ย้อนอดีตการ์ตูนเก่า Steel Ball Run ภาคที่ 7 ของซีรีส์ JoJo’s Bizarre Adventure ที่คุณหลงรัก

เมื่อพูดถึงการ์ตูนเรื่อง ‘JoJo’s Bizarre Adventure’ หรือในชื่อไทยอย่าง “โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ” หลายคนคงจะได้ดูการ์ตูนซีรีส์นี้ที่มีฉายบน ‘Netflix’ ตั้งแต่ภาคแรกจนมาถึงภาคล่าสุดอย่างภาคที่ 5 ของซีรีส์ไปเรียบร้อยแล้ว ที่เมื่อจบภาคที่ 5 อย่างภาค ‘Stone Ocean’ แล้ว แฟน ๆ โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษต่างก็คาดหวังและรอคอยภาคที่หลายคนชื่นชอบที่สุดในซีรีส์ ‘JoJo’s Bizarre Adventure’ มาสร้างเป็นอนิเมะต่อ นั่นคือภาคการแข่งม้าที่ชื่อว่า ‘Steel Ball Run’ ซึ่งถ้านับกันจริง ๆ ภาคนี้คือภาคที่ 6 ในจักรวาลอนิเมะ แต่มันคือภาคที่ 7 ในจักรวาลมังงะ เพราะ ‘Netflix’ นับรวมภาค 1 กับ 2 ในมังงะเป็นภาคเดียว ที่หลายคนต่างก็ลุ้นว่าทาง ‘Netflix’ จะเอามาให้เราดูไหม แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้นเราย้อนอดีตทำความรู้จักการ์ตูนเรื่องนี้กันว่ามันมีความเป็นอย่างไร และมันสนุกขนาดไหนทำไมแฟน ๆ โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษถึงยกย่องภาคนี้ให้เป็นหนึ่งในภาคที่ดีที่สุดของซีรีส์ เรามาขี่ม้าแล้วดูไปพร้อมกันเลย

Steel Ball Run จักรวาลใหม่ของผลต่อเนื่องจากภาค Stone Ocean ที่ส่งต่อมาถึงภาคนี้

เริ่มต้นเรื่องแรกเรามาทำความรู้จักกับภาคที่ 7 (ขอนับตามฉบับมังงะเป็นหลักที่แฟน ๆ จะคุ้นเคยมากกว่า) ของจักรวาล ‘JoJo’s Bizarre Adventure’ ที่เรื่องราวจะสานต่อจากตอนจบของภาค ‘Stone Ocean’ ที่ถ้าใครได้ดูฉบับอนิเมะบน ‘Netflix’ จะทราบว่าตัวของ เอนริโก ปุชชี (Enrico Pucci) ตัวร้ายของเรื่องได้ใช้พลังที่ชื่อว่า ‘Made in Heaven’ เร่งเวลาสิ่งต่าง ๆ บนโลกให้เร็วขึ้นไปล้าน ๆ ปีข้างหน้า จนโลกดับสลายก่อนจะเริ่มต้นสร้างโลกใบใหม่จากยุคไดโนเสาร์ขึ้นมาเป็นจักรวาลใหม่ โดยวิญญาณของคนที่อยู่โลกเดิมก็จะไปอยู่บนร่างใหม่แต่เป็นคน ๆ เดิมในยุคเดิมแต่ไม่ใช่คนเดิมแต่เป็นคนใหม่ในร่างเดิม งงเนอะอ่านซ้ำ ๆ ก็หายงงเอง หรืองงกว่าเดิมก็ไม่รู้ สรุปง่าย ๆ มันคือการรีเซตเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ของคนเขียนเรื่องนี้ โดยทิ้งตัวละครเก่า ๆ ที่เกี่ยวโยงกันไปมาทิ้งไปให้หมด เพราะเรื่องราวในจักรวาล ‘JoJo’s Bizarre Adventure’ มันไปไกลเกินกว่าที่คนอ่านยุคใหม่จะตามทัน เลยต้องจัดการนับ 1 กันใหม่ โดยเริ่มต้นเรื่องราวจาก ‘Steel Ball Run’ เป็นต้นมาก่อนจะสานไปยังภาคต่อ ๆ ไปในอนาคต และการนับหนึ่งคราวนี้ก็ได้เปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่างที่เคยมีทิ้งไป อย่างความสามารถของ ‘Stand’ ในเรื่องก็ลดความซับซ้อนลงและเปลี่ยนเนื้อเรื่องให้เข้าใจง่ายดูสนุกขึ้น แต่ก็ยังคงอยู่กับคนในตระกูล ‘Joestar’ เหมือนเดิม ที่นับเป็นการเริ่มต้นที่ดีมาก ๆ สำหรับแฟนใหม่ที่ต้องการรู้จักจักรวาล ‘JoJo’s Bizarre Adventure’ นี้

เป็นภาคที่ดูง่ายที่สุดในจักรวาล JoJo’s Bizarre Adventure

สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งดูอนิเมะ ‘JoJo’s Bizarre Adventure’ จบไปแล้ว และอยากตามอ่าน ‘Steel Ball Run’ หรือมือใหม่ที่ไม่เคยอ่านหรือดูซีรีส์นี้มาเลยก็สามารถเริ่มต้นอ่านและทำความรู้จักเกี่ยวกับ ‘JoJo’s Bizarre Adventure’ จากภาคนี้ได้เลย เพราะทุกอย่างในเรื่องนี้จะเป็นการเริ่มนับ 1 ใหม่จริง ๆ จะมีเพียงกลิ่นอายและตัวละครเก่าบางคนที่กลับมาเรียกคนอ่านเก่า ๆ เท่านั้น เรียกว่าคุณไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยก็ดูได้ดูสนุก และคุณก็จะหลงรักจักรวาล ‘JoJo’s Bizarre Adventure’ จนต้องไปตามหาอ่านและดูภาคเก่า ๆ แน่นอน เพราะเสน่ห์ของการ์ตูนเรื่องนี้คือการต่อสู้ที่ไม่ได้ใช้แค่พละกำลังเข้าต่อกรกันไปมา แต่มันคือการใช้สมองต่อสู้เพื่อเอาชนะอีกฝ่าย ที่ยิ่งอ่านยิ่งดูเราจะยิ่งลุ้นว่าตัวเอกจะเอาชนะอย่างไร กับเรื่องราวเบื้องหลังของตัวละครที่แต่ละตัวก็ชวนปวดตับมาก ๆ ที่ถ้าใครเป็นแฟนซีรีส์นี้จะทราบดีเลยทีเดียว

Gyro Zeppeli และ Johnny Joestar สองตัวเอกในภาคนี้

และเมื่อเป็นการเริ่มต้นจักรวาลใหม่ทั้งที ตัวเอกของภาคนี้ก็ถูกเปลี่ยนที่จากเดิมจะมีตัวพระเอกหลักแค่คนเดียว แต่คราวนี้ตัวพระเอกในการดำเนินเรื่องจะมีสองคน นั่นคือชายหนุ่มสวมหมวกท่าทางยียวนกวนบาทาผู้คนได้ตลอดเวลา กับตุ๊กตาหมีสุดโปรดของเขาที่มีความสามารถในการควบคุมใช้ลูกเหล็กปริศนาในการแข่งขัน ไจโร เซ็ปเปลี่ (Gyro Zeppeli) กับคนในตระกูล ‘Joestar’ คนใหม่ที่เอามาแนะนำให้เรารู้จักกับ โจนี่ โจสตาร์ (Johnny Joestar) อดีตนักแข่งม้ามืออาชีพดาวรุ่งพุ่งแรง แต่สุดท้ายด้วยความห้ามเป้งหลงในชื่อเสียงเลยทำให้ตัวเองถูกยิงจนพิการท่อนล่างนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิต และระหว่างที่โจนี่มาดูการแข่งขัน ‘Steel Ball Run’ เขาก็บังเอิญไปจับโดนลูกเหล็กของไจโร่เข้าและทำให้ขาเขากลับมาขยับได้อีกครั้ง จนโจนี่อยากรู้ความลับของพลังลูกเหล็กนั้นเขาจึงลงแข่ง ‘Steel Ball Run’ ในวินาทีสุดท้าย เพื่อหาทางไขปริศนาพลังนี้ให้เขากลับมาเดินได้อีกครั้ง โดยเรื่องราวหลัก ๆ จะเป็นการตามทั้งสองคนในการแข่งม้าไปตามสถานที่ต่าง ๆ ที่บทบาทของทั้งคู่ไม่มีใครเด่นเกินเรียกว่าใส่บทให้ทั้งคู่เท่าเทียมและร่วมมือกันต่อสู้กับเหล่าผู้ใช้ ‘Stand’ ได้อย่างสนุก เพราะทั้งคู่นั้นไม่มีพลัง ‘Stand’ ในการต่อสู้ ซึ่งถ้าใครเคยอ่านหรือดูจะทราบว่ากฎของ ‘Stand’ หรือพลังพิเศษนี้ต้องเป็นผู้ใช้ ‘Stand’ ด้วยกันเท่านั้นถึงจะเอาชนะกันได้ และคนธรรมดาจะมองไม่เห็น ‘Stand’ การต่อสู้ที่ต้องใช้สมองคู่กับการแข่งม้าที่เป็นการต่อสู้ระหว่างคนธรรมดา (และคนพิการ) กับคนที่มีพลังพิเศษที่สู้กันได้โคตรสนุกกว่าที่คุณคิด

หัวใจหลักของการเดินทางคือการแข่งขันขี่ม้า Steel Ball Run และเบื้องหลังการแข่ง (มีการเปิดเผยเนื้อเรื่องบางส่วน)

อีกหนึ่งสิ่งที่คุณต้องทราบก่อนว่า เรื่องราวใน ‘Steel Ball Run’ คือการแข่งม้าระยะทางไกลข้ามรัฐจากซานดิเอโกจนถึงนิวยอร์กในระยะทางกว่า 6,000 กิโลเมตร ที่แฟนการ์ตูนภาคนี้คงจะเบ้ปากมองบนแล้วพูดว่า “แน่ใจนะว่าเป็นการ์ตูนแข่งม้า” ที่แน่นอนว่าตอนแรกมันก็คือการแข่งม้าจริง ๆ ที่เน้นเทคนิคการโกงและสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการแข่งม้า ก่อนที่ภายหลังโทนเรื่องจะเปลี่ยนจากการแข่งม้ามาเป็นการต่อสู้ของผู้ใช้ ‘Stand’ และเบื้องหลังการแข่งขันครั้งนี้คือการตามหาศพศักดิ์สิทธิ์ ที่สามารถให้พลังอำนาจแก่ผู้ครอบครองรวมถึงพลัง ‘Stand’ แบบชั่วคราวด้วย ซึ่งใครที่พกชิ้นส่วนศพไว้ในตัว (ศพจะฝังในตัวเรา) ก็จะเหมือนหลวงปู่เค็มที่จะมีพลัง ‘Stand’ แต่ถ้าซากศพออกจากตัวพลังก็หาย การตามหาซากศพประหนึ่งลูกแก้วมังกรจาก ‘Dragon Ball’ จึงเริ่มขึ้นในการแข่งนี้ เพราะเราไม่รู้ว่าซากศพกระจัดกระจายไปที่ไหนบ้างทั่วอเมริกาอันกว้างใหญ่ จนต้องให้นักแข่งหลายพันคนเป็นตัวช่วยหา ประมาณว่าตอนแข่งม้ามันต้องมีคนบังเอิญไปเจอซากศพที่ว่านี้บ้างละ เพราะโชคชะตา (ซากศพ) จะเป็นตัวกำหนดว่าใครจะได้ครอบครองซากนี้ และพอรู้ก็จะไปแย่งมันมาเพื่อรวบรวมให้ครบร่าง นอกจากนี้ก็ยังมีการตามฆ่าไจโร่เพื่อไม่ให้เขาแข่งชนะครั้งนี้ที่ไม่เกี่ยวกับซากศพ แต่เป็นเรื่องราวของความเป็นคนดีของไจโร่ ที่ต้องการช่วยเด็กชายจากการถูกประหารในฐานะกบฏ ทั้งที่เด็กคนนี้เป็นแค่เด็กรับใช้ขัดรองเท้าที่เจ้านายเป็นกบฏ เด็กชายเลยโดนหางเลขไปด้วย ซึ่งสิ่งที่ไจโรทำก็คือการสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ เมื่อถึงตอนนั้นเขาก็จะได้รับการขออะไรก็ได้จากกษัตริย์ ไจโร่ก็จะขอให้ไว้ชีวิตเด็กชายคนนี้ ซึ่งบางคนที่ไม่ต้องการให้ไจโร่ทำสำเร็จก็จะมาขัดขวาง เรียกว่ามีปมมากมายรอให้คุณติดตาม และยังมีตัวละครอื่น ๆ ที่ถูกเพิ่มมาในเรื่องที่ไม่ใช่แค่สองคนนี้ ที่เป็นการขยายเรื่องราวที่ลึกและน่าสนใจกว่า ‘JoJo’s Bizarre Adventure’ ทุกภาคที่ผ่านมาเสียอีก

พลัง Stand จัดหนักจัดเต็มเข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน

อย่างที่บอกไปในตอนต้นว่าการรีเซตจักรวาลใหม่ครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เป็นการนับหนึ่งให้ผู้อ่านใหม่ได้รู้จักจักรวาล ‘JoJo’s Bizarre Adventure’ ที่ในหลาย ๆ ภาคมันเกี่ยวโยงกันจนคนที่ไม่ได้ตามอ่านตามดูมาตั้งแต่ต้นคงจะงงจนไม่อยากตามดูหรืออ่าน รวมถึงพลังความสามารถของ ‘Stand’ ในภาคก่อน ๆ ก็หลุดโลกแถมยังต้องเอามาตีความซ้ำไปซ้ำมากว่าจะเข้าใจ เมื่อเป็นอย่างนั้นอาจารย์ผู้เขียนจึงใช้การเริ่มใหม่นี้เปลี่ยนทุกอย่างให้ย่อยง่ายขึ้น รวมถึงพลัง ‘Stand’ ในเรื่องที่ถ้าจะให้ยกตัวอย่างง่าย ๆ แบบไม่สปอยล์ก็คงจะมีการใช้เล็บตัวเองเป็นเหมือนกระสุนปืนยิงใส่ศัตรู พลังในการควบคุมลูกโป่งสัตว์ พลังในการควบคุมฝน ควบคุมเชือกและแยกชิ้นส่วนตัวเองไปตามเชือก ไปจนถึงการเปลี่ยนร่างตัวเองและสิ่งมีชีวิตเป็นไดโนเสาร์ ‘Velociraptor’ ที่ในตอนแรก ๆ เราจะงงว่าตัวละครเหล่านั้นมีพลังอะไร ที่พอเฉลยออกมาคนอ่านก็จะเข้าใจระบบการทำงานของมันทันที จะมีแค่ตัวหัวหน้าใหญ่ของเรื่องที่มีพลังชื่อ ‘D4C’ ที่ต้องมานั่งคิดวิเคราะห์แยกแยะเล็กน้อยว่าพลังของพี่แกคืออะไร แต่พอคุณเข้าใจระบบการทำงานของมันคุณจะอ่านเรื่องนี้ได้สนุกมาก ๆ เลยทีเดียว ซึ่งเมื่อเทียบกับภาคก่อน ๆ ที่ต้องเอามานั่งคิดว่ามันคืออะไรยังไง ภาคนี้ดูแล้วเข้าใจง่ายจนคุณไม่ต้องมานั่งคิดให้ปวดหัว แถมไอ้พลังเล็ก ๆ พวกนั้นพอถูกเอามาใช้กับคนที่เป็นงาน จากพลังง่อย ๆ กระจอก ๆ ก็กลายเป็นพลังโคตรแกร่งได้เลยก็มี

ตัวละครเก่าที่เรารู้จักในภาคเก่า ๆ กลับมา (มีการเปิดเผยเนื้อเรื่องบางส่วน)

และด้วยเนื้อหาเรื่องราวของ ‘Steel Ball Run’ เป็นการเริ่มนับหนึ่งใหม่ที่เราได้กล่าวไปในตอนต้นแล้วว่า ทุกตัวละครในจักรวาลนั้นที่แม้แต่คนที่ตายไปแล้วก็จะได้กลับมาเกิดใหม่ในร่างตัวเองในยุคที่ตัวเองอยู่ แต่เขาเธอคนนั้นจะไม่มีความทรงจำจากโลกเดิม ซึ่งเรื่องราวของ ‘Steel Ball Run’ จะเกิดขึ้นในปี 1890 เราจึงได้เห็นตัวละครในตอนนั้นอยู่ด้วยอย่าง ดิเอโก้ แบรนโด (Diego Brando) หรือ ดิโอ (Dio) ที่เรารู้จักก็กลับมาด้วย ซึ่งการกลับมาของเขาคราวนี้ก็เป็นเรื่องราวใหม่ที่ไม่ได้เกี่ยวกับคนบ้าน ‘Joestar’ แล้วแต่ชีวิตแกก็ยังวนเวียนมีกรรมเก่ากับคนตระกูลนี้ ที่ในการแข่งขัน ‘Steel Ball Run’ ครั้งนี้ดิโอเราก็เป็นหนึ่งในตัวละครเด่นที่เป็นหนึ่งในตัวละครสำคัญในเรื่อง ที่ถ้าถามว่าเขาเป็นคนดีไหมและทำเพื่ออะไรก็บอกสั้น ๆ คำเดียวว่า “มีจักรวาลไหนที่มันเป็นคนดีบ้าง” ได้เลยทีเดียว และในส่วนของ ‘Stand’ นั้นจะมี 2 แบบเพราะมีตัวละครดิโอ 2 คน โดยคนแรกนั้นจะมีพลังในการเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตเป็นไดโนเสาร์ ‘Velociraptor’ ที่ชื่อ ‘Scary Monsters’ กับดิโออีกหนึ่งคนที่เราคุ้นเคยแต่เขาไม่ใช่ดิโอคนนั้นที่เรารู้จัก แต่เป็นดิโอที่มีพลังในการหยุดเวลาจากโลกคู่ขนานอื่น นอกจากนี้ก็มีแขกรับเชิญที่ออกมาเดี๋ยวเดียวก็ออกจากการแข่งขันอย่าง มูฮัมหมัด อับดุล (Muhammad Abdul) นอกนั้นก็จะมีการกล่าวถึงอีกหลาย ๆ อย่างจากภาคเก่า ไม่ว่าจะเป็นมูลนิธิ ‘Speedwagon’ หรือชื่อตัวละครในภาคเก่า ๆ บางคนเพื่อให้คนอ่านเก่า ๆ ได้รู้ว่ามันคือจักรวาลเดียวกันเท่านั้น

สานต่อไปภาคต่อไปยังภาคที่ 8 JoJoLion

ปิดท้ายกับตอนจบของภาค ‘Steel Ball Run’ ที่ถูกนับว่าเป็นภาค 1 ของการเริ่มจักรวาลใหม่ พอมาถึงภาค 2 ของซีรีส์อย่าง ‘JoJoLion’ ก็จะเป็นการสานต่อเรื่องราวเนื้อหาบางส่วนของภาค ‘Steel Ball Run’ ที่คราวนี้ตัวเรื่องจะหยิบเนื้อหาภาคที่  4 อย่าง ‘Diamond Is Unbreakable’ มาเปลี่ยนแปลงใหม่เพื่อเอาใจแฟนเก่าเหมือนเดิม แต่แฟนใหม่ที่เพิ่งเริ่มตามอ่านจาก ‘Steel Ball Run’ มาแล้วก็เท่ากับคุณได้ปูพื้นฐานของจักรวาล ‘JoJo’s Bizarre Adventure’ ไปแล้ว คราวนี้พลังของ ‘Stand’ จะซับซ้อนขึ้นมาอีกระดับ อย่างพลังในการช่วงชิงบางสิ่งบางอย่างมาได้แบบชั่วคราว หรือจะเป็นพลัง ‘Stand’ แบบ ‘GPS’ ที่เมื่อเราตั้งใจจะไปไหน ‘Stand’ จะพาเราไปแบบเราไม่ตั้งใจและใช้ตามหาคนได้ด้วย หรือพลังในการสร้างเงินขึ้นมาแบบไม่จำกัด เปลี่ยนคนให้เป็นของเหลว ไปจนถึงพลังรูปแบบง่าย ๆ อย่างการสร้างเส้นผม พลังพับตุ๊กตากระดาษแล้วมีชีวิต ‘Stand’ ดมกลิ่นและสร้างรูปร่างของกลิ่นที่ดม ไปจนถึงเปลี่ยนเท้าเป็นส้นสูงหรือหอกเอาไว้แทงคน ที่เป็นการพัฒนารูปแบบพลังให้ซับซ้อนขึ้น ซึ่งสำหรับมือใหม่ที่เพิ่มมาอ่านภาคนี้บอกเลยว่ามีงงแน่นอน ดังนั้นถ้าคุณอยากปูพื้นฐานจริง ๆ ก็ต้องไปอ่าน ‘Steel Ball Run’ ที่เมื่ออ่านจบก็มาอ่าน ‘JoJoLion’ ต่อได้เลย และในอนาคตจะมีภาคใหม่ตามมาแน่นอนใครที่เป็นโจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษบอกสั้น ๆ คำเดียวว่าห้ามตายกันเลยทีเดียว

ก็จบกันไปแล้วกับย้อนอดีตการ์ตูนเก่า ‘Steel Ball Run’ ภาคที่ 7 ของซีรีส์ ‘JoJo’s Bizarre Adventure’ ที่ถ้าคุณเป็นแฟนใหม่ที่เพิ่งตามมาจากอนิเมะภาคนี้คืออีกหนึ่งตอนที่คุณไม่ควรพลาด เพราะมันคือจุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่และทิ้งสิ่งเก่า ๆ เอาไว้เบื้องหลัง กับเรื่องราวที่เรียบง่ายแต่ลุ่มลึกในรายละเอียด ที่แฟนโจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษทุกคนต่างติดใจและขอให้อาจารย์อารากิแข็งแรงอายุยืนไปนาน ๆ เพราะคนอ่านยังรอคอยภาคใหม่อยู่ ทั้งรวมถึงฉบับอนิเมะที่ทุกคนต่างก็รอคอยภาค ‘Steel Ball Run’ ว่าจะมาเมื่อไหร่ ซึ่งแฟน ๆ ก็เชื่อว่าทาง ‘Netflix’ ต้องเอามาทำแน่นอนแค่เมื่อไหร่เท่านั้น ซึ่งถ้ามีข่าวความคืบหน้าเราจะรีบเอามารายงานให้ทราบทันที ยังไงก็ติดตามแบไต๋เอาไว้ได้เลย เพราะที่นี่มีทุกความบันเทิงเพื่อคุณ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส