‘เดฟ โกรล’ (Dave Grohl) อดีตมือกลองของวงดนตรีกรันจ์ร็อกในตำนาน ‘เนอร์วานา’ (Nirvana) และฟรอนต์แมนวงดนตรีร็อก ‘ฟู ไฟต์เตอร์’ (Foo Fighters) วัย 53 ปี ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านทางรายการวิทยุชื่อดังเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเขาได้เปิดเผยว่า ตัวเขาเองมีอาการ “หูอื้อ” มานานถึง 20 ปี ทำให้เขาต้องใช้วิธีอ่านปากในการสนทนาในที่สาธารณะแทน ซึ่งเขาได้ใช้คำอธิบายถึงอาการหูอื้อของตัวเขาเองว่า “กูก็คือคนหูหนวกดี ๆ นี่เอง…” (I’m f***ing deaf.)

Dave Grohl,Foo Fighters
เดฟ โกรล’ (Dave Grohl)

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ‘เดฟ โกรล’ (Dave Grohl) ฟรอนต์แมน และ ‘เทย์เลอร์ ฮอว์กินส์’ (Taylor Hawkins) มือกลองของวงดนตรีร็อก ‘ฟู ไฟต์เตอร์’ (Foo Fighters) ผู้ถูกถูกบรรจุชื่อเข้าสู่ Rock & Roll Hall of Fame ถึง 2 ครั้ง ที่กำลังจะมีผลงานภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องแรก ‘Studio 666’ ที่จะฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วสหรัฐอเมริกาในวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ พร้อมกับเพลงประกอบภาพยนตร์แนวแธรชเมทัลภายใต้ชื่อวง ‘Dream Widow’ ได้ให้สัมภาษณ์ทางรายการวิทยุ ‘เดอะ ฮาวเวิร์ด สเติร์น โชว์’ (The Howard Stern Show) ทางสถานีวิทยุซิริอัส เอ็กซ์เอ็ม (SiriusXM)

ซึ่ง ‘ฮาวเวิร์ด สเติร์น’ (Howard Stern) ได้ถามเดฟเกี่ยวกับเรื่องที่เขาไม่ชอบใส่หูฟังมอนิเตอร์แบบสอดในหู (In-Ear Monitors) ซึ่งถือว่าเป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่ปกติแล้วนักดนตรีจะต้องใส่เวลาขึ้นแสดงคอนเสิร์ตเพื่อให้สามารถได้ยินภาพรวมของเครื่องดนตรีที่เล่นบนเวทีได้อย่างชัดเจน โดยเขาได้เปิดเผยว่า การใส่หูฟังมอนิเตอร์เป็นการทำให้เขารู้สึกแปลกแยกกับบรรยากาศของคอนเสิร์ต ซึ่งเขาเผยว่า เขาไม่ชอบใส่มาตั้งแต่สมัยเป็นมือกลองวง Nirvana แล้ว

Dave Grohl,Foo Fighters
‘เดฟ โกรล’ (Dave Grohl) (ซ้าย) และ ‘เทย์เลอร์ ฮอว์กินส์’ (Taylor Hawkins) (ขวา) แห่งวง ‘ฟู ไฟต์เตอร์’ (Foo Fighters)

“ผมอยากจะได้ยินเสียงคนดูแบบต่อหน้า และพอหันหลังก็ยังได้ยินเทเลอร์ ฮอว์กินส์ (กลอง) อยู่ตรงนั้น แพต สเมียร์ (Pat Smear – มือกีตาร์) อยู่ตรงโน้น แล้วตรงนี้ก็ได้ยินเสียงกีตาร์จากคริส ชิฟเฟล็ตต์ (Chris Shiflett – มือกีตาร์) ด้วย อะไรทำนองนั้น มันอาจจะยุ่งยากหน่อยตอนที่ต้องจูนหูให้เข้าใจว่าคุณอยู่จุดไหนของเวที ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบเสียงดังนะ ผมชอบ แต่แค่ไม่ชอบใส่หูฟัง”

Dave Grohl,Foo Fighters
‘เดฟ โกรล’ สมัยเป็นมือกลองให้กับวง Nirvana

นอกจากนั้น เขายังเปิดเผยว่า เขาประสบปัญหามีเสียงอื้อที่หูข้างซ้าย หรือที่เรียกว่า “หูอื้อ” (Tinnitus) มานานถึง 20 ปี ซึ่งเป็นผลจากการที่เขาตีกลองมาตั้งแต่ตั้งแต่สมัยยังเป็นมือกลองวง Nirvana โดยเขามักจะไม่ใส่หูฟังมอนิเตอร์ แต่ใช้วิธีวางลำโพงมอนิเตอร์และกลองสแนร์ไว้ทางด้านซ้ายเป็นประจำแทน นั่นจึงทำให้เขาประสบปัญหาหูซ้ายอื้อ และไม่ได้เสียงคนพูด โดยเฉพาะในที่สาธารณะมานานกว่า 20 ปีแล้ว เพื่อให้เข้าใจสิ่งที่คนอื่นพูด เขาจึงต้องฝีก “อ่านริมฝีปาก” (Lip reading) ของคนพูดแทน

Dave Grohl,Foo Fighters
‘เดฟ โกรล’ (Dave Grohl)

“ผมน่ะ หูซ้ายผมแม่งอื้อกว่าหูข้างขวา ไม่ได้เทสต์มานานแล้วเหมือนกัน แต่ก็พอรู้แหละว่าพวกเขาจะพูดอะไร คือถ้าคุณมานั่งข้าง ๆ ผมตอนกินข้าวอ่ะนะ ผมจะไม่เข้าใจห่าอะไรที่คุณพูดใส่ผมเลยสักคำเว้ย โดยเฉพาะร้านอาหารที่มีคนเยอะ ๆ แต่ที่แม่งแย่กว่าเดิมก็คือ ช่วงไอ้โรคระบาดเชี่ยนี่แหละ เพราะคนแม่งใส่หน้ากากอนามัยกัน แล้วคือผมแม่งฝีกอ่านปากคนมา 20 ปี เป็นนักดนตรีร็อก แต่ผมกลับไม่รู้ว่าใครพูดอะไรบ้าง เพราะอ่านริมฝีปากไม่ได้แล้ว กูนี่ก็คือคนหูหนวกดี ๆ นี่เอง…”

Dave Grohl,Foo Fighters
‘เดฟ โกรล’ (Dave Grohl)

แต่แม้ว่าเดฟจะมีปัญหาในการได้ยินเสียงพูดของมนุษย์เพราะอาการหูอื้อ แต่เขาก็ยืนยันว่า เขายังคงสามารถทำงานในสตูดิโอ เช่นการบันทึกเสียง และการมิกซ์อัลบั้มได้ตามปกติ เขาอธิบายว่า เขาสามารถได้ยินเสียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้เป็นอย่างดี “หูของผมยังคงได้ยินเสียงอะไรก็ตามที่มีความถี่ค่อนข้างเสถียร ผมสามารถได้ยินเสียงเครื่องดนตรีอะไรบางอย่างที่เพี้ยนไปนิดนึง เช่นเสียงฉาบที่เสียงเบาเกินไป อะไรแบบนั้น ตอนมิกซ์เสียง ผมยืนยันว่ายังได้ยินเสียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ห่าเหวทุกอย่างที่อยู่ในเพลงที่เราทำ”

Dave Grohl,Foo Fighters
‘เดฟ โกรล’ (Dave Grohl)

และเดฟยังได้เปิดเผยว่า ในการแสดงคอนเสิร์ตทุกครั้ง เขาเผยว่า เขามักใช้คนคนเดียวในการมิกซ์เสียงมาตลอด 31 ปีในอาชีพนักดนตรี เพื่อให้มั่นใจว่าเสียงที่ออกมาจะสมบูรณ์แบบ “ผมมักจะใช้คนมอนิเตอร์คนเดียวกันกับที่ผมใช้มาตลอด 31 ปี ผมหมายถึงคนที่อยู่ในหัวผมนี่แหละ แม้ว่าผมจะไม่ได้ใส่หูฟังมอนิเตอร์ แต่เสียงบนเวทีก็ออกมาโคตรเฟอร์เฟ็กต์ทุกครั้ง เพราะว่าเป็นคนคนเดียวกันไง”

Dave Grohl,Foo Fighters
‘เดฟ โกรล’ (Dave Grohl) ในภาพยนตร์สยองขวัญ ‘Studio 666’
ซึ่งเขามีส่วนร่วมในการแสดงนำ และเขียนบทภาพยนตร์ร่วม

เดฟ โกรล ไม่ใช่มือกลองคนเดียวที่ต้องประสบปัญหาการได้ยินเพราะหูอื้อ เพราะนักดนตรี โดยเฉพาะนักดนตรีร็อกในตำนานหลายคนก็ล้วนประสบปัญหาหูอื้อที่เป็นผลกระทบจากการแสดงคอนเสิร์ต ตัวอย่างเช่น ‘พีต ทาวน์เซนด์’ (Pete Townshend) มือกีตาร์วงร็อกรุ่นเดอะ ‘เดอะ ฮู’ (The Who) ‘นีล ยัง’ (Neil Young), ‘อีริก แคลปตัน’ (Eric Clapton), ‘ฟิล คอลลินส์’ (Phil Collins), ‘ออซซี ออสบอร์น’ (Ozzy Osbourne) นักร้องนำวงร็อกเฮฟวีเมทัล ‘แบล็ก ซับบาธ’ (Black Sabbath), และ ‘คริส มาร์ติน’ (Chris Martin) ฟรอนต์แมนวงร็อกจากอังกฤษ ‘โคลเพลย์’ (Coldplay)


อ้างอิง | อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส