สตีเวน สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) ยอดผู้กำกับเจ้าของฉายาพ่อมดแห่งวงการภาพยนตร์ ได้ออกมากล่าวชื่นชมซีรีส์ ‘Squid Game’ จาก Netflix ว่า ได้เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในหลาย ๆ อย่าง และสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ พวกเขาพิสูจน์แล้วว่าการไม่มีนักแสดงฮอลลีวูดในเรื่อง ก็สามารถทำให้หนังดังไกลระดับโลกได้
ในปี 2021 กว่า 140 ล้านครัวเรือนทั่วโลก ต่างผ่านการรับชม ‘Squid Game’ บน Netflix มาแล้วทั้งนั้น และดูเหมือนว่าบ้านของสปีลเบิร์กก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย
โดยในระหว่างการเข้าร่วมงาน PGA Awards เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา ผู้กำกับ ‘West Side Story’ ได้ออกมากล่าวยกย่องทีมงานของ ‘Squid Game’ รวมไปถึงชื่นชม Netflix ที่กล้าลงทุนทำซีรีส์ในลักษณะนี้ ซึ่งสปีลเบิร์กกล่าวว่าความสำเร็จของ ‘Squid Game’ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และซีรีส์ โดยเฉพาะเรื่องของการคัดเลือกนักแสดง ที่อาจไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้บริการดาราเบอร์ใหญ่อีกต่อไป
“‘Squid Game’ มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง ที่จะเปลี่ยนทุกสิ่งสำหรับพวกเราทุกคนโดยสิ้นเชิง ต้องขอบคุณ เท็ด ซาแรนดอส (Ted Sarandos) ซีอีโอของ Netflix ด้วย ขอบคุณนะเท็ด”
หลังจากที่ ‘Squid Game’ ออกฉายบน Netflix เมื่อปี 2021 ตัวซีรีส์ก็ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นซีรีส์ที่มีคนดูมากที่สุดของ Netflix โดยในเดือนแรกที่สตรีมมีผู้ชมมากกว่า 1,200 ล้านชั่วโมง เทียบกับซีรีส์ Netflix ที่ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นอันดับสองในช่วงเวลานั้นอย่าง ‘Bridgerton’ ที่มีผู้ชมเพียง 600 ล้านชั่วโมง
สปีลเบิร์กเสริมว่า ความสำเร็จจาก ‘Squid Game’ น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้สร้างภาพยนตร์มีอิสระมากขึ้นในการเลือกการคัดเลือกนักแสดงของพวกเขาในอนาคต
“หลาย ๆ ปีมาแล้ว ที่เราต้องใช้ดาราในประเทศ เป็นตัวดึงผู้ชมให้เข้าสู่ตัวภาพยนตร์ แต่วันนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นมันน่าสนใจมาก ๆ เพราะคนที่คุณอาจไม่รู้จัก ก็สามารถแสดงเป็นตัวหลักของซีรีส์ทั้งเรื่องได้ หรือแม้กระทั่งสามารถแสดงนำในภาพยนตร์ยังได้เลย”
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส