ข่าวการจากไปของ แตงโม ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้ใกล้ชิดและผู้ที่ได้ติดตามเรื่องราวของเธอไม่น้อย และได้มีการจัดพิธีไว้อาลัย ณ คริสตจักรเสรีภาพกรุงเทพ โดยงานพิธีไว้อาลัยจะจัดถึงวันที่ 13 มีนาคม 2022 เป็นคืนสุดท้าย ในส่วนหนึ่งของงานพิธีเราจะพบกับคำศัพท์คำหนึ่ง ที่อาจจะทำให้หลายคนที่ไม่ได้เป็นคริสเตียนไม่คุ้นชิน ในบางช่วงบางตอนที่ได้มีการอธิษฐานเผื่อให้แก่ครอบครัวผู้ล่วงหลับ แล้ว ‘ล่วงหลับ’ คำนี้แตกต่างจากคำว่า ‘ล่วงลับ’ อย่างไรในทางของคริสเตียน
แล้วพบกันใหม่
ล่วงลับ ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หมายความถึงการเสียชีวิต ในฐานะที่ผู้เขียนเองเป็นคริสเตียนเช่นเดียวกัน อยากสื่อสารผ่านบทความนี้เพื่อทำความเข้าใจกับทุกท่านว่า ในทางคริสเตียน การใช้คำว่าผู้ล่วงหลับ หมายถึงความตายเช่นเดียวกันค่ะ แต่เป็นการที่กายหลับแต่วิญญาณได้เดินทางไปสู่อ้อมกอดของพระเจ้า เขาล่วงหน้าไปยังดินแดนอันเปี่ยมสุขก่อนเราและเราจะได้พบกันอีกครั้ง เมื่อวันนั้นของเรามาถึง จากข้อพระคัมภีร์ที่ว่า
“แต่พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่อยากให้ท่านไม่ทราบถึงเรื่องคนเหล่านั้นที่ล่วงหลับไปแล้ว เพื่อท่านจะไม่เป็นทุกข์โศกเศร้าอย่างคนอื่น ๆ ที่ไม่มีความหวัง เพราะถ้าเราเชื่อว่าพระเยซูทรงสิ้นพระชนม์ และทรงคืนพระชนม์แล้ว เช่นเดียวกันบรรดาคนที่ล่วงหลับไปในพระเยซูนั้น พระเจ้าจะทรงนำคนเหล่านั้นมากับพระองค์ด้วย ” (1เธสะโลนิกา 4:13-14)
ไม่ว่าจะเป็นคริสเตียนหรือไม่ได้เป็นคริสเตียน เมื่อมีความตายก็โศกเศร้าด้วยกันทั้งนั้นค่ะ เพราะการจากลามันไม่น่าพิสมัย แต่ด้วยความเชื่อที่เรามี การจากไปมีจุดหมายปลายทางรออยู่เสมอและเป็นจุดหมายปลายทางที่ ‘สุขนิรันดร์’ เพราะพระเจ้าทรงสัญญากับพวกเราอย่างชัดเจนไว้ในพระคัมภีร์ว่า ทุกคนที่เชื่อในพระเยซูคริสต์ เมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้ว จะมีวันหนึ่งที่จะฟื้นขึ้นจากความตายโดยพระเยซูคริสต์และมีชีวิตนิรันดร์ การตายของคริสเตียนจึงเปรียบเสมือนการนอนหลับ และวันหนึ่งจะได้ตื่นขึ้นมาพบกับความสุข
ถึงวันที่ได้หยุดพัก
‘การตาย’ เป็นการได้หยุดพัก เป็นการหยุดพักจากงานที่ได้รับมอบหมายจากพระเจ้าที่ให้ทำบนโลกนี้ คริสเตียนมีความเชื่อว่า การที่เรามีชีวิตอยู่บนโลกนี้ ก็เพื่อทำงานที่ได้รับมอบหมายจากพระเจ้าให้สำเร็จ และในวันนี้แตงโม นิดา ได้ทำหน้าที่ของเธอสำเร็จแล้ว คือการเป็นเกลือและแสงสว่างให้ทุกคนได้เห็นพระคุณความรักของพระเจ้า ผ่านชีวิตของเธออย่างล้นเหลือ ผลงานที่เธอทำ บทเพลงสรรเสริญที่เธอชื่นชอบ ได้เตะใจใครหลายคนที่ได้ร่วมไว้อาลัยจนจับจิต ซึ่งจะเป็นบำเหน็จให้กับเธอบนสรวงสวรรค์ ตามคำในข้อพระคัมภีร์ที่ว่า
“และข้าพเจ้าได้ยินเสียงจากสวรรค์กล่าวว่า ‘จงเขียนไว้เถิดว่า ตั้งแต่นี้ไป คนทั้งหลายที่ตายในองค์พระผู้เป็นเจ้าก็เป็นสุข’ และพระวิญญาณตรัสว่า ‘จริงอย่างนั้น พวกเขาจะได้หยุดพักจากการตรากตรำของเขา เพราะการงานที่พวกเขาได้ทำนั้นจะติดตามเขาไป’ ” (วิวรณ์ 14:13)
ถึงเวลาได้กลับบ้าน
หลายคนอาจคุ้นชินกับคำว่ากลับบ้านเก่า ซึ่งหมายถึงความตาย ในความเชื่อของคริสเตียนก็มองว่าความตายเปรียบเสมือนการกลับบ้านเช่นกันค่ะ และแน่นอนว่าแตงโม นิดา ก็ได้กลับไปสู่บ้านหลังงามหลังนั้นเช่นเดียวกัน แต่เป็นบ้านที่ตั้งอยู่ในดินแดนที่มั่นคง เธอได้ย้ายชีวิตของเธอจากความสับสนวุ่นวาย ชีวิตที่ต้องแก่งแย่ง ดิ้นรนจนบางครั้งต้องเสียน้ำตา ไปสู่สถานที่งดงามและเปี่ยมสันติสุข
“ข้าพเจ้าลังเลใจอยู่ระหว่างสองฝ่ายนี้ คือว่า ข้าพเจ้ามีความปรารถนาที่จะจากไปอยู่กับพระคริสต์ ซึ่งประเสริฐกว่ามากนัก” (ฟิลิปปี 1:23)
เพราะการมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้เป็นเพียงแค่เรื่องชั่วคราวเท่านั้น แต่ชีวิตหลังความตายต่างหากคือชีวิตอันเป็นนิรันดร์ ผู้ล่วงหลับ จึงเป็นการหลับจากโลกใบนี้เพื่อตื่นขึ้นในอ้อมกอดอันอบอุ่นของพระเจ้าที่บ้านบนสวรรค์อย่างถาวร บ้านที่พระเจ้าได้จัดเตรียมไว้ให้สำหรับผู้ที่มีความเชื่อ มีความรักและศรัทธาในพระองค์อย่างแตงโม ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ ผู้ล่วงหลับที่ไม่เคยอับแสงและจะไม่ลับไปจากชีวิตอันเป็นนิรันดร์
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส