ภาคแรกออกมาปี 2014 ทุนสร้าง 18 ล้านเหรียญ ทำรายได้ไป 270 ล้านเหรียญ มีเหรอที่จะเมินเฉยไม่ทำภาค 2 เนี่ย ผ่านมา 2 ปีภาค 2 ก็ตามออกมาแล้ว แถมหาทางออกของเรื่องได้ดี ด้วยการให้คู่ผัวเมีย แม็คกับเคลลี่ ต้องเผชิญกับแก๊งวัยรุ่นกลุ่มใหม่ ที่รอบนี้เปลี่ยนจากแก๊งนักศึกษาชายมาเป็นแก๊งนักศึกษาหญิง แล้วได้สาวอวบกำลังดังอย่าง โคลอี้ เกรซ มอเร็ตซ์มานำทัพ โชคยังดีที่ แม็ค กับ เคลลี่ ได้คู่ปรับเก่าอย่าง เท็ดดี้ ที่แปรพักต์มาเข้าพวกด้วย เลยกลายเป็นพล็อตที่น่าสนใจสำหรับภาคนี้เมื่อหัวโจกฝ่ายชายเอาประสบการณ์คร่ำหวอดกับบ้านจัดปาร์ตี้มาต่อกรกับทัพเด็กสาวปี 1 ไฟแรง
มุกในภาคนี้ยังคงแพรวพราวเหมือนเดิม เล่นกันตั้งแต่โปสเตอร์หนังที่ทำออกมาล้อ Captain America:Civil War หนังยิงมุกได้ถี่มาก มีทั้งมุกจากสถานการณ์ที่ต่างฝ่ายต่างแกล้งกันเจ็บ ๆ แรง ๆ และมุกจากบทสนทนา มุกจะออกไปทางสัปดนหน่อยนะครับ อย่าพาเด็กเล็กไปดูล่ะ ถึงแม้มุกที่ทยอยยิงมาจะได้ผลได้เสียงหัวเราะกลับไป แต่หลาย ๆ มุก ดูจะเป็นมุกที่ยัดเยียดเข้ามา และเขียนให้ตัวละครกระทำเรื่องโง่ ๆ ออกไปทางปัญญาอ่อนที่คนปรกติไม่ทำกัน ไม่เป็นมุกที่ลื่นไหลไปกับเรื่องอย่างเช่นภาคแรก
โคลอี้ เล่นเรื่องนี้แบบสบาย ๆ ล่ะ เพราะเป็นบทที่ตรงกับวัยมาก นักศึกษาเฟรชชี่ที่ตั้งใจสนุกสุดเหวี่ยงกับชีวิตอิสระหลังได้ออกจากบ้านมาเช่าบ้านอยู่กับเพื่อน แต่บทของโคลอี้ยังไม่ถือว่าเป็นบทนำนะ เพราะหนังมีตัวละครที่ต้องแบ่งเวลาไปให้เยอะมาก เพื่อน ๆ ทั้งขโยง และฝ่ายตรงข้ามทั้งแก๊ง แม็คและเคลลี่ ที่ภาคนี้ดึงผัวเมียเพื่อนซี้อีกคู่มาช่วยด้วย โดยเฉพาะ แซค เอฟรอน ที่ภาคนี้โชว์หุ่นมากขึ้นกว่าเดิมอีก ถ้าสาว ๆ ที่ชอบในตัวแซค ภาคนี้ถือว่า”ฟิน”แน่ สุดท้ายหนังก็ยังสามารถหาข้อคิดคำสอนดี ๆ มาเป็นข้อสรุปลงท้ายจนได้ ทำให้หนังดูมีสาระขึ้นมาหน่อย
ถ้าชอบแซค ชอบโคลอี้ หรือชอบหนังตลกประเภทแกล้งกันแบบภาคแรก ภาคนี้ก็ยังคงรสชาติเดิม ๆ ให้ครบครับ เป็นหนังที่อยากหัวเราะก็ได้หัวเราะ พอคลายเครียดได้สักชั่วโมงครึ่ง ภาคนี้บ้านเราฉายก่อนอเมริกาตั้ง 2 สัปดาห์เลยนะ