ถ้าใครที่ได้ติดตามข่าวในช่วงนี้จะทราบว่าตอนนี้ทาง ‘Netflix’ ได้ประกาศสร้างภาพยนตร์จากมังงะเรื่องดังอย่าง ‘YuYu Hakusho’ การ์ตูนดังในยุค 90s ที่คนรู้จักในหลายชื่ออย่าง “คนเก่งฟ้าประทาน” หรือ “คนเก่งทะลุโลกไป” จนถึง “ผีไม่ใช่ผี” ซึ่งเคยสร้างปรากฏการณ์ให้เด็กผู้ชายในตอนนั้นพร้อมใจกันทำท่ากระสุนวิญญาณ ด้วยการเอาหนังยางมาเป็นท่ายิงพลังในเรื่อง กับเรื่องราวการเดินทางของนักเรียนนักเลงที่กลายเป็นผี ก่อนที่เนื้อหาจะบานปลายไปจนการต่อสู้เพื่อโลกวิญญาณกับพ้องเพื่อนที่สนุกน่าติดตาม วันนี้เราจะพาคุณมาย้อนอดีตดูเรื่องราวที่น่าประทับใจนี้กัน ส่วนใครที่เกิดไม่ทันหรือไม่เคยดูหรืออ่านการ์ตูนเรื่องนี้มาก่อน ก็ถือเป็นการทำความรู้จักไปพร้อม ๆ กันเลย ซึ่งเนื้อหาในบทความนี้จะไม่เปิดเผยเรื่องราวมาก แต่จะเล่าเฉพาะจุดที่น่าสนใจหรือสิ่งที่คุณควรรู้เท่านั้น เพื่อว่าใครที่สนใจจะได้ไปหามาดูหรืออ่านกัน ที่บอกเลยว่าการ์ตูนเรื่องนี้คือหนึ่งในตำนานยุค 90s อีกหนึ่งเรื่องที่คุณไม่ควรพลาด เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้นมาดูไปพร้อมกันเลย
จุดเริ่มต้นของวิญญาณหลงทางไปสู่การกู้โลกวิญญาณ
เริ่มต้นเรื่องแรกเราทำความรู้จักชื่อของซีรีส์การ์ตูนเรื่องนี้กันก่อนว่าชื่อ ‘YuYu Hakusho’ ที่เรารู้จักในชื่อไทยว่า “คนเก่งฟ้าประทาน” ไม่ก็ “คนเก่งทะลุโลก” ไปจนถึง “ผีไม่ใช่ผี” นั้นจริง ๆ แล้วชื่อเรื่องนี้มีความหมายที่แปลอ้อม ๆ ออกมาว่า “สมุดบันทึกเรื่องผี” ซึ่งตรงกับเนื้อหาในตอนแรกของเรื่อง ที่พูดถึงนักเรียนนักเลงอย่าง อุราเมชิ ยูสึเกะ (Urameshi Yusuke) เด็กชายวัน 14 ที่บังเอิญไปช่วยเด็กที่กำลังถูกรถชนจนตัวเองต้องมาเสียชีวิตแทน แต่ด้วยชะตาที่ยังไม่ถึงที่ตายทำให้ยูสึเกะไม่สามารถไปได้ทั้งนรกหรือสวรรค์ ยมทูตสุดสวยอย่าง โบตั๋น (Botan) จึงพายูสึเกะไปหา โคเอ็นมะ (Koenma) ลูกของผู้ปกครองแห่งยมโลก ที่ยื่นข้อเสนอให้ยูสึเกะกลับคืนร่างและเพื่อเป็นนักสืบโลกวิญญาณเป็นการตอบแทน โดยหน้าที่ของยูสึเกะคือการปราบปีศาจและวิญญาณชั่วร้าย ที่ในตอนแรกจะออกไปทางการปราบผีเหมือนการ์ตูนต่อสู้วิญญาณทั่วไป แต่พอเนื้อเรื่องดำเนินไปเรื่อย ๆ ขนาดของเนื้อหาก็ใหญ่ขึ้น มีการจับกลุ่มแข่งขันศึกชิงโลกวิญญาณกับการต่อสู้สุดสนุกน่าติดตาม ที่โด่งดังมาก ๆ ในยุค 90s เคียงคู่การ์ตูนในตำนานเรื่องอื่น ๆ ที่ถ้ามีการจัดอันดับ ‘YuYu Hakusho’ ต้องติดอันดับต้น ๆ การ์ตูนในดวงใจอย่างแน่นอน
อาจารย์ Yoshihiro Togashi ผู้เขียนคนเดียวกับ Hunter x Hunter
ต่อเนื่องจากหัวข้อที่แล้วเมื่อเราแนะนำการ์ตูนเรื่องนี้สำหรับคนที่ยังไม่รู้จัก ให้ไปหาอนิเมะหรือมังงะมาอ่านหรือดู ซึ่งหลายคนอาจจะลังเลว่าการ์ตูนเรื่องนี้สนุกจริงหรือ เพราะมังงะหลายเรื่องที่โด่งดังในอดีต เมื่อเอามาอ่านหรือดูตอนนี้ก็ไม่ค่อยสนุกเมื่อเทียบกับการ์ตูนยุคนี้ แต่เมื่อเราบอกว่าการ์ตูนเรื่อง ‘YuYu Hakusho’ นั้นคิดและเขียนโดยอาจารย์ โยชิฮิโระ โทงาชิ (Yoshihiro Togashi) ผู้เขียนคนเดียวกับการ์ตูนในตำนานที่ตอนนี้ยังไม่จบอย่าง ‘Hunter x Hunter’ ที่ถ้าคุณกำลังอ่านมังงะเรื่องนี้อยู่ก็บอกเลยว่าไม่ควรพลาดผลงานเก่าอย่าง ‘YuYu Hakusho’ เพราะตัวเนื้อหาของการ์ตูน ‘YuYu Hakusho’ ก็มีกลิ่นอายคล้าย ๆ ‘Hunter x Hunter’ ที่มีเนื้อหาลึกซึ้งการต่อสู้ที่สนุกตัวละครที่มีเอกลักษณ์ทั้งฝ่ายตัวร้ายและตัวเอก ที่แม้แต่สาว ๆ ก็ต้องตกหลุมรักความหล่อของตัวละครในเรื่อง และที่สำคัญที่สุดคือการ์ตูนเรื่องนี้จบบริบูรณ์ไม่ต้องรอแบบค้างคา ส่วนใครที่ไม่เคยอ่านเรื่อง ‘Hunter x Hunter’ แต่เคยได้ยินชื่อเสียงการ์ตูนเรื่องนี้มาก็บอกเลยว่าคุณพลาดของดีไปแล้ว รวมถึงการ์ตูนเรื่อง ‘YuYu Hakusho’ เรื่องนี้ด้วย
เหล่าตัวเอกที่คนยุคนั้นจดจำ
หลายคนที่ได้ตามข่าวสารวงการอนิเมะมา คงจะได้เห็นหน้าตาของตัวละครทั้ง 4 ในฉบับคนแสดงของเรื่อง ‘YuYu Hakusho’ กันไปแล้ว คราวนี้มาดูตัวละครหลักทั้ง 4 คนในฉบับมังงะกับเรื่องราวประวัติย่อ ๆ ของพวกเขาว่ามีความเป็นมาอย่างไรก่อนมาร่วมทีมกัน ที่แต่ละคนก็มีพลังความสามารถที่มาที่ไปและปมที่ต่างกัน ซึ่งใครที่เคยอ่านหรือดูมาแล้วจะทราบดีว่าอาจารย์โทงาชิเขาใส่ใจในเนื้อหาและปมของตัวละครมาก จนไม่น่าแปลกใจว่าทำไมการ์ตูนที่อาจารย์เขียนถึงได้ออกมาฮิตติดลมบนทุกเรื่อง
Urameshi Yusuke
อย่างที่เราได้แนะนำไปในตอนต้นของบทความไปแล้ว ว่าตัวของยูสึเกะนั้นเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่ตายก่อนกำหนดจนได้คืนชีพเพื่อเป็นนักสืบโลกวิญญาณ แต่หลังจากนั้นการต่อสู้ของยูสึเกะกับเหล่าปีศาจก็ค่อนข้างหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนเขาต้องไปสมัครเป็นศิษย์ของอาจารย์ เก็นไค (Genkai) ที่เปิดรับสมัครลูกศิษย์ที่รับเพียงคนเดียว ผ่านผู้ทดสอบเป็นร้อย ๆ คนก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาการประลองในโลกปีศาจ ที่เป็นการจัดทีม 5 คนไปร่วมสู้ศึกที่ถือเป็นเนื้อเรื่องที่สนุกตื่นเต้นที่สุด และเราจะได้เห็นการเติบโตของยูสึเกะที่จากวิญญาณเร่ร่อนมาเป็นนักสู้สุดแกร่งทั้งที่เป็นเพียงมนุษย์ (จริงหรอ) ก่อนที่เราจะรู้ถึงชาติกำเนิดของเขาที่เรียกว่าตรงตามที่หลายคนในยุคนั้นคิด แต่บอกเลยว่ากว่าจะไปถึงตรงนั้นคุณจะได้เห็นการต่อสู้และท่าไม้ตายกระสุนวิญญาณสุดยิ่งใหญ่ จนเราแทบจะลืมไปเลยว่าตอนต้นเรื่องกับช่วงท้ายเรื่องราวเปลี่ยนไปมากมายขนาดไหน
Kurama
มาที่ตัวละครขโมยซีนประจำเรื่องกันบ้าง กับตัวละครหนุ่มหน้าตาสวยขวัญใจสาว ๆ ในยุค 90s กับปีศาจจิ้งจอก คุราม่า (Kurama) หรือในชื่อ มินามิโนะ ชูอิจิ (Minamino Shuichi) ที่เป็นชื่อและร่างมนุษย์ที่ใช้แฝงตัว ที่ต้องย้อนเรื่องราวไปในอดีตสมัยที่คุราม่ายังเป็นปีศาจจิ้งจอก เขาได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับปีศาจตนอื่น จนตัวเองต้องย้ายร่างมาสิงในคนท้องซึ่งทารกคนนั้นมีร่างกายอ่อนแอที่ไม่นานก็คงเสียชีวิต คุราม่าจึงไปสิงในร่างโกคนนี้และเชื่อมจิตใจเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นตัวตนใหม่ ที่รับรู้ว่าตนเองคือปีศาจจิ้งจอกและก็รู้ว่าตนเองคือมนุษย์ ซึ่งสิ่งที่เรียกว่าการขโมยซีนที่ได้ใจคนอ่านคนดูในตอนนั้น คือตอนที่คุราม่าคืนร่างเป็นปีศาจจิ้งจอกผมสีเงินที่แบบทั้งเก่งทั้งหล่อ จนเด็กผู้ชายคนหลายที่ไม่ชอบตัวละครออกสาวคนนี้เปลี่ยนมาแย่งกันเป็นคุราม่ากันเลยทีเดียว
Hiei
มาต่อกันที่ตัวละครตัวเล็กพูดน้อยแต่ฝีมือร้ายกาจ จนหลายคนชื่นชอบกับปีศาจสามตา ฮิเอ (Hiei) ที่ตัวของฮิเอนั้นเป็นปีศาจที่ถือกำเนิดขึ้นจากดินแดนน้ำแข็งในฐานะตัวกาลกิณี เพราะเขามีผมสีดำและดวงตาที่ดุร้ายราวปีศาจจนถูกทิ้งให้ตายอย่างเดียวดาย แต่ด้วยพลังปีศาจอันมากล้นจึงทำให้ฮิเอรอดชีวิตมาได้ แต่เขากลับไม่รู้สึกโกรธเกลียดคนชนเผ่าปีศาจหิมะที่ทอดทิ้งตน แถมยังรู้สึกขอบคุณที่ตนเองมีชะตาชีวิตแบบนี้เพราะมันทำให้เขาแข็งแกร่ง (ก็โกรธเกลียดนั่นละแต่ก็ไม่แค้นขนาดต้องไปฆ่าหรือทำอะไร) แถมตัวของฮิเอยังลงทุนไปผ่าตัดเพื่อฝังดวงตาที่ 3 เพื่อเพิ่มพลังปีศาจในตัว ก่อนที่เราจะทราบความจริงว่าเป้าหมายในการผ่าตัดดวงตานี้ก็เพื่อเอาไว้ตรวจจับค้นหาน้องสาวฝาแฝด ที่ถูกจับไปโดยปีศาจที่ร่วมมือกับมนุษย์เพราะน้ำตาของปีศาจหิมะมีค่ากว่าเพชร ฮิเอจึงหาทางช่วยน้องสาวของตนก่อนจะได้สู้กับยูสึเกะและมาเป็นพวกกันในที่สุด
Kuwabara Kazuma
เรียกว่าเป็นตัวละครที่คนชื่นชอบน้อยที่สุด แต่ คุวาบาระ คาซึมะ (Kuwabara Kazuma) ก็เป็นมนุษย์เพียงคนเดียวในกลุ่มที่สามารถต่อกรกับปีศาจได้อย่างสูสี เพราะเขาเป็นคนที่พลังจิตแรงกล้ามาก ขนาดที่สามารถเปลี่ยนพลังจิตนั้นให้เป็นดาบได้ด้วยพลังของตนเอง ที่ในตอนแรกคุวาบาระเป็นเพียงตัวประกอบที่มาให้ยูสึเกะอัดไม่ได้มีบทบาทอะไรในเรื่อง แต่ภายหลังอาจารย์ก็ดึงเอาตัวละครนี้มาใส่ในทีมของยูสึเกะในการต่อสู้ของโลกปีศาจ ที่เห็นเป็นเพียงมนุษย์แบบนี้คุวาบาระก็เก่งจนขนาดปีศาจระดับสูงยังยอมรับในฝีมือว่า มนุษย์ธรรมดาสามารถทำได้ขนาดนี้ แม้ในภายหลังบทของเขาจะจาง ๆ ไป แต่ฉากการต่อสู้ของคุวาบาระก็ติดตาตรึงใจคนอ่านมาจนถึงตอนนี้
ช่วงเวลาหลัก ๆ 4 ภาคตั้งแต่ต้นจนจบ
สำหรับคนที่คิดจะมาอ่านหรือมาดูการ์ตูน ‘YuYu Hakusho’ แล้วกลัวว่าเนื้อเรื่องจะยาวหรือยืดไปก็บอกเลยว่าไม่ จะมีเพียงในช่วงแรก ๆ ของเรื่องกับช่วงขั้นระหว่างรอเหตุการณ์ใหญ่ ๆ ที่เกิดขึ้นมาขั้นเวลาในบางส่วนเท่านั้นนอกนั้นเนื้อเรื่องจะไปเร็วมาก ที่บ้างครั้งก็เร็วขนาดที่ตัดจบไปเลยไม่รู้ว่าเขาสู้อะไรกันใครแพ้ชนะ แถมเป็นการต่อสู้ครั้งสำคัญของเรื่องด้วย จนมีคนคิดว่าการ์ตูนถูกตัดจบอาจารย์เลยเขียนแบบนี้ แต่ความจริงแล้วอาจารย์แกต้องการให้คนอ่านคิดเอาเองว่าใครแพ้ใครชนะ (รูปประกอบด้านล่างคือมีเท่านี้จริง ๆ แล้วก็ตัดจบมาที่ฉากอื่นที่เหมือนการต่อสู้จบแล้ว) แต่โชคดีที่ในฉบับอนิเมะได้เอาส่วนนี้มาขยายเล่าว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างละเอียดแบบหมัดต่อหมัด แถมยังบอกด้วยว่าใครชนะในการต่อสู้ครั้งนี้ (ไม่บอกอยากรู้ไปหาอ่านหรือดูเอาเอง) ซึ่งถ้าตัดจบอย่างอาจารย์อนิเมะคงโดนด่ายับแน่นอน โดยเราสามารถแยกเป็นช่วงหลัก ๆ 4 ภาคโดยอ้างอิงจากฉบับอนิเมะดังนี้
ภาคสายลับโลกวิญญาณ ตอนที่ 1-26
ในช่วงแรกของเรื่องตั้งแต่ตอนที่ 1 ถึง 26 นั้นจะเป็นการบอกเล่าเรื่องราวการปราบผีปีศาจของยูสึเกะ ในฐานนักสืบโลกวิญญาณโดยเริ่มจากผีตัวเล็ก ๆ ไปจนถึงปีศาจเก่ง ๆ ที่ในการต่อสู้ครั้งนี้ยูสึเกะได้ต่อสู้กับฮิเอที่ยังเป็นปีศาจระดับกลางที่ยังไม่เก่ง กับคุราม่าที่มาในฐานะมิตรรวมถึงการร่วมมือกับคุวาบาระในการต่อสู้กับปีศาจ ที่ช่วงแรกจะไม่ค่อยมีอะไรตื่นเต้นแต่ก็เป็นการปูเนื้อเรื่องช่วงต้นให้เรารู้จักที่มาที่ไปของตัวละครหลาย ๆ คนที่จะมีบทต่อไปในอนาคต
ภาคการประลองโลกปีศาจ ตอนที่ 27-66
เรื่องราวในช่วงที่ 2 ตั้งแต่ตอนที่ 27 ถึง 66 ในอนิเมะนั้นจะเริ่มต้นตั้งแต่ที่ยูสึเกะฝึกฝนวิชากับอาจารย์เก็นไคเพื่อเข้าสู่ศึกโลกปีศาจ ที่ผู้ชนะจะสามารถได้สิ่งที่ตนเองต้องการ โดยการแข่งนี้มนุษย์อยู่เบื้องหลังการจัดแข่ง เพื่อทดสอบฝีมือของ โทคุโร่ (Toguro) มนุษย์ผู้เปลี่ยนตนเองให้เป็นปีศาจที่แข็งแกร่งกว่าปีศาจทุกตน ที่ถ้าโทคุโร่สามารถเอาชนะในศึกนี้โลกปีศาจอาจจะถึงจุดจบเพราะปีศาจถูกมนุษย์ควบคุม โดยการต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นทีม 5 คนต่อสู้แบบ 1 ต่อ 1 ที่คราวนี้เราจะได้เห็นตัวละครใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ ที่บอกเลยว่าภาคนี้เป็นตอนที่สนุกที่สุดในซีรีส์ ที่ไม่ว่าจะอ่านมังงะหรือดูอนิเมะก็สนุกไม่แพ้กัน
ภาคโลกมืด ตอนที่ 67-94
ไม่นานหลังจากจบศึกการต่อสู้ในโลกปีศาจ ยูสึเกะก็ได้รับหน้าที่ใหม่ในการตามสืบความผิดปกติของมิติโลกมนุษย์กับโลกปีศาจ ที่ทำให้มีปีศาจระดับสูงออกมาสร้างความวุ่นวายบนโลกมากผิดปกติ ที่เรียกช่วงนี้ว่าภาคโลกมืดซึ่งเป็นตอนที่ 67 ถึง 94 โดยคนที่อยู่เบื้องหลังคราวนี้คืออดีตนักสืบโลกวิญญาณที่หันหลังให้กับมนุษย์อย่าง เซ็นซุย ชิโนบุ (Sensui Shinobu) ที่โกรธเกลียดในความโลภโสมมของมนุษย์ จนคิดอยากทำลายทิ้งด้วยการเปิดประตูโลกมิติปีศาจให้กว้างที่สุด เพื่อให้ปีศาจมากลืนกินโลกมนุษย์ โดยมีคุวาบาระคือกุญแจสำคัญในเรื่องนี้ ที่คราวนี้เราจะได้เห็นตัวร้ายที่มีรูปแบบพลังและการต่อสู้หลากหลายกว่าในภาคที่แล้ว เพราะคู่ต่อสู้คราวนี้จะเป็นผู้มีพลังวิญญาณที่ก็สู้สนุกไม่ต่างกับภาคก่อน และคราวนี้เราจะได้รู้ถึงชาติกำเนิดของยูสึเกะอีกด้วย
ภาคราชาโลกปิศาจ 95-112
เรียกว่าต่อเนื่องกันเลยทีเดียวหลังจากการต่อสู้กับเซ็นซุย ยูสึเกะก็ทราบว่าตนเองนั้นไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาแต่เป็นผู้สืบทอดเชื้อสายมาจาก 1 ใน 3 ผู้ปกครองโลกปีศาจ และหนึ่งในสามผู้ค้ำยันโลกปีศาจกำลังจะตายเพราะความหิว หลังจากที่พบรักกับมนุษย์เมื่อหลายร้อยปีก่อนจนทำให้สมดุลโลกปีศาจเสียไป ยูสึเกะที่เป็นผู้สืบเชื้อสายอดีตผู้ปกครองโลกปีศาจจึงเสนอจัดการประลองขึ้นเพื่อหาผู้ปกครองโลกปีศาจ โดยในครั้งนี้จะเป็นการต่อสู้แบบ 1 ต่อ 1 และเราจะได้รู้เรื่องราวชาติกำเนิดของฮิเอ และเรื่องราวความลับต่าง ๆ ที่ผูกปมทิ้งเอาไว้ทั้งหมดจะมาเฉลยในครั้งนี้ ที่เรียกว่าเป็นการจบเรื่องราวโดยสมบูรณ์ที่คนอ่านมังงะในยุคนั้นขัดใจ และถกเถียงกันว่าสรุปแล้วใครแพ้ใครชนะในศึกนี้ เพราะกว่าที่อนิเมะจะมาฉายช่อง 9 ก็ช้ากว่าฉบับมังงะที่จบไปนานมาก ๆ จนคนอ่านยุคนั้นลืมไปแล้วว่าเราคาใจเรื่องอะไร ที่บอกเลยว่าภาคนี้ค่อนข้างจืดนิดหน่อยเมื่อเทียบกับภาคอื่น แต่ก็เป็นการเฉลยปมกับเรื่องราวที่ค้างคาก็ถือว่าคุ้มค่ากับการดู ซึ่งเรื่องราวภาคในภาคนี้จะเริ่มจากตอนที่ 95 จนถึงตอนที่ 112 ที่จบได้อย่างสวยงามถูกใจคนอ่านและดูในยุคนั้นมาก ๆ
YuYu Hakusho ฉบับคนแสดง
ปิดท้ายกับการพูดถึง ‘YuYu Hakusho’ ฉบับคนแสดงที่ได้เปิดตัวนักแสดงหลักทั้ง 4 คนให้เราได้เห็นกันเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเสียงตอบรับก็ออกมาทั้งชอบและไม่ชอบ รวมถึงการไม่เห็นด้วยที่เอาการ์ตูนนี้มาสร้างเป็นภาพยนตร์ เมื่อดูจากการ์ตูนอื่น ๆ ที่สร้างเป็นภาพยนตร์แล้วเละจนดูไม่ได้ ที่เราก็คงจะบอกไม่ได้ว่าการสร้างภาพยนตร์จากการ์ตูนครั้งนี้จะออกมาดีรึไม่ (แค่ส่วนมากการ์ตูนที่ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์มักจะออกมาไม่ดีไปจนถึงแย่มาก ๆ เท่านั้น) ส่วนตัวละครที่เราเห็นตอนนี้ก็เป็นเพียงภาพนิ่งรูปเดียว ที่บอกไม่ได้ว่าจะเหมือนไม่เหมือนขนาดไหน คงต้องมารอดูในภาพยนตร์จึงจะตอบได้ และถ้าให้เดาเนื้อหาของภาพยนตร์ก็อาจจะเป็นแค่ช่วงแรกของเรื่องกับการปราบวิญญาณต่าง ๆ ของยูสึเกะ ยาวไปจนถึงการสมัครเป็นลูกศิษย์อาจารย์เก็นไคที่ภาพยนตร์อาจจะจบลงตรงนี้ เพื่อเป็นการปูเนื้อเรื่องไปในภาค 2 (ถ้าได้ไปต่อ) ที่ตรงนั้นคงจะเป็นศึกโลกวิญญาณแน่นอน (เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้นยังไม่มีข้อมูลออกมา) ซึ่งคุณสามารถติดตามข่าวสารที่แบไต๋ได้เลย ถ้ามีข่าวเราจะรีบมารายงานให้ทราบทันที
เป็นอย่างไรกันบ้างกับการบอกเล่าเรื่องราวของการ์ตูนเก่าเมื่อ 27 ปีที่แล้ว (การ์ตูนเรื่องนี้ตีพิมพ์ครั้งแรก 21 กันยายน 1994) ที่แม้จะเอามาอ่านหรือดูตอนนี้ก็ยังคงความสนุกกับการต่อสู้และความลึกซึ้งของเนื้อหา ที่ทำให้ ‘YuYu Hakusho’ คือหนึ่งในการ์ตูนยอดนิยมของเด็กยุค 90s ที่คนยุคนี้ไม่ควรพลาด ใครที่ไม่เคยดูหรืออ่านเราขอแนะนำฉบับมังงะที่อ่านสนุกกว่าอนิเมะที่มีการเปลี่ยนเนื้อหาไปหลายส่วน แต่อาจจะหาซื้อรวมเล่มยากหน่อยแต่รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอนสำหรับสายสะสม และถ้า ‘YuYu Hakusho’ ฉบับภาพยนตร์มีข่าวความคืบหน้าใด ๆ เราจะรีบมารายงานให้ทราบทันทีรอติดตามกันไว้ได้เลย ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรในวงการการ์ตูนก็ติดตามกันได้ที่นี่ที่เดียว รับรองว่าคุณจะไม่พลาดข่าวสารหรือบทความที่น่าสนใจแน่นอน กดติดตามกันไว้ได้เลยทุกช่องทาง
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส