ได้มีการเข้าฉายใน Disney+ แบบ Premier Access หรือจ่ายเงินเพิ่มเพื่อรับชมในวันเดียวกันด้วย
หลังจากการเข้าฉายได้เพียง 2 สัปดาห์ กลับได้ชื่อว่าเป็นเรื่องที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์มากที่สุดในสถานการณ์การระบาดโควิด-19 เนื่องจากการเข้าฉายบน Disney+ ถึงจะต้องเสียเงินเพิ่มเพื่อรับชม แต่ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะมีผู้ใช้ดูดไปปล่อยเถื่อนได้มากมาย มีความละเอียดภาพที่คมชัด มีให้เลือกหลายภาษา ซึ่งทั้งหมดนี้มีรายงานจาก Deadline ว่า นับถึงเดือนสิงหาคม 2021 มีจำนวนการดูแบบละเมิดลิขสิทธิ์กว่า 20 ล้านครั้ง ซึ่งถ้าคิดเป็นตัวเงินจากมูลค่าของ Disney+ Premier Access ที่ 30 เหรียญ (ประมาณ 1,000 บาท) ต่อครั้ง ก็จะคิดเป็นจำนวนเงินทั้งหมดถึง 600 ล้านเหรียญ (ประมาณ 20,000 ล้านบาท) ที่สูญไปจากการละเมิดลิขสิทธิ์
แต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบันสตูดิโอต่าง ๆ รวมถึง Disney เอง กลับมาใช้ระบบการลงหลังช่วงที่กันไว้สำหรับการฉายในโรงภาพยนตร์แทน แต่จะมีการลดระยะเวลาจาก 90 วัน เหลือเพียง 45 วันเท่านั้น
อ้างอิง : Screenrant
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส