[รีวิวอนิเมะ] “Lookism” คนเราก็มักจะตัดสินกันผ่านรูปลักษณ์ก่อนเสมอนั่นแหละ!!
Our score
7.2

[รีวิวอนิเมะ] “Lookism” คนเราก็มักจะตัดสินกันผ่านรูปลักษณ์ก่อนเสมอนั่นแหละ!!

จุดเด่น

  1. เนื้อหาทำออกมาได้ค่อนข้างเคารพต้นฉบับ
  2. ประเด็นเสียดสีสังคมเรื่องหน้าตาทำออกมาได้ชัดเจนตลอดทั้งเรื่อง
  3. งานภาพ 3D แม้จะแปลกตาแต่ก็ดูดี
  4. มีฉากเซอร์ไพรส์แฟนการ์ตูนที่ไม่สามารถเห็นได้ในต้นฉบับแน่นอน

จุดสังเกต

  1. มีหลายฉากที่ต้นฉบับมี แต่ในอนิเมะกลับถูกตัดทิ้งอย่างน่าเสียดาย
  2. การเล่าเรื่องผูกปมตัวละครยังมีขาด ๆ เกิน ๆ อยู่บ้าง คนที่ไม่เคยอ่านต้นฉบับอาจมีสับสนเล็กน้อย

จากเว็บตูนชื่อดังในเกาหลีมุ่งสู่ซีรีส์แอนิเมชันอย่างเต็มตัวเป็นครั้งแรกและได้ออนแอร์ผ่านทาง Netflix ซะด้วย โดยได้ Studio Mir ผู้อยู่เบื้องหลัง “DOTA: Dragon’s Blood” และ “The Witcher: Nightmare of the Wolf” เป็นผู้ดูแลการสร้าง ก็ถือว่าเป็นการ์ตูนอีก 1 เรื่องที่สร้างเสียงฮือฮาให้กับแฟนคลับมังฮวาใน Webtoon เป็นอย่างมากที่จะได้เห็นตัวละครสุดหล่อจากเรื่อง Lookism อย่าง ‘ปาร์คฮยองซอก’ และผองเพื่อนในโรงเรียนแจวอนมีชีวิตขยับเคลื่อนไหวได้สักที แถมมีทั้งซับไทย พากย์ไทยที่ทำออกมาได้ดีเลยล่ะ

เอาเป็นว่านี่ก็เป็นการ์ตูนอีก 1 เรื่องที่ถอดแบบมาจากต้นฉบับและนำเสนอออกมาได้ดีในระดับนึง ที่จะไม่ทำให้แฟนการ์ตูนเรื่องนี้จาก Webtoon ผิดหวังแน่นอน ส่วนใครที่ไม่เคยดูไม่เคยอ่านหรือกำลังลังเลตัดสินใจว่าจะดูดีไหม ก็ขอให้ลองอ่านรีวิวนี้เพื่อประกอบการตัดสินใจดูก่อนได้นะครับ

*ซีรีส์มี 8 ตอน ตอนละประมาณ 24 นาที (ยังไม่จบ)

Lookism | ตัวอย่างซีรีส์อย่างเป็นทางการ | Netflix

เรื่องย่อ

ปาร์ค ฮยอกซอก หมาหัวเน่าประจำชั้นเรียนที่มีรูปลักษณ์ที่ขี้เหร่ อ้วน ไร้เพื่อน และบ้านจน ซ้ำร้ายยังเป็นเหยื่อของการถูกบูลลี่ในโรงเรียน จนถึงจุดหนึ่งที่เค้าเริ่มไม่ไหวกับสิ่งที่เจอเพราะการกลั่นแกล้งและคำดูถูกในโรงเรียนมีแต่จะหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ในที่สุดเค้าก็ตัดสินใจย้ายโรงเรียนเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่

แต่ทว่าถึงแม้ตัว ปาร์คฮยอกซอก จะเปลี่ยนที่อยู่หรือย้ายโรงเรียนไปไกลแค่ไหนเค้าก็หนีเรื่องที่โดนดูถูกและบูลลี่ไม่พ้นอยู่ดี ทำให้เค้าเข้าใจแล้วว่าเรื่องเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะสถานที่ที่เค้าอยู่ แต่นั่นเป็นเพราะรูปลักษณ์ที่เค้ามีต่างหาก

แต่แล้ววันหนึ่งเค้าก็ได้เจอกับเรื่องราวสุดพิศวงที่แม้แต่ตัวเค้าเองก็หาคำตอบไม่ได้ เมื่อจู่ ๆ เค้าก็ได้ตื่นขึ้นมากลางดึกและพบว่าตัวเค้ามีร่างกายใหม่ที่ทั้งหล่อ หุ่นดี มีแรงเยอะ หรือเรียกง่าย ๆ ก็คือมันเป็นร่างกายของผู้ชายที่เพอร์เฟ็กต์รอบด้านเลยก็ว่าได้ ทำให้ ปาร์ค ฮยอกซอก ต้องใช้ชีวิตด้วยร่างกายทั้ง 2 ร่าง นั่นก็คือทั้งร่างหล่อและร่างอ้วน และแม้ทั้ง 2 ร่างนี้จะมีตัวตนเป็นคนเดียวกัน แต่เพียงแค่รูปลักษณ์ที่แตกต่างกันสุดขั้วนี้ ทำให้แต่ละร่างมีประสบการณ์ที่ได้เจอในชีวิตประจำวันแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว

รีวิวความรู้สึกหลังดูจบ

เสียดสีสังคมที่มองกันแค่รูปลักษณ์ภายนอก

สำหรับคอนเซ็ปต์ของการ์ตูนเรื่องนี้ก็ตามชื่อเรื่องเลย Lookism หรือก็คืออาการเสพติดคนที่รูปลักษณ์ ซึ่งการ์ตูนก็ถือว่ายืนพื้นและคงคอนเซ็ปต์นี้ให้คนดูได้เห็นแบบชัดเจนมาก ๆ ตลอดทั้งเรื่อง แบบร่างอ้วนก็เจออะไรที่หนักหนาสาหัสมาก ๆ ส่วนร่างหล่อคือมีแค่คนรักคนหลง แม้จะเป็นคน ๆ เดียวกันใช้ชีวิตเหมือนกันแต่เพียงแค่รูปลักษณ์ต่างกันปฏิกิริยาของคนรอบข้างที่แสดงออกมากลับต่างกันอย่างสุดขั้ว ทำให้ตลอดการดูเราจะรู้สึกได้เลยว่าคำว่าทุกคนเกิดมาแล้วเท่าเทียมกันนั้นไม่มีจริงหรอก เพราะแค่หน้าตาดีก็ถือว่ามีแต้มต่อและโอกาสเยอะกว่าคนที่เกิดมาแล้วหน้าตาไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด ตรงจุดนี้การ์ตูนถือว่านำเสนอออกมาชัดเจนและดีพอสมควร

การเล่าเรื่องยังมีขาด ๆ เกิน ๆ อยู่บ้าง

ในแง่ของการเล่าเรื่องจะออกเป็นแนวเล่าไปเรื่อย ๆ ให้คนดูได้เห็นว่าจากหมาหัวเน่าที่ได้สัมผัสโลกของคนหล่อจะเป็นยังไงเท่านั้น ซึ่งตรงจุดนี้ก็ไม่ได้แย่อะไรมากนัก แต่ตัวละครเสริมอื่น ๆ ที่โผล่เข้ามายังให้ความรู้สึกขาด ๆ เกิน ๆ อยู่บ้าง สำหรับใครที่ไม่เคยอ่านต้นฉบับใน Webtoon มาเลยก็อาจจะมีงงนิดนึงว่าตัวละครนี้โผล่มาทำไมแค่นี้ ตัวนี้คือใครทำไมต้องเล่า ซึ่งส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นการใส่เพื่อเอาไปเล่นต่อในซีซันถัดไปซะมากกว่า

และสำหรับในบางฉากที่สำคัญ ๆ ต่อการพัฒนาตัวละครของ ฮยอกซอก หรือเป็นฉากเพิ่มความสัมพันธ์ของตัวละครภายในเรื่องก็ถูกตัดออกไปเยอะพอสมควรเมื่อเทียบกับต้นฉบับ เพราะในต้นฉบับนั้นฉากที่หายไปในอนิเมะค่อนข้างจะสำคัญพอสมควรกับเนื้อเรื่องในอนาคต เช่นตอนประมูลในงานโรงเรียน หรือตอนที่ฉยอกซอกเมาจนมีเรื่องครั้งแรก เป็นต้น ซึ่งก็เข้าใจได้เพราะอาจจะเป็นเรื่องของเวลา หรืองบประมาณในการสร้างหรืออะไรก็แล้วแต่ ก็ต้องมาลุ้นกันดูในอนาคตว่าตัวอนิเมะจะมีเซอร์ไพรส์หรือเทคนิคผูกปมตัวละครใหม่ยังไง เพราะเอาจริงก็แอบเสียดายหลายฉากเหมือนกันที่ไม่ได้เห็นในฉบับแอนิเมชัน

ความประทับใจในฐานะแฟนการ์ตูน

จากที่บอกไปข้างต้นว่ามีหลายฉากที่ต้นฉบับมีแต่ในอนิเมะไม่มี ทำให้รู้สึกเสียดายและผิดหวังในระดับนึง แต่สิ่งเหล่านี้ก็กลับมาทดแทนได้ด้วยฉากที่ไม่มีทางได้เห็นผ่านการ์ตูนภาพนิ่งเช่นกัน นั่นก็คือในที่สุดก็ได้ยินเสียงเพลงจากการครอสโอเวอร์ของ ดอกฮวา และ ปาร์คฮยอก ที่ร้องเพลงบนเวทีแล้ววววววว!! ซึ่งตอนอ่านฉากนี้เราจะไม่ได้ยินเสียง ไม่รู้เนื้อเพลง หรือที่มาที่ไปของเพลงนี้ในงานโรงเรียนเลย แต่ฉบับอนิเมะสามารถถ่ายยทอดมาได้ และค่อนข้างทำออกมาได้น่าประทับใจเลยทีเดียว เรียกได้ว่าแค่ฉากนี้ฉากเดียวก็ทำเอาแฟนการ์ตูนฟินแตกแล้วล่ะครับ

งานภาพ 3D ดูดีแบบแปลก ๆ

ในแง่ของงานภาพค่อนข้างน่าตกใจพอสมควรเพราะไม่คิดว่าเค้าจะนำเสนอด้วยเทคนิด 3D เซลเฉดเยอะขนาดนี้ (แทบจะทั้งเรื่อง) หรือก็คือภาพเป็น 3D แต่เรนเดอร์ออกมาจะให้ความรู้สึกเหมือน 2D นั่นแหละครับ ซึ่งถ้าถามว่ามันดีไหมคือมันก็ไม่ได้แย่แหละและมันก็ค่อนข้างจะทำให้อนิเมะเรื่องนี้มีเทคนิคที่ดูแล้วรู้สึกหวือหวาตื่นตาตื่นใจพอสมควรโดยเฉพาะฉากต่อสู้ แต่มันก็เหมือนเป็นดาบ 2 คมเช่นกันเพราะสำหรับแฟนการ์ตูนที่ติดภาพมาจากต้นฉบับจะรู้สึกกันแบบชัด ๆ เลยว่าตัวละครหลายตัวหน้าเปลี่ยนไปมาก โดยเฉพาะ ฮานึล กับ ชเวซูจอง คือหน้าเหมือนกันเกิ๊นนน!! แรก ๆ นี่คือแยกไม่ออกเลยนะถ้าไม่บอกชื่อ (ฮา) แต่ก็ไม่ได้แย่จนถึงขั้นเลวร้ายกลายมาเป็นข้อสังเกตุอะไรขนาดนั้น เพียงแต่ต้องใช้เวลาดูสักพักนึงถึงจะเริ่มชินตาเท่านั้นเอง

สรุป

โดยรวมนี้ก็ถือว่าเป็นการ์ตูนเรื่องนึงที่ค่อนข้างจะโอเคทั้งกับคนที่เพิ่งจะเคยดูเรื่องนี้หรือแม้แต่คนที่เคยอ่านต้นฉบับมาก่อน เนื้อหาค่อนข้างจะมีทั้งความรุนแรงและจิกกัดสังคมที่บางคนดูแล้วก็อาจจะรู้สึกหดหู่ได้เลย แต่ก็ไม่ได้ดาร์กขนาดที่ว่าทำร้ายจิตใจคนดูขนาดนั้น

สำหรับแฟนการ์ตูนเรื่องนี้ก็อาจจะมีผิดหวังบ้างเล็กน้อยเพราะมีหลายฉากหลายซีนที่ต้นฉบับมีแต่ในอนิเมะกลับไม่ได้เห็น แต่นั่นก็ถูกแทนที่ด้วยฉากที่ไม่สามารถหาดูในต้นฉบับได้ด้วยเช่นกัน ส่วนตอนจบนั้นก็ถือว่าค่อนข้างลงตัวสำหรับซีซันแรก จบแบบไม่ค้างคาดี แต่ถ้าหากคาดหวังให้การ์ตูนเรื่องนี้ทำอนิเมะจนจบเรื่องเลยก็อาจจะเป็นอะไรที่คาดหวังยากสักหน่อย เพราะต้นฉบับเองก็ยังถูกเขียนไม่จบ แถมยังมีเนื้อหาที่แซงอนิเมะไปไกลแบบไกลมาก ๆ ด้วย ถ้าจะให้จบผมคิดว่าน่าจะมีการหั่นบทกันยับเยินแน่ ๆ ไม่งั้นได้มีประมาณ 10 ซีซันบวก ๆ แน่นอน (ฮา) แต่ก็นะถ้าใครที่ดูแล้วค้างคาก็ไปอ่านต้นฉบับใน Webtoon ต่อก็ได้ครับผม ของดีจริง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส