“ขอเอาชื่อเสียงของคุณปู่เป็นเดิมพัน” คือวลีในตำนานที่คนอ่านหรือดูซีรีส์ คินดะอิจิกับคดีฆาตกรรมปริศนา หรือในชื่อ ‘Kindaichi Shonen no Jikenbo’ รู้จักกันมาอย่างดี แม้ตัวซีรีส์การ์ตูนจะไม่โด่งดังเมื่อเทียบกับรุ่นน้องอย่างยอดนักสืบจิ๋วโคนัน แต่คินดะอิจิกับคดีฆาตกรรมปริศนาก็เป็นการ์ตูนที่ถูกตีพิมพ์เรื่อยมา แถมยังออกภาคใหม่ ๆ รวมถึงภาคแยกภาคเสริมออกมามากมาย และสิ่งที่หลายคนไม่ทราบคือตัวมังงะและอนิเมะเรื่องนี้เคยถูกเอามาสร้างเป็นซีรีส์คนแสดงมาแล้วหลายครั้ง และครั้งล่าสุดที่ถูกเอามาทำใหม่ในครั้งนี้ก็จะถูกฉายบน ‘Disney+’ ในชื่อใหม่ว่า ‘The Files of the Young Kindaichi Thriller’ ก็จะเป็นการเอาเรื่องราวในฉบับหนังสือการ์ตูนมาทำอีกครั้ง เมื่อเป็นแบบนั้นเราเลยไปรวบรวมตอนสุดโหดหรือมีเนื้อหาสุดสะเทือนใจมานำเสนอ โดยเราจะไม่เฉลยว่าคนร้ายคือใคร และเราจะบอกเกี่ยวกับคดีให้น้อยที่สุด เพื่อให้คนที่สนใจอ่านหรือชมอนิเมะไปรับรู้เอาเอง จะมีคดีอะไรตอนไหนที่น่าสนใจบ้างนั้นมาดูไปพร้อมกันเลย
คำเตือน เนื้อหาในบทความมีภาพและความรุนแรงโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
คดีฆาตกรรมโรงละครโอเปร่า
เริ่มต้นคดีแรกที่เราอยากหยิบมาแนะนำคือตอนแรกสุดของซีรีส์ ‘Kindaichi Shounen no Jikenbo’ หรือในชื่อไทยว่า “คินดะอิจิกับคดีฆาตกรรมปริศนา” กับตอนที่ชื่อว่า คดีฆาตกรรมโรงละครโอเปร่า ที่เป็นการเปิดเรื่องราวของการสืบสวนและเป็นปฐมบทของสถานที่เกิดเหตุที่มีการฆาตกรรมเยอะที่สุดถึง 3 ครั้งนับจากนี้ (ในฉบับมังงะ 2 ครั้งในฉบับนิยายอีก 1 ครั้งในสถานที่เดียวกัน) กับเรื่องราวของ คินดะอิจิ ฮาจิเมะ (Kindaichi Hajime) เด็กชายผู้มีไอคิวสูงถึง 180 ที่เป็นหลานชายของนักสืบชื่อดังอย่าง คินดะอิจิ โคสุเกะ (Kindaichi Kosuke) แต่ตัวของคินดะอิจินั้นกลับตรงข้ามกับผู้เป็นปู่ที่แทบไม่สนใจอะไรเลย แถมการเรียนก็เกือบซ้ำชั้นแถมยังลามกตัวพ่อ แต่สิ่งที่เขาทำกลับไปถูกตาต้องใจอาจารย์ชมรมการละคร จึงดึงตัวคินดะอิจิมาเข้าชมรมเพื่อทำกิจกรรมแทนการซ้ำชั้น ตัวคินดะอิจิจึงต้องมาเข้าชมรมการละครแบบไม่เต็มใจ โดยตัวชมรมละครกำลังจะไปฝึกซ้อมกันที่เกาะกลางทะเลที่มีโรงละครโอเปร่า ก่อนที่คินดะอิจิและเพื่อน ๆ จะได้เจอกับคดีฆาตกรรมสุดโหดที่คนร้ายพยายามฆ่าคนในชมรมละคร เลียนแบบในละครเวทีเรื่อง ‘The Phantom of the Opera’ ทั้งการปล่อยราวไฟมาทับคนบนเวที จับคนกดน้ำไปจนถึงการแขวนคอ ที่บอกเลยว่าจุดเริ่มต้นครั้งนี้ทำให้แฟน ๆ ต่างสนใจและติดตามเล่มต่อ ๆ มา ซึ่งเป็นการวัดใจถามคนอ่านว่าคุณรับได้ไหมกับการสืบสวนครั้งนี้ ที่ถ้าชอบก็ไปต่อถ้าไม่ชอบหรือชอบแนวคดีของโคนันมากกว่าก็หยุดตรงนี้ เพราะหลังจากนี้คดีจะโหดขึ้นเรื่อย ๆ จนคุณต้องตกใจเลยว่ามนุษย์สามารถทำกันได้ขนาดนี้เลยหรือ หลังจากที่อ่านตอนนี้จบ
คดีฆาตกรรมโรงเรียนสยองขวัญ
คราวนี้มาดูตอนที่ถูกเอามาสร้างเป็นซีรีส์ฉบับคนแสดงภาคล่าสุดบน ‘Disney+’ อย่าง ‘The Files of the Young Kindaichi Thriller’ ที่หยิบตอน คดีฆาตกรรมโรงเรียนสยองขวัญ มาเป็นตอนเริ่มต้นของซีรีส์ ซึ่งเล่าถึงชมรมเรื่องลึกลับที่กำลังตามหาตำนานเรื่องลึกลับในโรงเรียนทั้ง 7 เรื่อง ซึ่งว่ากันว่าใครที่ตามหาเรื่องราวครบทั้ง 7 เรื่องจะถูกจอมเวทหลังเลิกเรียนฆ่า ซึ่งคนที่สามารถตามหาความจริงเกี่ยวกับตำนานนี้ครบคนแรก ก็ถูกจอมเวทหลังเลิกเรียนฆ่าจริง ๆ ซึ่งคินดะอิจิได้เห็นเหตุการณ์ที่คนร้ายแขวนคอรุ่นพี่ชมรมเรื่องลึกลับต่อหน้าต่อตา แต่เมื่อเขาวิ่งไปที่ห้องเกิดกลับไม่มีศพของรุ่นพี่หรือใครเลย หลังจากนั้นก็มีการฆาตกรรมขึ้นอีก ซึ่งหนึ่งในเหยื่อครั้งนี้ก็คือ นานาเสะ มิยูกิ (Nanase Miyuki) เพื่อนสมัยเด็กที่อยู่ชมรมเรื่องลึกลับก็โดนทำร้ายไปด้วย จนคินดะอิจิต้องขอเอาชื่อเสียงคุณปู่มาเป็นเดิมพันในการตามตัวคนร้ายครั้งนี้ (ความจริงก็พูดแบบนี้ทุกครั้ง) ซึ่งเรื่องราวในซีรีส์ ‘The Files of the Young Kindaichi Thriller’ จะปรับเปลี่ยนรายละเอียดบางอย่างที่ต่างกับในหนังสือเพียงเล็กน้อย และเพิ่มสิ่งต่าง ๆ ที่ทันสมัยลงไปแต่ตัวคดีทุกอย่างยังคงเดิม ใครที่อ่านต้นฉบับมาแล้วควรไปหาซีรีส์มาดู บอกเลยว่าคุณต้องชอบซีรีส์นี้แน่นอน
คดีฆาตกรรมแคมป์เลือด
อีกหนึ่งเรื่องราวสุดโหดที่คนร้ายทำกับเหยื่อ ที่เรียกว่าโหดเป็นอันดับต้น ๆ ของการฆาตกรรมในคดีของคินดะอิจิเลยทีเดียว กับ คดีฆาตกรรมแคมป์เลือด ที่เรื่องราวเริ่มต้นจากความอยากไปเที่ยวกับมิยูกิเพื่อทำอะไรมิดีมิร้ายกับเพื่อนสาว ขณะที่ลูกพี่ลูกน้องของมิยูกิได้รับบัตรเชิญไปเที่ยวแคมป์ที่ทะเลสาบพ่ายรัก ที่ทุกเย็นน้ำในทะเลสาบจะกลายเป็นสีแดงพร้อมตำนานความรักที่ไม่สมหวังของคนสองคน ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่าฆาตกรโรคจิตที่มีฉายาว่าเจสันได้หนีออกมาจากคุก ซึ่งคนร้ายเป็นคนโรคจิตที่ชอบสวมหน้ากากและใช้ขวานสับหน้าคนจะเละ คินดะอิจิและทุกคนต้องตกอยู่ในอันตราย เพราะสะพานที่เป็นทางเข้าออกทางเดียวถูกเผา ทุกคนเลยต้องเจอคดีฆาตกรรมสุดโหด ที่เหยื่อทุกรายจะถูกขวานสับหน้าจนเละ (คนร้ายมีเหตุผลที่ทำ) ที่บอกเลยว่าตอนนี้โหดแบบสุด ๆ แถมยังมีภาคต่อใน คดีฆาตกรรมผีเสื้อเพชฌฆาต ด้วย ใครที่อ่านตอนนี้จนจบจะรู้เลยว่าความซวยนั้นไม่เข้าใครออกใครจริง ๆ
คดีฆาตกรรมบ้านพักค่ายกล
ถ้าคุณคิดว่าคดีฆาตกรรมแคมป์เลือดโหดแล้ว คราวนี้มาเจอคดีฆาตกรรมที่โหดทั้งการฆ่าและโหดทั้งเนื้อหา ที่เมื่อความจริงเฉลยออกมาเราถึงกับต้องอุทานออกมาว่า คนเราสามารถทำได้ขนาดนี้เลยหรอ ซึ่งเมื่อเรามาย้อนดูความจริงบนโลกจากข่าวต่าง ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นในคินดะอิจิตอนนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้จริง ๆ ที่คราวนี้คินดะอิจิและมิยูกิได้รับการชักชวนปนบังคับจากหมวด เคนโมจิ อิซามุ (Kenmochi Isamu) ตำรวจที่เจอในคดีโรงละครโอเปร่า ที่ได้รับจดหมายจากเพื่อนเก่าสมัยเด็กที่มาขอให้ช่วย เพราะเธอกำลังจะถูกปองร้ายจากจดหมายขู่จากคนที่ชื่อว่านักรบล่าหัว ที่เป็นชุดเกราะนักรบในตำนานของหมู่บ้านนี้ คินดะอิจิจึงต้องมาเพื่อช่วยตามหาคนร้ายจนเจอกับนักรบล่าหัวของจริง กับการฆาตกรรมโดยการตัดหัวคนในห้องปิดตายที่ไม่มีทางที่คนจะเข้าออกได้ แล้วคนร้ายฆ่าคนและเอาหัวออกมาได้อย่างไร (ขอไม่ลงภาพศพเพราะโหดเกินไป) แล้วเรื่องราวที่สะเทือนใจปวดตับนั้นคืออะไรก็ไปติดตามกันดู บอกเลยว่าตอนนี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่มีเนื้อหาสะเทือนใจที่สุดตอนหนึ่ง ที่แฟน ๆ คินดะอิจิยกนิ้วให้ในความอึ้งทึ่งงงกับเนื้อหาในครั้งนี้
คดีฆาตกรรมป่าสุนัขปีศาจ
หนึ่งในคำถามที่หลายคนซึ่งอ่านคินดะอิจิต่างคิดตามมาตลอด ว่าถ้าคนที่คุณรักยิ่งกว่าชีวิตถูกใครก็ไม่รู้ฆ่า ด้วยเหตุผลที่สุดไร้สาระแถมคนเหล่านั้นยังมองการเสียชีวิตของคนที่คุณรัก เป็นเพียงความผิดพลาดเรื่องตลกที่อีกเดี๋ยวเรื่องนี้ก็ถูกลืม แถมคนเหล่านั้นไม่ได้รับโทษทางกฎหมาย คุณจะโกรธแค้นคนเหล่านั้นจนอยากจะฆ่าให้ตายไหม นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในคินดะอิจิตอนคดีฆาตกรรมป่าสุนัขปีศาจ ที่จุดเริ่มต้นนั้นเริ่มจากความขี้หึงของคินดะอิจิ ที่ตามมายูกิที่มาเก็บเห็ดด้วยกับเพื่อน ๆ จนกลายเป็นความป่วน เพราะคินดะอิจิหวังทำมิดีมิร้ายกับมิยูกิจึงหาเห็ดเมามาให้เธอและเพื่อน ๆ กิน จนกลายเป็นการเผาที่พักแบบไม่ตั้งใจ ทั้งหมดจึงเดินทางในป่าจนพบตึกร้างกลางป่า ที่มีนักศึกษามหาลัยกลุ่มค้นคว้าเรื่องเขย่าขวัญพักอยู่โดยบังเอิญ ก่อนที่ทุกคนจะทราบว่าตึกร้างนี้คือสถานที่ทดลองสัตว์ ที่มีกรงขนาดใหญ่กรงหนึ่งเขียนว่า ‘Cerberus’ ที่เปิดอยู่ และตอนนั้นเองหนึ่งในกลุ่มนักศึกษาก็ถูกหมาปีศาจ ‘Cerberus’ ทำร้าย โดยทิ้งรอยข่วนแบบเดียวกับในกรงเอาไว้ แต่เมื่อทุกคนจะหนีก็ถูกฝูงหมาที่เป็นโรคกลัวน้ำล้อมทำให้ออกจากตึกไม่ได้ การตามล่าหาตัวจริงของคนร้ายในร่างหมาปีศาจตัวใหญ่จึงเริ่มขึ้น กับบทสรุปที่คุณอ่านแล้วต้องขนลุก ที่ตอนนี้เป็นหนึ่งในตอนที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับคนอ่าน ทั้งแนวคดีที่ล้ำลึกและการเฉลยวิธีฆ่าที่ซับซ้อน ไปจนถึงเหตุผลของคนร้ายที่ย้อนกลับไปที่คำถามแรกว่า คุณจะทำแบบคนร้ายไหมถ้าเจอแบบนี้
คดีฆาตกรรมรถด่วนมรณะ
สำหรับคนที่อ่านหรือดูอนิเมะคินดะอิจิกับคดีฆาตกรรมปริศนามาแล้ว จะทราบดีว่าตัวคินดะอิจินั้นจะมีคู่ปรับตลอดกาลที่กว่าจะเปิดตัวก็เล่มที่ 20 ของซีรีส์ไปแล้วกับ “จ้าวตุ๊กตานรก” คู่รักคู่แค้นที่จะมีบทบาทในอีกหลาย ๆ คดีนับจากนี้ และนี่คือตอนแรกที่ทั้งคู่พบกันในคดีฆาตกรรมรถด่วนมรณะ ที่เปิดเรื่องจากพัสดุปริศนาที่ถูกส่งมาให้กรมตำรวจ ที่เป็นกล่องมายากลซึ่งทางตำรวจไม่สามารถเปิดได้ จึงต้องขอแรงคินดะอิจิที่กำลังจะเอาวิดีโอแนว 18+ ไปคืนที่ร้านก่อนโดนปรับ และด้วยความซวยแบบชนิดที่สวรรค์ลงโทษ คินดะอิจิดันไปเปิดวิดีโอ 18+ ต่อหน้า ผอ. กรมตำรวจ จนสุดท้ายเขาต้องไปร่วมไขคดีด้วยเพื่อเป็นการไถ่โทษ โดยในกล่องนั้นมีตุ๊กตาหุ่นเชิดพร้อมคำขู่ว่ารถสายด่วนพิเศษจะมีการฆาตกรรมจากคนร้ายที่ชื่อ ‘จ้าวตุ๊กตานรก’ ทั้งหมดจึงต้องไปที่รถไฟขบวนนั้น ก่อนที่พบเหล่านักมายากลที่มีชื่อเสียงกำลังเดินทางขบวนนี้พอดี จนเกิดการฆาตกรรมปริศนา ที่จู่ ๆ ศพหัวหน้าคณะที่อยู่ในห้องก็หายตัวไปต่อหน้าต่อตาทุกคนที่เห็นศพเพียงเสี้ยววินาที (เกิดควันปริศนาพอควันหายเพียงไม่กี่วินาทีศพก็หายไปแล้ว) จนทุกคนมาเจอศพอีกทีก็ถูกแขวนเหมือนตุ๊กตาหุ่นเชิดในห้องพักโรงแรมแล้ว ซึ่งการก่อคดีในตอนนี้ดูเหมือนจะซับซ้อน แต่จริง ๆ เรียบง่ายสมเป็นมายากลจริง ๆ บอกเลยว่าตอนนี้ทายยังไงก็ทายไม่ถูกว่าคนร้ายทำได้อย่างไรในการทำศพหายเพียงเสี้ยววินาทีแบบนั้น รวมถึงคนอื่น ๆ ในคณะที่เสียชีวิตแบบเป็นปริศนาที่คุณต้องชอบตอนนี้
คดีฆาตกรรมตำนานปีศาจหิมะ
กระโดดมาที่เล่มใหม่ ๆ กันบ้าง กับคินดะอิจิที่เคยประกาศจบไปแล้วหลังจากเล่ม คดีฆาตกรรมในถ้ำหิน จบลง ซีรีส์คินดะอิจิก็กลับมาอีกครั้งในชื่อ “คินดะอิจิกับคดีฆาตกรรมปริศนา R” ที่คราวนี้เนื้อหาเรื่องราวก็ยังคงความโหดดิบเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคือการเล่นใหญ่กว่าเดิมที่ คราวนี้มีการทำให้บ้านพักหายไปทั้งหลังเพื่อการก่อคดีกันเลยทีเดียว โดยเรื่องราวคราวนี้จะเกิดจากมิยูกิถูกเพื่อนในชมรมสกี (มิยูกิเธออยู่กี่ชมรมกัน) ขอให้ไปทำงานพิเศษที่รีสอร์ตสโนว์ก็อบลินสกี แทนเธอที่ขาหัก คินดะอิจิที่หวงมิยูกิจึงตามมาด้วยจนเกิดเป็นเรื่องราวของการฆาตกรรม ที่ครั้งนี้จะเกี่ยวกับตำนานปีศาจหิมะที่จะมากินคนที่ติดในภูเขา กับปริศนาศพที่เราเห็นในตอนแรกจู่ ๆ ก็หายตัวไปแบบเป็นปริศนา เหมือนกับว่าถูกปีศาจหิมะจับไปกิน ที่ความน่าสนใจของคดีนี้คือการเล่นใหญ่อย่างที่เราได้บอกไป กับการไขปริศนาที่พอเฉลยหลายคนถึงกับอึ้งในการลงมือของคนร้าย และวิธีซ่อนศพที่เรียกว่าเส้นผมบังภูเขากันเลยทีเดียว ใครที่สนใจก็ไปตามหาชมในอนิเมะ ได้บอกเลยว่าตอนนี้สุดจริง
คดีฆาตกรรมโรงละครโอเปร่า (อีกครั้ง)
ปิดท้ายกับการกระโดดมาที่อนาคตของคินดะอิจิที่ตอนนี้อายุ 37 ปี และทำงานเป็นพนักงานบริษัทธรรมดา กับหัวหนังสือชื่อใหม่ว่า “คินดะอิจิ 37 กับคดีฆาตกรรมปริศนา” ที่คราวนี้เรื่องราวจะกลับไปสู่โรงละครโอเปร่าอีกครั้ง เมื่อคินดะอิจิที่อยู่ฝ่าย ‘PR’ ของบริษัทต้องการเปิดตัวรีสอร์ตใหม่บนเกาะ โดยการเชิญคนมีชื่อเสียงในโรงละครให้มางานเปิดตัวในครั้งนี้ ที่เมื่อคินดะอิจิเห็นเกาะก็ถึงกับตกเก้าอี้ เพราะมันคือสถานที่เดียวกับที่เคยเกิดคดีฆาตกรรมในเล่มที่ 1 และในฉบับนิยาย ซึ่งคราวนี้จะเป็นครั้งที่ 3 ที่คินดะอิจิต้องไปเจอคดีฆาตกรรมแบบเดิมที่เคยเกิดขึ้นในอดีตอีกครั้ง ซึ่งคนร้ายได้อ้างอิงการฆาตกรรมแบบเดียวกับในละครเวที ‘The Phantom of the Opera’ อีกแล้ว ที่แม้แต่คนอ่านหลายคนต่างก็อุทานเป็นเสียงเดียวกันว่า “โรงละครอีกแล้วเหรอ” แต่เมื่อได้อ่านและรับรู้ถึงคดีหลายคนต่างก็ยอมรับว่าสถานที่แห่งนี้คือเวทีแห่งการถูกฆาตกรรมจริงของจริง ใครที่อยากรับรู้เรื่องราวที่จริงจังเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นก็ไม่ควรพลาด บอกเลยว่าซีรีส์คินดะอิจิ 37 สนุกไม่แพ้ตอนวัยรุ่นเลยจริง ๆ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับการแนะนำตอนที่น่าสนใจ ของการ์ตูนคินดะอิจิกับคดีฆาตกรรมปริศนา ซึ่งใครที่สนใจก็สามารถไปหาฉบับคนแสดงและแบบอนิเมะทั้งแบบเก่าและภาคใหม่ ๆ มาชมกันได้ แต่ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นก็สู้กับมังงะที่เป็นหนังสือการ์ตูนไม่ได้ ที่วาดออกมาได้ดิบโหดเถื่อนที่ในฉบับอนิเมะและซีรีส์คนแสดงทำไม่ได้ แถมเนื้อหายังเข้มข้นจริงจังที่บางครั้งก็อ้างอิงหลักจิตวิทยามาใช้ในการก่อคดี บางทีก็ต้องอาศัยดวงของคนร้ายในการก่อคดี ไปจนถึงการสร้างปริศนาที่เมื่อเฉลยออกมามันเหมือนเส้นผมบังภูเขาเลยก็มีหลายครั้ง ซึ่งในอารมณ์ต่างกับยอดนักสืบจิ๋วโคนันไปคนละแบบที่เอามาเทียบกันไม่ได้ เพราะแม้จะเป็นแนวสืบสวนคดีฆาตกรรมเหมือนกัน แต่อารมณ์ของเรื่องต่างกันอย่างชัดเจน ถ้าคุณได้อ่านทั้งสองเรื่องมาจะเข้าใจ ใครที่ไม่เคยอ่านหรือดูก็ลองเปิดใจดู แล้วคุณจะหลงรักหลานชายยอดนักสืบคนนี้อย่างแน่นอน “ขอเอาชื่อเสียงของคุณปู่เป็นเดิมพันเลย”
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส