เมื่อพูดถึงการเซนเซอร์ในการ์ตูนอนิเมะต่าง ๆ เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะมันคือการปกปิดหรือบดบังสิ่งต่าง ๆ ในการ์ตูนเรื่องนั้น ๆ ด้วยเหตุผลต่าง ๆ ที่ส่วนมากการเซนเซอร์จะเกิดขึ้นเมื่อการ์ตูนเรื่องนั้น ๆ ถูกเอามาฉายทางทีวี เพราะความไม่เหมาะสมของเนื้อหาหรืออาจจะมีฉากที่ไม่เหมาะสมที่เด็ก ๆ ควรดู และเพียงแค่คุณกดค้นหาหัวข้อการเซนเซอร์ในอนิเมะ ก็จะเจอหัวข้อการเซนเซอร์แปลก ๆ มากมายทั้งไทยและต่างประเทศให้เราได้ดู แต่เรากลับไม่รู้สาเหตุหรือความจริงเกี่ยวกับเรื่องของการเซนเซอร์ ว่าทำไมอนิเมะเรื่องนั้น ๆ ถึงโดนเซนเซอร์หรือปิดบัง ที่เรามักจะคิดว่าเพราะมันดูไม่เหมาะสมทั้งการแต่งตัวการกระทำของตัวละคร ที่เอาจริง ๆ มันก็แค่เปลือกนอกเท่านั้น วันนี้เรามาสืบค้นหาความจริงกันดีกว่าว่าทำไมอนิเมะเหล่านั้นถึงถูกเซนเซอร์ มันมีเบื้องลึกเบื้องหลังหรืออะไรที่น่าสนใจบ้าง ตามนักสืบที่ตัวจะเป็นผู้ใหญ่แต่สมองยังเป็นเด็กกับยอดนักสืบไม่จิ๋วไปพร้อมกันเลย

School Days

ตำนานเรือสวย จาก School Days

School Days

เริ่มต้นเรื่องแรกกับตำนาน “Nice Boat” หรือ “เรือสวย” ที่เราขอหยิบมาพูดถึงเป็นเรื่องแรก ที่สำหรับแฟน ๆ คนที่ชอบดูอนิเมะคงต้องรู้จักหรือเคยได้ยินคำว่าเรือสวยมาบ้าง เพราะมันคือหนึ่งในการเซนเซอร์ที่เป็นตำนานมาจากถึงทุกวันนี้ กับการเปลี่ยนเรื่องราวในตอนจบอนิเมะเป็นสารคดีเรือไปแบบดื้อ ๆ ในยุคนั้น โดยเรื่องราวนี้เกิดขึ้นในอนิเมะรักแรกในโรงเรียนคราบน้ำตารอยเลือดและความหลายใจ ‘School Days’ ที่บอกเล่าเรื่องราวความรักของหนุ่มหล่อที่มีใจ (มากกว่ามีใจไปเยอะ) ให้สาว ๆ  หลายต่อหลายคน ซึ่งสาวทุกนางนั้นก็รักพ่อรูปหล่อเราหมดใจ แต่พ่อรูปหล่อเราก็พูดแบบเท่ ๆ ว่า “ฉันเลือกไม่ได้หรอกนะเพราะฉันรักทุกคน” ที่เมื่อคุณพูดแบบนี้แน่นอนว่าเป็นใครก็คงเสียใจ จนอยากจะกลืนกินคุณทั้งตัวไม่อยากเหลือไว้ให้ใครได้กินคุณอีก ว่าแล้วหนึ่งในสาวของพ่อรูปหล่อเราก็จัดการแทงพี่แกด้วยมีดซึ่งเต็มไปด้วยความรักอันเร่าร้อนจนพรุน และยังตัดคอพ่อพระเอกเราใส่กระเป๋ามาเก็บไว้ จนเมื่อคุณน้องนางเอกทราบว่าคนที่เธอรักตายแล้ว และคนที่ฆ่าพระเอกก็บอกว่าเธอท้องกับพระเอก คุณนางเอกก็จัดการแทงท้องเธอคนนั้นแล้วก็บอกว่า “ในท้องเธอไม่เห็นมีเด็กเลย” แล้วนางเอกก็เอาหัวพ่อพระเอกเราเดินเรือเที่ยวท่ามกลางอาทิตย์อัสดง ซึ่งจบลงด้วยความรักอันสวยงาม ที่เอาจริง ๆ มันก็โหดไปแต่เมื่อตัวเรื่องมันสามารถฉายได้ก็แปลว่ามันผ่านการตรวจสอบแล้ว (เรื่องนี้ฉายตอนดึก) แต่สิ่งที่เป็นประเด็นจนเกิดเป็นการเซนเซอร์ตำนานเรือสวยนั้น ก็เพราะในช่วงที่อนิเมะเรื่อง ‘School Days’ ฉาย ได้มีคดีฆาตกรรมโดยการใช้มีดเหมือนกันเกิดขึ้นในญี่ปุ่น จนทางช่องเลยต้องตัดฉากจบนี้ออกไปและใส่ฉากเรือของประเทศนอร์เวย์มาฉายแทน พร้อมข้อความว่า “เพื่อความสะดวก ขอทำการเปลี่ยนรายการออกอากาศ” จนเรื่องนี้เกิดโด่งดังขึ้นเมื่อทาง ‘4chan’ ที่ตามฉายเรื่องนี้ตลอดทุกตอนได้เห็นฉากเรือนี้ท่ามกลางความแปลกใจของทุกคนที่ตามดู แต่สุดท้ายทางช่องก็เอาตอนจบที่เราได้กล่าวไปมาฉาย เรียกว่าเป็นหนึ่งในตำนานการเซนเซอร์ ที่พอพูดถึงเรื่องนี้ต้องมีคำว่าเรือสวยติดมาทุกครั้ง

School Days

เกาหลีผู้เซนเซอร์กล่องของเล่น จาก Gundam Build Fighters

Gundam Build Fighters

อีกหนึ่งการเซนเซอร์แปลก ๆ ที่หลายคนอาจจะไม่คิดมาก่อน ว่าที่เกาหลีใต้จะมีการเซนเซอร์การ์ตูนด้วย ที่บอกเลยว่ามีแถมเยอะพอ ๆ กับบ้านเราเลย (แต่บ้านเราหนักกว่า) ทั้งการปิดเบลอเสื้อผ้าตัวละครฉากที่ไม่เหมาะสมเมื่อฉายทางทีวีตามปกติ แต่ที่ดูแปลกสุดก็น่าจะเป็นการเซนเซอร์กล่องของเล่นที่เรียกว่า ‘Gunpla’ หรือหุ่นประกอบในเรื่องวัยซนคนขับหุ่นสู้กันอย่าง ‘Gundam Build Fighters’ จนคนดูอนิเมะเรื่องนี้เซ็งกันไปตาม ๆ กัน ซึ่งแน่นอนว่าการเซนเซอร์นี้ก็ตกเป็นข่าว จนทางคนที่รับอนิเมะเรื่องมาฉายก็ให้เหตุผลที่น่าฟังว่า “สินค้าในการ์ตูนเรื่องนี้มีความเหมือนและใกล้เคียงของเล่นที่มีอยู่จริงมากเกินไปเราจึงต้องเซนเซอร์” นั่นละครับท่านผู้ชม ซึ่งสำหรับคนที่ไม่ทราบอนิเมะเรื่อง ‘Gundam Build Fighters’ มันคือการ์ตูนขายของเล่น ที่พอเด็ก ๆ ดูจบก็อยากร้องชักดิ้นชักงอว่าอยากได้หุ่นแบบในเรื่องนี้มาประกอบ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่คนสร้างอนิเมะเรื่องนี้ต้องการ แต่ทางคนนำเข้าอนิเมะบอกว่าเราไม่อยากโฆษณาให้ฟรี ๆ เราจึงของเซนเซอร์กล่องของเล่นในการ์ตูนเพราะกลัวเด็ก ๆ เห็นแล้วจะอยากไปซื้อมาเล่น ซึ่งเราไม่ได้ประโยชน์จากสิ่งนี้เลยปิด (เซนเซอร์) มันเสียเลย โอเคเข้าใจตรงกันนะ

Gundam Build Fighters

เลือดสีชมพูลดความรุนแรงที่อ้างอิงจากวิดีโอเกม จาก Danganronpa The Animation

Danganronpa The Animation

มาต่อกันที่การเซนเซอร์ด้วยการเปลี่ยนสีเลือดเพื่อไม่ให้ดูโหดเกินไป ของซีรีส์สืบสวนสอบสวนที่ต้องมีฉากการฆ่าและความรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งเป็นของคู่กันกับเรื่องราวแนวนี้ ที่เมื่อเราย้อนไปดูอนิเมะสืบสวนอย่างยอดนักสืบจิ๋วโคนัน เราก็แทบไม่เห็นการฆาตกรรมที่มีเลือดสาดหรือมีก็ตัดเลือดออก ที่เอาจริง ๆ ในการ์ตูนแนวนี้คนเขียนจะพยายามไม่ใส่การฆ่าที่มีเลือดสาดลงไปเพราะมันดูรุนแรง แต่ในเรื่องเหลี่ยมทุกดอกแล้วบอกเพื่อนกันอย่าง ‘Danganronpa The Animation’ ที่ตัวเรื่องต้องอ้างอิงมาจากเกมในชื่อเดียวกัน มันเลยจำเป็นต้องมีเลือดสาดที่เป็นจุดสำคัญของเกมนี้ เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นในนี้มันคือการฆาตกรรมของคนที่ไม่ตั้งใจ แบบรีบฆ่าหรือบังเอิญไปฆ่าอีกฝ่ายจนเกิดเลือดสาดขึ้นมา ที่เมื่อเป็นอย่างนั้นในเกมจึงเปลี่ยนสีเลือดเป็นสีชมพูเพื่อลดความรุนแรงให้เกมตัวเองขายได้ และเมื่อทางเกม ‘Danganronpa’ ถูกทำเป็นอนิเมะทางทีมงานเลยทำตามในเกมไปเลยจึงถือเป็นการเซนเซอร์ตัวเองไปในตัว ที่ถ้าเรื่องอื่น ๆ ทำแบบนี้ (เปลี่ยนสีเลือด) คงโดนด่าไปแล้ว ส่วนเรื่องราวในอนิเมะจะเกี่ยวกับการสืบสวนคดีฆาตกรรมของคนที่อยู่ร่วมกันในโรงเรียนที่ไม่มีทางออก กับการเล่นเกมหาตัวคนร้ายว่าคือใคร ซึ่งถ้าทายผิดทุกคนจะตายหมดแต่คนร้ายจะรอด แต่ถ้าทายถูกคนร้ายจะถูกพิพากษาส่วนทุกคนก็รอดไปเจอคดีที่จะเกิดขึ้นต่อไป ผ่านทางเจ้าหมีโหดขาวดำที่เป็นครูใหญ่ในโรงเรียนปิดตายนี้ ซึ่งเราต้องหาคนร้ายให้เจอโดยดูจากหลักฐานที่เกิดขึ้น ใครชอบแนวนักสืบสอบสวนไม่ควรพลาดทั้งในอนิเมะและเกมสนุกทั้งคู่บอกเลย

Danganronpa The Animation

เซนเซอร์ขนาดนี้ไม่ต้องฉายเถอะคุณพี่ จาก Blood-C

Blood-C

มาดูอนิเมะแนวรักใส ๆ ของเหล่าวัยรุ่นที่ปราบปีศาจ กับฉากในตำนานที่หลายคนต่างเอามือปิดปากแล้วอุทานว่า “คุณพระเกินปุยมุ้ย” กันเลยทีเดียว กับเรื่องสาวแว่นเลือดสาดล่าอสูร ‘Blood-C’ ที่บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นที่ต้องปกป้องหมู่บ้านจากเหล่าปีศาจที่บอกเลยว่าเนื้อเรื่องพื้น ๆ ไม่มีอะไรพิเศษ นอกจากสาวแว่นที่น่ารักกับฉากต่อสู้ที่วาดออกมาอย่างสวยงามที่ก็ไม่ต่างกับอนิเมะเรื่องอื่น ๆ แต่ความพิเศษของเรื่องนี้ก็คือฉากการฆ่าของปีศาจที่โหดมาก ๆ ทั้งการฉีกร่างคน (สัตว์ประหลาดตัวใหญ่) โดยการดึงขาจนร่างฉีก เอาคนมาใส่ในครกแล้วตำเป็นส้มตำมนุษย์ ไปจนถึงการเอาคนมาเสียบจากก้นทะลุหัวทีละนิ้วแล้วกินแบบลูกชิ้นย่าง ซึ่งนั่นเป็นแค่ส่วนเล็ก ๆ ของเรื่องเท่านั้น (ไม่ต้องขอดูไม่มีให้ดูมันโหดไป) เพราะความโหดเกินเบอร์ขนาดนี้หลายคนเลยสงสัยว่ามันจะผ่านเอามาฉายทางทีวีได้อย่างไร เพราะถ้ามีฉากสองฉากจาก 13 ตอนแบบ ‘School Days’ ก็พอว่านี่เล่นมีแบบนี้ทุกตอน จนเรามาทราบว่าทางต้นสังกัดเขาwfhถมดำปิดขาว (รูปประกอบด้านล่าง) จนดูไม่รู้เรื่อง ที่ทำให้แฟน ๆ เรื่อง ‘Blood-C’ โวยวายและเทเรื่องนี้เมื่อมันฉายทางทีวี และไปรอซื้อแบบเบิ้ม ๆ จุก ๆ ในฉบับ ‘Blu-ray’ กับ ‘DVD’ ตอนนั้นแทน  ซึ่งใครที่สนใจอยากดูตอนนี้ก็มีฉบับเห็นเต็มตาโหดสะใจให้ดูแล้ว ก่อนดูก็ทำใจก่อนนะเพราะโหดจริงอะไรจริงเตือนไว้ก่อน

Blood-C

แค่ในอนิเมะไม่พอแต่โวยวายบริษัทเกมด้วย จาก My Hero Academia

My Hero Academia

เรียกว่ากำลังอยู่ในช่วงที่สนุกที่สุดของเรื่องกันเลยทีเดียว กับอนิเมะรวมพลคนพลังพิเศษ ‘My Hero Academia’ ที่ตั้งแต่เปิด ‘Season 6’ มาก็มีแต่การต่อสู้ลุ้นรัว ๆ จนเราคนดูแทบนั่งไม่ติด แต่เราไม่ได้มาพูดถึงเรื่องนี้กันในบทความนี้ แต่สิ่งที่เราจะพูดถึงนั้นคือเรื่องราวของความเหมาะสมที่ผู้ใหญ่บางคนในประเทศนั้น ๆ มองว่าการแต่งตัวไม่เหมาะสมของตัวละครในการ์ตูนที่ให้เด็ก ๆ ดู มันอาจจะก่อให้เกิดคดีทางเพศซึ่งเป็นการชี้นำที่ไม่เหมาะสมแกเด็ก ๆ ที่คนดูอนิเมะได้ต่างพูด (ตะโกน) เป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่เกี่ยวกันเลยครับพี่ คนที่ก่อเหตุข่มขืนอนาจารล้วนเป็นคนที่ไม่ดูการ์ตูน” แต่ใครจะสนหรือเก็บมาคิดกันให้เสียเวลาทำงาน และเปลืองน้ำลายไปกับพวกที่วัน ๆ ดูแต่การ์ตูนเป็นเด็ก ๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่การ์ตูนเหล่านี้จะโดนเซนเซอร์ ยิ่งประเทศที่มีความเคร่งครัดในศาสนาอย่างประเทศฟิลิปปินส์ ที่เป็นประเทศอนุรักษ์นิยมเหมือนในบ้านเราจึงไม่น่าแปลกที่เราจะเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้น และเหยื่อที่โดนก่อนเลยคือเรื่อง ‘My Hero Academia’ กับตัวละครที่ไม่ต้องเดาก็รู้เลยว่าต้องโดน นั่นคือน้องฮีโรผู้สร้างสิ่งของจากร่างกาย ยาโยโรสุ โมโมะ (Yaoyorozu Momo) ที่ชุดของน้องต้องเปิดหน้าอก เพราะเธอสามารถสร้างสิ่งของต่าง ๆ จากร่างเธอได้ ถ้าเธอเข้าใจองค์ประกอบของมัน และกลางหน้าอกลงไปถึงท้องก็มีไว้สร้างสิ่งของขนาดใหญ่ ที่ถ้าไม่มีจุดเปิดให้ของออกเสื้อผ้าก็จะขาด (อย่าคิดลึก) การแต่งตัวแบบนี้ตามเนื้อเรื่องจึงเหมาะสมที่สุดแล้ว และที่เราต้องหยิบมาพูดถึงในบทความนี้ เพราะไม่ใช่แค่การเซนเซอร์ในอนิเมะเพราะที่เกาหลีกับบ้านเราก็มีการเซนเซอร์ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คือทางคนที่เซนเซอร์อนิเมะเรื่องนี้ ได้ไปโวยวายถึงบริษัทที่เอาเกมนี้มาขายว่าควรปกปิดเสื้อผ้าตัวละครแบบในอนิเมะด้วย ซึ่งทางค่ายเกมก็หาสนใจไม่เพราะถ้าตลาดคุณไม่ใหญ่เท่าพี่จีนก็อย่างหวังว่าเขาจะสนใจ เหมือนคนที่ไม่ใช่ทำให้ตายเธอก็ไม่เห็น (เกี่ยวอะไรกัน)

My Hero Academia

งานเผาจนไม่มีเวลาแก้เลยเอาถมขาวมาปิด จาก EX-ARM

EX-ARM

คราวนี้มาดูความเข้าใจผิดระหว่างคนดูกับคนสร้างอนิเมะที่เข้าใจไปคนละแบบกัน ซึ่งจากทั้งหมดที่ผ่านในการเซนเซอร์แบบต่าง ๆ ที่เราได้เห็นนั้น มันมักจะเกิดขึ้นจากความตั้งใจจากทีมงานสร้างอนิเมะเพื่อให้การ์ตูนเรื่องนั้นสามารถฉายทางทีวีได้ หรืออาจจะเป็นเพราะผู้ใหญ่ในประเทศนั้น ๆ สั่งทีมงานเซนเซอร์เอง โดยที่ทางทีมสร้างอนิเมะไม่ได้ทำก็มี แต่ในกรณีของอนิเมะเรื่อง ‘EX-ARM’ ที่นอกจากเรื่องราวดราม่าของงานเผาที่น่าจะมาจากการเร่งผลิต จนคุณภาพ ‘CG’ ในเรื่องออกมาแย่กว่ามาตรฐาน ก็มีฉากที่กลายเป็นประเด็นที่เกี่ยวกับการจูบในตำนานของสองตัวละครที่เป็นเพศเดียวกัน ที่ฉากนี้ดันถูกเซนเซอร์ด้วยแสงสว่างเสียอย่างนั้น (รูปประกอบด้านล่าง) จนทำเอาแฟน ๆ คนดูต่างไม่พอใจและโวยวายว่า “แค่ผู้หญิงจูบกันมันผิดนักหรอ” จนกลายเป็นประเด็นมากมายให้พูดถึงทั้งความเท่าเทียมทางเพศและสิ่งต่าง ๆ ซึ่งทาง ‘AniTuber Canipa’ ผู้ผลิตอนิเมะก็ไม่ได้ออกมาอธิบายอะไรในเรื่องนี้ (เพราะเรื่องโดนด่าว่างานเผาก็เถียงไม่ออกแล้ว) แต่ทางแฟน ๆ ที่คิดวิเคราะห์แยกแยะก็ออกมาบอกว่า ไม่แน่ที่ทางทีมสร้างอนิเมะปิดขาวในฉากจูบนี้ น่าจะมาจากการเร่งรีบผลิตของทีมสร้างที่อาจจะไม่มีเวลาปรับภาพแต่งรูปการจูบของฉากนี้ได้ เพราะการจูบกันของตัวละครต้องปรับโมเดลใบหน้าตัวละครทั้งสองคนใหม่ ซึ่งทำให้เสียเวลากับฉากไม่กี่วินาทีนี้แต่มันเสียเวลาแต่ง ‘CG’ นาน เลยปิดขาวเพื่อเป็นการลดเวลาทำงานจะได้เอาเวลาส่วนนี้ไปทำ (เผา) อย่างอื่นแทน หรือจะสรุปง่าย ๆ (ความคิดเห็นของแฟน ๆ คนดู) คิดว่านี่ก็คือหนึ่งในการเผาของทีมสร้างไม่ใช่เพราะต้องการเซนเซอร์อะไรหรอก

EX-ARM

พี่จีนกับการเปลี่ยนสีเลือดจนท่านผู้เจริญคิดไปไกล จาก Spy x Family

 Spy x Family

ถ้าใครที่ติดตามข่าวสารวงการอนิเมะหรือเป็นคนเล่นเกมด้วย จะทราบดีว่าพี่จีนเรานั้นขึ้นชื่อเรื่องของการเซนเซอร์ทุกอย่าง เปลี่ยนทุกแบบที่มันอาจจะไปกระตุ้นให้คนในชาติอยากใช้ความรุนแรง (ที่เราก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าเพราะอะไร) ดังนั้นเกมไหนที่รุนแรงไปมีฉากไม่เหมาะสมพี่จีนเราจัดการจัดหั่นลบหรือสั่งให้เปลี่ยน ไม่อย่างนั้นจะไม่ให้ฉายในประเทศตน เพราะอย่างที่เรารู้ ๆ กันว่าประเทศนี้เป็นตลาดที่ใหญ่ใคร ๆ ก็อยากเข้ามา และเมื่อตัวเองใหญ่ก็สั่งได้ทุกอย่างจนคนสร้างอนิเมะเกมต้องยอมทำตาม และเป็นข่าวให้หลายคนเอาการเซนเซอร์ของพี่จีนมาแซะกันอย่างสนุก จนการมาถึงเรื่องราวของการ์ตูนครอบครัวสุดเพี้ยวอย่าง ‘Spy x Family’ ก็น่าจะโดนอะไรบ้างแน่นอนถ้าไปฉายเรื่องนี้ ซึ่งก็มีจริง ๆ กับฉากที่ตัวคุณแม่สมัยเด็กที่มีเลือดเต็มหน้า (รูปประกอบด้านล่าง) ถูกเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีขาว ทำให้หลายคนแซวพี่จีนว่าเปลี่ยนรูปปกติเป็นรูป 18+ ให้ท่านผู้เจริญคิดไปไกล จนเรามาทราบทีหลังว่ารูปนี้คือการปั่นของแฟน ๆ ที่ต้องการแซะพี่จีน เพราะคนที่รู้มาจากประเทศจีนบอกว่ามันไม่จริงฉากนี้ก็เลือดสีแดงนี่ปกติไม่มีการเปลี่ยนสีแต่อย่างใด (ถ้าเปลี่ยนจริงคงเฮฮาน่าดู) แต่ข่าวที่บอกว่าประเทศนี้ไม่ให้มีรูปตุ๊กตาหมีพูห์นี่คือของจริงนะ

 Spy x Family

เห็นหน้าอกเด็กผู้ชายเดี๋ยวเกิดอารมณ์ จาก DragonBall Z Kai

DragonBall Z Kai

ปิดท้ายกับเรื่องราวที่ถ้าไม่หยิบมาพูดถึงบทความนี้คงขาดความสมบูรณ์ไปในทันที กับการเซนเซอร์ในตำนานที่แม้แต่ในประเทศอื่น ๆ ก็งงว่าทำไปเพื่ออะไร กับการเซนเซอร์หน้าอกเด็กผู้ชายที่กำลังจะแปลงร่างเป็นลิงยักษ์ในเรื่อง ‘DragonBall Z Kai’ ที่สำหรับใครไม่รู้ว่า ไค ‘Kai’ คือใครและทำไมต้องไคก็จะบอกใคร ๆ ให้รู้ว่า ‘DragonBall Z Kai’ นั้นคือการหยิบซีรีส์ ‘DragonBall’ มาทำให้ตั้งแต่ต้นตามมังงะทุกอย่างเพื่อความสมบูรณ์ และเมื่อทางญี่ปุ่นเอามาสร้างใหม่ทางบ้านเราก็ซื้อมาฉายใหม่เช่นกัน และคราวนี้ก็มีประเด็นเรื่องของการเซนเซอร์ในฉากที่เด็กชาย โกฮัง (Gohan) ที่กำลังมองพระจันทร์ในตอนกลางคืนแบบไม่เต็มใจ จนทำให้เด็กชายคนนี้แปลงร่างเป็นลิงยักษ์ ซึ่งประเด็นมันอยู่ตรงนี้ที่ระหว่างโกฮังแปลงร่างทางบ้านเราได้เซนเซอร์หน้าอกโกฮัง (รูปประกอบด้านล่าง) ทั้งที่เขาก็เป็นเด็กผู้ชายการเห็นหน้าอกจึงไม่น่าแปลกอะไร แต่ทางช่องกลับเซนเซอร์จนหลายคนงงว่าการเห็นหน้าอกเด็กผู้ชายมันชวนให้คิดอะไรได้หรอ แถมฉากนี้ก็ไม่กี่วินาทีไม่มีใครสนใจดูหรอก (แต่พอเซนเซอร์ก็สนใจดูทันที) ซึ่งจนถึงตอนนี้เราก็ไม่รู้ว่าคนเซนเซอร์คิดอะไร แต่หลายคนก็หาข้อสรุปว่า ไม่แน่ตอนที่โกฮังขยายร่างหน้าอกของโกฮังจู่ ๆ ก็ขยายใหญ่ขึ้นจนเหมือนหน้าอกผู้หญิง (เหมือนตรงไหนเรามีรูปเปรียบเทียบ) เลยกลัวว่าเด็ก ๆ จะคิดไปไกลเลยเซนเซอร์มัน แต่หลายคนก็แซวว่าไม่แน่คนเซนเซอร์เองต่างหากที่อาจจะหวั่นไหวกับหน้าอกโกฮัง จนคิดว่าคนอื่นจะคิดเหมือนตัวเองก็ได้ใครจะรู้

DragonBall Z Kai

เป็นอย่างไรกันบ้างกับเหตุผลที่ทางทีมสร้างอนิเมะต้องทำการเซนเซอร์ในการ์ตูนที่เราดู เพื่อศึกษาเป็นความรู้เอาไว้ เพราะถ้าเรามองอีกมุมที่เกี่ยวกับการเซนเซอร์ ที่ถ้าตัดมุมมองด้านลบทิ้งไป การเซนเซอร์นี้ก็เกิดขึ้นมาจากความหวังดีของคนที่ไม่รู้ และกลัวว่าเด็ก ๆ จะเกิดอารมณ์หรือคิดไม่ดีกับสื่อที่ควรเป็นสีขาวอย่างการ์ตูน แต่ทางนั้นก็ลืมไปว่าเด็กสมัยนี้มีความคิดสติปัญญามากกว่าเด็กรุ่นก่อน ที่พวกเขาและเธอเหล่านั้นสามารถคิดวิเคราะห์แยกแยะได้มากกว่าพวกเราที่เป็นผู้ใหญ่เสียอีก ดังนั้นสิ่งที่เราต้องการคือการปรับเปลี่ยนความคิดให้กว้างขึ้นและเข้าใจเด็ก ๆ ให้มากกว่านี้ อย่าให้เด็ก ๆ ว่าพวกเราเป็นไดโนเสาร์หลงยุคมันอายเด็ก ๆ เขานะ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส