ถ้าใครที่ติดตามข่าวสารวงการการ์ตูนมา จะทราบว่าเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมาอาจารย์ คาซึกิ ทาคาฮาชิ (Kazuki Takahashi) ผู้วาดมังงะ “Yu-Gi-Oh! เกมกลคนอัจฉริยะ” เสียชีวิต โดยตอนนี้ทางตำรวจกำลังหาสาเหตุการเสียชีวิตของอาจารย์อยู่ ซึ่งการสูญเสียครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งการสูญเสียครั้งสำคัญของทั้งวงการการ์ตูนและวงการการ์ดเกม เพราะอาจารย์คาซึกิคือหนึ่งในบุคคลสำคัญในวงการการ์ตูนที่เป็นผู้คิดค้นการ์ดเกม ‘Yu-Gi-Oh!’ หรือที่ในมังงะเรียกว่า ‘Magic & Wizards’ ที่เป็นตำนานมาจนถึงตอนนี้ และเมื่อเราย้อนกลับมาดูมังงะซีรีส์ ‘Yu-Gi-Oh!’ ก็มีหลายภาคออกมามากมาย แต่ภาคที่เป็นตำนานซึ่งเด็กยุค 90s จดจำมากที่สุดคือภาคแรกของซีรีส์ ที่มีฉากในตำนานมากมายให้เราได้คิดถึง วันนี้เราได้รวบรวมฉากที่แฟน ๆ ‘Yu-Gi-Oh!’ จดจำมานำเสนอ โดยเราจะขอหยิบเฉพาะ ‘Yu-Gi-Oh!’ ภาคแรกและเป็นฉบับมังงะมาเท่านั้น โดยเราไม่ขอเรียงตามลำดับเนื้อเรื่องแต่ขอเรียงตามความน่าสนใจของเนื้อหา เรามาดูกันว่าการ์ตูนเรื่องนี้มีฉากอะไรที่น่าประทับใจบ้างมาดูไปพร้อมกันเลย
คำเตือน เนื้อหาในบทความมีการเปิดเผยภาพและเนื้อหาของ Yu-Gi-Oh! เกมกลคนอัจฉริยะอย่างละเอียด
ทิ้งการ์ด Exodia ลงทะเล
เริ่มต้นฉากแรกที่ผู้อ่านมังงะ ‘Yu-Gi-Oh!’ ในยุคนั้นจดจำได้ไม่รู้ลืม กับฉากที่ อินเซ็คเตอร์ ฮางะ (Insecter Hanga) โยนการ์ด ‘Exodia’ ของ มุโต้ ยูกิ (Mutou Yugi) ที่ได้จากปู่ของเขาลงทะเล โดยการ์ด ‘Exodia’ เป็นดั่งไพ่ตายที่เคยพลิกสถานการณ์อันย่ำแย่ของยูกิให้สามารถเอาชนะ ไคบะ เซโตะ (Kaiba Seto) ในการแข่งขันคราวก่อนมาได้อย่างเฉียดฉิว ซึ่งสำหรับคนที่ไม่ทราบการ ‘Exodia’ คือหนึ่งในการ์ดพิเศษที่มีทั้งหมด 5 ชิ้นส่วน ที่เมื่อเรารวบรวมขึ้นมือได้ครบ 5 ใบ เราจะสามารถจบเกมและเป็นฝ่ายชนะได้ทันที ที่เมื่อยูกิมีการ์ดนี้ผู้เล่นทุกคนต่างก็หวาดกลัว จนฮางะที่แกล้งทำตัวเป็นคนดีมาขอดูการ์ดของยูกิตอนเดินทางด้วยเรือก่อนจะโยนการ์ดนี้ลงน้ำ ที่สุดท้ายก็หาเจอแค่ 3 ใบเท่านั้น ซึ่งในมังงะการ์ด ‘Exodia’ จัดเป็นการหายากที่น้อยคนจะมีครบ การหายไปของการ์ดครั้งนี้จึงเป็นการตัดกำลังของยูกิเป็นอย่างมาก จนคนอ่านมังงะในยุคนั้นต่างสงสัยว่ายูกิจะเอาอะไรไปสู้ในศึกบนเกาะ ‘Pegasus’ ครั้งนี้ ทำให้ฉากนี้คือหนึ่งในฉากที่แฟน ๆ จดจำได้เป็นอย่างดี
Yugi ปะทะ God Osiris
เรียกว่าเป็นหนึ่งในฉากที่สนุกที่สุดตอนหนึ่งในเรื่อง กับตอนที่ยูกิพระเอกสองวิญญาณของเราต้องต่อสู้กับการ์ดเทพเจ้าอย่าง เทพเจ้าโอซิริส (God Osiris) หนึ่งในการ์ดสามเทพเจ้าที่อยู่ในเรื่อง ซึ่งสำหรับคนที่ไม่เคยอ่านหรือจำไม่ได้ การ์ดเทพเจ้าใบนี้จะมีพลังโจมตีพลังป้องกันตามจำนวนการ์ดบนมือของผู้เล่น ที่ตามกติกาเราจะมีการ์ดบนมือสูงสุด 6 ใบ นั่นก็เท่ากับว่าพลังโจมตีพลังป้องกันของการ์ดนี้อาจจะสูงถึง 6,000 แต้ม นอกจากนี้ยังมีความสามารถพิเศษอีกสองอย่างคือ การ์ดเวทมนตร์จะมีผลแค่ช่วงเดียวและจะหายไป (ปกติผลของการ์ดเวทมนตร์จะอยู่ยาว ๆ จนกว่าจะถูกทำลาย) ส่วนการ์ดกับดักจะไม่สามารถทำอะไรการ์ดเทพเจ้าได้ และเมื่ออีกฝ่ายลงการ์ดที่มีพลังโจมตีต่ำกว่า 2,000 แต้มการ์ดนั้นจะถูกทำลาย แต่ถ้าการ์ดใบนั้นมีพลังโจมตีป้องกันมากกว่า 2,000 การ์ดนั้นจะโดนหักพลังส่วนนั้นไป 2,000 ยกตัวอย่างการ์ดที่มีพลังโจมตี 2,500 จะเหลือเพียง 500 นับว่าสุดโกงสุด ๆ เลยทีเดียว นี่ยังไม่นับฝ่ายตรงข้ามที่มีการ์ดเพิ่มจำนวนการ์ดบนมือไม่จำกัดเข้าไปอีก (ไม่ต้องคิดเลยว่าพลังจะสูงขนาดไหน) ซึ่งยูกิก็พยายามหาวิธีต่อสู้แบบสุดกำลังแต่ก็ไม่สามารถเอาชนะเทพเจ้าได้ จนคนอ่านในตอนนั้นต่างพากันเอาใจช่วยว่าจะเอายูกิชนะเทพได้อย่างไร จนไคบะออกมาบอกใบ้ยูกิด้วยประโยคที่ว่า “ความไร้ขีดจำกัดของพระเจ้าไม่มีจริงหรอก นั่นเป็นแค่ภาพลวงของพระเจ้า” เพียงเท่านี้ยูกิก็รู้วิธีเอาชนะได้อย่างสวยงาม นับเป็นการต่อสู้ที่สุดมาก ๆ ในตอนนั้น
ศึกจอมเวทกับ Dark Magician Girl ปรากฎตัว
อีกหนึ่งศึกการแข่งการ์ดที่อ่านสนุกไม่แพ้ตอนอื่น นั่นคือศึกการแข่งขันของผู้ใช้การ์ด ‘Dark Magician’ ที่คนอ่านมังงะทราบดีว่าการ์ดใบนี้คือการ์ดใบหลักของยูกิที่มักจะใช้ในการต่อสู้เสมอ ขณะที่ฝ่ายศัตรูก็เป็นผู้ใช้การ์ด ‘Dark Magician’ เหมือนกัน การต่อสู้ครั้งนี้จึงจับทางของกันและกันได้อย่างไม่มีใครยอมใคร ก่อนที่ตอนท้ายฝ่ายยูกิที่มีการ์ด ‘Dark Magician’ เพียงใบเดียวแต่อีกฝ่ายมีถึง 3 ใบแถมยังใช้กลโกงในการสับการ์ดเพื่อให้มาอยู่บนมือได้ง่าย ๆ จึงทำให้ยูกิเสียเปรียบเพราะไม่มีการ์ด ‘Dark Magician’ แล้ว แต่แล้วยูกิก็ทำให้คนอ่านมังงะประหลาดใจ เมื่อเขาสามารถเรียกการ์ด ‘Dark Magician Girl’ ออกมา ซึ่งการ์ดใบนี้ก็นับเป็นการ์ด ‘Dark Magician’ เช่นกัน และด้วยความน่ารักโดนใจแฟน ๆ เลยเทใจให้จอมเวทสาวคนนี้แบบหมดใจ
การเสียสละของ Hiroto Honda
มาที่ฉากเรียกน้ำตาของคนอ่าน ‘Yu-Gi-Oh!’ กันบ้าง กับการเสียสละของ ฮิโรโตะ ฮอนดะ (Hiroto Honda) หนึ่งในกลุ่มเพื่อนยูกิที่ในตอนแรก ๆ นั้นฮอนดะเปิดตัวในฐานนักเลงตัวร้ายที่มาแกล้งยูกิเป็นประจำ แต่ภายหลังก็เปลี่ยนใจมาเป็นเพื่อนกัน และเมื่อเป็นเพื่อนกันแล้วเพื่อนก็ย่อมช่วยเพื่อน ที่เมื่อคุณปู่ของยูกิพ่ายแพ้ในการแข่งการ์ดกับไคบะ ยูกิจึงต้องมาแก้มือแต่เขาต้องผ่านด่านเกมมรณะที่ไคบะจัดขึ้นมาก่อน หนึ่งในนั้นคือห้องที่มีแท่งเหลี่ยม ๆ ตกลงมา ซึ่งทุกคนก็สามารถรอดไปได้มีเพียงฮอนดะคนเดียวที่พลาดถูกแท่งเหลี่ยมทับเสื้อจนไปไม่ได้ ขณะที่เพื่อน ๆ ไม่สามารถช่วยได้เลย นับเป็นการเสียสละที่แฟน ๆ มังงะในตอนนั้นต่างเกาหัวแล้วตะโกนออกมาตอนอ่านว่า “ทำไมแกไม่ถอดชุดนักเรียนออก” จนฉากนี้กลายเป็นตำนานที่แฟน ๆ ‘Yu-Gi-Oh!’ จดจำไม่รู้ลืม
การต่อสู้บนทะเลกับตอนปราสาทแห่งความมืด
อีกหนึ่งความน่าประทับใจของมังงะ ‘Yu-Gi-Oh!’ ที่คนเล่นการ์ดเกมของจริงต้องร้องอุทานออกมาว่า “แบบนี้ก็ได้หรอ” ออกมาดัง ๆ นั่นคือการเอาชนะฝ่ายตรงข้ามของยูกิ ที่วิธีเอาชนะนั้นเรียกว่าแปลกประหลาด ที่แม้แต่คนที่อ่านมังงะอย่างเดียวไม่ได้เล่นการ์ดยังถึงกับงงว่าทำแบบนี้ได้ด้วย โดยเราจะขอยกตัวอย่างการต่อสู้ 2 ครั้งที่แฟน ๆ มังงะต้องหัวจะปวดกับการต่อสู้ระหว่างยูกิกับ คาจิกิ เรียวตะ (Kayiki Ryouta) ชายผู้ใช้การ์ดท้องทะเลที่มาพร้อมกับสนามที่ครึ่งหนึ่งเป็นท้องทะเล จึงทำให้เขาสามารถลงการ์ดสัตว์ทะเลในน้ำได้ ซึ่งสำหรับคนที่ไม่ทราบการ์ด ‘Yu-Gi-Oh!’ จะมีการแบ่งธาตุของตัวละครรวมถึงเผ่าพันธุ์ว่าเป็นจำพวกไหน หนึ่งในนั้นคือสัตว์ทะเล ขณะที่การ์ดของยูกิจะเป็นธาตุความมืด การต่อสู้ครั้งนี้ยูกิจึงเสียเปรียบไม่สามารถต่อกรได้เลย เพราะเขาไม่มีการ์ดสัตว์ทะเลจึงไม่สามารถโจมตีฝ่ายตรงข้ามที่แอบในทะเลได้ ส่วนอีกครั้งก็คือการต่อสู้กับ ‘Player Killer’ นักล่าที่มากำจัดคู่แข่ง ซึ่งเป้าหมายของ ‘Player Killer’ คือยูกิซึ่งเขาจะใช้การ์ดปราสาทแห่งความมืด ที่เมื่อใช้ฝ่ายตรงข้ามจะมองไม่เห็นการ์ดของอีกฝ่ายจึงโจมตีไม่ได้ ซึ่งทั้งคู่จะมีรูปแบบการเล่นคล้าย ๆ กัน แต่ด้วยพลังโกงของยูกิก็สามารถเอาชนะได้ด้วยวิธีที่คนอ่านยุคนั้นต้องตกตะลึง เริ่มจากฝั่งเรียวตะที่ยูกิใช้การ์ดมนุษย์หินทำลายการ์ดดวงจันทร์ในสนาม จนน้ำที่เคยมีลดลง (ดวงจันทร์มีผลทำให้น้ำขึ้นน้ำลง) การ์ดสัตว์น้ำทั้งหมดจึงเกยตื้น ทั้งที่ตามกติกามันไม่สามารถทำแบบนี้ได้ ส่วนฝ่าย ‘Player Killer’ ยูกิก็ใช้การ์ดดาบผนึกแห่งแสงที่มีแสงสว่างเหมือนหลอดไฟจึงทำให้มองเห็นการ์ดฝ่ายตรงข้ามได้ (แบบนี้ก็ได้หรอ) ทั้งที่ตามกติกามันไม่สามารถทำได้ เรียกว่าเป็นวิธีชนะสุดโกงที่คนเล่นการ์ด ‘Yu-Gi-Oh!’ หัวจะปวดขึ้นมาทันทีตอนเห็นการต่อสู้ 2 ครั้งนี้
Blue eyes Ultimate Dragon ปรากฏตัว
เรียกว่าสะเทือนวงการการ์ด ‘Yu-Gi-Oh!’ ในยุคนั้นกันเลยทีเดียว เมื่อในฉบับมังงะมีการพูดถึงการ์ดในตำนานอย่าง ‘Blue eyes Ultimate Dragon’ หรือที่เด็กในยุคนั้นเรียกการ์ดใบนี้ว่า “การ์ดบลูอายสามหัว” ที่เกิดจากการรวมร่างของการ์ด ‘Blue Eyes White Dragon’ สามใบกับการ์ด ‘Fusion’ จนเกิดเป็นการ์ดที่มีพลังโจมตีสูงที่สุดในตอนนั้น ที่มีพลังโจมตีสูงถึง 4,500 แต้ม จนทำให้เกิดกระแส ‘Blue Eyes White Dragon’ ที่ใคร ๆ ก็อยากได้เพื่อเอามารวมร่างเป็น ‘Blue eyes Ultimate Dragon’ กัน ซึ่งในยุคนั้นจะสามารถรวมร่างได้เฉพาะการ์ดในสนามเท่านั้น นั่นก็หมายความว่าเราต้องมีการ์ด ‘Blue Eyes White Dragon’ 3 ใบบนสนามและต้องมีการ์ด ‘Fusion’ รวมถึงการ์ด ‘Blue Eyes White Dragon’ อีก ที่กว่าจะตามหาได้จนครบก็หมดไปหลายบาท นี่ยังไม่นับการเล่นที่ยุ่งยากจึงทำให้คนไม่ใช้กัน แต่ถึงอย่างนั้นฉากการมาของบลูอายสามหัวตัวนี้ก็เป็นที่จดจำของแฟน ๆ ‘Yu-Gi-Oh!’ ไม่รู้ลืมมาจนถึงตอนนี้ ส่วนวิธีการชนะ ‘Blue eyes Ultimate Dragon’ ของยูกิก็ทำเอาคนอ่านในยุคนั้นหัวจะปวดไม่แพ้การต่อสู้ที่เรายกตัวอย่างไปก่อนหน้านี้เลย
Kaiba ปะทะ Yugi
ถ้านับกันจริง ๆ การต่อสู้ยูกิกับไคบะนั้นเกิดขึ้นบ่อยครั้งมาก ๆ และในแต่ละครั้งทั้งคู่ก็จะงัดวิธีต่อสู้สุดโหดออกมาที่เรียกว่าต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน แต่ครั้งที่คนอ่านมังงะ ‘Yu-Gi-Oh!’ ชื่นชอบที่สุด ก็น่าจะเป็นตอนที่ทั้งคู่สู้กันในศึก ‘Battle City Duel’ ที่ในตอนนั้นทั้งคู่ต่างก็มีการ์ดเทพอยู่กับตัว มันจึงเป็นการต่อสู้ที่สนุกอ่านไปลุ้นไปว่าไคบะจะเอาไม้ไหนมาสู้ในศึกครั้งนี้ แล้วยูกิจะรับมือศึกครั้งนี้ได้อย่างไร จนมาถึงตอนที่ทั้งคู่ต่างเรียกเทพออกมาในสนาม การต่อสู้ก็มาถึงจุดสูงสุดที่อ่านขนลุก แถมฉากนี้ยังมาพร้อมกับภาพนิมิตเมื่อชาติปางก่อนของทั้งคู่ที่เคยต่อสู้กันมาแล้วครั้งหนึ่ง มาในชาตินี้ทั้งคู่ก็ยังตามมาต่อสู้กัน ที่เรียกว่าอ่านสนุกแถมยังเป็นการไขปริศนาและเปิดปมไปยังเรื่องราวต่อไปด้วย การต่อสู้ครั้งนี้แฟน ๆ จึงชอบมาก ๆ
Yugi ปะทะ Atem ในศึกสุดท้าย
ปิดท้ายกับศึกที่หลายคนประทับใจ กับการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของคู่หูระหว่าง มุโต ยุกิ กับ อาเทม (Atem) ตัวตนที่แท้จริงของยูกิอีกคน ที่หลายคนต่างสงสัยมาว่าเขาคนนี้คือใคร แล้วทำไมวิญญาณถึงถูกขังอยู่ในตัวต่อพันปี จนเรื่องราวเฉลยออกมาว่ายูกิอีกคนที่มีพลังแห่งความมืดนั้นความจริงคือ ‘Pharaoh’ ผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตซึ่งถูกขังไว้ในตัวต่อพันปี จนเมื่อศึกสุดท้ายจบลงอาเทมต้องกลับไปยังยุคของตนตามที่ชะตากำหนด แต่ยูกิร่างต้นไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้นทั้งคู่จึงต้องต่อสู้กันเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย โดยศึกครั้งนี้ทั้งคู่ต่างงัดการ์ดมาสู้แบบจริงจังไม่มีใครอ่อนข้อให้ ขนาดที่ว่าฝั่งอาเทมเรียกการ์ดเทพออกมาสู้เลยทีเดียว และสุดท้ายศึกนี้ก็จบลงด้วยชัยชนะของใครนั้นไปอ่านหรือดูอนิเมะกันเอง แต่บอกเลยว่าศึกนี้อ่านสนุกมาก ๆ เรียกว่าเป็นมิตรภาพที่สวยงามกับตอนจบที่ถูกใจแฟน ๆ ในยุคนั้นเป็นอย่างมาก
ก็จบกันไปแล้วกับการรวมฉากที่คนอ่านมังงะ ‘Yu-Gi-Oh!’ ประทับใจหวังว่าจะชอบกัน โดยเป้าหมายของบทความนี้เพื่อต้องการไว้อาลัยแด่อาจารย์ คาซึกิ ทาคาฮาชิ ที่จากไป และเพื่อให้แฟน ๆ มังงะ ‘Yu-Gi-Oh!’ ได้รำลึกความทรงจำในตอนนั้นกัน และถ้าบทความนี้ขาดตอนไหนไปก็ขออภัยมาด้วย เพราะในเรื่องนี้มีฉากที่น่าประทับใจเยอะมากจนเราต้องคัดมาเฉพาะฉากที่แฟน ๆ ชอบจริง ๆ มารวมไว้ ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวงการเกมการ์ตูนภาพยนตร์ของเล่นเรื่องไหนอีกก็รอติดตามกันได้ที่แบไต๋ รับรองคุณจะไม่พลาดทุกข่าวสารบทความวงการต่าง ๆ อย่างแน่นอน เข้าไปดูกันตอนนี้ได้เลย
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส