เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนที่ได้อ่านหรือดูการ์ตูนเรื่อง มหาเวทย์ผนึกมาร หรือ ‘Jujutsu Kaisen’ มาแล้วคงจะต้องอุทานออกมาดัง ๆ ว่าเรื่องราวตัวละครและหลาย ๆ สิ่งในการ์ตูนเรื่องนี้มันช่างคล้ายกับการ์ตูนในตำนานเรื่อง นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ หรือ ‘Naruto Shippuden’ มาก ๆ ที่ดูเหมือนว่าอาจารย์คนเขียน ‘Jujutsu Kaisen’ จะจงใจให้เรื่องราวคล้ายกันมากกว่าบังเอิญ และนอกจากเรื่อง ‘Naruto Shippuden’ แล้วเรื่องราวของ ‘Jujutsu Kaisen’ ก็ยังไปคล้ายกับนิยายพ่อมดน้อยชื่อดังอย่าง ‘Harry Potter’ ด้วย ที่เรียกว่า 3 เรื่องนี้ใช้โครงเรื่องการดำเนินเนื้อหาไปในทางเดียวกัน จนเหมือนทั้งสามเรื่องนี้แอบลอกการบ้านแต่เอามาเปลี่ยนเล็ก ๆ น้อย ๆ เลยก็ว่าได้ วันนี้เรามาดูจุดที่คล้ายกันของทั้งสามเรื่องนี้ว่ามีอะไรที่คล้ายกันบ้าง จนต้องพูดออกมาว่าไม่เหมือนตรงไหนเอาปากกามาวงกันเลยทีเดียว โดยเราจะขอเน้นไปที่ตัวละครเอกของเรื่องอย่าง อุซึมากิ นารูโตะ (Uzumaki Naruto) แฮร์รี่ พอตเตอร์ (Harry Potter) และ อิทาโดริ ยูจิ (Itadori Yuji) เป็นหลัก เพราะทั้งสามคนนี้ก็มีลักษณะที่ตรงกันมาก ๆ มาดูกันว่าทั้งสามคนนี้มีอะไรที่คล้ายกันบ้างมาดูไปพร้อมกันเลย
จุดเริ่มต้นจากเด็กชายผู้ขาดความรัก
เริ่มต้นเรื่องแรกที่ทั้งสามตัวละครอย่างนารูโตะนินจาคาถาแฮรี่พ่อมดน้อยและตัวกินนิ้วยูจิมีเหมือน ๆ กันคือจุดเริ่มต้นจากเด็กที่ขาดความรักจากพ่อแม่ที่ไม่ได้เลี้ยงดูต้นมาตั้งแต่เด็ก แต่ได้ผู้เป็นลุงป้าตาดูแลอยู่ห่าง ๆ แต่หลัก ๆ ทั้งสามคนก็ต้องใช้ชีวิตคนเดียวกินนอนดูแลตัวเองและต้องมองดูคนอื่น ๆ ที่มีครอบครัว แต่แทนที่เด็กทั้งสามคนจะมองว่าการขาดสิ่งนี้คือเรื่องเลวร้ายจนต้องโกรธในโชคชะตา แต่ทั้งสามคนกลับยึดมั่นในความถูกต้อง และพร้อมจะเดินไปในทางที่ถูกที่ควร อย่างนารูโตะที่เกิดมาพร้อมกับความเกลียดชังของคนในหมู่บ้าน ที่ตัวเขามีจิ้งจอก 9 หางอยู่ในตัวจนต้องใช้ชีวิตเดียวดาย ยูจิที่ต้องโตมากับคุณตาที่หาเลี้ยงที่ต้องดูแลตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ส่วนแฮรี่นั้นหลายคนคงจะทราบว่าตัวของเด็กแว่นคนนี้ถูกกระทำโดยขาดความรักมาตั้งแต่จำความได้ แต่ทั้งสามคนก็พร้อมจะต่อสู้กับโชคชะตาและเดินหน้าปกป้องผู้คนเพื่อไม่ให้มีใครต้องมาเป็นแบบตน ต่างกับตัวร้ายที่จะโทษโชคชะตาตนเองที่ขาดสิ่งเหล่านี้จนอยากให้คนอื่น ๆ ขาดแบบที่ตนเองเคยเป็นเมื่อมีพลัง แต่ทั้งสามคนกลับเลือกใช้พลังที่ได้มาปกป้องผู้คนนั่นคือสิ่งที่ตัวละครนี้เหมือนกัน
เป็นที่บรรจุเก็บความชั่วร้าย
นอกจากโชคชะตาความเข้มแข็งที่เป็นนามธรรมของพระเอกส่วนใหญ่ในการ์ตูนมีแล้ว คราวนี้มาดูลักษณะสิ่งที่ตัวละครสามคนนี้โดนมาเหมือนกัน ๆ กัน นั่นคือการถูกใช้เป็นที่บรรจุเก็บความชั่วร้ายไว้ในตัว ที่เริ่มจากยูจิที่ถ้าใครไม่เคยดูหรืออ่านการ์ตูนเรื่องนี้ จะเล่าถึงอิทาโดริ ยูจิเด็กชายมัธยมปลายที่ไปล่าท้าผีกับเพื่อน จนไปเจอของต้องสาปที่เป็นนิ้วซึ่งเก็บพลังของราชาต้องสาปเอาไว้ ซึ่งสิ่งที่ยูจิทำเมื่อไม่สามารถทำลายหรือเอานิ้วนี้ไปไว้ที่ไหนได้ พี่แกก็ทำการกลืนนิ้วนั้นลงท้องกลายเป็นที่เก็บนิ้วของราชาต้องสาปไปเสียอย่างนั้น ส่วนนารูโตะนั้นถ้าใครที่อ่านในช่วงท้ายเรื่องจะทราบดีว่า ตัวของพ่อแม่ของนารูโตะสละชีวิตตนเองเพื่อสะกด 9 หางที่ถูกทำให้บ้าคลั่งจากตัวร้ายจนทำลายหมู่บ้าน ที่เมื่อไม่สามารถกำจัดปีศาจตนนี้ได้พ่อกับแม่ของนารูโตะจึงทำการผนึก 9 หางเอาไว้ในตัวลูกชายโดยไม่มีทางเลือก ส่วนแฮรี่นั้นหลายคนคงจะทราบแล้วว่าตัวของแฮรี่นั้นมีเศษเสี้ยววิญญาณของจอมมารอยู่ในตัวโดยไม่ตั้งใจ เมื่อครั้งที่จอมมารจะมาฆ่าเด็กชายตอนเป็นทารก แต่ด้วยคาถาป้องกันที่ผู้เป็นแม่ร่ายมนต์ปกป้องลูกชาย จึงทำให้มนต์นั้นสะท้อนหาจอมมารแทน จนทำให้เศษเสี้ยววิญญาณจอมมารอยู่ในตัวเด็กชายนับตั้งแต่นั้น ซึ่งสิ่งนี้นับเป็นชะตาที่ต้องแบกรับที่ทั้งสามคนไม่เต็มใจก็ว่าได้
สัญลักษณ์บนหน้าสุดเด่น
อีกหนึ่งจุดเด่นที่ทั้ง 3 ตัวละครมีเหมือน ๆ กันหลังจากที่กลายเป็นตัวบรรจุพลังอันชั่วร้ายก็คือลักษณะเด่นบนหน้า ที่ในตอนแรกทั้งสามคนนั้นยังไม่มีสัญลักษณ์นี้ แต่เมื่อได้รับพลังมาอยู่ในตัวก็เกิดเป็นสัญลักษณ์หรือจุดเด่นขึ้นมาบนหน้า เริ่มจากแฮรี่ที่เขาได้รอยแผลเป็นรูปสายฟ้ามาจากพลังของจอมมารที่ยิงใส่แฮรี่ในตอนเด็ก ที่ทำอะไรเขาไม่ได้เลยนอกจากแผลเป็นรูปสายฟ้าเล็ก ๆ ที่บอกเราว่าเขาคือเด็กผู้อยู่รอดตามคำทำนาย ส่วนนารูโตะนั้นในตอนเป็นทารกแรกเกิดเขายังไม่มีขีดคล้ายหนวดบนหน้า จนเมื่อถูก 9 หางผนึกใส่ปานรูปหนวดก็ขึ้นมาจนเป็นลักษณะเด่นที่คนจดจำ ซึ่งมันจะเด่นชัดมาก ๆ ตอนที่ 9 หางถูกปลดปล่อย ซึ่งก็เหมือนกับของยูจิที่ในตอนก่อนที่เขาจะกลืนนิ้วราชาต้องสาปไปเขาก็ไม่มีรอยที่ใต้ตา แต่เมื่อกินนิ้วลงไปรอยใต้ตาก็เกิดขึ้นมา ซึ่งมันก็คือดวงตากับปากของราชาต้องสาปที่เอาไว้คุยกับยูจินั่นเอง
ชะตาชีวิตที่ต้องถูกประหารเมื่อถึงเวลาและเคยผ่านความตายมาแล้ว
แน่นอนว่าเมื่อทั้งสามคนกลายที่ผนึกความชั่วร้าย สิ่งที่ตามมาคือการรอเวลาประหารชีวิต เพราะการมีตัวตนของสิ่งชั่วร้ายย่อมนำพาสิ่งที่ไม่ดีตามมา ที่ถ้าวันใดวันหนึ่งเด็กทั้งสามคนเปลี่ยนความคิดที่จะใช้พลังนี้ในการทำเรื่องชั่วร้าย หรือถูกพลังนี้ควบคุมเพราะไม่สามารถเก็บพลังนี้เอาไว้ได้อาจจะเกิดหายนะขึ้นมาได้ นั่นคือสิ่งที่คนบางส่วนมองกันกับประโยคที่ว่ากันเอาไว้ดีกว่าแก้ โดยเรื่องราวของนารูโตะนั้นแม้จะไม่ถูกคนในหมู่บ้านสั่งฆ่า แต่ก็เคยถูกตามล่าเพราะต้องการ 9 หางในตัวนารูโตะ และครั้งหนึ่งเมื่อนารูโตะยังเด็กก็เคยถูกทางสภานินจาคิดจะประหารนารูโตะเพื่อกำจัด 9 หางในตัว แต่เมื่อมาคิดถึงการคานอำนาจของแคว้นนินจา การฆ่านารูโตะที่เป็นทารกจึงถูกยกเลิก และในการต่อสู้นารูโตะก็เคยหัวใจหยุดเต้นเกือบตายแต่ก็ถูกเพื่อนช่วยจนกลับมาได้ ส่วนยูจิที่เมื่อเขากลืนนิ้วของราชาต้องสาปจึงทำให้เขามีพลังในการต่อสู้กับคำสาป แต่ยิ่งยูจิกลืนนิ้วมากขึ้นเรื่อย ๆ ราชาต้องสาปที่อยู่ในตัวของยูจิก็ค่อย ๆ มีพลังขึ้น จนวันหนึ่งยูจิอาจจะไม่มีพลังพอจะควบคุมพลังนิ้วในตัวก็ได้เขาจึงถูกสภาใหญ่สั่งประหาร แต่ก็ถูกเหล่าอาจารย์ในโรงเรียนไสยเวทย์ค้านและคอยปกป้องยูจิอยู่โดยที่เขาไม่รู้ และการตายของเขาก็มาจากการถูกจอมมารต้องสาปที่สิงร่างควักหัวใจออกมาจนยูจิตาย แต่สุดท้ายก็ฟื้นขึ้นมาได้ในเวลาต่อมา ส่วนแฮรี่นั้นใครที่อ่านหรือดูภาพยนตร์มาจะทราบดีว่า ตัวของแฮรี่ที่มีเศษเสี้ยววิญญาณของจอมมารส่วนที่ 8 ในตัว (จอมมารยังไม่รู้เรื่องนี้) นั่นก็หมายความว่าถ้าวันใดที่จอมมารตายเขาก็จะคืนชีพได้อีกถ้าแฮรี่ยังมีชีวิต นั่นก็หมายความว่าแฮรี่ต้องตายเพื่อกันจอมมารจะเกิดใหม่ ซึ่งแฮรี่เพิ่งมารู้เรื่องนี้ก่อนศึกสุดท้ายจากความทรงจำของคนที่เขาเกลียดที่สุด แต่กลับปกป้องเขาจนวินาทีสุดท้ายของชีวิตอย่าง เซเวอร์รัส สเนป (Severus Snape) และการทำลายเศษเสี้ยวนี้แฮรี่ต้องยอมรับพลังคำสาปที่จอมมารปล่อยออกมาเพื่อฆ่าวิญญาณของตนเอง แฮรี่จึงถือว่าตายไปแล้วก่อนจะฟื้นขึ้นมาเพราะที่ตายไปนั้นคือเศษวิญญาณของจอมมารนั่นเอง ซึ่งเรื่องพวกนี้ก็เป็นเรื่องที่โหดร้ายที่คน ๆ หนึ่งต้องเจอเลยทีเดียว
ถูกพลังที่อยู่ในตัวควบคุมร่างแต่ทั้งสามก็สามารถดึงพลังนี้มาใช้ได้
แน่นอนว่าสิ่งที่หลายคนกลัวย่อมเคยเกิดขึ้นเมื่อทั้งสามนั้นไม่สามารถควบคุมพลังที่อยู่ในตัว จนมันระเบิดออกมาสร้างความวุ่นวายให้ทุกคน เริ่มจากนารูโตะที่ไม่สามารถควบคุม 9 หางในตัวจนมันบ้าคลั่ง ขนาดที่ปกติมีเพียงหางเดียวก็มีพลังมหาศาลแล้ว และมีครั้งหนึ่งที่นารูโตะเคยถูกปลดผนึกหางออกมาถึง 4 หาง ที่ในตอนนั้นก็ทำในนารูโตะสิ้นสติโดยสมบูรณ์ จนร่างกลายเป็นจิ้งจอกสีดำที่กว่าจะปราบลงได้ทุกคนเกือบตายกันเลยทีเดียว แต่สุดท้ายนารูโตะก็สามารถเอาพลังของ 9 หางมาใช้ได้อย่างสมบูรณ์ในที่สุด ขณะที่ยูจินั้นร้ายแรงกว่าตรงที่ราชาต้องสาปที่ออกมาได้ฆ่ายูจิที่เป็นเจ้าร่างทิ้งเพื่อจะได้คุมร่างได้อย่างสมบูรณ์ แต่ด้วยความช่วยเหลือเจรจาของเพื่อนจึงทำให้ราชาต้องสาปได้ทำข้อตกลงกับยูจิ เพื่อเป้าหมายของตัวเองในอนาคต ซึ่งยูจิก็สามารถยืมพลังจากราชาต้องสาปมาใช้ได้ในการต่อสู้ในภายหลัง ส่วนแฮรี่นั้นจะต่างกับอีกสองคน ตรงที่แฮรี่นั้นจะเผลอพูดภาษางูออกมาได้แบบไม่ตั้งใจ ซึ่งนั่นคือพลังของจอมมารที่อยู่ในตัวแฮรี่ที่เขาไม่รู้มาก่อนนั่นเอง ซึ่งสุดท้ายแฮรี่ก็ใช้พลังคุยกับงูเปิดประตูห้องแห่งความลับที่เป็นการควบคุมพลังได้นั่นเอง
โรงเรียนสอนวิชาต่อสู้
แน่นอนว่าสิ่งที่ขาดไม่ได้ของทั้งสามเรื่องนี้เลยคือโรงเรียน ที่ทั้งสามตัวละครนั้นก็ได้ไปเรียนโรงเรียนพิเศษสำหรับพวกเขา โดยแฮรี่นั้นจะได้ไปเรียนในโรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ ‘Hogwarts’ ที่ทำให้แฮรี่เรียนรู้การใช้เวทมนตร์คาถาต่าง ๆ ในการป้องกันตัวต่อไปในอนาคต ส่วนยูจินั้นก็ได้เรียนที่โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายประจำจังหวัดโตเกียว ที่สอนเกี่ยวกับการใช้คำสาปและวิธีแก้คำสาปไปจนถึงวิชาต่อสู้ ที่ชั้นหนึ่งจะมีนักเรียนแค่ 3 ถึง 4 คนเท่านั้นที่มาเรียน ซึ่งการเรียนการสอนที่ว่านั้นหมายถึงการออกไปกำจัดคำสาปจริง ๆ ด้วย เพื่อสอนนักเรียนให้เจอของจริงเพื่อเป็นประสบการณ์เรียนรู้ ส่วนนารูโตะนั้นจะได้เรียนโรงเรียนนินจาที่สอนเกี่ยวกับวิชานินจาเบื้องต้น เพื่อโตไปจะได้เป็นนินจามืออาชีพ และได้ร่วมทีมกับอาจารย์ประจำกลุ่ม แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้นต้องมีการสอบว่านักเรียนจะผ่านเพื่อเลื่อนขั้นรึไม่ ที่ทั้งสามโรงเรียนนั้นก็โหดไม่แพ้กันเลยทีเดียว แต่ที่นั่นก็เป็นตัวฝึกฝนให้ทั้งสามคนแข็งแกร่งและเรียนรู้ในการใช้พลัง ที่จะมีผลในอนาคตที่เราได้เห็นนั่นเอง
เพื่อนร่วมทีม 3 คน
ต้องพูดว่า “ไม่เหมือนตรงไหนเอาปากกามาวง” กันเลยทีเดียว เมื่อพูดถึงเพื่อนร่วมทีมของนารูโตะยูจิและแฮรี่ ที่ทั้งสามคนนั้นมีเพื่อนร่วมทีมที่ไว้ใจได้อีก 2 คนมาเป็นเพื่อนที่เหมือนกันมาก ๆ และเพื่อนในทีมก็มีปากเสียงมีการโกรธกันบ้างเป็นเรื่องปกติ แต่ของนารูโตะนั้นจะรุนแรงขึ้นมาหน่อยตรงที่กว่าจะเข้าใจกันก็ต้องสู้กันแบบเอาเป็นเอาตาย โดยตัวของนารูโตะนั้นหลังจากเรียนจบในโรงเรียนนินจา เขาก็ได้อยู่ในทีมนินจาที่มีเพื่อนอีกสองคนในทีม นั่นคือหนุ่มพูดน้อยวัน ๆ คิดแต่จะตามฆ่าพี่ชายตัวเองอย่าง อุจิวะ ซาสึเกะ (Uchiha Sasuke) และสาวน้อยน่ารักที่ชอบใช้กำลังที่แอบชอบซาสึเกะสุดหัวใจ ฮารุโนะ ซากุระ (Haruno Sakura) ส่วนของยูจินั้นก็ได้หนุ่มหัวหน้าบึ้งตึงเหมือนแบกทั้งโลกเอาไว้ เมกุมิ ฟุชิงุโระ (Megumi Fushiguro) กับสาวน้อยผู้ใช้ค้อนในการสู้คำสาปพร้อมพลังช้างในการกระทืบศัตรูอย่าง โนบาระ คูกิซากิ (Nobara Kugisaki) ส่วนของแฮรี่นั่นหลายคนคงจะทราบอยู่แล้วว่ามีเด็กชายหัวแดงที่ไม่ค่อยเอาไหนอย่าง รอน วีสลีย์ (Ron Weasley) และเพื่อนสาวหัวฟูแสนฉลาดและพูดมาก เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ (Hermione Granger) มาเป็นเพื่อนสนิท ที่ในตอนแรกทั้งสามคน (สามเรื่อง) ก็ไม่ถูกขี้หน้ากัน แต่เมื่อทั้งสามต้องผ่านเรื่องราวมากมายสุดท้ายทั้งสามคนก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
มีอาจารย์ผมขาวที่เก่งจนขโมยซีน
ปิดท้ายกับสิ่งที่เรียกว่าเก่งเด่นขโมยซีนทุกครั้งที่ตัวละครนี้ออกมา นั่นคืออาจารย์ของทั้งสามคนที่สั่งสอนวิชาและสิ่งต่าง ๆ ให้กับนารูโตะแฮรี่และยูจิ ที่ถ้าไม่มีอาจารย์ทั้งสามคนนี้พระเอกทั้งสามคนของเราคงจะไม่มีทางพัฒนาตัวเองไปถึงจุดสูงสุดอย่างแน่นอน แต่กว่าจะไปถึงตรงนั้นอาจารย์ที่สอนเราก็ต้องโชว์ความเด่นออกมาเสียหน่อย เริ่มจาก ฮาตาเกะ คาคาชิ (Hatake Kakashi) คุณครูตาเดียวที่มักจะชอบอ่านนิยายแนว 18+ กับท่าทางที่ไม่ค่อยสนใจอะไร แต่เมื่อเขาเปิดตามที่ปิดอยู่ ความเก่งแกร่งของคาคาชิก็ขโมยซีนไปตอนนั้นจนหมด จนหลายคนต่างก็ชื่นชอบตัวละครคนนี้ คนที่สองที่เราจะพูดถึงคือ อัลบัส เพอร์ซิวาล วูลฟริก ไบรอัน ดัมเบิลดอร์ (Albus Percival Wulfric Brian Dumbledore) ที่เราต้องยอมรับในความเก่งของอาจารย์แก ที่ในตอนแรกเราจะเห็นแกนั่งอยู่ในห้องครูใหญ่ที่จะสั่งสอนสิ่งต่าง ๆ ให้แฮรี่ แต่เมื่อเขาลงมือสู้เราก็ได้เห็นพลังเวทอันมหาศาลของเขา ที่เรียกว่าขโมยความเด่นไปได้เลยทีเดียว ส่วนคนสุดท้ายที่ถ้าไม่เอารูปตอนเปิดตามาลงคงถูกด่ายับแน่นอน กับคุณครู โกะโจ ซาโตรุ (Gojo Satoru) ชายหนุ่มรูปหล่อที่จะปิดตาตัวเองตลอดเวลาเพื่อกักพลังในตัวไม่ให้ออกมา กับนิสัยกวน ๆ พูดมากและเป็นครูที่ดีซึ่งสาว ๆ หลายคนต่างโดนคุณครูโกะโจตกกันไปทุกคนที่ได้ดูเรื่องนี้ นอกจากนี้ทั้งสามคนยังมีผมขาวเหมือนกันอีกด้วย เรียกว่าคล้ายกันแบบสุด ๆ เลยทีเดียว
ก็จบกันไปแล้วกับความเหมือนที่แตกต่างของสามตัวละครในเรื่อง ‘Jujutsu Kaisen’, ‘Naruto Shippuden’ และ ‘Harry Potter’ ที่เรียกว่าเหมือนกันสุด ๆ ทั้งที่สามเรื่องราวนั้นเกิดขึ้นต่างช่วงเวลากัน ซึ่งเราไม่ได้ต้องการชี้นำว่าใครเลียนแบบใคร แต่มันคือความเหมือนที่เป็นสิ่งดี เพราะจนถึงตอนนี้ยังไม่มีแฟน ๆ ของการ์ตูนนิยายทั้ง 3 เรื่องออกมาต่อว่าอีก 2 เรื่องเกี่ยวกับความเหมือนในสิ่งนี้ ตรงข้ามทุกคนกลับชอบสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จนกลายเป็นจุดเด่นไปเสียอย่างนั้น ซึ่งเป้าหมายของบทความนี้ก็เพื่อต้องการบอกให้คนอ่านหรือดูภาพยนตร์ไปจนถึงอนิเมะทราบว่า การ์ตูนนิยายภาพยนตร์ 3 เรื่องนี้โดยเฉพาะตัวละครหลักมีอะไรที่คล้ายกันเท่านั้นอ่านกันเอาสนุกไม่ต้องคิดมาก และถ้าคุณชอบบทความแนว ๆ นี้หรือเรื่องราวบันเทิงข่าวเรื่องราวสาระต่าง ๆ เราก็มีบทความข่าวมากมายให้คุณได้ไปอ่านกันที่แบไต๋ ใครที่สนใจเรื่องราวไหนก็ไปตามหาบทความมาดูต่อกันได้เลย ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวอะไรที่น่าสนใจเกี่ยวกับอนิเมะก็ติดตามกันได้ที่นี่ที่เดียว รับรองไม่พลาดบทความสนุก ๆ แน่นอน
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส