Our score
7.5[รีวิวเว็บตูน] “Double Click” รวมทีมเพื่อชิงที่หนึ่งในวงการอีสปอร์ต !!
จุดเด่น
- เคมีตัวละครทำออกมาได้น่าสนใจดี
- งานภาพและการเล่าเรื่องน่าติดตาม
- คาแรกเตอร์ตัวละครในเกมค่อนข้างดี มีภาพจำ
จุดสังเกต
- ต้องทำความเข้าใจในเกมที่ตัวละครเล่นถึงจะเริ่มอ่านสนุก
- มีการใช้ศัพท์เกมค่อนข้างเยอะ คนที่ไม่ค่อยรู้ศัพท์อาจงงบ้างช่วงเริ่ม
แว่บแรกที่ผมเห็นการ์ตูนเรื่อง Double Click ในเว็บตูน บอกตามตรงว่าในใจผมก็มีแอบคิดแล้วว่าเอาอีกแล้วต้องเป็นแนวเกมโลกเสมือนไม่ก็หลุดเข้าไปในเกมแล้วหาทางออกไม่ได้ หรือไม่ก็ต้องเป็นการ์ตูนที่มีความแฟนตาซีจ๋า ๆ แน่เลย แต่ผิดคาดนี่เป็นการ์ตูนเกี่ยวกับเกมก็จริงแต่มันเกี่ยวกับคนเล่นเกมจริง ๆ และเหตุการณ์ในเรื่องมันสามารถเกิดขึ้นได้จริง ๆ บนโลกที่เราอยู่ ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้มีความเรียลสูงพอสมควร นั่นจึงทำให้การ์ตูนเรื่องนี้ค่อนข้างจะทัชใจบรรดาเกมเมอร์ระดับนึงเลย
เรื่อง – Double Click
ผู้แต่ง – KIM JANGHUN
ภาพโดย – PARK SUBONG
เรตติ้งปัจจุบันใน Webtoon – 9.65
แนว – แอ็กชัน
ปัจจุบันมี 26 ตอน (ยังไม่จบ)
แนะนำตัวละครหลัก
ซองจีโฮ – ตัวเอกของเรื่องตำแหน่งซัปพอร์ต
อารี – กัปตันทีม ตำแหน่งดีลเลอร์
อูจิน – หัวโจกของห้อง ตำแหน่งฮีลเลอร์
จินยง – เพื่อนพระเอก ตำแหน่งแทงก์
เรื่องย่อ
ซองจีโฮ ในวัยมัธยมต้นเค้าอาศัยอยู่บ้านพร้อมกับมีคอมกาก ๆ อยู่เครื่องนึงที่ไม่สามารถโหลดเกมอะไรมาเล่นได้เลย เว้นแต่เพียงเกมเดียวที่สเปกคอมของเค้าพอจะรองรับไหวนั่นก็คือเกม One Sword แค่เกมเดียวเท่านั้น และเหตุนี้เองทำให้ตลอดเวลาที่จีโฮมีเวลาว่างเค้าก็จะมาเล่นเกมนี้และไต่เต้าจนกลายเป็นอันดับ 1 ของโลกได้ในช่วงนั้น ถึงแม้ว่าทั้งเกมจะมีคนเล่นแค่ 300 คนก็เถอะ (ฮา) แต่ทว่าแน่นอนไม่มีเกมใดในโลกที่จะอยู่ได้ตลอดไปเพราะวันที่เกม One Sword ต้องปิดเซิร์ฟไปตลอดกาลก็มาถึง และนั่นเองก็เป็นเกมแรกและเกมสุดท้ายที่จีโฮเล่นในชีวิต
จนกระทั่งเวลาผ่านไป 2 ปี มันคือช่วงเวลาที่จีโฮไม่คิดที่จะกลับมาเล่นเกมอีกเลย แม้จะโดนเพื่อนสนิทอย่าง จินยง ชักชวนไปลองเล่นเกมหลากหลายแนวแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่มีเกมไหนที่จะทำให้เค้าหลงไหลได้มากเท่าเกม One Sword อีกแล้ว จนกระทั่งจีโฮได้ไปสะดุดตากับเกมนึงเข้า แม้กราฟฟิกจะดูดีขึ้นแต่ทว่ารูปแบบและจังหวะเกมเพลย์มันช่างคล้ายกับเกมที่เค้าเคยเล่นจนเป็นที่ 1 ในโลกเมื่อก่อนซะเหลือเกิน ใช่แล้วครับ นี่คือเกม One Sword กลับชาติมาเกิดใหม่ในเวอร์ชันอัปเกรด และใช้ชื่อเกมว่า Sword Rush ซึ่งในปัจจุบันถือว่าเป็นเกมที่มีชื่อเสียงและมีผู้เล่นอยู่ทั่วทุกมุมโลกต่างจากสมัยก่อนที่มีผู้เล่นเพียง 300 คนเท่านั้น และนั่นเองคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้จีโฮเกิดแรงบัลดาลใจอยากจะเป็นที่ 1 อีกครั้งกับเกมนี้ เพียงแต่ว่าเกมใหม่นี้จะแตกต่างจากเกมเก่าอยู่อย่างเดียวเท่านั้น คือจะเน้นเล่นเป็นทีมมากกว่าฉายเดียว
รีวิวความรู้สึกหลังอ่าน
*ไม่มีสปอยล์
คลาสสิกสไตล์การ์ตูนทีมเวิร์ก
นี่คือการ์ตูนอีก 1 เรื่องที่มีจุดยืนในการเล่าเรื่องของกลุ่มทีมที่จับหลากคนหลากนิสัยให้มาอยู่ร่วมกัน แต่ก็มีความฝันเดียวกันคือการเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตและแข่งขันเพื่อเป็นอันดับ 1 ซึ่งการดำเนินเรื่องปกติของการ์ตูนแนวทีมเวิร์กแบบนี้ก็ค่อนข้างจะเหมือนกันไปหมด คือจะโยนความไม่เข้ากันของตัวละครในทีมใส่คนอ่าน บางคนก็มั่นใจในตัวเองเกิน บางคนก็ไม่ฟังทีม บางคนก็หวังพึ่งคนอื่นมากไป จนเจอกับปัญหาต่าง ๆ มากมายตอนแข่งขันและก็ค่อย ๆ ปรับตัวและสนิทกันขึ้นเรื่อย ๆ ก็ถือว่าเป็นการเดินเรื่องแบบเพลย์เซฟ ไม่ค่อยมีความแปลกใหม่สักเท่าไหร่ แต่แปลกตรงที่มันก็ไม่ได้แย่อะไรเลยที่เลือกดำเนินเรื่องแบบนี้ เพราะมันก็ยังคงเป็นอะไรที่คลาสสิกและน่าติดตามตลอดการอ่าน แถมเคมีของตัวละครในเรื่องก็น่าสนใจดีด้วย
งานภาพที่เหมาะสมกับแนวเรื่อง
สำหรับการ์ตูนเรื่องนี้ถือว่ามีรสชาติให้ผู้อ่านได้สัมผัสมากมายหลายอย่างอยู่นะ ไม่ว่าจะตลก แอ็กชัน ดราม่า และความตึงเครียด แม้โดยรวมจะยังไม่รู้สึกว่าการ์ตูนจะพาเราไปสุดในด้านไหน จะเครียดก็ไม่ได้เครียดมาก จะดราม่าก็ยังไม่ถึงใจ จะมีก็แต่ความฮาเนี่ยแหละที่ใส่มาไม่ยั้งจริง ๆ (ฮา) แต่โดยรวมรสชาติของการ์ตูนเรื่องนี้ก็ค่อนข้างกลมกล่อมเลยทีเดียว พอบวกเข้ากับลายเส้นที่แสดงมู๊ดแต่ละซีนออกมามันช่างเข้ากั๊นเข้ากันอย่างบอกไม่ถูก บทจะฮาก็วาดจะดูติ๊งต๊องไปเลยแถมชอบวาดล้อเลียนมีมด้วย (ตรงจุดนี้ผมชอบมาก) แต่บทจะแอ็กชันช่วงเกมลายเส้นก็เท่ได้ใจ แถมคาแรกเตอร์ดีไซน์ก็ออกแบบมาได้น่าจดจำดี
เป็นการ์ตูนอีก 1 เรื่องที่พระเอกเทพมาก
และแน่นอนว่าการที่พระเอกมีดีกรีเป็นถึงอดีตแชมป์โลกของเกม One Sword นั้นไม่ได้ใส่เข้ามาแค่ให้ตัวละครดูมีมิติเฉย ๆ เท่านั้น เพราะสิ่งนี้จะเป็นการนำไปสู่เรื่องราวตบเกรียนมากมายที่คนดูจะรู้สึกสะใจ อารมณ์แบบโดนทีมคนอื่นดูถูกเพราะพระเอกยังเป็นตัวละครไม่มีแรงก์ในเกม Sword Rush แต่พอแข่งจริงเจอพระเอกตบคว่ำหมดอะไรทำนองนี้ เรียกได้ว่าเป็นการ์ตูนอีกเรื่องนึงที่พระเอกมีซีนโชว์เทพเยอะมาก และนำเสนอออกมาได้ถูกใจคนติดตามสุด ๆ แต่ทว่าความเทพของพระเอกเองก็ไม่สามารถใช้ได้ตลอดเวลานะครับ เพราะถ้าเป็นงั้นก็ไม่ต้องมีทีมแล้วล่ะ ให้พระเอกแบกทีมทั้งเรื่องก็น่าจะแชมป์ไม่ยาก ตรงจุดนี้ขอไม่สปอยล์ละกัน
จุดสังเกต
สำหรับจุดสังเกตของการ์ตูนเรื่องนี้หลัก ๆ เลยก็น่าจะเป็นเรื่องของซีนตอนแข่งเกมที่เราผู้อ่านอาจจะต้องให้เวลาการ์ตูนอธิบายให้เรารู้จักกับเกม Sword Rush สักพักนึงก่อน ว่าเกมนี้มันมีเกมเพลย์ยังไงและตัวละครแบบไหน อารมณ์เหมือนเรานั่งดูคนเล่นเกมแต่พอเค้าเล่นเกมอะไรก็ไม่รู้ที่เราไม่รู้จักมันเลยอินยากนิดนึงในช่วงแรก และการ์ตูนเองก็ไม่ได้อธิบายถึงตัวเกมให้เรารู้ชัดเจนตั้งแต่เริ่ม เราจะรู้เพียงว่านี่คือเกมต่อสู้แบบ 4V4 เท่านั้น บวกกับตัวละครในเกมมันมีค่อนข้างเยอะ สกิลของแต่ละตัวก็ไม่รู้จัก เราจึงต้องค่อย ๆ ซึมซับและเรียนรู้กับเกมที่ตัวละครในเรื่องเล่นไปเรื่อย ๆ ถึงจะเริ่มอ่านแล้วสนุก
และอีกจุดนึงคือศัพท์ที่ตัวละครในเรื่องนี้ใช้ส่วนมากก็จะเป็นศัพท์ในวงการเกมซะส่วนใหญ่ ใครที่พอจะเล่นเกมอยู่บ้างน่าจะพออ่านแล้วเข้าใจ แต่ถ้าคุณคือผู้อ่านที่ไม่ค่อยเสพเกมสักเท่าไหร่ อ่านแรก ๆ ก็อาจจะมีงงเล็กน้อยได้
สรุป
ถือว่าเป็นการ์ตูนอีก 1 เรื่องที่นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับเกมได้น่าสนใจและสนุกดี หากคุณที่ชอบอ่านการ์ตูนเกี่ยวกับเกมแต่ไม่ชอบเรื่องที่แฟนตาซีจ๋า ๆ การ์ตูนเรื่องนี้น่าตอบโจทย์คุณเลยล่ะ แม้พล็อตเรื่องและการดำเนินเรื่องจะดูซ้ำซากจำเจตามสูตรสำเร็จของการ์ตูนรวมทีมแบบนี้ แต่ในแง่เคมีของตัวละครต่าง ๆ ถือว่าทำออกมาได้ดีและน่าติดตามมาก เป็นการ์ตูนอีก 1 เรื่องที่ค่อนข้างครบรส บทจะฮาก็ฮาบทจะจริงจังก็ตึงดี (แต่ส่วนใหญ่จะหนักไปทางฮามากกว่า) ช่วงแรกอาจจะต้องทำความเข้าใจกับเกม Sword Rush ที่ตัวละครในเรื่องเล่นให้เข้าใจก่อน แรก ๆ ที่อ่านอาจจะยังไม่ค่อยอินสักเท่าแต่พอเครื่องเริ่มติดเท่านั้นแหละบอกเลยว่าสนุกจนได้เผลอเปย์ไม่รู้ตัวแน่นอน
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส