เว็บไซต์ ‘Deadline’ ได้รายงานว่า ‘Spider-Man: No Way Home’ ทำรายได้ในสุดสัปดาห์ล่าสุด (14-16 มกราคม 2022) ไปอีก 20.8 ล้านเหรียญ ทำให้รายได้รวมนั้นอยู่ที่ 698.7 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 23,200 ล้านบาท
นั่นส่งผลทำให้ ‘Spider-Man: No Way Home’ ขึ้นเป็นภาพายนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลลำดับที่ 5 ของสหรัฐฯ และกำลังจะขึ้นมาอยู่อันดับที่ 4 แซงหน้า ‘Black Panther’ (2018) ที่ทำรายได้เอาไว้ 700.4 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 23,300 ล้านบาท
ในส่วนของรายได้รวมทั่วโลกนั้นอยู่ที่ 1,625 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 54,000 ล้านบาท อยู่ในอันดับที่ 8 ของภาพยนตร์ที่ทำรายได้ทั่วโลกสูงสุดตลอดกาล ตามหลัง ‘The Lion King’ (2019) ที่ทำไว้ 1,662.9 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 55,300 ล้านบาท
‘Spider-Man: No Way Home’ เป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 4 ในเฟสที่ 4 ของแฟรนไชส์ MCU (Marvel Cinematic Universe) ซึ่งเป็นการจบไตรภาค Spider-Man เวอร์ชันของ ทอม ฮอลแลนด์ (Tom Holland) อย่างสมบูรณ์แบบเพื่อผลักดันให้เขาเป็นซูเปอร์ฮีโรฉายเดี่ยวอย่างเต็มภาคภูมิในไตรภาคถัดไป
‘Spider-Man: No Way Home’ ได้เข้าฉายเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2021 โดยสามารถทำสถิติรายได้มากมายตั้งแต่เข้าฉายวันแรก เช่น เป็นภาพยนตร์ที่เปิดตัวสูงสุดนับตั้งแต่ ‘Avengers: Endgame’ (2019) หรือเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในช่วงที่ COVID-19 ระบาด ที่สามารถทำรายได้ถึงหลัก 1,000 ล้านเหรียญ เป็นต้น
สำหรับพลอตที่ ‘Spider-Man: No Way Home’ ได้ทิ้งท้ายไว้นั้น เป็นการเปิดประตูสู่โลก Multiverse ที่จะกลายเป็นประเด็นสำคัญของภาพยนตร์เรื่องถัดไปของ Marvel Studios นั่นคือ ‘Doctor Strange in the Multiverse of Madness’ ที่มีกำหนดฉายในวันที่ 6 พฤษภาคม 2022 นี้
ข้อมูลอ้างอิง : screenrant
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส