อีก 1 ศิลปินผู้มากความสามารถที่เพิ่งลาโลกไปอีกราย เขาอยู่ในระดับแถวหน้าของวงการเพลงสากลในยุค 80s เขาได้รับความนิยมในระดับเดียวกับไมเคิล แจ๊คสัน และก็ตามไปร่วมงานในสวรรค์กับไมเคิล แจ๊คสันในวัย 57 ปี
- ปรินซ์เป็นศิลปินที่หลากหลายความสามารถเขาเป็นทั้งนักร้อง นักดนตรี นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ ดาราหนัง ผู้กำกับ เป็นผู้คิดค้นแนวดนตรีที่เขาตั้งชื่อว่า Minneapolis sound งานเพลงเขาก็ค่อนข้างหลายแนวมีทั้ง ป๊อป ร็อค อาร์แอนด์บี ฟังค์ ฮิปฮ็อป ดิสโก้ และ แจ๊ส ผลงานเพลงเขาประสบความสำเร็จอย่างมากขายได้ถึงกว่า 100 ล้านชุดทั่วโลก เคยได้รางวัลแกรมมี่ถึง 7 ครั้ง รวมถึงลูกโลกทองคำและออสการ์อีกด้วย เขาได้บันทึกชื่อลง Rock & Roll Hall Of Fame ในปี 2004 , นิตยสารโรลลิ่งสโตน จัดให้ปรินซ์อยู่ในอันดับที่ 27 ในรายชื่อ 100 ศิลปินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
- ปรินซ์ เป็นลูกของสามี-ภรรยานักดนตรี ปรินซ์ เป็นชื่อจริงไม่ใช่ฉายา จากชื่อ Prince Roger Nelson ทีพ่อเขาตั้งตามชื่อวงดนตรีแจ๊สของพ่อเขาเอง
- ปรินซ์เขียนเพลงแรกเมื่ออายุเพียงแค่ 7 ปี ชื่อเพลง “Funked Machine”
- ปรินซ์เคยขึ้นไปเต้นบนเวทีกับเจมส์ บราวน์ เมื่อตอนเขา 10 ขวบ “พ่อเลี้ยงผมดึงผมขึ้นเวทีไปกับเขา ผมก็ขึ้นไปเต้นนิดหน่อยจนกระทั่งบอดี้การ์ดมาลากผมออกไป”
- และในคอนเสิร์ตของเจมส์ บราวน์ปี 1983 ก็ถือว่าเป็นวาระสำคัญเมื่อเจมส์ บราวน์ ประกาศเรียกแขกรับเชิญชื่อ ไมเคิล แจ๊คสัน ขึ้นไปโชว์บนเวทีกับเขา หลังจากไมเคิล ลงไป เจมส์ก็เรียก ปรินซ์ ขึ้นไปโชว์กับเขา ในยุค 80s ทั้งไมเคิล และ ปรินซ์ ถือว่าเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับต้น ๆ ของวงการที่ทัดเทียมกัน คนหนึ่งคือ King Of Pop และอีกคนก็คือ Prince การที่ได้เห็นทั้งคู่ปรากฎตัวบนเวทีเดียว ถึงแม้จะไม่ได้โชว์ด้วยกันแต่ก็ถือว่าเป็นปรากฎการณ์สำคัญของวงการดนตรีอเมริกัน
- ปรินซ์ กำเนิดมาในครอบครัวที่ยากจนสุด ๆ จนถึงขั้นไม่มีเงินซื้ออาหารกิน “ผมไม่มีตังค์เลย ผมก็เลยใช้วิธียืนหน้าร้านแมคโดนัลด์ แล้วสูดกลิ่นอาหารเอา”
- อายุ 18 ปรินซ์ได้รับความสนใจจากค่ายใหญ่ถึง 3 ค่าย เอ แอนด์ เอ็ม เรคคอร์ด , วอร์เนอร์ และ โคลัมเบีย ปรินซ์เลือกวอร์เนอร์เหตุเพราะวอร์เนอร์ยินยอมตามเงื่อนไขของเขาให้ปรินซ์มีอิสระทุกอย่างในการทำอัลบั้มตัวเองและเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ผลงานเพลงของตัวเอง และมีสิทธิ์ในการสร้างสรรค์ศิลปินใหม่ให้สังกัดตัวเอง
- The Time เป็นศิลปินวงแรกที่เป็นผลงานของ ปรินซ์ ซึ่งเขาทำทุกอย่างเองหมด เริ่มจากเล่นเครื่องดนตรีเองทุกชิ้น มีเพียงมอริส เดย์ นักร้องนำของวงที่ได้มีส่วนร่วมในอัลบั้ม
- จิมมี่ แจม และ เทอรี่ ลูอิส คืออดีต 2 สมาชิกของ The Time ที่ถูกปรินซ์ไล่ออกจากวง ภายหลังทั้งคู่คือผู้ที่สร้างเพลงที่ประสบความสำเร็จมากมาย เขาทำเพลงฮิตให้ เจเน็ต แจ๊คสัน , จอร์จ ไมเคิล , มาริอาห์ แครีย์ และ บอยส์ ทู เม็น
- Vanity 6 เป็นทริโอหญิง ที่ปรินซ์ปลุกปั้นขึ้น เดนิส แมทธิว นักร้องนำของวงก็เป็นแฟนของปรินซ์ในขณะนั้น เดิมที ปรินซ์ ต้องการตั้งชื่อวงว่า The Hookers ซึ่งแปลว่า “กะหรี่” ปรินซ์ยังตั้งชื่อฉายาให้ เดนิส ว่า “Vagina” แต่เธอไม่เล่นด้วย แล้วขอใช้ชื่อ Vanity แทน ปรินซ์ก็ยังเติม 6 เข้าไปต่อท้าย ซึ่ง 6 หมายถึงวงหญิง 3 คน มี 6 เต้า
- ปรินซ์ เป็นศิลปินอีกคนในประวัติศาสตร์ดนตรีต่อจาก เดอะ บีทเทิลส์ ที่มีผลงานภาพยนตร์ , อัลบั้ม , และเพลงขึ้นอันดับ 1 พร้อมกัน หนังเรื่อง Purple Rain (1984) ที่ปรินซ์รับบทนำ ขึ้นอันดับ 1 อัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์ขึ้นอันดับ 1 และซิงเกิ้ล “When Doves Cry” ก็ขึ้นอันดับ 1
- ปรินซ์ กำกับมิวสิควีดีโอทุกเพลงในยุค 80s เอง แม้กระทั่งเพลง When Dove Cry ที่มีชื่อ แลรี่ วิลเลียมส์ เป็นผู้กำกับที่ทางค่ายจ้างมา แต่ปรินซ์ ก็ให้เขาไปนั่งอ่านแมกกาซีนเล่น ๆ แล้วปรินซ์ก็กำกับเอง
- ระหว่างถ่ายทำหนัง Purple Rain ปรินซ์ก็แต่งงานเงียบ ๆ กับ อพอลโลเนีย สาวที่แสดงร่วมในหนัง
- กลางยุค 80s ปรินซ์ตกหลุมรัก ซูซานน่า เมโลวิน น้องสาวฝาแฝดของ เวนดี้ เมโลวิน มือกีตาร์ของวงเรโวลูชั่น วงในสังกัดของปรินซ์ และเมื่อปรินซ์เลิกรากับ ซูซานน่า เขาก็ใช้ความโศกเศร้ามาเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนเพลงดังหลาย ๆ เพลง “The Beautiful Ones,” “Nothing Compares 2 U,” และ “Forever in My Life.”
- ลอนา เนลสัน พี่สาวต่างมารดา ฟ้องร้อง ปรินซ์ ในปี 1986 ว่าเธอเป็นคนแต่งเพลง “U Got the Look,” ผลคือศาลตัดสินให้ปรินซ์เป็นฝ่ายชนะคดี
- ปี 1987 อัลบั้ม “Black Album”ถูกยกเลิกการจำหน่ายก่อนกำหนดวางแผงเพียงสัปดาห์เดียว เหตุเพราะปรินซ์ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เขาถูกล่อลวงจากสิ่งชั่วร้าย และนี่คืองานเพลงที่ทำเพื่อสังเวยปีศาจ อัลบั้มนี้กลายเป็นของหายากที่แฟนเพลงต่างตามหากัน ก่อนมันจะถูกออกจำหน่ายเป็นทางการอีกครั้งในปี 1994
- ภาพยนตร์ แบทแมน ปี 1989 ที่เป็นผลงานกำกับของทิม เบอร์ตัน และปรินซ์เป็นคนทำเพลงประกอบภาพยนตร์นั้น เดิมที ทิม เบอร์ตันวางแผนว่าจะทำอัลบั้มเพลงประกอบออกมาเป็น 2 แบบ แบบแรกเป็นฟังค์ ให้ปรินซ์ทำ และอีกแบบเป็นเพลงบัลลาด ให้ไมเคิล แจ๊คสัน ทำ แต่สุดท้ายก็กลายเป็นว่าปรินซ์ ทำคนเดียวทั้งหมด เหตุเพราะ ปรินซ์ เกิดไปประทับใจ คิม บาซิงเจอร์ นางเอกของเรื่อง ถึงขนาดยกเลิกทัวร์ที่ญี่ปุ่นเพื่อมาตั้งใจทำอัลบั้มนี้
- หลังเสร็จงานเพลงประกอบแบทแมน ปรินซ์ ก็ดึง คิม บาซิงเจอร์ มาทำอัลบั้มเพลงเดี่ยว ในชื่อ A Hollywood Affair แต่พอเสร็จ เขาก็ตัดสินใจโยนทิ้งเหตุเพราะ เสียงของคิม ห่วยเกินรับ
- ปรินซ์เล่นกีตาร์ให้มาดอนน่า ในเพลง “Like A Prayer”
- ไมเคิล แจ๊คสัน เขียนเพลง “Bad” ด้วยความตั้งใจแรกจะให้เป็นเพลงคู่ที่เขาร้องกับปรินซ์ แต่ปรินซ์รู้สึกตะขิดตะขวงใจกับท่อนแรก “Your butt is mine.”เลยปฎิเสธไป
- เมท กราเซีย ภรรยาคนแรกของปรินซ์ คือลูกสาวของแฟนเพลงเดนตายของปรินซ์คนหนึ่ง เธอเอาวีดีโอที่บันทึกภาพ เมท การ์เซีย วัย 16 กำลังเต้นระบำหน้าท้องไปให้ปรินซ์ดู ปรินซ์ชอบก็เลยสานสัมพันธ์กับเธอทางจดหมาย ด้วยหวังว่ารอให้เมท อายุ 18 ซะก่อนเถอะจะได้แอ้ม ปรินซ์ สัญญิงสัญญากับเมทว่าจะส่งผลงานเพลงใหม่ให้เมทฟังก่อนใคร แต่ต้องแลกกับวีดีโอเต้นระบำของเธอ
- ปี 1997 ปรินซ์เข้าเป็นสาวก “พยานพระยะโฮวาห์” ทำให้ภาพลักษณ์ทางเพลงของเขาเปลี่ยนไป ลดเรื่องราวเซ็กซี่บนเวทีคอนเสิร์ต และลดเนื้อหาที่เกี่ยวกับเซ็กส์ในเพลงของเขา
- ปรินซ์มีงานเพลงที่ยังไม่ได้ออกขาย อัลบั้มและเพลงที่ยกเลิกออกขายจำนวนมหาศาล เก็บไว้ในตู้นิรภัยในเพสลีย์ปาร์คสตูดิโอของเขา
- ความนิยมของปรินซ์ลดลงในช่วงกลางยุค 90s แต่เขาก็ยังใช้ค่าใช้จ่ายมหาศาลไปกับ เพสลีย์ปาร์คสตูดิโอ มากกว่าปีละ 500,000 เหรียญ ด้วยการจ้างพนักงานเต็มอัตราตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งนั่นรวมถึงระบบจัดทำอาหารพร้อมเสิร์ฟ ทีมตัดเย็บเสื้อผ้า 10 คน คอยตัดเย็บเสื้อตามสั่งให้เขาและนักดนตรี ทีมงานถ่ายทำภาพยนตร์ที่ไม่เคยปล่อยผลงานออกสู่โลกภายนอก
- กลางยุค 90s ปรินซ์เปลี่ยนชื่อเขาเป็น O{+> ซึ่งอ่านออกเสียงไม่ได้ แต่สื่อก็เรียกเขาว่า “The Artist” เหตุผลในการเปลี่ยนชื่อคือต้องการประชดค่ายวอร์เนอร์ ที่ทำยอดขายไม่ดีนักกับอัลบั้มหลาย ๆ ชุดของเขา และศิลปินในสังกัดตั้งแต่ช่วงต้น 90s แต่พอขึ้นปี 2000 ปรินซ์หมดสัญญากับวอร์เนอร์ เขาก็กลับมาใช้ชื่อ ปรินซ์ ตามเดิม
- ความเจ้าชู้ของปรินซ์ยังไม่จบสิ้น เขาชอบ ซูอี้ เดสชาเนล ดาราสาวจากซีรีส์ The New Girl (2011) ปรินซ์อีเมลไปหาซูอี้ว่ามีแค่ 2 อย่างที่เขาดูบนทีวีคือผลงานของซูอี้และข่าว
- ความคลั่งไคล์ของปรินซ์ที่มีต่อซูอี้ ถึงขั้นขอไปเป็นแขกรับเชิญในตอนหนึ่งของ The New Girl และยังแต่งเพลง “FALLINLOVE2NITE,” ให้ซูอี้อีกด้วย
- ปรินซ์ ไม่ยินยอมให้ผู้สื่อข่าวบันทึกเสียงเขาขณะสัมภาษณ์และห้ามไม่ให้จดบันทึกใด ๆ ขณะสัมภาษณ์อีกด้วย
- ปรินซ์เสียชีวิตในวัย 57 ปี ร่างของเขาถูกพบว่านอนไม่ได้สติในลิฟต์ที่เพสลีย์ปาร์คสตูดิโอ หน่วยแพทย์ฉุกเฉินพยายามช่วยชีวิตแต่ร่างของปรินซ์ก็ไม่ตอบสนองแต่อย่างใด จึงบันทึกว่า ปรินซ์ เสียชีวิตในเวลา 10.07 น. วันที่ 21 เมษายน สาเหตุการตายยังไม่มีการประกาศเป็นทางการ