เมื่อพูดถึงการ์ตูนแนวซามูไรต่อสู้กับปีศาจ หลายคนในยุคนี้คงจะต้องคิดถึงมังงะในตำนานอย่าง ดาบพิฆาตอสูร ‘Kimetsu no Yaiba’ อย่างแน่นอน แต่ถ้าเราไปถามนักอ่านการ์ตูนรุ่นเก่าเมื่อราว ๆ 20 กว่าปีก่อนคงจะพูดถึงมังงะอีกเรื่องอย่าง “ไยบะ เจ้าหนูซามูไร” หรือในชื่ออย่างเป็นทางการก็คือ “YAIBA” ที่บอกเล่าเรื่องราวของเด็กชายชาวป่ากับพ่อที่เดินทางเข้าสู่เมืองจนค้นพบวิถีแห่งดาบ ก่อนจะบานปลายเป็นการต่อสู้เพื่อปกป้องโลกจากราชาปีศาจผู้ชั่วร้ายที่จะครองโลก ซึ่งความสนุกของการ์ตูนเรื่องนี้คือความเฮฮาของตัวละครและการต่อสู้สุดสนุกที่เราจะได้เห็นการเติบโตของ คุโรงาเนะ ไยบะ (Kurokane Yaiba) ตัวเอกของเรื่อง ที่ได้ต่อสู้กับคนนักดาบในตำนานที่ถูกคืนชีพขึ้นมา ไปจนถึงชาวกระต่ายที่มีพลังดาบในการทำลายล้างโลก ที่ยิ่งอ่านหรือดูเราจะยิ่งชอบและอยากรู้ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ที่บอกเลยว่าสนุกทุกภาคจนเราต้องขอหยิบเรื่องนี้มาพูดถึงอีกครั้ง สำหรับแฟนเก่าที่คิดถึงและเพื่อแนะนำให้คนอ่านรุ่นใหม่ได้รู้จักการ์ตูนในตำนานเรื่องนี้ ถ้าพร้อมแล้วเราก็ออกเดินทางผจญภัยไปพร้อมกันเลย
ทำความรู้จัก Kurogane Yaiba เด็กชายชาวป่าที่มาปกป้องโลกจากจอมมาร
เริ่มต้นเรื่องแรกเรามาทำความรู้จักมังงะ ‘Yaiba’ หรือในชื่อไทยอย่าง “ไยบะเจ้าหนูซามูไร” ที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร ‘Weekly Shonen Sunday’ ในวันที่ 7 กันยายน 1988 ที่จะครบรอบ 34 ปีในเดือนหน้าและมาจบลงวันที่ 1 ธันวาคม 1993 รวมทั้งหมด 24 เล่มจบ กับ 6 เรื่องราวใหญ่ ๆ ที่ถูกแบ่งออกมา โดยในตอนแรกจะเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของเด็กชายชาวป่าคุโรงาเนะ ไยบะกับพ่อที่บังเอิญติดเรือมายังญี่ปุ่น จนทำให้เด็กชายชาวป่าที่วัน ๆ ใช้ชีวิตในป่าเพื่อฝึกดาบได้เจอกับผู้คนมากมาย ที่ในช่วงแรกเนื้อหาของการ์ตูนจะเป็นแนวตลกจบเป็นตอน ๆ ของการต่อสู้ของไยบะที่สู้กับนักดาบที่ไปเจอเรื่องราวต่าง ๆ ซึ่งออกไปทางตลกเฮฮา จนเนื้อหาเริ่มเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวละครคู่แข่งที่จะเป็นศัตรูตลอดกาลของไยบะอย่าง โอนิมารู ทาเคชิ (Onimaru Takeshi) นักดาบอัจฉริยะปรากฏตัว นับจากนั้นเรื่องราวก็เริ่มจริงจังขึ้น พร้อมกับความตลกเฮฮาที่สลับกันไปมาที่เข้ากันได้อย่างลงตัว ที่แบบจะสู้กันก็ใส่กันแบบจัดเต็มจริงจัง บทจะตลกก็ใส่แบบเฮฮาจนคนอ่านขำออกมาเลยก็มีที่มังงะเรื่องอื่นในยุคนั้นไม่มี นอกจากเนื้อหาที่สนุกแล้วตัวละครเพื่อน ๆ ของไยบะที่ร่วมเดินทางก็สร้างสีสันให้เรื่องไม่ดูน่าเบื่อ ที่ถ้าได้ลองอ่านแล้วคุณต้องชอบอย่างแน่นอน
ดาบอัสนีเทพและดาบวายุเทพจุดกำเนิดเรื่องราว
ต่อเนื่องจากหัวข้อแรกที่เราได้พูดถึงตัวละคร โอนิมารู ทาเคชิ ที่เป็นคู่แข่งตลอดกาลของไยบะ ที่ในตอนแรกทั้งคู่ได้พบกันก็ตั้งท่าเป็นศัตรูกันในทันที และด้วยเทคนิคการต่อสู้ที่ไยบะฝึกฝนมากับพวกสัตว์ในป่าเพื่อเอาชีวิตรอด จึงทำให้เพลงดาบของไยบะได้เปรียบในการต่อสู้วิชาดาบของโอนิมารูจนทำให้เขาฝ่ายแพ้ ทำให้โอนิมารูโกรธแค้นจึงไปหาหนทางเพื่อเอาชนะ จนสุดท้ายเขาก็ไปพบดาบวายุเทพดาบปีศาจที่มีพลังวายุเทพสิงสถิตอยู่ ซึ่งสุดท้ายโอนิมารูก็ถูกปีศาจในดาบสิงกลายเป็นราชาปีศาจโอนิมารูที่มีเป้าหมายคือการฆ่าไยบะและครองโลก ขณะที่ไยบะซึ่งพ่ายแพ้ก็หาทางเอาชนะโอนิมารูด้วยการใช้ดาบที่เป็นอริกับดาบวายุเทพ นั่นคือดาบอัสนีเทพในตำนานจนกลายเป็นที่มาของการต่อสู้อันยาวนานนับจากนี้ ที่บอกเลยว่าจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ นี้มันได้สานต่อไปเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ในเวลาต่อมา
อาจารย์ Gosho Aoyama ผู้เขียนคนเดียวกับยอดนักสืบจิ๋วโคนัน
ย้อนกลับไปในอดีตเมื่อสมัยที่การ์ตูนเรื่องไยบะเจ้าหนูซามูไรจบลงในฉบับมังงะ หลายคนก็ยังไม่รู้จักชื่อนักเขียนการ์ตูนเรื่องนี้ว่าคือใคร จนเมื่อนักเขียนท่านนี้มีผลงานเรื่องใหม่ที่มาโด่งดังในบ้านเรานั่นคือเรื่อง ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ‘ Detective Conan’ ซึ่งความโด่งดังของยอดนักสืบจิ๋วโคนันในบ้านเราส่วนหนึ่ง ก็มาจากชื่อเสียงในผลงานก่อนหน้านี้ของอาจารย์คนเขียน ที่หลายคนชื่นชอบอย่างไยบะเจ้าหนูซามูไร จนกลายเป็นกระแสปากต่อปากว่า “อ่านเรื่องนี้ยังยอดนักสืบจิ๋วโคนันคนเขียนคนเดียวกับไยบะเจ้าหนูซามูไรนะ” เมื่อเป็นแบบนั้นหลายคนก็ตามอ่านต่อในทันที ซึ่งเรามารู้ในภายหลังว่าอาจารย์ที่เขียนเรื่องไยบะเจ้าหนูซามูไรกับยอดนักสืบจิ๋วโคนันคืออาจารย์ โกโช อาโอยามะ (Gosho Aoyama) ที่ถ้าคุณคิดว่าอาจารย์เพิ่งมาโด่งดังในเรื่องยอดนักสืบจิ๋วโคนันแปลว่าคุณไม่รู้จักอาจารย์ดีพอ และถ้าคุณเคยอ่านมังงะเรื่องไยบะเจ้าหนูซามูไรมาแล้ว พอมาอ่านยอดนักสืบจิ๋วโคนันคุณจะเห็นกลิ่นอายบรรยากาศตัวละครที่ในช่วงแรกจะเหมือนกันอย่างมาก ทั้งลักษณะนิสัยตัวละครไปจนถึงฉากเรื่องราวที่คนอ่านในยุคนั้นคิดถึง และมีหลายครั้งที่อาจารย์หยิบตัวละครหรือมีการพูดถึงเรื่องราวของไยบะในเรื่องยอดนักสืบจิ๋วโคนันหลายครั้ง ที่เป็นการบอกเราถึงความผูกพันกับการ์ตูนเรื่องนี้ของอาจารย์ได้เป็นอย่างดี
เรื่องราวการเดินทางของเจ้าหนูไยบะที่ต้องเจอ
คราวนี้มาดูเรื่องราวการเดินทางของเจ้าหนูไยบะตั้งแต่ต้นจนจบกันบ้าง โดยเราสามารถแบ่งเรื่องราวการเดินทางของเรื่องออกมาเป็น 6 ตอนหลัก ๆ ที่เมื่อเรื่องราวหนึ่งจบลงก็จะมีการต่อสู้ครั้งใหม่ตามมาแบบนี้เรื่อย ๆ ซึ่งความสนุกของการ์ตูนเรื่องนี้คือการเดินทางเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายปลายทาง ที่กว่าจะไปถึงตรงนั้นไยบะและเพื่อน ๆ ต้องสู้และได้เรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ จนสามารถพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งที่คนอ่านได้ติดตาม เรามาดูกันว่าเรื่องราวทั้งหมดมีอะไรบ้าง โดยเราจะพยายามไม่เปิดเผยเนื้อเรื่องสำคัญในมังงะ เพื่อให้คนที่สนใจอยากอ่านจะได้สนุกกับเรื่องราวด้วยตัวเอง
จุดเริ่มต้นการต่อสู้ระหว่างอัสนีและวายุ
เริ่มต้นช่วงแรกของเรื่องราวที่เราได้บอกไปในตอนต้นว่า ทั้งหมดนั้นเกิดจากการเป็นศัตรูกันระหว่างไยบะและโอนิมารู ที่สุดท้ายแล้วโอนิมารูก็ถูกปีศาจในดาบวายุเทพสิงทำให้จิตใจของโอนิมารูดำมืด จนคิดอยากครองโลกเขาจึงใช้มนตร์ดำสร้างกองทัพปีศาจและเหล่าขุนพลปีศาจที่มาจากสัตว์ต่าง ๆ เพื่อมากำจัดไยบะที่ครอบครองดาวอัสนีเทพ ซึ่งก่อนที่ไยบะจะได้ดาบเล่มนี้ไปครอบครองเขาต้องผ่านการทดสอบจากนักดาบในตำนานอย่าง มิยาโมโตะ มูซาชิ (Miyamoto Musashi) ที่ยังมีชีวิตครอบครองอยู่ ซึ่งสิ่งที่ไยบะต้องทำคือการควบคุมพลังของดาบอัสนีเทพไม่ให้ตนเองถูกกลืนกินแบบโอนิมารู ที่สุดท้ายไยบะก็ไม่สามารถทำได้จนถูกอัสนีเทพยึดร่างไปหลายครั้ง แต่ในเรื่องร้ายก็มีเรื่องดีตรงที่พลังของอัสนีเทพนั้นสิงอยู่ในลูกแก้วตรงโกร่งดาบ ที่เมื่อเอาลูกแก้วออกไยบะก็สามารถใช้ดาบเล่มนี้ได้โดยไม่ถูกสิง การเดินทางฝึกฝนตนเองเพื่อเอาชนะโอนิมารูจึงเกิดขึ้น ซึ่งในการเดินทางนั้นไยบะก็ได้เพื่อน ๆ มาร่วมเดินทางอย่างปีศาจกบและปีศาจปลิงที่กลับใจมาอยู่ฝ่ายไยบะ ก่อนที่ไยบะจะสามารถควบคุมพลังของอัสนีเทพได้แถมยังท่าไม้ตายใหม่ ทั้งท่าดาบกังหันที่เกิดจากการหมุนดาบเป็นกังหันโดยที่ไยบะเอานิ้วเข้าไปในช่องว่างของดาบ รวมถึงท่านดาบสายฟ้าฟาดฟันที่เป็นการพัฒนาของไยบะก่อนไปสู้ศึกสุดท้ายที่ปราสาทโอนิมารู ที่ในครั้งนั้นไยบะได้เสียลูกแก้วอัสนีเทพส่วนโอนิมารูก็หนีไปได้พร้อมดาบวายุเทพที่หัก
การตามหาลูกแก้วมังกร
หลังจากที่ไยบะสูญเสียลูกแก้วอัสนีเทพไปทั้งหมดจึงต้องตามหาพลังใหม่เพื่อเตรียมตัวมาสู้กับโอนิมารู ที่คราวนี้ทางนั้นก็ได้ปลุกนักดาบในอดีตที่เคยเสียชีวิตไปแล้วกลับมาต่อสู้กับไยบะ ซึ่งพลังเดียวที่จะต่อกรกับโอนิมารูได้คือการตามหาลูกแก้วมังกรที่ซ่อนอยู่ทั่วญี่ปุ่น การเดินทางตามหาลูกแก้วมังกรจึงเริ่มขึ้น ซึ่งช่วงนี้จะเป็นตอนที่สนุกที่สุดของเรื่องก็ว่าได้ เพราะลูกแก้วที่ไยบะกับเพื่อน ๆ ตามหานั้นแต่ละลูกก็จะให้พลังกับผู้ใช้ต่างกัน ทั้งพลังไฟ พลังขยายร่าง ที่ไยบะสามารถเปลี่ยนลูกแก้วระหว่างต่อสู้กับลูกสมุนของโอนิมารูที่มาขัดขวางได้ และเมื่อได้ลูกแก้วมาทุกคนก็ต้องมาลุ้นว่าลูกแก้วที่ได้มานั้นจะเป็นลูกแก้วมังกรรึเปล่า ซึ่งลูกแก้วบางลูกนั้นก็ส่งผลร้ายกับผู้ใช้ บางลูกก็ทำประโยชน์อะไรไม่ได้เลย ซึ่งในระหว่างเดินทางไยบะก็ได้ท่าไม้ตายใหม่ ๆ ในการต่อสู้จนมาถึงปลายทางเมื่อไยบะและเพื่อน ๆ รวบรวมลูกแก้วได้ครบและได้เจอกับเทพเจ้ามังกร ซึ่งเรื่องราวของภาคนี้จบลงตรงนี้เมื่อไยบะจะใช้พลังที่ได้มาไปตัดสินกับโอนิมารู แต่แล้วภัยร้ายครั้งใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าก็มาเยือนโลก
Kaguya ราชินีจากดวงจันทร์
แต่ก่อนที่ไยบะจะได้ไปตัดสินกับโอนิมารูภัยร้ายครั้งใหม่ก็ได้เกิดขึ้น เมื่อเจ้าหญิงจากดวงจันทร์ คางูยะ (Kaguya) ได้ตื่นมาจากการจำศีลจึงคิดจะมาแก้แค้นเทพเจ้ามังกรและครองโลก เธอจึงนำทัพเผ่ากระต่ายที่มายังโลกเพื่อจับหญิงสาวมาดูดความสาวไปเป็นพลัง (ผู้หญิงที่ถูกดูดความสาวไปจะกลายเป็นคนแก่) ที่สุดท้ายแม้ไยบะจะมีพลังของเทพเจ้ามังกรที่ในอดีตเทพเจ้ามังกรก็เคยใช้พลังนี้ปกป้องโลก ก็ไม่สามารถเอาชนะคางูยะที่มีดาบปีศาจจันทร์เสี้ยวได้ ขนาดโอนิมารูที่เก่งกาจก็ถูกแช่งในหินพ่ายแพ้หมดรูป จนโอนิมารูกับไยบะต้องร่วมมือกันต่อสู้เพื่อปกป้องโลกและ มิเนะ ซายากะ (Mine Sayaka) เพื่อนสาวของไยบะที่คางูยะต้องการตัว จนทั้งคู่สามารถเอาชนะคางูยะลงได้ ก่อนที่โอนิมารูจะเอาดาบจันทร์เสี้ยวไปและทิ้งดาบวายุเทพเป็นการบอกให้เรารู้ว่าโอนิมารูไม่ได้ถูกวายุเทพเข้าสิง แต่มันคือตัวตนที่แท้จริงของเขาตั้งแต่แรก
การต่อสู้กับชาวใต้พิภพ
เพื่อเป็นการปิดผนึกคางูยะให้กลับไปหลับใหลไยบะต้องเสียสละลูกแก้วมังกรที่ตนมีไป ขณะที่โอนิมารูก็ไม่ได้มาสร้างความวุ่นวายอีกเลย จนวันหนึ่งได้เกิดแผ่นดินไหวพร้อมพีระมิดปริศนาเกิดขึ้นพร้อมกับศัตรูคนใหม่ที่แข็งแกร่งมาต่อสู้กับไยบะ จนเขาต้องฝึกใช้วิชาดาบคู่ในการต่อสู้จนสามารถเอาชนะได้ และในตอนนั้นก็มีหญิงสาวคนหนึ่งมาขอความช่วยเหลือจากไยบะ ให้ไปจัดการชาวใต้พิภพที่จะมาครองโลก ไยบะจึงพกดาบวายุและอัสนีไปสู้ในศึกครั้งนี้ โดยศัตรูในคราวนี้คือหุ่นยนต์ที่สามารถอ่านความเครื่องไหวของไยบะได้ แถมยังมีถึง 4 คนรุมไยบะคนเดียว จนไยบะต้องยอมให้อัสนีเทพและวายุเทพสิงร่างตนพร้อมกันก็ยังไม่สามารถเอาชนะหุ่นยนต์เหล่านี้ได้ และในระหว่างที่ไยบะกำลังพลาดท่าจู่ ๆ ดาบอัสนีเทพวายุเทพก็ร่วมกันเป็นดาบเล่มเดียว พร้อมพลังที่ไยบะสามารถเอาชนะหุ่นทั้งหมดลงได้ ก่อนที่ไยบะและเพื่อน ๆ จะไปสู้ศึกกับจักรวรรดิใต้พิภพจนสามารถเอาชนะได้ในที่สุด
การตัดสินครั้งสุดท้ายกับจอมมาร
หลายเดือนหลังจากจบศึกกับชาวใต้พิภพ โอนิมารูก็หายตัวไปไม่ออกมาสร้างความวุ่นวายจนไยบะได้ใช้ชีวิตเป็นปกติเป็นคนธรรมดา แต่สุดท้ายก็เกิดความวุ่นวายขึ้นมาจนได้เมื่อจู่ ๆ ก็มีนักดาบปริศนามาบุกโรงเรียนพร้อมดาบปีศาจที่ร้ายกาจ ก่อนที่ไยบะและเพื่อน ๆ จะทราบว่าโอนิมารูนั้นคิดจะปลุกปีศาจในตำนานที่หลับไหลใต้ประเทศญี่ปุ่นให้ตื่น ด้วยการทำลายผนึกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 8 แห่งที่กระจายอยู่ทั่วญี่ปุ่น ไยบะและเพื่อน ๆ ก็ต้องไปขัดขวางซึ่งคราวนี้ก็ได้คางูยะมาร่วมด้วยเพื่อปกป้องโลกที่เธอหลงรัก การต่อสู้ระหว่างไยบะผู้มีดาบแห่งแสงสว่างกับดาบปีศาจแห่งความมืดจึงสู้ตัดสินกันเป็นครั้งสุดท้าย จนไยบะสามารถคลายผนึกมารในร่างโอนิมารูได้สำเร็จ พร้อมกับผนึกปีศาจยักษ์ที่กำลังตื่นขึ้นมาได้ก่อนประเทศญี่ปุ่นจะล่มสลาย แต่ไยบะต้องเสียสละดาบคู่ใจในการต่อสู้ครั้งนี้เพื่อกักปีศาจเอาไว้ต่อไป ที่บอกเลยว่าการต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ที่สนุกลุ้นแทบทุกหน้าที่อ่านเลยทีเดียว
เส้นทางสู้นักดาบที่แท้จริง
ปิดท้ายกับภาคจบหลังจากที่ไยบะต้องต่อสู้กับศัตรูมามากมาย เขาก็ได้ใช้ชีวิตปกติไม่มีพลังพิเศษไม่มีดาบลูกแก้วให้ใช้กลายเป็นคนธรรมดาของจริง แต่การต่อสู้ก็ยังไม่จบเมื่อผู้เป็นพ่อของไยบะที่หายไปตั้งแต่ต้นเรื่องได้ปรากฏตัวออกมา พร้อมกับผู้เป็นแม่และน้องสาวที่บอกถึงชาติกำเนิดของไยบะ กับความจริงที่ว่าพ่อของไยบะนั้นความจริงไม่ใช่พ่อของเขาแต่เป็นชายที่ฆ่าพ่อแท้ ๆ ของไยบะ และลักพาตัวไยบะที่เป็นทารกไปเลี้ยงในป่า เมื่อเป็นแบบนั้นไยบะจึงต้องไปถามความจริงกับพ่อของเขาในงานการประลองโลกมืดที่ชื่อว่า ‘OdaNobunaga’ พิสูจน์ฝีมือว่าตนเองนั้นคือซามูไรอันดับ 1 ที่แท้จริง และถามความจริงจากพ่อของเขาในเรื่องนี้ ซึ่งในคราวนี้ไยบะได้สู้กับเพื่อนเก่าที่เคยร่วมทีมมา จนเกิดคำถามที่หลายคนสงสัยว่าแท้จริงแล้วพลังความสามารถของไยบะมาจากไหนกันแน่ เพราะหลายครั้งที่ไยบะสามารถเอาชนะศัตรูลงได้ ส่วนมากก็มาจากพลังจากดาบหรือลูกแก้วมากกว่าความสามารถจากวิชาดาบที่แท้จริง การต่อสู้ครั้งนี้จึงเป็นการพิสูจน์ว่าตนเองแข็งแกร่งจริง ๆ และในศึกสุดท้ายไยบะได้เจอกับโอนิมารูที่ตอนนี้เป็นมนุษย์แถมยังเป็นลูกศิษย์ของพ่อ การต่อสู้ตัดสินในฐานะมนุษย์จึงเริ่มขึ้นก่อนจะจบลงด้วยชัยชนะของไยบะ กับความจริงที่ถูกเปิดเผยถึงชาติกำเนิดของไยบะ ก่อนที่เรื่องราวจะจบลงด้วยดี พร้อมกับการเดินทางครั้งใหม่ของไยบะและเพื่อน ๆ พร้อมดาบเล่มใหม่พลังใหม่ กับการเดินทางครั้งใหม่ที่เป็นการจบเรื่องราวอย่างสมบูรณ์ที่แฟน ๆ ในยุคนั้นแม้จะคิดถึงแต่ก็รู้สึกอิ่มกับเรื่องราวที่ผ่านมา ที่ถ้าใครอ่านจนจบต้องรู้สึกแบบนี้อย่างแน่นอน
ความสนุกของเรื่องราวการเติบโตของเจ้าหนูไยบะกับเพื่อน ๆ
มาถึงตรงนี้หวังว่าหลายคนที่เคยอ่านมังงะหรือดูอนิเมะเรื่องไยบะเจ้าหนูซามูไรมาแล้ว คงหายคิดถึงกับการย้อนเรื่องราวของการ์ตูนเรื่องนี้ ส่วนคนที่ไม่เคยอ่านหรือดูมาก่อนก็ขอแนะนำให้ไปหามาชมกัน ซึ่งฉบับอนิเมะจะจบลงแค่เรื่องคางูยะเท่านั้น ขณะที่มังงะมีออกมาครบและมีฉบับพิมพ์ใหม่ออกมา หรือจะอ่านแบบ ‘E-Book’ ก็สามารถไปหามาอ่านกันได้ บอกเลยว่าคุณจะต้องหลงรักการ์ตูนเรื่องนี้อย่างแน่นอน เพราะสิ่งที่บอกเล่าในบทความนี้เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ เท่านั้น ยังมีรายละเอียดต่าง ๆ ที่ข้ามไปไม่ว่าจะเป็นตัวละครฝ่ายศัตรูอย่างเจ้าปีศาจแมงมุมสมุนมือขวาของโอนิมารูที่ขโมยซีน และเหล่าเพื่อน ๆ ร่วมเดินทางของไยบะที่ทั้งป่วนและฮา ไปจนถึงศัตรูที่มีเอกลักษณ์ที่อาจารย์เข้าใจใส่ลงมา ที่ต้องไปอ่านเองแล้วคุณจะรู้ว่าทำไมคนยุคเก่าถึงชอบการ์ตูนเรื่องนี้กัน
เป็นอย่างไรกันบ้างกับการย้อนอดีตการ์ตูนเก่า หวังว่าจะถูกใจแฟนเก่าที่เคยอ่านมังงะเรื่องนี้ให้หายคิดถึงกัน ส่วนแฟนใหม่ที่อ่านมาถึงตรงนี้ถ้าสนใจก็ไปหามาอ่านกันได้ เพราะถ้าไม่ดีจริงการ์ตูนเรื่องนี้คงไม่เป็นตำนานมาถึงอย่างแน่นอน แถมตัวเนื้อเรื่องก็ยังร่วมสมัยเอามาอ่านได้โดยไม่รู้สึกขัดอะไร และถ้าคุณได้ก้าวเข้าไปในโลกของการ์ตูนเรื่องนี้คุณต้องติดใจอย่างแน่นอน และถ้าคุณชื่นชอบการย้อนอดีตการ์ตูนเก่าแบบนี้ก็ติดตามกันที่แบไต๋ได้เลย เราจะไปหาภาพยนตร์เกมการ์ตูนเก่ามาเล่าให้ได้อ่านกัน เพื่อให้แฟนรุ่นเก่าได้หายคิดถึงอดีตกับเด็กรุ่นใหม่จะได้รู้จักผลงานดี ๆ ที่เคยดังในอดีตว่ามันสนุกขนาดไหน และถ้าอ่านจบแล้วเราก็ยังมีข่าวเรื่องราวบทความที่น่าสนใจต่าง ๆ ให้คุณอีกมากมาย กดติดตามหรือไปอ่านต่อกันได้เลย
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส