เปรียบเทียบความเหมือนที่แตกต่างระหว่างคินดะอิจิกับโคนันที่คุณอาจไม่เคยรู้

ถ้าใครที่เป็นแฟนแนวสืบสวนคงจะดีใจ เพราะช่วงนี้ทางฝั่งสองสุดยอดนักสืบของวงการการ์ตูนก็มีภาคใหม่กับซีรีส์คนแสดงออกมาให้เราได้ชมกัน โดยฝั่งยอดนักสืบจิ๋วโคนัน (Conan) ก็มีตอนใหม่อย่าง ยอดนักสืบจิ๋วโคนันเดอะมูฟวี่ 25 ตอนเจ้าสาวฮาโลวีน ‘The Bride of HALLOWEEN’ ที่ฉายในโรงภาพยนตร์ตอนนี้ กับฝั่งของ คินดะอิจิ กับคดีฆาตกรรมปริศนา ก็มีซีรีส์ฉบับคนแสดงที่ฉายทาง ‘Disney+’ ในชื่อ ‘The Files of the Young Kindaichi Thriller’ และเพื่อเป็นการต้อนรับการกลับมาของสองยอดนักสืบ เราเลยรวบรวมความเหมือนที่แตกต่างของนักสืบทั้งสองคนมานำเสนอ จะมีเรื่องราวอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้นมาดูไปพร้อมกันเลย

ทำความรู้จัก Edogawa  Conan และ Kindaichi Hajime สองยอดนักสืบในโลกกการ์ตูน

ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาเรามาทำความรู้จักสองยอดนักสืบแห่งวงการการ์ตูน ว่าทั้งสองเรื่องนี้เป็นใครมาจากไหน เพราะเชื่อว่ายังมีผู้อ่านหลายคนที่รู้จักแค่ใครบางคน หรืออาจจะไม่รู้จักทั้งคู่เลยก็ได้ วันนี้เราจึงมาทำความรู้จักทั้งสองเรื่องนี้ไปพร้อมกัน ส่วนใครที่รู้จักทั้งคู่แล้วก็มาทบทวนความจำกันอีกครั้ง มาดูกันว่า คินดะอิจิ ฮาจิเมะ (Kindaichi Hajime) ยอดนักสืบฉายาขอเอาชื่อเสียงคุณปู่เป็นเดิมพัน กับนักสืบที่ตัวจะเป็นเด็กแต่สมองก็เป็นผู้ใหญ่อย่าง เอโดงาว่า โคนัน (Edogawa Konan) คือใครกัน

Kindaichi Hajime

เริ่มจากนักสืบรุ่นพี่อย่าง คินดะอิจิ ฮาจิเมะ นักสืบมัธยมปลายที่มี ‘IQ’ สูงถึง 180 และเป็นหลานชายของยอดนักสืบระดับตำนานของญี่ปุ่นอย่าง คินดะอิจิ โคสุเกะ (Kindaichi Kosuke) แต่ผู้เป็นหลานคนนี้กลับเป็นคนลามกไม่เอาไหน เกือบเรียนซ้ำชั้นที่แทบไม่แสดงความเก่งในการสืบสวนออกมาเลย โดยเรื่องราวของคินดะอิจิเริ่มต้นในหนังสือ ‘Kindaichi Shonen no Jikenbo’ หรือในชื่อไทยว่า “คินดะอิจิกับคดีฆาตกรรมปริศนา” ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกในเดือนตุลาคมปี 1992 จนถึงตอนนี้ก็ยังมีการตีพิมพ์อยู่ โดยเนื้อหาการสืบสวนของคินดะอิจินั้นจะเป็นการสืบจากตัวบุคคลคำพูดการกระทำมากกว่าการหาหลักฐาน รวมถึงแนวคดีที่ค่อนข้างยาวละเอียด และให้ความสำคัญกับตัวละครในการสร้างปมปริศนาหลอกคนอ่าน รวมถึงวิธีฆาตกรรมที่สมจริงเน้นการเล่นทางจิตวิทยามากกว่ากลไกที่ซับซ้อน แถมเนื้อหาก็จริงจังและมีการฆาตกรรมที่โหดสมจริง จนถูกใจแฟน ๆ ที่ชอบแนวสืบสวน โดยมี โยซาบุโร คานาริ (Yozaburo Kanari) เป็นคนคิดปริศนาที่ถ้าใครได้อ่านแล้วต้องตกหลุมพรางที่คนเขียนสร้างไว้แน่นอน

Edogawa Konan

คราวนี้มาดูรุ่นน้องอย่าง เอโดงาว่า โคนัน อดีตนักสืบมัธยมปลายเช่นเดียวกัน โดยชื่อจริงของโคนันจริง ๆ คือ คุโด ชินอิจิ (Kudo Shinichi) ปรากฏตัวในหนังสือ ‘Hepburn Meitantei Konan’ หรือในชื่อไทยว่า “ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน” ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1994 ที่บอกเล่าเรื่องราวของนักสืบชื่อดังที่ช่วยงานตำรวจสืบสวนคดีต่าง ๆ มากมาย จนวันหนึ่งระหว่างที่คุโด้กำลังไปเที่ยวสวนสนุกได้พบกับชายชุดดำปริศนา ที่กำลังทำการซื้อขายสิ่งผิดกฎหมาย แต่คุโด้ถูกจับได้และให้กินยาเพื่อทำลายศพ แต่ยานั้นทำให้เขากลายเป็นเด็กจึงต้องใช้ชื่อปลอมว่า เอโดงาว่า โคนัน เพื่อปกปิดตัวตนไม่ให้ชายชุดดำรู้ว่าคุโด้ยังไม่ตาย โคนันจึงต้องไปอยู่กับบ้านเพื่อนสาวที่พ่อของเธอเป็นนักสืบเพื่อตามหาชายชุดดำ โดยแนวทางการสืบคดีของโคนันคือขี้สงสัย เพราะโคนันมักจะช่างสังเกตเขาจะมองดูทุกอย่างรอบตัว ซึ่งเป็นนิสัยนักสืบแม้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม จนเมื่อคดีเกิดขึ้นโคนันจะตั้งหน้าตั้งตาสืบโดยจะอาศัยเบาะแสจากที่เกิดเหตุเป็นพื้นฐานในการสืบสวน ซึ่งเนื้อหาในโคนันจะมีความหลากหลายในรูปแบบคดี แถมบางคดีก็สั้นกระชับแต่ไม่ค่อยซับซ้อนจะเน้นที่ทริกการสร้างกลไกในการสร้างปริศนา และการฆาตกรรมที่ไม่โหดเมื่อเทียบกับของคินดะอิจิ แถมมีความเป็นแอ็กชันจึงเข้าถึงคนอ่านมากกว่า

โคนันไปที่ไหนก็มีแต่คนตาย คินดะอิจิมักอยู่ถูกที่ถูกเวลา

ทีนี้มาดูเรื่องราวการเกิดคดีกันบ้าง ซึ่งถ้าใครที่ชอบอ่านนิยายหรือการ์ตูนแนวสืบสวน จะทราบดีว่าเหล่านักสืบนั้นมักจะมีดวงในการไปที่ไหนก็เจอแต่คนตาย เจอแต่คดีฆาตกรรมจนมีคนแซวว่าถ้าเห็นตัวละครเหล่านี้ที่ไหนให้หนีไปโดยเร็ว ซึ่งเอาจริง ๆ ตรงจุดนี้ก็ถือเป็นจุดอ่อนของเรื่องราวแนวนี้ที่หาทางแก้ค่อนข้างยาก แต่สำหรับของคินดะอิจิคนคิดเนื้อเรื่องค่อนข้างใส่ใจในส่วนนี้ ต่างกับของโคนันที่เจ้านี้ไม่ว่าจะไปไหนก็มีแต่คนตาย ไม่ว่าจะเป็นการไปเที่ยวป่า ขึ้นเครื่องบิน ไปทางอาหาร ไปเล่นน้ำ ไปชมภาพยนตร์ จนมีคนอ่านทำมุกแซวว่า คนร้ายโทรมาขู่จะวางระเบิดสถานที่หนึ่ง โคนันแค่โทรไปถามรันว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนคนเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนร้ายต้องวางระเบิดที่นั่น เรียกว่าใช้เรื่องซ้ำจนเกินไปในหลาย ๆ ครั้ง ต่างกับของคินดะอิจิที่เรียกว่าไปอยู่ที่ถูกเวลา อย่างการถูกเพื่อนขอร้องให้ไปช่วยทำงานพิเศษแทนตน บางทีเรื่องก็เกิดขึ้นเพราะความลามกของเจ้าตัวที่ไปอยู่ตรงนั้น หรือจะเป็นการชักชวนเชิญจากคนร้ายให้ไปหา ซึ่งทุกตอนจะมีที่มาที่ไปมีเหตุผลที่เกิดขึ้น เคยมีขนาดที่ว่าคินดะอิจิหลอกเพื่อน ๆ กินเห็ดเมาเพื่อหวังจะทำมิดีมิร้ายเพื่อนสาว แต่เพื่อนที่เมาก็เผาบ้านกลางป่าทิ้งจนต้องเดินป่ากลางคืนไปเจอตึกร้างที่มีนักศึกษากำลังทำพิธีแปลก ๆ ในตึกก็มี แต่ของคินดะก็มีเรื่องที่ใช้ซ้ำอย่างสถานที่ปิดอย่างพายุเข้า สะพานขาด ถนนพัง เพื่อกันตำรวจมาร่วมคดี ต่างกับโคนันที่จะใช้น้อยกว่าและจะเน้นให้ตำรวจมามีส่วนร่วมในคดี

โคนันยังไม่มีใครตายก็เริ่มสงสัย คินดะอิจิต้องมีคนตาย 2 คนขึ้นไปจึงจะเริ่มขอเอาชื่อคุณปู่มาเป็นเดิมพัน

คราวนี้มาดูความสามารถในการสืบสวนกันบ้าง ที่หลายคนคงจะสงสัยว่าใครเก่งกว่ากันในการสืบสวน ซึ่งถ้าใครที่อ่านทั้งสองเรื่องนี้มาแล้วจะสามารถตอบได้ทันทีว่าโคนันหรือคุโด้นั้นเก่งกว่าคินดะอิจิในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นความรู้รอบตัวที่รู้ทุกเรื่องเข้าใจทุกอย่าง แถมยังสามารถเรียนรู้การขับยานพาหนะหรือระบบต่าง ๆ ได้เพียงแค่เห็นครั้งเดียว นี่ยังไม่นับความสามารถทางด้านร่างกายกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการไขคดี แถมเมื่อเกิดคดีขึ้นมาทางฝั่งโคนันจะสืบสวนหาสาเหตุทันทีตั้งแต่ยังไม่เกิดคดี จนสามารถตามหาคนร้ายและแก้ปริศนาได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่ฝั่งคินดะอิจิที่ต้องรอให้มีคนเสียชีวิตไป 2  คนขึ้นไปก่อนจึงจะไขคดี และประกาศว่า “ขอเอาชื่อเสียงของคุณปู่เป็นเดิมพัน” เอาง่าย ๆ ขนาดมีคนตายในบ้านอย่างสยองแต่คินดะอิจิเรายังคิดจะไปทำมิดีมิร้ายนางเอก หรือคิดเรื่องลามกไม่สนใจคดีอยู่เลย ซึ่งคนอ่านซีรีส์คินดะอิจิจะทราบดีว่าการตายศพแรกมักจะเป็นการประกาศถึงการเกิดฆาตกรรมเท่านั้น ซึ่งไม่ค่อยมีเบาะแสอะไรทิ้งไว้ต้องรอให้เกิดศพที่ 2 ขึ้นไปเบาะแสจึงเกิดขึ้น ต่างกับโคนันที่รวบรัดไม่ยืดเยื้อแต่บางทีก็เร็วไปหน่อยจนคนอ่านตามไม่ทัน คนอ่านจะไม่ค่อยมีส่วนร่วมในคดีต่างกับคินดะอิจิที่ให้คนอ่านร่วมคิดตามได้ตลอด

โคนันมีองค์กรชายชุดดำ คินดะอิจิมีจ้าวตุ๊กตานรก

แน่นอนว่าเมื่อมียอดนักสืบแล้วก็ต้องมีคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อ โดยทาฝั่งโคนันนั้นเราจะทราบกันว่าทางนั้นจะต้องต่อสู้ตามสืบเพื่อหาเบาะแสของกลุ่มองค์กรชายชุดดำ ที่อยู่เบื้องหลังเหตุฆาตกรรมและอาชญากรรมมากมาย ที่แม้แต่ทางตำรวจกับ ‘FBI’ ก็ยังตามหาร่องรอยของพวกนี้ไม่ได้ ซึ่งจนถึงตอนนี้เรื่องราวก็ยังคงดำเนินต่อไป ขณะที่ฝั่งของคินดะอิจินั้นกว่าที่เราจะได้พบกับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง จ้าวตุ๊กตานรก ที่เป็นคู่ปรับก็เล่มที่ 20 ไปแล้วกับคดีฆาตกรรมรถด่วนมรณะ ซึ่งคนร้ายใช้ทริกมายากลในการก่อคดีฆาตกรรม ที่หลังจากนั้นจ้าวตุ๊กตานรกที่เปิดเผยตัวว่าชื่อ ทาคาโต้ โยอิจิ (Takato Yoichi) ก็ไปอยู่ร่วมในคดีฆาตกรรมต่าง ๆ อีกหลายครั้ง และล่าสุดใน คินดะอิจิ 37 กับคดีฆาตกรรมปริศนา ทาคาโต้ก็กลับมาอีกครั้งในฐานะผู้อยู่เบื้องหลังคดีฆาตกรรมที่มีเหล่าสาวกร่วมท้าทางคินดะอิจิ ซึ่งทั้งสองเรื่องราวนั้นต่างก็เข้มข้นน่าติดตามทั้งคู่

โคนันมีจอมโจร Kid คินดะอิจิมีจอมโจรปริศนา

นอกจากคู่ปรับที่ต้องตามจับแล้วทั้งสองเรื่องยังมีคู่ปรับที่เป็นจอมโจรเหมือนกันอีกด้วย โดยทางคินดะอิจิจะมีจอมโจรปริศนาที่ปรากฏในเล่มที่ 18 ในคดีฆาตกรรมจอมโจรปริศนา ที่หลาย ๆ ครั้งที่คินดะอิจิต้องไปเจอกับจอมโจรปริศนานั้น จะเป็นคดีที่เกี่ยวกับงานศิลปะที่จอมโจรชื่นชอบ โดยตัวจริงของจอมโจรนั้นยังเป็นปริศนาที่เราไม่รู้แม้แต่เพศ แต่ทุกครั้งที่จอมโจรปรากฏตัวจะเป็นเพศหญิงและมาไม่เคยซ้ำหน้า ที่จนถึงตอนนี้คินดะอิจิก็ยังตามจับไม่ได้ ส่วนทางโคนันนั้นจะมีจอมโจรสุดหล่อที่หลายคนรู้จักในชื่อจอมโจร 1412 หรือ ‘KID’ จอมโจรที่ชอบขโมยของมีค่าและงานศิลปะเช่นกัน แถมยังมีความสามารถในการปลอมตัวที่สูงและตามตัวจับยากคล้ายกัน ซึ่งใครที่อ่านหรือดูอนิมะเรื่องนี้คงจะทราบว่าจอมโจรคนนี้คือใคร โดยตัวของ ‘Kid’ นั้นปรากฏตัวครั้งแรกในเล่มที่ 16 โดยก่อนหน้านี้เขาก็เคยมีหัวหนังสือของตัวเอง 3 เล่ม ใครสนใจก็ไปตามหามาอ่านกันได้

โคนันยกความดีความชอบให้ Mori Kogoro คินดะอิจิไม่มีใครรู้ว่าไขคดีได้แม้แต่เพื่อนในชั้น

นับเป็นความน้อยเนื้อต่ำใจแบบสุด ๆ ของยอดทั้งสืบทั้งสองคน ที่แม้จะมีความสามารถในการสืบสวนขนาดไหนก็ตาม แต่สุดท้ายทั้งสองคนก็ไม่ได้ความดีความชอบในการไขคดีเลย โดยทางคินดะอิจินั้นเขามักจะได้รางวัลการขอบคุณจากตำรวจแบบลับ ๆ อยู่เสมอ เพราะทางตำรวจบอกว่าถ้าสื่อมวลชนรู้ว่าเด็กมัธยมปลายไขคดีได้ตำรวจคงหมดความน่าเชื่อถือ แต่ก็มีหลายครั้งที่ทางตำรวจมาขอความช่วยเหลือเมื่อเจอคดียาก ๆ เพราะแบบนี้เมื่อเกิดคดีในต่างจังหวัดตำรวจจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับคินดะอิจิ ที่แม้แต่เพื่อนสนิทหรือคนรู้จักยังไม่รู้เลยว่าคินดะอิจิสามารถไขคดีต่าง ๆ ได้ ต่างกับของโคนันที่เมื่อสมัยเป็น คุโด้ ชินอิจิ เขาคือนักสืบชื่อดังที่ทางตำรวจไว้ใจในการสืบคดี จนเมื่อมาเป็น เอโดงาว่า โคนัน ที่เป็นแค่เด็กประถมจึงไม่มีความน่าเชื่อถือในการไขคดี แถมการเปิดเผยตัวตนให้เป็นจุดเด่นก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ โคนันจึงยกความดีความชอบในการไขคดีกับ โมริ โคโกโร่ (Mori Kogoro) แทน ซึ่งเราก็ได้แต่หวังว่าลุงโคโกโร่จะไม่ตายเพราะยาสลบไปก่อนจะจบเรื่อง

โคนันเรียงตามเลขเล่มติดตามง่าย คินดะอิจิมีภาคแยกภาคย่อยภาคเสริมออกมามากมาย

มาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายคนที่ไม่เคยอ่านหรือดูสองเรื่องนี้มาก่อน คงสนใจอยากไปติดตามก็สามารถไปหาชมกันได้ทั้งรูปแบบอนิเมะที่มีฉายอย่างต่อเนื่องชนิดดูกันได้ยาว ๆ หรือจะตามอ่านฉบับมังงะก็มีแบบถูกลิขสิทธิ์ออกมาจนครบ โดยฝั่งยอดนักสืบจิ๋วโคนันนั้นจะมีในรูปแบบเล่มที่ยาวนานถึง 100 เล่มไปเป็นที่เรียบร้อย หรือจะเป็นฉบับนิยายภาพยนตร์คนแสดงไปจนถึงตอนพิเศษก็สามารถตามชมได้ เพราะตัวเรื่องค่อนข้างได้รับความนิยมในบ้านจึงค่อนข้างหาง่ายไม่ออกมาหลายหัวหนังสือแบบอีกฝั่ง ขณะที่ฝั่งคินดะอิจิจะมีฉบับอนิเมะทั้งแบบใหม่แบบเก่าออกมาหลายภาคพอ ๆ กับฉบับมังงะที่มีหลายภาคพอ ๆ กัน ทั้งแบบภาคปกติ 27 เล่ม ภาค ‘Case’ ภาค R ภาคฉลองครบรอบ 20 ปีไปจนถึงภาคคินดะอิจิ 37 และอีกหลายภาคที่เรียกว่าเยอะจนตามแทบไม่ไหวเลยทีเดียว นี่ยังไม่นับฉบับนิยายที่ออกมาอีกหลายเล่ม ส่วนฉบับคนแสดงก็มีทั้งแบบเก่าแบบใหม่ที่ฉายมาแล้ว ซึ่งฉบับล่าสุดก็มีฉายใน ‘Disney+’ ใครที่คิดจะติดตามฝั่งคินดะอิจิก็ต้องหาข้อมูลกันหน่อยเพราะมีเยอะจริง ๆ ต่างกับของโคนันที่เรียงกันเข้าใจง่าย ที่ไม่ว่าจะเลือกเรื่องไหนก่อนคุณก็จะสนุกตื่นเต้นกับการสืบสวนและเจอคดีปริศนาที่คุณไม่เคยเจอในเรื่องแนวอื่นแน่นอน

ทั้งคู่เคยเจอกันในเกม Detective Conan And Kindaichi Case Files Chance Encounter of 2 Great Detectives

ปิดท้ายกับการโคจรมาพบกันของสองตัวซวยแห่งยุค ที่ได้มาพบกันครั้งแรกและครั้งเดียวในโลกของวิดีโอเกม ในชื่อเกมยาว ๆ ว่า ‘Detective Conan And Kindaichi Case Files Chance Encounter of 2 Great Detectives’ ที่ลงบนเครื่อง ‘Nintendo DS’ ซึ่งเป็นเกมแนวสืบสวนหาเบาะแสของการฆาตกรรมบนเกาะ ที่ทั้งคินดะอิจิและโคนันต่างต้องช่วยกันไขปริศนา โดยทั้งสองฝั่งจะสลับผู้ช่วยในการไขคดีกัน ที่ต้องใช้การอ่านเพื่อไขคดี ซึ่งหลายคนก็อยากให้เรื่องราวในเกมนี้ หรือการร่วมกันเฉพาะกิจแบบนี้เกิดขึ้นในฉบับอนิเมะหรือมังงะบ้างก็ดีไม่น้อย ใครที่สนใจก็ต้องไปค้นหากันหน่อยเพราะเกมมีแค่ฉบับภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น

ก็จบกันแล้วกับการหยิบยกเรื่องราวที่น่าสนใจของสองสุดยอดนักสืบในโลกการ์ตูนมานำเสนอ หวังว่าจะถูกใจแฟนทั้งสองฝั่งกัน เพราะทั้งคู่ต่างมีจุดดีจุดด้อยและความสนุกที่ต่างกัน คงเอามาเทียบกันไม่ได้ว่าใครดีกว่าสนุกกว่า เพราะสองเรื่องราวแม้จะเป็นแนวสืบสวนเหมือนกันแต่เนื้อหาเรื่องราวก็ต่างกันไปคนละแบบ ซึ่งใครที่อ่านทั้งสองซีรีส์นี้มาจะทราบดีว่าทั้งสองเรื่องนั้นสนุกทั้งคู่ ใครที่อยากเป็นแฟนแนวสืบสวนลองเข้ามาอ่านดู แล้วคุณจะรู้ว่าวงการนี้เข้าแล้วออกยากจริง ๆ และถ้าใครมีเรื่องราวคดีไหนที่น่าสนใจก็เอามาพูดคุยแลกเปลี่ยนแนะนำกันได้ ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรก็รอติดตามกันได้ที่นี่ที่เดียว รับรองว่าจะไม่พลาดทุกข่าวสารบทความที่น่าสนใจในวงการเกมการ์ตูนภาพยนตร์แน่นอน

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส