ผู้ใช้งานเว่ยป๋อโซเชียลมีเดียสัญชาติจีน ได้แชร์วิดีโอที่ผู้คนจำนวนมากในเมืองซีอาน มณฑลส่านซี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ต่างนำสิ่งของเครื่องใช้ของตัวเองมาแลกกับอาหารจากคนที่ยังพอมีเหลืออยู่ หลังรัฐบาลจีนสั่งล็อกดาวน์เมืองเป็นเวลาเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว จนประชาชนเริ่มประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร
จีนนับเป็นประเทศที่มีกลยุทธ์การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ค่อนข้างเข้มงวด พวกเขายึดมั่นแนวทางที่เรียกว่า ‘0 โควิด’ ซึ่งเป็นความพยายามจะกำจัดไวรัสออกไป แทนที่จะพยายามใช้ชีวิตร่วมกับมัน เหมือนแนวทางของประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลก
แม้ทางการของเมืองซีอานจะมีเจ้าหน้าที่คอยส่งมอบอาหารและวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหาร ให้แก่ประชาชนในทุกวัน แต่ก็ยังมีผู้คนจำนวนมากที่ไม่สามารถเข้าถึงการช่วยเหลือจากภาครัฐได้
วิดีโอและภาพถ่ายบนเว็บไซต์เว่ยป๋อ แสดงให้เห็นภาพของคนที่หิวโหยถึงขั้นต้องนำสิ่งของอุปโภคไปแลกกับอาหารเพื่อประทังชีวิต สิ่งของที่คนมักจะนำมาแลกกันก็มีตั้งแต่ บุหรี่แลกกับกะหล่ำปลี น้ำยาล้างจานแลกกับแอปเปิ้ล ผ้าอนามัยแลกกับผักกองเล็ก ๆ และบางคนถึงขั้นนำเกม Nintendo Switch ไปแลกกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและซาลาเปา 2 ก้อน
ชาวบ้านรายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสื่อเรดิโอ ฟรี เอเชีย ว่า “ตอนนี้ผู้คนต่างแลกเปลี่ยนสิ่งของกับคนอื่น ๆ ในอาคารเดียวกัน เพราะพวกเขาไม่มีอาหารเพียงพอแล้ว” ส่วนชายอีกคนเสริมว่าผู้คนลำบากมากถึงขั้นยอมนำสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตมาแลกกับข้าวสารเลยทีเดียว
ซีอานถือเป็นอีกหนึ่งเมืองใหญ่ที่ทางการจีนสั่งล็อกดาวน์ มาตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม โดยทำให้ขณะนี้มีผู้ถูกกักตัวอยู่ที่บ้านประมาณ 13 ล้านคน ขณะที่เมืองหยูโจว ซึ่งมีประชากร 1.1 ล้านคน ก็ได้มีการสั่งปิดระบบคมนาคมขนส่งและสถานบันเทิง รวมถึงปิดร้านขายอาหารที่จำเป็นทั้งหมด หลังพบผู้ป่วย 3 ราย ซึ่งทั้งหมดไม่มีอาการ
ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่าสาเหตุที่จีน ต้องใช้มาตรการสุดเข้มงวดเพื่อยับยั้งเชื้อในครั้งนี้ ก็เพื่อหวังจะให้ประเทศมียอดผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ และพร้อมสำหรับงานสำคัญของประเทศอย่างวันตรุษจีนและโอลิมปิกฤดูหนาว ที่จะเกิดขึ้นพร้อม ๆ กันในเดือนกุมภาพันธ์นี้
อ้างอิง:
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส