สูงสุดคืนสู่สามัญคำ ๆ นี้มีความหมายถึงบางสิ่งที่เมื่อไปถึงจุดสูงสุดตามเป้าที่ต้องการแล้ว สิ่งนั้นก็มักจะกลับมายังจุดเริ่มต้นเหมือนเมื่อครั้งที่ยังไปไม่ถึงตรงจุดนั้น ซึ่งในบางครั้งคำว่าสมบูรณ์แบบจุดสูงสุดที่หลายคนตามหาและพยายามเป็นนั้น มันคือสิ่งที่เป็นไปได้ยากกว่าจะไปถึงจุดนั้น แต่เมื่อไปถึงแล้วเราต้องทำอะไรต่อไปนั่นคือคำถามที่หลายคนเมื่อไปถึงจุดสูงสุดแล้วถามตัวเอง เพราะเมื่อไปยืนในจุดที่สูงกว่าใครแล้วแทนที่ตัวเองจะรู้สึกพอใจหรือยินดีกับสิ่งเหล่านั้น แต่หลายคนกลับรู้สึกว่าสิ่งที่ตนทำไปนั้นมันไม่มีประโยชน์อะไรเลย เหมือนอย่างหลายตัวละครในอนิเมะ ที่เมื่อมาถึงจุดสูงสุดของสิ่งที่ตนต้องการตัวละครเหล่านั้นกลับรู้สึกว่ามันช่างว่างเปล่าน่าเบื่อ ไม่มีอะไรให้ต้องพยายามหรือเป็นอีกแล้ว เพราะนี่คือจุดสูงสุดของสิ่งที่ต้องการ จนตัวละครเหล่านั้นที่รู้สึกว่างเปล่าก็ต้องค้นหาสิ่งที่ตัวเองต้องการเพื่อแก้เบื่อ เรามาดูกันดีกว่าว่ามีตัวละครไหนบ้างที่เมื่อมายืนบนจุดสูงสุดแล้วกลับรู้สึกว่างเปล่าจนต้องหาอะไรมาทำแก้เบื่อ แล้วความว่างเปล่าในจุดสูงสุดนั้นคืออะไรมาค้นหาคำตอบไปพร้อมกันเลย
สมบูรณ์แบบแต่เหมือนขาดอะไรบางอย่างที่ตนเองก็ไม่รู้ว่าคืออะไร Sebastian Michaelis จาก Black Butler
เริ่มต้นตัวละครแรกที่เรียกว่าหล่อเก่งสมบูรณ์แบบไปทุกอย่าง แถมยังเป็นปีศาจที่มีพละกำลังฝีมือต่อสู้และแนวคิดที่ก้าวไกลจนใกล้เคียงคำว่าสมบูรณ์แบบกับ เซบาสเตียน มิคาเอลิส (Sebastian Michaelis) จากเรื่อง ‘Black Butler’ หรือในชื่อไทยอย่าง “คน(ลึก)ไขปริศนา(ลับ)” และที่บอกว่าเขาเกือบสมบูรณ์แบบนั่นก็เพราะตัวของเซบาสเตียนยังมีบางมุมที่เป็นปีศาจ ซึ่งมีทั้งการหลอกลวงหรือทำทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตนเองแบบที่ปีศาจชอบเป็น แต่ถึงเป็นอย่างนั้นเซบาสเตียนคนนี้ก็เข้าขั้นดีพร้อมและเก่งไปเสียทุกอย่าง และด้วยความสมบูรณ์แบบนั้นเขาจึงค่อนข้างเป็นคนนิ่ง ๆ เงียบ ๆ เพราะไม่มีอะไรที่ทำให้เขาตื่นเต้นอีกแล้ว และเพื่อค้นหาความตื่นเต้นนั้นเซบาสเตียนจึงมาเป็นคนรับใช้ เพื่อรับคำสั่งจากนายน้อยแบบไม่มีข้อแม้ ที่เหมือนกับว่าเขาพยายามค้นหาบางสิ่งที่ตนเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร เพราะความสมบูรณ์แบบที่มีทุกสิ่งจนไม่ต้องการอะไรนั้น จึงทำให้เซบาสเตียนอยากรู้ว่าตนเองต้องการอะไร ซึ่งการมาเป็นคนรับใช้ให้กับนายน้อยที่เป็นการทำสัญญากับปีศาจอาจจะทำให้เซบาสเตียนผู้นี้ได้ค้นพบสิ่งที่ตามหาจากนายน้อยคนนี้ก็เป็นได้ ใครที่สนใจก็ลองไปหามาดูแล้วคุณจะหลงรักคนใช้และนายน้อยคู่นี้อย่างแน่นอน
เมื่อคุณรู้ทุกอย่างเข้าใจทุกสิ่งคุณจะไม่อยากรู้อะไรอีก Kusuo Saiki จาก Saiki Kusuo no Sai Nan
ลองคิดดูเล่น ๆ ว่าถ้าคุณเกิดมาในโลกใบนี้ แล้วคุณเป็นผู้มีพลังจิตอันแข็งแกร่งจนสามารถรับรู้ทุกสิ่งและเข้าใจทุกอย่างในโลกที่ตัวเองอยู่คุณจะรู้สึกอย่างไร นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับหนุ่มน้อย คูซูโอะ ไซคิ (Kusuo Saiki) จากเรื่อง ไซคิหนุ่มพลังจิตอลเวง ‘Saiki Kusuo no Sai Nan’ ซึ่งสำหรับคนที่ไม่เคยอ่านหรือดูการ์ตูนเรื่องนี้ จะบอกเล่าถึงความพยายามของไซคิคุงเด็กชายที่พยายามทำตัวเองให้จืดจางและไม่เป็นจุดเด่นที่สุดเท่าที่ทำได้ นั่นก็เพราะ “การทำตัวเด่งบอกว่าฉันมีพลังจิต ฉันสามารถหายตัวหรือทำอะไรต่าง ๆ ได้มันดูไร้สาระ และโลกนี้ก็ไม่มีอะไรที่น่าสนใจจนต้องบอกใคร ๆ ว่าตัวฉันคนนี้มีพลังจิต แถมการทำแบบนั้นมันก็ช่างดูน่าเบื่อเพราะคงมีคนมาขอให้ช่วยไม่รู้จบ ดังนั้นการทำตัวธรรมดาให้จืดจางมันคือดีที่สุด เพราะมันไม่มีอะไรให้น่าค้นหาอีกแล้วเมื่อเราเข้าใจทุกอย่างบนโลกนี้” นั่นคือสิ่งที่ไซคิคิดอยู่เสมอ แต่ยิ่งเขาพยายามทำตัวจืดจางเท่าใด เขาก็มักจะถูกเพื่อน ๆ ที่ไม่เต็มมาชวนไปเจอเรื่องราวแปลก ๆ ไร้สาระอยู่เสมอ จนบางครั้งก็ทำให้ไซคิก็ได้พบกับมุมมองใหม่ ๆ ที่ความสมบูรณ์แบบของเขาก็ไม่เคยได้รับรู้ว่ามีสิ่งนี้อยู่ ที่เรียกว่าความสมบูรณ์แบบนั้นไม่มีอยู่จริงมีเพียงแค่เราอยากเปิดใจรับรู้รึเปล่ามากกว่า ซึ่งสิ่งที่เพื่อน ๆ ไซคิที่เขามองว่าไม่เต็มบาทขาด ๆ เกิน ๆ กลับดูสมบูรณ์ในแบบของตัวเอง นั่นคือสิ่งที่ไซคิได้รับจากการถูกดึงไปเจอเรื่องแปลก ๆ ของเพื่อน ๆ ใครอยากหาการ์ตูนสนุกมีสาระปนไร้สาระก็หามาดูมาอ่านได้เนื้อหาสนุกใช้ได้เลยทีเดียว
มีอะไรที่น่าสนใจกว่านี้อีกไหม Kuroo Hazama จาก Black Jack
คราวนี้มาดูการ์ตูนเก่าที่กำเนิดมาจากปลายปากกาของนักเขียนการ์ตูนในตำนานอย่างอาจารย์ เทซูกะ โอซามุ (Tezuka Osamu) กับการ์ตูนในตำนานอย่าง ‘Black Jack’ ที่บอกเล่าเรื่องราวของหมอเถื่อน คุรู ฮาซามะ (Kuroo Hazama) หรือที่คนรู้จักในชื่อ ‘Dr. Black Jack’ ที่สามารถผ่าตัดรักษาได้ทุกโรค แต่เขานั้นไม่มีใบประกอบโรคจึงมักถูกเหล่าหมอต่อต้านในสิ่งที่เขาทำ แถมในหลาย ๆ กรณีนั้นตัวของ ‘Dr. Black Jack’ ก็เรียกค่ารักษาแพงชนิดที่เรียกว่าขายบ้านขายรถขายไตยังไม่พอจ่าย แต่ก็เป็นในกรณีที่คนป่วยเป็นคนชั่วหรือคนรวยเท่านั้น ซึ่งในฐานะแพทย์ ‘Dr. Black Jack’ จะไม่เลือกผู้ป่วย (ถ้ามีเงินรักษา) และด้วยความสามารถที่ยอดเยี่ยมนั้นเองจึงทำให้เขารู้สึกว่างเปล่า เพราะมันไม่มีอะไรที่ท้าทายตัวเขาอีกแล้วในการรักษาโรค ตัวของคุรูจึงเดินทางไปเรื่อยเพื่อค้นหาความท้าทายใหม่ ๆ ในการรักษา จนเรียกว่าขึ้นมาอยู่จุดสูงสุดก็เริ่มว่างเปล่าจนไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ซึ่งใครที่สนใจก็สามารถไปหาการ์ตูนที่เอามาเขียนใหม่ลายเส้นสายเนื้อเรื่องปัจจุบันก็มีให้อ่านและดู หรืออยากอ่านต้นฉบับที่แฟนตาซีกว่าก็ไปหามาอ่านกันได้ ตัวเนื้อหาค่อนข้างสนุกจริงจังออกไปทางการแพทย์ของจริงที่ใครชอบแนวนี้ไม่ควรพลาด ข้อมูลเสริมสำหรับคนที่สงสัยว่าทำไมหน้าของหมอถึงดำไปครึ่งซีก นั่นมาจากการเอาหนังของเด็กคนหนึ่ง (เด็กผิวดำ) ที่หมอไม่สามารถรักษาได้จากสงครามมาแปะบนหน้าเพื่อเตือนตัวเองถึงความผิดพลาดในอดีต
สมบูรณ์แบบในสายตาคนอื่นแต่สำหรับตัวเขามันก็แค่สิ่งธรรมดา Sakamoto จาก Sakamoto Desu Ga
คราวนี้มาดูความสมบูรณ์แบบที่คนอื่นมองและมอบให้บ้างกับ ซากาโมโตะ (Sakamoto) หนุ่มแว่นสุดหล่อจากเรื่อง เทพศาสตร์ซากาโมโต้ (Sakamoto Desu Ga) กับเรื่องราวความหล่อเท่สมบูรณ์แบบของชายคนนี้ ที่ไม่ว่าเขาจะพูดเดินนั่งหรือทำอะไรก็ตามมันก็ช่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติจนหลายคนอิจฉาและหาทางแกล้งเขา แต่สิ่งที่คนแกล้งทั้งหลายทำนั้นกลับไม่สามารถทำอะไรซากาโมโตะคนนี้ได้เลย แถมสิ่งที่เขาตอบโต้กลับนั้นมันยิ่งเป็นการเพิ่มความดูดีให้ซากาโมโต้เพิ่มไปอีกหลายเท่าเสียอย่างนั้น และการที่ซากาโมโต้ผู้สมบูรณ์แบบคนนี้มาอยู่ในบทความนี้ ไม่ใช่เพราะตัวของซากาโมโต้นั้นสมบูรณ์แบบจนเจ้าตัวไม่มีอะไรให้สนใจแบบตัวละครก่อนหน้านี้ แต่มันกลับเป็นตรงข้ามเพราะตัวของซากาโมโต้กลับพยายามทำหลาย ๆ สิ่งหลาย ๆ อย่าง และมีส่วนร่วมกับเพื่อนทุกคนอย่างเต็มใจ แค่สิ่งที่ซากาโมโต้ทำนั้นมันช่างสมบูรณ์แบบมาก ๆ ก็เท่านั้น จนหลายคนต่างสงสัยว่าจะมีอะไรมาทำลายความสมบูรณ์แบบนี้ได้รึเปล่า หรือจะพูดว่าสิ่งที่ซากาโมโต้ทำมันก็แค่เรื่องธรรมดาในชีวิตเขา แต่คนอื่นกลับตีความและให้ค่าความสมบูรณ์แบบนั้นไปเอง จนหลายคนคิดว่าซากาโมโต้นั้นสมบูรณ์แบบจนไม่มีอะไรมาเทียบได้นั่นเอง
Kira คือการเติมเต็มส่วนที่ตามหา L จาก Death Note
ถ้าพูดถึงคนที่เก่งสมบูรณ์แบบแต่ดูขาด ๆ เกิน ๆ เราต้องคิดถึง เอล (L) หนึ่งในตัวเอกจากซีรีส์ ‘Death Note’ ที่เมื่อพูดถึงการ์ตูนเรื่องนี้ไม่ว่าจะในฉบับภาพยนตร์มังงะหรืออนิเมะเราจะคิดถึงเอลเป็นคนแรก นั่นก็เพราะความเก่งของเขาที่เรียกว่าเหนือกว่า ‘Kira’ หรือ ยางามิ ไลท์ (Yagami Light) ที่เป็นคู่แข่งเสียอีก แต่ก่อนที่เอลคนนี้จะมาเจอคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อ ตัวของเอลนั้นเคยว่างเปล่าไร้จุดหมายมาก่อน ซึ่งก็มาจากความฉลาดของเขาที่สามารถเข้าใจและรู้ทุกอย่างได้อย่างรวดเร็ว จนเอาความสามารถนี้มาใช้ในการสืบสวนและหารายได้เพื่อค้นหาคดีที่ยากกับสิ่งที่ทำให้เขาตื่นเต้น แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีอะไรที่เอลคนนี้ต้องการ จนเมื่อมีคดีประหลาดอย่าง ‘Kira’ ฆาตกรที่ฆ่าคนชั่วด้วยวิธีการที่เป็นปริศนา ที่สร้างความรู้สึกท้าทายให้เอลได้คนพบสิ่งที่ตัวเองตามหามาตลอดทั้งชีวิต และสุดท้ายเขาก็สามารถเอาชนะ ‘Kira’ ได้ (ถ้าตอนนั้นอีกฝ่ายไม่เล่นโกงเอลคงชนะไปแล้ว) ที่แม้จะเรียกว่าไปไม่สุดทางแต่ก็สามารถไปถึงจุดหมายได้ในที่สุด ซึ่งเขาเป็นตัวละครเดียวในบทความนี้ที่เจอสิ่งที่ตนเองต้องการได้หลังจากที่มาจนถึงจุดสูงสุดแล้ว
มีแต่เรื่องน่าเบื่อทั้งนั้น Manjiro Sano จาก Tokyo Revengers
แข็งแกร่งเกินไปแล้วปีศาจชัด ๆ นั่นคือคำจำกัดความของคนที่ได้รู้จักหรือเจอกับ มันจิโร่ ซาโนะ (Manjiro Sano) หรือที่ทุกคนรู้จักในชื่อ ไมค์กี้ (Mikey) จากเรื่อง ‘Tokyo Revengers’ ตัวละครที่เก่งระดับปีศาจ แต่ส่วนมากเราจะได้เห็นไมค์กี้คุงทำหน้าเฉยเมยแววตาว่างเปล่าเหมือนไม่คิดอะไร เพราะสิ่งที่ไมค์กี้เป็นอยู่ตอนนี้มันคือจุดสูงสุดในฐานะนักเลงที่ใคร ๆ ต่างก็ยำเกรง และเมื่อต่อสู้ก็ไม่มีใครที่สามารถเอาชนะเขาได้เลย จนเรียกว่ามาถึงจุดสูงสุดตั้งแต่เด็ก จนไมค์กี้พยายามหาความท้าทายใหม่ ๆ นั่นคือการพากลุ่มตัวเองให้ไปอยู่จุดสูงสุดของญี่ปุ่น ทั้งที่ความจริงแล้วไมค์กี้ยังไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่าตัวเองต้องการมันจริง ๆ รึเปล่า เพราะเมื่อเราได้เห็นไมค์กี้ในปัจจุบันเราจะรู้เลยว่าสิ่งที่ไมค์กี้ทำมาตลอดในอดีตนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการจริง ๆ แต่สิ่งที่ไมค์กี้ผู้สมบูรณ์แบบคนนี้ต้องการอย่างแท้จริงก็คือเพื่อนมากกว่า แต่เมื่อมาอยู่จุดสูงสุดแบบนี้ก็หาเพื่อนได้อยาก ถ้าไม่ใช่พวกที่คอยหาประโยชน์ก็เป็นพวกที่กลัวจนก้มหัวให้ ส่วนเพื่อนแท้ ๆ ที่มีก็เริ่มออกห่างไมค์กี้เรื่อย ๆ เพราะความสมบูรณ์แบบที่อยู่สูงจนคิดว่าตัวเองไม่คู่ควรเป็นเพื่อนกับไมค์กี้ ซึ่งในกรณีนี้มันคือความว่างเปล่าเมื่อมาถึงจุดสูงสุดอย่างแท้จริง
ลูกคือความท้าทายใหม่ถ้าเขาทำได้นะ Hanma Yuujirou จาก Baki
ถ้ามีการจัดอันดับคนที่สมบูรณ์แบบจนเรียกว่าขี้โกงที่สุดในเรื่องของตัวเอง ต้องมี ฮันมะ ยูอิจิโร่ (Hanma Yuujirou) จากเรื่อง ‘Baki’ อยู่ด้วย เพราะตลอดเรื่องที่เราดูซีรีส์ ‘Baki’ มานั้น เราจะได้รับรู้ว่าเทพต่าง ๆ ของยูอิจิโร่ที่ตั้งแต่เกิดเป็นวัยรุ่นไปจนถึงปัจจุบันเขานั้นก็เข้าขั้นปีศาจสมบูรณ์ที่ไม่มีใครในโลก (ของการ์ตูนเรื่องนี้) ที่จะล้มเขาได้ ไม่ว่าจะเป็นช้างปีศาจที่ตัวใหญ่กว่าตึก ทหารทั้งกองทัพ รถถังปืนกำลังคนเป็นพันก็ไม่สามารถเอาชนะยูอิจิโร่คนนี้ลงได้ จนเจ้าตัวมักพูดเสมอว่า “ชีวิตนี้มันมีแต่เรื่องน่าเบื่อ” เพราะไม่ว่าเขาคิดหรือจะทำอะไรก็จะไปอยู่ในจุดสูงสุดของทุกเรื่องในทันทีที่เพียงแค่เริ่มทำครั้งแรก จนเจ้าตัวเดินทางไปเรื่อย ๆ เพื่อหาความท้าทายให้ตัวเอง จนมาเจอเรื่องราวของลูกชายที่อยากท้าทายพ่อที่แข็งแกร่งสมบูรณ์แบบ จนยูอิจิโร่ถึงกับยอมรับคำท้าของลูกชายในการต่อสู้ด้วย แต่กว่าที่ ฮัมมะ บากิ (Hanma Baki) จะไปเทียบเคียงพ่อของเขาได้คงต้องเดินทางอีกไกลเลยทีเดียว แต่นั่นก็เป็นความท้าทางที่ยูอิจิโร่สนใจหลังจากเจอแต่ความว่างเปล่ามาทั้งชีวิต
หมัดเดียวตายอีกแล้วอยากหาคู่ต่อสู้เก่ง ๆ Saitama จาก One-Punch Man
ปิดท้ายกับตัวละครที่เรียกว่าถ้าไม่พูดถึงบทความนี้คงขาดความสมบูรณ์ไปในทันที กับตัวละครที่เรียกว่าแข็งแกร่งสมบูรณ์แบบที่สุดในเรื่อง ‘One-Punch Man’ กับโล้นซ่า ไซตามะ (Saitama) ชายผู้พยายามหาความท้าทายในการต่อสู้ เมื่อจู่ ๆ ตัวเองก็มายืนบนจุดสูงสุดของการต่อสู้แบบงง ๆ ที่ไซตามะก็ไม่รู้ว่าตัวเองได้พลังนี้มาจากไหนและได้มาจากใคร แต่สิ่งที่ไซตามะรู้คือหลังจากที่ได้พลังนี้มาเขาก็ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองสมบูรณ์ พร้อมแถมยังรู้สึกว่างเปล่าและพยายามตามหาคู่ต่อสู้ที่มาเติมเต็มความว่างเปล่านั้น แต่ยิ่งค้นหาก็ยิ่งไม่เจอขณะที่ตัวละครหลาย ๆ คนในเรื่องก็อยากไปยืนในจุดนี้แต่ไม่สามารถทำได้ จนกลายเป็นว่าของแบบนี้ถ้าไม่เจอกับตัวก็ไม่มีทางเข้าใจ ซึ่งจนถึงตอนนี้ไซตามะก็ยังไม่เจอความท้าทายที่ว่านี้เลย จนเราผู้อ่านต่างเอาใจช่วยให้ไซตามะได้เจอคู่ต่อสู้ที่ทำให้เขาไม่รู้สึกว่างเปล่าเสียที
ก็จบกันไปแล้วกับการตีความตัวละครที่สมบูรณ์แบบในด้านต่าง ๆ จนหลายคนอิจฉา แต่ความจริงแล้วตัวละครเหล่านี้กลับไม่รู้สึกยินดีกับสิ่งที่ตนเองเป็น แถมยังรู้สึกว่างเปล่าไม่มีอะไรน่าค้นหา ขณะที่ตัวละครคนอื่น ๆ ก็ได้แต่อิจฉาและอยากไปยืนในจุดนั้นบ้างแต่ก็ไม่สามารถทำได้ จนกลายเป็นประโยคที่ว่า “ของแบบนี้ถ้าไม่เจอกับตัวจะไม่รู้ว่ามันเป็นอย่างไร” ซึ่งเนื้อหาทั้งหมดในบทความนี้คือการตีความจากสิ่งที่ตัวละครเหล่านี้พูดกระทำหรือรู้สึก ที่แสดงออกมาจากในเรื่องนั้น ๆ ซึ่งอาจจะมีการตีความผิดพลาดหรือไม่ตรงส่วนไหนก็ขออภัยมาด้วย และถ้าใครมีตัวละครที่แข็งแกร่งสมบูรณ์แบบแต่รู้สึกว่างเปล่าอีกก็เอามาพูดคุยกันได้ ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอนิเมะเรื่องไหนอีกก็ติดตามกันได้ที่นี่ที่เดียว รับรองว่าคุณจะได้เห็นบทความแปลกที่น่าสนใจไม่ซ้ำที่ไหนแน่นอน ติดตามแบไต๋ตอนนี้ได้เลย
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส