ในขณะที่สถานการณ์ของโควิด-19 ในประเทศเนเธอร์แลนด์นั้นยังคงส่งผลกระทบที่รุนแรงจนกระทั่งต้องมีการสั่งล็อกดาวน์มาตั้งแต่เดือนธันวาคมของปีที่แล้ว แต่แม้ว่าจะมีการคลายล็อกดาวน์ลงบ้างแล้ว แต่กลายเป็นว่ากลุ่มอาชีพที่ยังคงได้รับผลกระทบก็คือ กลุ่มคนในแวดวงและสาขาอาชีพศิลปะวัฒนธรรม เพราะในขณะที่ร้านทำผมและโรงยิม สามารถกลับมาเปิดทำการได้แล้ว แต่สถานที่ทางวัฒนธรรมทั้งโรงละคร โรงภาพยนตร์ แกลเลอรี พิพิธภัณฑ์ บาร์ และร้านกาแฟ กลับยังไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดทำการ ด้วยเหตุที่ว่ายังไม่มีความจำเป็นในเวลานี้

โควิด-19 เนเธอร์แลนด์
โรงละคร ‘รอยัล คอนแชร์ตเกบาว ออร์เคสตรา’ (Royal Concertgebouw Orchestra) เปิดให้ผู้ใช้บริการเข้ามาตัดผมในโรงละคร
พร้อมการฟังดนตรีคลาสสิกจากวงดนตรีซิมโฟนิออเครสตราระดับโลก

วันพุธที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา โรงละครและพิพิธภัณฑ์กว่า 70 แห่งทั่วประเทศเนเธอร์แลนด์จึงได้ร่วมกันทำกิจกรรมในแคมเปญที่มีชื่อว่า ‘Kapsalon Theater’ หรือแปลความหมายว่า ‘โรงละครของช่างทำผม’ (Theater Hairdresser) เพื่อเปิดพื้นที่โรงละครและพิพิธภัณฑ์ให้กลายเป็นร้านอะไรก็ได้ที่ทางการอนุญาตให้เปิดแล้ว ทั้งร้านทำผม โรงยิม ร้านตัดผม บริการตัดแต่งหนวดและเครา หรือแม้แต่ร้านทำเล็บ ซึ่งเว็บไซต์ของแคมเปญนี้ได้ระบุว่า “การรอในร้านตัดผมไม่เคยสนุกเท่านี้มาก่อน !” ผู้ที่เข้าร่วมแคมเปญนี้จะต้องลงทะเบียน และยังคงต้องสวมผ้าปิดปาก และสแกน QR code เพื่อควบคุมการแพร่เชื้อตามปกติ

โควิด-19 เนเธอร์แลนด์
ภาพโปรโมตแคมเปญ ‘Kapsalon Theater’

แคมเปญ Kapsalon Theatre นี้ริเริ่มโดยศิลปินชาวดัตช์อย่าง ‘แซนน์ วอลลิส เดอ วรีส์’ (Sanne Wallis de Vries) และศิลปินตลกชาวดัตช์ ‘ดีเดริก เอบบิงเงอ’ (Diederik Ebbinge) เพื่อเชิญชวนให้ชาวดัตช์ทุกคนไปตัดผม ทำผม ออกกำลังกาย เล่นโยคะ นวด หรือแม้แต่ทำเล็บที่โรงละคร แกลเลอรี และพิพิธภัณฑ์กว่า 70 แห่งทั่วประเทศ ในขณะเดียวกันที่นักดนตรี นักแสดงตลก นักแสดง และเจ้าหน้าที่ก็ยังคงแสดงและทำงานไปตามปกติ เพื่อเป็นการประท้วงคำสั่งการคลายล็อกดาวน์ที่ดูเหมือนว่าจะยังคงเลือกปฏิบัติ และสร้างความไม่เท่าเทียมต่อบุคคลในสาขาอาชีพศิลปะวัฒนธรรม

โควิด-19 เนเธอร์แลนด์
โรงละคร ‘รอยัล คอนแชร์ตเกบาว ออร์เคสตรา’ (Royal Concertgebouw Orchestra) เปิดให้ผู้ใช้บริการเข้ามาตัดผมในโรงละคร
พร้อมการฟังดนตรีคลาสสิกจากวงดนตรีซิมโฟนิออเครสตราระดับโลก

ส่วนโรงละครที่เข้าร่วมแคมเปญในวันนั้นต่างก็มีกิจกรรมมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ (The Van Gogh Museum) ณ เมืองอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) ก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นร้านทำเล็บสำหรับสาว ๆ ช่างทำเล็บบางคนเลือกที่จะเพนต์เล็บเป็นรูปดวงดาวตอนกลางคืนที่ได้แรงบันดาลใจจากผลงานศิลปะที่โด่งดังของแวนโก๊ะ ‘เอมิลี กอร์เดนเกอร์’ (Emilie Gordenker) ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะกล่าวว่า “การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์นั้นเป็นอะไรที่ปลอดภัยมาก และสำคัญพอ ๆ กับการทำเล็บ หรือบางทีอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ เราแค่อยากให้ทางการออกมาตรการที่สอดคล้องและเข้าใจได้หน่อย”

โควิด-19 เนเธอร์แลนด์
พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ (The Van Gogh Museum)
ถูกเปลี่ยนให้เป็นร้านทำเล็บ

หนึ่งในโรงละครที่เข้าร่วมแคมเปญนี้ก็คือโรงละคร ‘รอยัล คอนแชร์ตเกบาว ออร์เคสตรา’ (Royal Concertgebouw Orchestra – RCO) ซึ่งเปิดให้ ณ เมืองอัมสเตอร์ดัม ที่เปิดให้ผู้ใช้บริการจำนวน 50 คนเข้ามาตัดผมในโรงละครนี้ได้ พร้อม ๆ กับการรับบริการพิเศษด้วยการแสดงดนตรีคลาสสิกจากวงดนตรี ‘รอยัล คอนแชร์ตเกบาว ออร์เคสตรา’ ซึ่งถือเป็นวงดนตรีซิมโฟนิออเครสตราที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งในขณะที่ช่างทำผมกำลังทำผม และในขณะที่ผู้ใช้บริการนั่งรอ ก็จะได้มีโอกาสฟังเพลงคลาสสิกบรรเลงคลอไปด้วย

โควิด-19 เนเธอร์แลนด์
โรงละคร ‘รอยัล คอนแชร์ตเกบาว ออร์เคสตรา’ (Royal Concertgebouw Orchestra) เปิดให้ผู้ใช้บริการเข้ามาตัดผมในโรงละคร
พร้อมการฟังดนตรีคลาสสิกจากวงดนตรีซิมโฟนิออเครสตราระดับโลก

โดมินิก วินเตอร์ลิง (Dominik Winterling) รอยัล คอนแชร์ตเกบาว ออร์เคสตรากล่าวว่า “เราและเพื่อนร่วมงานของเราจาก RCO ได้พิสูจน์ให้เห็นตลอดช่วงการระบาดครั้งใหญ่ว่า เราสามารถรับประกันว่าผู้ชมจะเข้าชมคอนเสิร์ตได้อย่างปลอดภัย และห้องโถงสำหรับการจัดแสดงที่มีที่นั่งตายตัว ก็ไม่ได้เป็นแหล่งของการติดเชื้อ ดังนั้น เราจีงอยากเรียกร้องให้นักการเมืองให้โอกาสในการเริ่มต้นกิจกรรมของเราอีกครั้ง”

โควิด-19 เนเธอร์แลนด์
โรงละคร ‘รอยัล คอนแชร์ตเกบาว ออร์เคสตรา’ (Royal Concertgebouw Orchestra) เปิดให้ผู้ใช้บริการเข้ามาตัดผมในโรงละคร
พร้อมการฟังดนตรีคลาสสิกจากวงดนตรีซิมโฟนิออเครสตราระดับโลก

นอกจากนี้ยังมีสถานที่ทางวัฒนธรรมอีกหลายแห่งที่เข้าร่วมในแคมเปญนี้ด้วย เช่น ‘พิพิธภัณฑ์ลิมเบิร์ก’ (Limburgs Museum) แห่งเมืองลิมเบิร์ก ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นลานเต้นซุมบา (Zumba) ‘เดอะ มอริซเฮาส์’ (The Mauritshuis) ซึ่งมีภาพวาดโด่งดัง ‘Girl with the Pearl Earring’ ของเวอร์เมียร์ (Vermeer) ก็มีการจัดแคมป์ออกกำลังกายชั่วคราวที่หน้ารัฐสภาในกรุงเฮก (Hague) ‘ศูนย์โต้วาทีเดอ เบลี’ (De Balie Debate Centre) ถูกเปลี่ยนเป็นชุมชนทางศาสนาและปรัชญา และ ‘Panorama Mesdag’ ซึ่งมีภาพวาดขนาดใหญ่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์ ก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นศูนย์ส่งเสริมกำลังใจให้แก่ผู้เยี่ยมชมในช่วงของการระบาด

โควิด-19 เนเธอร์แลนด์
‘Panorama Mesdag’ ซึ่งมีภาพวาดขนาดใหญ่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์
ถูกเปลี่ยนให้เป็นศูนย์ส่งเสริมกำลังใจให้แก่ผู้เยี่ยมชม

หนึ่งในโรงละครที่เข้าร่วมแคมเปญนี้ก็คือโรงละคร ‘รอยัล คอนแชร์ตเกบาว ออร์เคสตรา’ (Royal Concertgebouw Orchestra – RCO) ณ เมืองอัมสเตอร์ดัม ที่เปิดให้ผู้ใช้บริการจำนวน 50 คนเข้ามาตัดผมในโรงละครนี้ได้ พร้อม ๆ กับการรับบริการพิเศษด้วยการแสดงดนตรีคลาสสิกจากวงดนตรี ‘รอยัล คอนแชร์ตเกบาว ออร์เคสตรา’ ซึ่งถือเป็นวงดนตรีซิมโฟนิออเครสตราที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งในขณะที่ช่างทำผมกำลังทำผม และในขณะที่ผู้ใช้บริการนั่งรอ ก็จะได้มีโอกาสฟังเพลงคลาสสิกบรรเลงคลอไปด้วย

โดมินิก วินเตอร์ลิง (Dominik Winterling) รอยัล คอนแชร์ตเกบาว ออร์เคสตรากล่าวว่า “เราและเพื่อนร่วมงานของเราจาก RCO ได้พิสูจน์ให้เห็นตลอดช่วงการระบาดครั้งใหญ่ว่า เราสามารถรับประกันว่าผู้ชมจะเข้าชมคอนเสิร์ตได้อย่างปลอดภัย และห้องโถงสำหรับการจัดแสดงที่มีที่นั่งตายตัว ก็ไม่ได้เป็นแหล่งของการติดเชื้อ ดังนั้น เราจีงอยากเรียกร้องให้นักการเมืองให้โอกาสในการเริ่มต้นกิจกรรมของเราอีกครั้ง”

โควิด-19 เนเธอร์แลนด์
‘เดอะ มอริซเฮาส์’ (The Mauritshuis) จัดแคมป์ออกกำลังกายชั่วคราวที่หน้ารัฐสภาในกรุงเฮก (Hague)
โดยผู้ร่วมกิจกรรมสวมเสื้อลายภาพวาด ‘Girl with the Pearl Earring’ ของเวอร์เมียร์ (Vermeer) อันโด่งดัง

หากย้อนไปก่อนหน้าที่มีการประกาศแคมเปญนี้ออกมา แน่นอนว่าทางการก็ต่างออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยต่อแคมเปญนี้อย่างหนัก ‘เฟมเก ฮัลเซมา’ (Femke Halsema) นายกเทศมนตรีแห่งกรุงอัมสเตอร์ดัมก็ออกมาประกาศว่าจะไม่อนุญาตให้จัดแคมเปญการประท้วงนี้ และจะมีการบังคับใช้กฏระเบียบตามมาตรการการล็อกดาวน์ ส่วน ‘กุนเนย์ อูลู’ (Gunay Uslu) รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมของเนเธอแลนด์ได้ทวีตว่า “ฉันเข้าใจเสียงเรียกร้องขอความช่วยเหลือ และการที่เหล่าศิลปินต้องการแสดงออกถึงความสุนทรีให้เราได้เห็น แต่การเปิดเมืองยังคงต้องค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งเรื่องวัฒนธรรมเป็นหัวข้อที่เรายังคงให้ความสำคัญ”

โควิด-19 เนเธอร์แลนด์
พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ (The Van Gogh Museum)
ถูกเปลี่ยนให้เป็นร้านทำเล็บ

เมื่อช่วงเดือนธันวาคมปีที่แล้ว (2011) ทางการของประเทศเนเธอร์แลนด์ได้สั่งล็อกดาวน์ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่เพื่อควบคุมไม่ให้อัตราผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นจนเกินขีดความสามารถในการดูแล ในช่วงของการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน (Omicron) โดยมีการสั่งให้ปิดบริการร้านค้าและสถานที่ที่ไม่จำเป็น และจำกัดเวลาการปิดบาร์ ร้านอาหาร และร้านค้าที่จำเป็น ซึ่งในขณะนี้ที่สถานการณ์เริ่มกลับมาดีขึ้น รวมทั้งจำนวนการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมีอัตราลดลง รัฐบาลกล่าวว่าอาจมีการประกาศคลายล็อกเพิ่มเติมอีกในช่วงปลายเดือนมกราคมนี้

โควิด-19 เนเธอร์แลนด์
ผู้ร่วมกิจกรรมเข้าร่วมชั้นเรียนโยคะกลางพิพิธภัณฑ์แห่งกรุงอัมสเตอร์ดัม

‘เอมิลี กอร์เดนเกอร์’ (Emilie Gordenker) ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะกล่าวว่า “ฉันเข้าใจดีว่ารัฐบาลให้เปิดโรงยิมได้ แต่คุณก็ต้องมียิมสำหรับบริหารสมองด้วย และพิพิธภัณฑ์ก็เป็นสถานที่ที่ผู้คนจำนวนมากเข้ามาเพื่อค้นหาความลึกซึ้งและเหตุผลสำหรับชีวิตของพวกเขา”

ผู้รับบริการทำเล็บคนหนึ่งในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ความหวังของฉันคือการที่รัฐบาลจะได้เห็นการประท้วงนี้ และเข้าใจว่าการเปิดสถาบันของวัฒนธรรมอีกครั้ง มันมีความสำคัญต่อสุขภาพจิตของผู้คนแค่ไหน เพราะตอนนี้ทุกคนต่างก็รู้สึกมืดหม่นไปหมด ลูกสาววัย 11 ปีของฉันก็รู้สึกหดหู่”

“ถ้าคุณละทิ้งการแสดงออกทางวัฒนธรรมไป แล้วเราจะเหลืออะไรอีก ? “


อ้างอิง | อ้างอิง | อ้างอิง | อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส