6 พฤษภาคม 2021 นับเป็นหนึ่งในการสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการมังงะ (การ์ตูนญี่ปุ่น) เมื่ออาจารย์มิอุระ เคนทาโร (Miura Kentaro) ศิลปินผู้สร้างตำนานการ์ตูนดาร์กแฟนตาซีอย่าง ‘Berserk’ ได้เสียชีวิตลงอย่างกะทันหันเพราะโรคหลอดเลือดแดงใหญ่ฉีกขาดฉับพลัน อันเป็นการปิดตำนานผู้สร้าง Berserk ไว้นับแต่นั้น
พิธีศพของ อ.มิอุระ ถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย เชิญเพียงญาติและคนสนิทให้มางาน ท่ามกลางแขกเหรื่อทั้งหลายภายในงาน อาจารย์โมริ โคจิ (Mori Kouji ผู้เขียน “ฝ่ายุคมฤตยู”) ก็กำลังยืนอยู่ต่อหน้าร่างไร้วิญญาณของอาจารย์มิอุระ เพื่อส่งเพื่อนรักในครั้งสุดท้าย เขายืนอยู่นิ่งไม่ไหวติง ในใจมีแต่คำถามกับความโศกเศร้าเต็มไปหมด เขาเพียงพูดคุยกับร่างไร้วิญญาณของอาจารย์มิอุระและตั้งปณิธานกับตัวเองว่า ‘เขาจะทำตามคำขอสุดท้ายของเพื่อนรักไว้ให้เสร็จสิ้น’ โดยที่ไม่รู้เลยว่าอีกหนึ่งปีให้หลัง เขาจะกลายเป็นผู้สานต่อตำนานบทสุดท้ายของ Berserk
ชีวิตวัยเยาว์
โมริ โคจิ เกิดเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 1966 ในวัยเด็กเขาเป็นเด็กที่พละกำลังเหลือล้น โมริจึงหันไปทุ่มเทให้กับกีฬาเบสบอล แม้ทีมของเขาจะชนะรางวัลระดับชาติ แต่ตัวของโมริกลับไม่ค่อยที่จะกระตือรือร้นต่อเบสบอลเท่าใดนักเพราะตัวเขานั้นชอบวาดรูปมากกว่า
ในวัย 15 ปี โมริก็ได้พบกับมิอุระ เคนทาโร เด็กหนุ่มผู้มีความฝันว่าอยากเป็นนักวาดการ์ตูน โมริเองรู้สึกถูกชะตากับมิอุระ พวกเขาจึงได้จับมือกันเพื่อทำตามความฝันในการเป็นนักวาดการ์ตูน พวกเขาเป็นสุดยอดคู่หูที่ทุ่มเทชีวิตให้กับการวาดการ์ตูน กระทั่งวันหยุดก็ยังจะไปขลุกตัวอยู่ที่บ้านของกันและกันเพื่อฝึกฝนฝีมือเพิ่มเติม และในเวลานี้เองโมริก็ได้เหล่ามิตรสหายอีก 3 คนเข้ามาร่วมอุดมการณ์นักล่าฝันนี้ด้วย และพวกเขาก็เรียกมันว่า ‘กลุ่มเหยี่ยว’
กลุ่มเหยี่ยวคือพื้นที่ปลอดภัยของโมริ พวกเขาแลกเปลี่ยนเรื่องราวชีวิต ศิลปะ ภาพยนตร์ให้กันและกัน มิตรภาพของกลุ่มเหยี่ยวเป็นทั้งเพื่อนและคู่แข่งที่คอยพัฒนาให้กันไปเรื่อย ๆ เสมอ ตัวของมิอุระนั้นมองภาพโมริเหมือนตัวเอกในการ์ตูนโชเน็น เพราะโมริเป็นคนที่สู้ชีวิต แถมยังชอบตกหลุมรักผู้หญิงที่ดูมืดมนและเข้าใจยากเสมอ ถึงกระนั้นโมริก็ยังมีความฝันที่งดงามดังเช่นการเป็นนักวาดการ์ตูนอยู่ มิอุระให้คำนิยามของโมริว่าเขาคือนักเขียนการ์ตูนประเภทที่ใช้ประสบการณ์ชีวิตของตนเองมาสร้างสรรค์ผลงาน
แม้ในเวลาต่อมากลุ่มเหยี่ยวที่พวกเขาสร้างขึ้นจะแตกสลายและเดินกันไปคนละทาง แต่โมริก็ยังคงติดต่อกับมิอุระอยู่เสมอ
วันที่ความฝันเริ่มไม่เป็นใจ
เมื่อขึ้นมหาวิทยาลัย มิอุระรู้สึกว่าตนเองเป็นเพียงนักวาดการ์ตูนที่ใช้การลอกเลียนแบบและคงไม่อาจสร้างสรรค์สุดยอดผลงานดังเช่นโมริได้ เขาจึงตัดสินใจแยกตัวออกมาจากโมริ แต่ทั้งคู่ก็ยังคงไว้ซึ่งมิตรภาพที่ดีต่อกัน
โดยในช่วงมหาวิทยาลัยนี้โมริก็ยังคงวาดการ์ตูนอยู่เช่นเดิม แต่การขาดมิอุระไปก็ทำให้แนวคิดในงานของเขาไปได้ไม่สุดทาง ถึงแม้ว่างานของโมริจะได้รางวัลแต่มันก็ไม่เคยได้รับการตีพิมพ์เลย เล่นเอาโมริรู้สึกแย่ทุกครั้ง และเขาคิดว่านี่คือหนึ่งในจุดตกต่ำของชีวิต แต่ทุกครั้งที่โมริมาปรึกษามิอุระในเรื่องนี้ เขาก็จะโดนมิอุระก็เขวี้ยงกระดาษใส่หน้าเพื่อเตือนสติอยู่เสมอ
ในปีสุดท้ายของมหาวิทยาลัยโมริก็ได้แนะนำให้มิอุระเดบิวต์ตัวเองในฐานะนักวาดการ์ตูน ส่วนตัวเขาเองก็เริ่มที่จะปล่อยวางจากความฝันในการเป็นนักวาดการ์ตูนเพื่อเฝ้าดูเพื่อนรักเติบโต หลังจากจบมหาวิทยาลัยโมริก็หยุดวาดการ์ตูนแล้วหันไปเอาดีทางด้านคนวาดสตอรี่บอร์ดประกอบโฆษณาแทน แต่เขายังคงติดต่อมิอุระบ้างเป็นครั้งคราว
แน่นอนว่าชีวิตมิอุระนั้นดีขึ้นเรื่อย ๆ มีชื่อเสียงมีงานเข้ามามากมายจนไม่มีเวลาแม้แต่จะตัดผมด้วยซ้ำ ถึงแม้เขาจะยุ่งแค่ไหน มิอุระก็ยังนัดเจอกับโมริเพื่อปรึกษาเนื้อหาของการ์ตูนอยู่เสมอ และตลอดทุกครั้งที่เจอกันนั้นมิอุระไม่เคยก้าวก่ายเพื่อถามโมริว่า ‘ทำไมเขาถึงไม่วาดการ์ตูนต่อ’ แม้แต่ครั้งเดียว
จุดเปลี่ยนชีวิต
คืนหนึ่งโมริในวัย 25 ปีกำลังขับมอเตอร์ไซค์ เขาเพียงคิดจะมุ่งตรงไปข้างหน้า แต่ฉับพลันเขาก็เกิดอุบัติเหตุจนล้มอยู่ข้างทาง ร่างกายของโมริหงายหน้าสู้ฟ้า สายตาของเขามองเห็นแต่ดวงดาวที่สุกสกาว ตาของเขาเริ่มพร่ามัว และภาพในชีวิตก็โลดแล่นเข้ามา
“ฉันกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ ไม่นะ ฉันไม่อยากอยู่ตรงนี้”
โมริได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที แต่อุบัติเหตุครั้งนั้นมันก็ได้เปลี่ยนความคิดของเขาไปตลอดกาล จนเขาเริ่มคิดได้ว่า ‘อยากกลับมาวาดการ์ตูนอีกครั้ง’
ในที่สุดโมริก็รักษาตัวจนหายเป็นปกติ หลังออกจากโรงพยาบาลโมริก็ตรงดิ่งไปหามิอุระเพื่อนรักทันที
“ขอโทษด้วยนะมิอุระ ฉันน่ะอยากกลับไปวาดการ์ตูนอีกครั้ง!”
โมริพูดออกมาจนทำให้มิอุระรู้สึกแปลกใจ
“จะขอโทษทำไมกัน แน่นอนสิ นายทำมันได้แน่”
พวกเขาทั้งคู่จับมือกัน เพื่อคลายปมในใจ เหตุการณ์นี้มันปลุกไฟในใจของโมริขึ้นมาอีกครั้ง ถึงครั้งนี้เขาจะใช้ความเพียรพยายามอยู่นาน แต่โมริก็ได้ออกการ์ตูนของตัวเองเสียที แม้จะช้ากว่าเพื่อนรักไปหน่อย แต่ในปี 2000 โมริก็กลับมามีชื่ออีกครั้งจากการ์ตูนเรื่อง ‘Holyland’
เส้นทางชีวิตของโมริใหม่นี้ทำให้เขาได้เจอมิอุระบ่อยขึ้น พวกเขาอัปเดตเรื่องราวที่ตัวเองกำลังทำอยู่ตลอด ซึ่งทุกครั้งมิอุระก็มักจะเล่าถึงอนาคตของการ์ตูนเรื่อง Berserk ให้โมริฟังเสมอ และแน่นอนว่าโมรินั้นจำมันได้ดีขึ้นใจไปจนถึงตอนจบที่มิอุระวางไว้เลยล่ะ
ผ่านไปหลายปี โมริเองก็ออกการ์ตูนเพิ่มมาหลายเรื่อง มิอุระเองก็กำลังง่วนอยู่กับ Berserk อยู่เรื่อย ๆ ซึ่งทุกครั้งที่เจอกัน มิอุระก็มักจะเปรยถึงชีวิตหลังจากเขียน Berserk จบว่าจะทำอะไรต่อ โดยมิอุระอยากให้โมริเป็นคนเขียนเรื่องราวอันงดงามของพวกเขาทั้งคู่ให้ออกมาเป็นการ์ตูน และมิอุระก็หวังไว้ว่าหลังจากเขียน Berserk จบเขาจะได้ไปเที่ยวรอบโลกดังที่ใจอยากเสียที
แต่มิอุระก็ไม่ได้ทำสิ่งนั้น
14 มิถุนายน 2021 โมริยืนร่ำไห้เพื่อส่งเพื่อนในครั้งสุดท้าย ระยะเวลาเกือบ 40 ปีที่รู้จักผู้ชายที่ชื่อ มิอุระ เคนทาโร นั้นโมริมักจะคิดเสมอว่าหากไม่มีมิอุระแล้ว เขาคงไม่คิดอยากเป็นนักวาดการ์ตูนและไร้ซึ่งเหตุผลในการมีชีวิต โดยสิ่งสุดท้ายที่โมริพอจะทำให้มิอุระได้ นั้นคือการทำตามคำขอของเพื่อนรัก เพื่อวาดการ์ตูนอัตชีวประวัติของพวกเขา และในที่สุดโมริก็คลอดการ์ตูนสั้นในชื่อ อนุสรณ์การ์ตูนของมิอุระ เคนทาโร (Kentaro Miura Memorial Manga) ออกมา
สานต่อเจตนารมณ์สุดท้าย
ถึงแม้ว่าอ.โมริ โคจิจะทำตามคำขอสุดท้ายของเพื่อนรัก อย่างการออกการ์ตูนชีวประวัติพวกเขาไปแล้ว แต่ อ.โมริ ก็ไม่สบายใจอยู่ดี เพราะตำนานที่ อ.มิอุระสร้างไว้อย่าง Berserk นั้นก็ยังไม่ถูกสานต่อเรื่องราวให้จบ ทั้ง ๆ ที่เขานั้นรู้เรื่องราวในตอนจบของเรื่องแล้ว และหากปล่อยไว้ ตอนจบของ Berserk ก็คงถูกทิ้งให้ตายไปกับ อ.มิอุระตลอดไป
ประจวบกับการที่ ‘Studio Gaga’ ผู้ผลิต Berserk ยังคงอยากสานต่อเรื่องราวที่อ.มิอุระเริ่มไว้ให้จบ พวกเขาจึงได้ระดมทีมงานผู้เคยเกี่ยวข้องกับอาจารย์มิอุระมา เพื่อผนึกกำลังในการแกะเรื่องราวมาร้อยเรียงให้ถึงบทสรุปอีกครั้ง แน่นอนว่าคนที่ทีมงานขาดไม่ได้นั้นคือ อ.โมริ ผู้ที่จะรับช่วงต่อในการวางเนื้อหาบทสรุปของ Berserk ให้ใกล้เคียงกับสิ่งที่ อ.มิอุระวาดฝันไว้ที่สุด และสิ่งนี้จะเป็นของขวัญสุดท้ายที่เฉลิมฉลองแด่มิตรภาพตลอด 40 ปีของพวกเขาให้คงอยู่ตลอดไป
ที่มา: Kentaro Miura Memorial Manga, animenewsnetwork, 森恒二, hitc, boundingintocomics, dualshockers, gcores
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส