ย้อนกลับไปในช่วงปี 2001 ได้มีมังงะเรื่องใหม่วางจำหน่ายในชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า ‘Konjiki no Gasshu!!’ ส่วนชื่อเมื่อวางจำหน่ายในต่างประเทศจะใช้ชื่อว่า ‘Zatch Bell!’ ส่วนในบ้านเราจะใช้ชื่อสั้น ๆ ว่า “กั๊ช!!” กับหน้าปกของเด็กชายสวมชุดสีดำผมสีเหลืองกับลายเส้นที่ดูน่ารัก ๆ จนหลายคนซื้อไปอ่าน จนได้พบกับเรื่องราวการต่อสู้สุดสนุกที่เริ่มต้นจากเรื่องราวง่าย ๆ ของเด็กชายที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวต่อหน้า ทาคามิเนะ คิโยมาโระ (Takamine Kiyomaro) พร้อมหนังสือปริศนา ก่อนที่เรื่องราวจะเริ่มต้นจากความไม่รู้อะไรเลยของทั้งคู่จนบานปลายไปถึงการต่อสู้ปกป้องโลกมนุษย์และโลกปีศาจ ผ่านการแข่งขันของเด็กปีศาจ 100 คนที่ต่อสู้จนเหลือคนสุดท้ายที่จะปกครองโลกปีศาจ ซึ่งใครที่เคยอ่านหรือดูอนิเมะมาแล้วคงจะทราบถึงความสนุกเฮฮามิตรภาพความรักและการต่อสู้ที่สนุกไม่แพ้การ์ตูนเรื่องอื่น ๆ ในตอนนั้นเลย และเพื่อเป็นการต้อนรับการกลับมาของภาคที่ 2 ของซีรีส์ ‘Konjiki no Gasshu!!’ เราเลยไปรวบรวมข้อมูลน่าสนใจของเรื่องนี้ในภาคแรกมานำเสนอ โดยเราจะไม่เปิดเผยเนื้อหาของการ์ตูนเพื่อให้คุณไปอ่านและชมเอง เรื่องราวของการต่อสู้ของเด็กปีศาจจะเป็นอย่างไรนั้นมาดูไปพร้อมกันเลย
ทำความรู้จัก Konjiki no Gash!! มังงะต่อสู้สุดสนุกยุค 2000
เริ่มต้นเรื่องแรกเรามาทำความรู้จักมังงะเรื่องนี้ เริ่มจากผู้ให้กำเนิดการ์ตูนเรื่องนี้คืออาจารย์ มาโคโตะ ไรคุ (Makoto Raiku) ที่ตีพิมพ์ลงใน ‘Weekly Shōnen Sunday’ ตั้งแต่ปี 2001 ถึงปี 2007 มีจำนวน 33 เล่มจบและได้รับรางวัลการ์ตูนยอดเยี่ยมของสำนักพิมพ์โชงะกุกังครั้งที่ 48 (Shogakukan Manga Award) และยังถูกเอาไปสร้างเป็นอนิเมะความยาวกว่า 150 ตอน แต่น่าเสียดายที่ในอนิเมะสร้างมาได้ 3 ใน 4 ส่วนจากเรื่องราวทั้งหมด โดยเรื่องราวหลัก ๆ ของการ์ตูนเรื่องนี้จะเป็นการต่อสู้กับเด็กปีศาจ 100 คนที่ถูกส่งมาจากโลกปีศาจมายังมิติโลกมนุษย์ เพื่อมาแข่งขันต่อสู้กันเพื่อหาผู้ชนะเพียงคนเดียวผู้ชนะจะเป็นราชาปีศาจ ที่สามารถกำหนดทิศทางของโลกปีศาจว่าจะเป็นอย่างไร โดยกติกาการแข่งคือเด็กปีศาจต้องไปตามหามนุษย์ที่มีโชคชะตาผูกกัน และส่งหนังสือให้มนุษย์คนนั้นเด็กปีศาจก็จะใช้พลังได้ผ่านการร่ายมนต์ของมนุษย์ ส่วนใครที่ถูกเผาหนังสือก็จะถูกส่งกลับไปโลกปีศาจ ซึ่งนอกจากการต่อสู้ของเหล่าปีศาจแล้วก็ยังมีเรื่องราวของมิตรภาพระหว่างคนกับปีศาจ รวมถึงความน่ารักของกั๊ซ (ขอใช้ชื่อนี้เพราะเป็นชื่อที่บ้านเราคุ้นเคยที่สุด) ที่แม้จะเป็นปีศาจแต่เขาก็ยังเป็นเด็กที่ต้องการความรักของเล่น ที่ดูแล้วอบอุ่นหัวใจที่ให้ความรู้สึกครบทุกรสในเรื่องเดียว ใครที่ไม่เคยอ่านหรือดูขอแนะนำเลยรับรองว่าคุณต้องชอบทุกตัวละครในเรื่องแน่นอน
Takamine Kiyomaro และ Zatch Bell
เรามาทำความรู้จักตัวละครเด่นที่มีบทบาทสำคัญในเรื่อง ที่เรียกว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องโดยเราจะขออ้างอิงจากในอนิเมะเป็นหลัก เพื่อไม่ให้เป็นการเปิดเผยเนื้อเรื่องมากจนเกินไป โดยเริ่มจากคู่หูตัวเอกของเรื่องอย่าง ทาคามิเนะ คิโยมาโระ เด็กชายอายุ 14 ที่เรียกเก่งฉลาดแต่ไม่ค่อยมีเพื่อนไม่เข้าสังคมจะถูกเพื่อน ๆ ไม่ชอบขี้หน้า จนมาเจอกับเด็กชายปริศนาที่ไร้ความทรงจำพร้อมหนังสือที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของคิโยมาโระ ที่ทำให้เขารู้จักการมีเพื่อนเข้าสังคมและมีน้องชาย ซึ่งในตอนต่อสู้คิโยมาโระจะใช้ความรู้ที่ตนเองมีทางด้านคณิตศาสตร์ในการคำนวนความเป็นไปได้และวางแผนในการต่อสู้ มากกว่าจะเข้าไปบวกตรง ๆ ที่มันคือความสนุกของเรื่องนี้ ที่ตัวเรื่องจะไม่เน้นการเข้าไปเตะต่อยปล่อยพลัง แต่จะเป็นการแก้ทางของอีกฝ่ายจากสิ่งที่ตัวเองมีจนสามารถเอาชนะมาได้ กับเด็กชายจากโลกปีศาจผู้ไร้ความทรงจำกั๊ซที่ถูกส่งมาจากพ่อของคิโยมาโระที่อยู่ต่างประเทศ ให้มาหาลูกชายตนเพราะคุณพ่อมั่นใจว่าคิโยมาโระจะสามารถแปลความหมายในหนังสือและช่วยเด็กชายคนนี้ได้ ก่อนที่เราจะทราบว่ากั๊ซนั้นคือเด็กจากโลกปีศาจ และต้องต่อสู้เพื่อเป็นราชาปีศาจที่ในตอนแรกทั้งคู่ก็ไม่เข้าขากัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปทั้งคู่ก็เข้าใจกันและผูกพันดั่งพี่น้อง โดยตัวของกั๊ซนั้ยังเป็นเด็กที่ไร้เดียงสาชอบของเล่นแถมถูกเพื่อนแกล้งประจำ ที่ทำให้เราเห็นความเป็นเด็กของกั๊ซที่ไม่ได้อยากต่อสู้แต่ก็ถูกบังคับมา และทั้งคู่ก็ได้เจอเด็กปีศาจคนอื่น ๆ ที่ไม่สนใจการต่อสู้และอยากมีชีวิตกับมนุษย์เหมือนกัน แต่สุดท้ายการต่อสู้ก็ต้องเริ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเป้าหมายของกั๊ซและคิโยมาโระคือการไปเป็นราชาปีศาจเพื่อไม่ให้ปีศาจที่มีความคิดชั่วร้ายได้ปกครองโลกปีศาจ การต่อสู้เพื่อช่วยโลกมนุษย์และปีศาจจึงเริ่มขึ้นนับจากนี้
Brago และ Sherry Belmont
คราวนี้มาดูตัวละครสำคัญซึ่งเป็นหนึ่งในเด็กที่มีโอกาสชนะการแข่งมากที่สุด นั่นคือปีศาจที่ชื่อ บราโก้ (Brago) ที่ดูภายนอกก็พอจะมองเห็นความเก่งแกร่งของปีศาจตนนี้ได้อย่างชัดเจน แถมตัวของบราโก้ยังมีคาถาในการต่อสู้ได้ถึง 20 แบบที่เรียกว่าเติบโตเร็วมาก ๆ เมื่อเทียบกับเด็กปีศาจคนอื่น ๆ ซึ่งเป้าหมายของบราโก้คือการขึ้นไปยืนบนจุดสูงสุดในฐานะราชาปีศาจ และปกครองปีศาจทุกตนให้อยู่ใต้การปกครองของตนเอง เพราะชาติกำเนิดของเขาที่ต้องต่อสู้แย่งชิงเลยทำให้เป็นคนหยาบกระด้าง แต่เมื่อเจอกับ เชอร์รี่ เบลมอนต์ (Sherry Belmont) สาวสวยลูกคุณหนูผู้อ่อนแอที่ทำอะไรไม่เป็น แถมยังเป็นภาระให้ต้องปกป้องมากกว่าจะช่วยสู้ก็ทำให้บราโก้หงุดหงิดและไม่โอเคกับคู่หูของตนมาก ๆ จนเมื่อเชอร์รี่มีเป้าหมายในชีวิตนั่นคือการตามหาเพื่อนรักที่ถูกเด็กปีศาจควบคุมจิตใจ จนทำให้เพื่อนรักของตนกลายเป็นชั่วร้าย เชอร์รี่ก็มีความมุ่งมั่นพยายามฝึกฝนวิชาต่อสู้และเพิ่มพลังใจร่วมกับบราโก้ จนสุดท้ายทั้งคู่ก็เป็นคู่หูที่แข็งแกร่งทั้งคนและปีศาจ ซึ่งเมื่อทั้งคู่ได้อยู่ร่วมกันบราโก้ที่เคยคิดแค่จะเอาชนะและครอบครองก็เริ่มเข้าใจความรู้สึกของเชอร์รี่ จนกลายเป็นว่าบราโก้นั้นกลับเริ่มอ่อนโยนขึ้น (นั่นคือเป้าหมายของการแข่งขันเพื่อให้เด็ก ๆ ได้สัมผัสความรู้สึกของคนอื่น) ขณะที่เชอร์รี่ก็แข็งกระด้างขึ้นเพื่อช่วยเพื่อนรักเธอยอมทำทุกอย่าง เพราะถ้าเธอเป็นจุดอ่อนบราโก้ก็จะแพ้เธอก็ทำสิ่งที่ต้องการไม่สำเร็จ และเมื่อช่วยเพื่อนสำเร็จทั้งคู่ก็เริ่มมีเป้าหมายใหม่นั่นคือการพาบราโก้ไปเป็นราชาปีศาจ ที่บราโก้ในตอนนี้ไม่ได้คิดแค่จะปกครองคนอื่นให้อยู่ใต้เท้าแต่จะเข้าใจความรู้สึกของคนที่อ่อนแอ นั่นคือสิ่งที่ทั้งคู่คิดและเป็นมาตลอดทั้งเรื่อง
Zeno Bell และ Dufort
มาถึงตัวร้ายหลักในฉบับอนิเมะกันบ้าง กับด้านตรงข้ามกับกั๊ซแต่เป็นสีขาวอย่าง เซออน เบล(Zeno Bell) พี่ชายฝาแฝดของกั๊ซที่เติบโตมาแตกต่างกับกั๊ซ เพราะเซออนจะถูกแม่เลี้ยงส่งไปฝึกเพื่อให้เป็นทหารที่แข็งแกร่ง ขณะที่กั๊ซนั้นถูกเลี้ยงอย่างดีในฐานะลูกชายของราชาปีศาจคนปัจจุบัน จนเมื่อทั้งคู่ถูกส่งมาเพื่อชิงตำแหน่งราชาปีศาจเซออนที่เกลียดกั๊ซก็ลบความทรงจำของน้องชายตัวเองเพื่อเป็นการประชดพ่อของตน และให้น้องชายที่ท่านพ่อรักหลงวนเวียนแบบไม่รู้อะไรเลยบนโลกมนุษย์ต่อไป ขณะที่ตนเองก็จะอยู่บนโลกใบนี้และปกครองมนุษย์ทุกคนไปพร้อมกับ ดูฟอร์ต (Dufort) ชายผู้มีพลังจิตขั้นสูงแต่ก็ถูกจับมาทดลองจนไม่เคยออกมาสู่โลกภายนอก จนเซออนมาช่วยเหลือและบอกเป้าหมายของตนเองให้ดูฟอร์ตฟัง จึงทำให้ทั้งคู่มีเป้าหมายเดียวกันนั่นคือการทำลายโลกมนุษย์และโลกปีศาจให้พังพินาศไปพร้อม ๆ กัน ใครที่เคยอ่านหรือดูอนิเมะมาแล้วจะรู้เลยว่าช่วงนี้เป็นตอนที่สนุกที่สุด ก่อนจะเข้าสู่การต่อสู้ในช่วงท้ายของเรื่องที่สนุกมากขึ้นไปอีก โดยเราก็หวังว่าทางอนิเมะจะเอามาสร้างใหม่จนจบ เพราะรู้สึกเสียดายแทนคนดูอนิเมะที่ไม่ได้ทราบตอนจบและการต่อสู้ในช่วงท้ายของเรื่องนี้
เรื่องราวการต่อสู้ของเด็กปีศาจทั้ง 100 คนเพื่อเป็นราชาปีศาจ
เริ่มต้นการต่อสู้ในช่วงแรกกับเด็กปีศาจที่ถูกส่งมายังโลก 100 คนพร้อมกับหนังสือเพื่อให้เด็ก ๆ ไปตามหาคู่หูที่มีโชคชะตาตรงกันเพื่อทำการต่อสู้ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่คิโยมาโระได้เจอกับกั๊ซเด็กชายปริศนาที่ถูกคุณพ่อส่งมา และด้วยความบังเอิญที่เมื่อคิโยมาโระจับหนังสือเล่มนี้เขาก็สามารถสั่งให้กั๊ซปล่อยสายฟ้าออกมาได้โดยที่ทั้งคู่ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร จนวันหนึ่งคิโยมาโระกับกั๊ซก็เจอเด็กชายผู้มีหนังสือเหมือนกันและได้ทำการต่อสู้เกิดขึ้น ซึ่งในครั้งนั้นคิโยมาโระสามารถเผาหนังสือของอีกฝ่ายได้ก่อนที่เด็กคนนั้นจะหายไป (บังเอิญไปเผาได้) จนในภายหลังคิโยมาโระและกั๊ซจึงรู้ว่าสิ่งที่ตนต้องทำนั่นคือการต่อสู้กับเด็กปีศาจคนอื่น ๆ เพื่อให้เหลือรอดเป็นคนสุดท้ายก็จะได้ขึ้นเป็นราชาของโลกปีศาจ แต่ก็มีเด็กปีศาจบางตนที่คิดอยากจะครองโลกมนุษย์เมื่อตนเองได้เป็นราชาโลกปีศาจ ไปจนถึงปีศาจที่มีจิตใจแย่ที่อาจจะนำพาโลกปีศาจไปทางที่ตกต่ำ กั๊ซและคิโยมาโระจึงร่วมมือกันเพื่อจะมุ่งไปสู่การเป็นราชาปีศาจที่อ่อนโยนให้ได้ นั่นคือการต่อสู้ในช่วงแรกของเรื่องนี้
เด็กปีศาจเหลือ 70 คน
การต่อสู้เริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเด็กปีศาจลดจำนวนเหลือ 70 คน (หนังสือจะรายงานผู้เหลือรอดให้รู้) ซึ่งในครั้งนี้กั๊ซและคิโยมาโระได้พบกับเพื่อน ๆ ที่เป็นเด็กปีศาจอีกหลายคนไม่ว่าจะเป็น โออุมิ เมงุมิ (Oumi Megumi) และ ทีโอ (Theo) สองคู่หูที่พยายามเอาชีวิตรอดจากการแข่งขันจนมาเจอกับกั๊ซและคิโยมาโระที่ไม่ได้สนใจการแข่งขันเหมือนกัน ทั้งหมดจึงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน นอกจากนี้ก็ยังมีปีศาจปากเป็ดขี้กลัว แคนโจเม่ (Canjome) และคู่หูของเขาอย่าง ปัลโก ฟอลโกเร่ (Palco Falcore) ที่มีพลังในการแปลงกาย กับปีศาจม้า ชไนเดอร์ (Schneider) ที่กั๊ซและคิโยมาโระเรียกว่า “ม้าเหล็ก” ซึ่งเป็นปีศาจที่พูดภาษามนุษย์ไม่ได้เลยทำให้ม้าเหล็กไม่สามารถหาคนที่คู่ควรกับตนเองได้ จนทั้ง 4 กลายเป็นเพื่อนที่ร่วมต่อสู้กันเรื่อยมา
เด็กปีศาจเหลือ 40 คน
เรื่องราวดำเนินมาจนถึงเด็กปีศาจที่เหลือรอด 40 คนสุดท้าย ที่คราวนี้ตัวของกั๊ซและคิโรมาโยะต้องเจอกับปีศาจระดับสูงอย่าง โซฟิส (Zofis) และ โคโค (Koko) เพื่อนรักของเชอร์รี่ที่ถูกควบคุมจิตใจให้ทำตามโดยไม่ยินยอม ขณะที่โซฟิสที่ล่วงรู้ถึงรายชื่อลูกหลานมนุษย์ที่ในอดีตเคยเข้าแข่งขันเมื่อ 100 ปีก่อน จึงทำการตามหาคนเหล่านั้นและมามาทำการควบคุมผ่านหนังสือไปยังเด็กปีศาจ เพื่อให้เด็กปีศาจคนอื่น ๆ ตกเป็นทาสของตนจนเกิดเป็นการต่อสู้ขึ้น จนมาถึงการต่อสู้กับเด็กปีศาจที่ชื่อ ลีโอ (Leo) กับมนุษย์ที่ชื่อ บานิกิส จิโก้ (Banikis Gigo) ที่ได้รับรู้ถึงปีศาจร่างยักษ์ที่หลับใหลในโลกมนุษย์ที่ใช้ในการเอาชนะศึก เพื่อตนเองจะได้เป็นราชาในการทำลายคำสาปประจำตระกูลที่มีมาอย่างยาวนาน แต่แผนการนี้ก็ถูกยับยั้งโดยกั๊ซและเพื่อน ๆ และในครั้งนี้ก็มีเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของเซออนและดูฟอร์ตที่มาขัดขวางแผนการปลุกหุ่นยักษ์ ที่น่าจะเป็นผลเสียมากกว่าเป็นผลดีเพราะเซออนก็คิดจะเอาพลังนี้มาเป็นของตน จนทำให้กั๊ซต้องสู้กับพี่ชายตัวเองซึ่งเรื่องราวในอนิเมะจะจบลงตรงนี้ ซึ่งใครที่อยากรู้เรื่องราวก็ต้องไปหามังงะมาอ่านต่อ
เด็กปีศาจเหลือ 10 คนสุดท้าย
2 ปีของการแข่งขันก็เหลือเด็กปีศาจเพียง 10 คนสุดท้าย ที่แต่ละคนนั้นก็แข็งแกร่งสมการอยู่รอดในช่วงท้าย (บางคนก็โชคดี) โดยมีบราโก้และเชอร์รี่เป็นหนึ่งในผู้เหลือรอดพร้อมกับกั๊ซและคิโรมาโยะ โดยในคราวนี้จะปรากฏปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดในเรื่องอย่าง เคลียร์โน้ต (Clear Note) และมนุษย์อย่าง วีโน (Vino) ปีศาจที่คิดจะทำลายโลกปีศาจให้พังพินาศโดยไม่สนใจว่าทุกชีวิตจะเป็นอย่างไร และเขายังเป็นเด็กปีศาจอันดับต้น ๆ ที่ตามล่าเด็กปีศาจคนอื่นมากที่สุดในการแข่ง จนเด็กปีศาจที่เหลือรอดต้องมาต่อสู้เพื่อไม่ให้เคลียร์โน้ตได้ตามที่ต้องการ ซึ่งผลการต่อสู้จะจบลงอย่างไรและใครเป็นผู้ชนะก็ไปตามอ่านกันเอาเอง แต่บอกได้คำเดียวว่าการต่อสู้ครั้งนี้สนุกซาบซึ้งสมเป็นการต่อสู้ช่วงท้ายที่แฟน ๆ รอคอย
ฉบับมังงะกับเรื่องราวที่จบลงอย่างสมบูรณ์ก่อนจะไปสู่เรื่องราวในภาค 2
ปิดท้ายกับการเปิดเรื่องราวใน ‘Konjiki no Gash Bell!! 2’ หรือ ‘Zatch Bell!! 2’ กับเรื่องราวที่สานต่อจากภาคแรกหลายสิบปี ที่การแข่งขันหาราชาโลกปีศาจได้จบไปแล้วและผู้ชนะการแข่งก็คือ (ไม่บอกไปอ่านเอาเอง) แต่แล้วก็มีภัยครั้งใหม่เกิดขึ้นจนทำให้เหล่าเด็กปีศาจที่เคยแข่งขันในคราวก่อนต้องกลับมายังมิติมนุษย์อีกครั้ง ซึ่งนั่นก็รวมถึงกั๊ซที่ตอนนี้ได้โตขึ้นจากภาคแรกที่ทั้งคู่ต้องมาร่วมมือกันอีกครั้ง นอกจากนี้ก็ยังมีปีศาจใหม่ ๆ มาร่วมต่อสู้ด้วย โดยตัวมังงะยังออกมาได้แค่ไม่กี่ตอนจึงไม่สามารถบอกได้ว่าเรื่องราวของภาคนี้จะไปในทิศทางไหน แต่ที่แน่ ๆ แฟน ๆ ที่เคยอ่านภาคแรกไปต้องไม่พลาดอย่างแน่นอน
เป็นอย่างไรกันบ้างกับการแนะนำการ์ตูนเก่าอย่างเรื่อง ‘Konjiki no Gash Bell!!’ หวังว่าจะถูกใจแฟนการ์ตูนยุคเก่าที่เคยอ่านหรือดูอนิเมะมาแล้ว คงจะได้กลับไปนึกถึงความสนุกเมื่อวันวาน กับการต่อสู้ของกั๊ซและคิโรมาโยะที่หลายคนคิดถึง และการเดินทางครั้งใหม่ของทั้งคู่ในศึกโลกปีศาจครั้งที่ 2 ใน ‘Konjiki no Gash Bell!! 2’ ส่วนแฟนใหม่ที่เพิ่งเริ่มมารู้จักการ์ตูนเรื่องนี้จากบทความนี้ ก็แนะนำให้ไปหามังงะกับอนิเมะมาดูเพราะทั้งคู่มีเนื้อหาที่ตรงและสนุกเหมือนกัน แค่ในอนิเมะจะมีไม่จบต้องไปหามังงะอ่านต่อ ซึ่งทางสำนักพิมพ์ก็เอามาพิมพ์ขายเรื่อย ๆ รวมถึงในรูปแบบ ‘E-Book’ ให้เราไปซื้อมาอ่านได้ ที่บอกเลยว่าคุ้มค่าราคาที่จ่ายไปแน่นอน ส่วนคราวหน้าจะเป็นการหยิบการ์ตูนเก่าเรื่องไหนมาแนะนำก็รอติดตามที่แบไต๋ได้เลย หรือจะย้อนไปอ่านเรื่องราวต่าง ๆ ของอนิเมะก็มีให้คุณอ่านมากมายไม่มีเบื่อ เพราะที่แบไต๋มีครบจบทุกความบันเทิงเพื่อคุณ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส