วันฉาย
23 / 2 / 2566
แนว
ดราม่า, แอ็กชัน, แฟนตาซี
ความยาว
110 นาที
ผู้แต่ง
โคโยฮารุ โกโตเกะ
เรตผู้ชม
PG-13
OUR SCORE
8.4
Our score
8.4[รีวิว] ดาบพิฆาตอสูร: สู่หมู่บ้านช่างตีดาบ – น้ำจิ้มสูตรเด็ด จัดเต็มก่อนศึกใหญ่
จุดเด่น
- CG ตระการตา สมแล้วที่ยืนหนึ่งในอนิเมะที่ภาพสวยที่สุด
- การดีไซน์ซาวด์ที่สุดยอด ทั้งเพลงประกอบและ OST. ทุกอย่างเข้ากันไปหมด
- ยกระดับฉากสู้ในภาคย่านเริงรมย์ออกมา ทำให้รู้เลยว่าการดูในโรงนั้นให้อารมณ์ที่แตกต่างจริง ๆ
จุดสังเกต
- การลำดับฉากที่ไม่มีการตัดต่อเพิ่ม เหมือนดูซีรีส์ในที่เอามาฉายโรง
- ครึ่งเรื่องแรกคือตอนที่มีในสตรีมมิงแบบเป๊ะ ๆ และครึ่งเรื่องหลังก็เป็นตอนที่กำลังจะลงสตรีมมิง แต่แค่ได้ดูในโรงก่อน
-
คุณภาพด้านเสียงพากย์
8.0
-
คุณภาพโปรดักชัน
9.3
-
คุณภาพของบท
8.6
-
คุณภาพของความบันเทิง
9.0
-
ความคุ้มเวลาในการชม
7.0
Kimetsu no Yaiba เป็นหนึ่งในอนิเมะ ที่ไม่ว่าจะสร้างกี่ภาคก็ยังมีกระแสดีอยู่ตลอด โดยเฉพาะภาคศึกรถไฟสู่นิรันดร์ ที่ทำรายได้ในไทยเกิน 100 ล้านบาทนั้นก็เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในอนิเมะที่ประสบความสำเร็จในการฉายโรงบ้านเรา จนทำให้ผู้คนหลงรักมนตร์สะกดของเหล่านักล่าอสูรนี้ไปเลยล่ะ
Kimetsu no Yaiba หรือที่เรามักจะรู้จักกันในชื่อ ดาบพิฆาตอสูร (Demon Slayer) เล่าเรื่องถึงประเทศญี่ปุ่นในยุคไทโช โดยมีตัวละครหลักคือ คามาโดะ ทันจิโร่ เด็กชายผู้ถูกอสูรสังหารทั้งครอบครัว เขาเหลือน้องสาวเพียงคนเดียวคือเนะซึโกะ แต่ทว่าเนะซึโกะดันโชคร้ายกลายเป็นอสูร ดังนั้นแล้วทันจิโร่จึงตัดสินใจเป็นนักล่าอสูร เพื่อหาทางทำให้น้องสาวของตัวเองกลับมาเป็นมนุษย์ดังเดิม
ดาบพิฆาตอสูรเป็นอนิเมะซีรีส์ที่ถูกผลิตมาแล้วถึง 3 ภาค อันได้แก่ภาคแรก, ภาคศึกรถไฟสู่นิรันดร์ และภาคย่านเริงรมย์ ซึ่งดาบพิฆาตอสูร: สู่หมู่บ้านช่างตีดาบ จะนำ 2 ตอนสุดท้ายของภาคย่านเริงรมย์มาฉายในจอหนังอีกครั้ง
สำหรับใครที่จะไปดูภาคสู่หมู่บ้านช่างตีดาบในโรงนั้น ขอแนะนำว่าควรจะดูเวอร์ชันซีรีส์มาก่อน อย่างน้อย ๆ ก็ภาคย่านเริงรมย์ เพราะมูฟวีภาคนี้จะไม่มีการมาเล่าอารัมภบทเหมือนศึกรถไฟสู่นิรันดร์ ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมหน้าใหม่ ที่ไม่เคยดู Kimetsu no Yaiba นั้นงงเอาได้
แม้ว่าภาคนี้จะนำเข้าฉายในโรงหนัง แต่ให้รู้ไว้ว่ามันไม่ใช่ ‘เดอะมูฟวี’ แต่อย่างใด เพราะเนื้อหาของภาคสู่หมู่บ้านช่างตีดาบนั้น ครึ่งหนึ่งคือการรีรัน 2 ตอนสุดท้ายของภาคย่านเริงรมย์อีกครั้ง ซึ่งเป็นการรีรันที่ชวนขัดใจพอสมควร เพราะนำเนื้อหามาฉายกันแบบโต้ง ๆ เลย ทั้งเพลงเปิด เพลงปิด เครดิต ชื่อตอน มาครบ และอาจทำให้ใครที่ตั้งความหวังว่าอยากดูอะไรที่สมูท แบบเดอะมูฟวีภาคศึกรถไฟสู่นิรันดร์นั้นอาจขัดใจได้
ทำไมมันถึงน่าขัดใจ?
ปกติแล้ว อนิเมะที่นำบทในซีรีส์มาฉายเป็นมูฟวีมักจะมีการตัดต่อใหม่และเพิ่มฉากเชื่อมกัน เพื่อถมช่องว่างระหว่างตอน ทำให้เรื่องราวกระชับขึ้น แต่ทว่าบทสู่หมู่บ้านช่างตีดาบนี้ กลับนำตอนปกติมาฉายโดยไม่มีการตัดต่อใด ๆ เพิ่มเลย ซึ่งคุณภาพระดับสตูดิโอ Ufotable นั้นแน่นอนว่าทำได้อยู่แล้ว (และพี่แกก็ทำได้ดีด้วย) แต่พี่แกดันไม่ทำซะงั้น นั่นจึงเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกช็อตฟีลเล็กน้อย เพราะเหมือนเราดูซีรีส์ปกติ แต่เปลี่ยนจากจอสตรีมมิงที่บ้าน มาเป็นฉายในโรงแทน
แม้จะรู้สึกขัดใจเล็ก ๆ ที่นำ 2 ตอนสุดท้ายมาฉายทั้งดุ้นโดยไม่ตัดต่อใหม่ แต่ก็เป็นโชคดีที่คุณภาพอนิเมะของ ดาบพิฆาตอสูร นั้นโคตรจะสุดยอดอยู่แล้ว ทำให้การเอาซีรีส์มาฉายในโรงเป็นไปได้อย่างราบรื่น ไม่มีฉากเผาให้กวนใจแต่อย่างใด
โดยเฉพาะฉาก เสาหลักเสียงอุซุย ปะทะ อสูรข้างขึ้นกิวทาโร่ นั้นก็เป็นหนึ่งในฉากที่บอกว่า ‘ควรรับชมในโรงภาพยนตร์’ อย่างยิ่ง เพราะแม้ว่าเราจะเคยเห็นฉากนี้ในสตรีมมิงมาแล้ว แต่การสัมผัสด้วยจอภาพยนตร์ก็ยังคงให้ความรู้สึกที่แตกต่าง ทั้งการเคลื่อนไหว เสียงประกอบและจังหวะความเงียบสงัดของโรงหนังนั้น ก็ช่วยยกระดับฉากต่อสู้นี้ให้ทรงคุณค่ขึ้นไปอีก
หลังจากเล่าพาร์ตเดิมในครึ่งแรกไปแล้ว ในครึ่งหลังนั้น จะเป็นการเข้าสู่บท หมู่บ้านช่างตีดาบอย่างเต็มตัว ซึ่งด้วยคุณภาพอนิเมะของ Ufotable ก็ไม่ทำให้เราผิดหวังเลย โดยหนึ่งในไฮไลต์สุดเด่นคือการดีไซน์ปราสาทไร้ขอบเขตของมุซันขึ้นมาอย่างเต็ม ๆ โดยการเปิดตัวสุดอลังการนี้ ทำให้เรามองเห็นถึงกลไกการทำงานของปราสาทว่างดงามแค่ไหน จนรู้ซึ้งถึงความใส่ใจของผู้สร้างเป็นอย่างดี
และที่ไม่ชมไม่ได้คือ การเปิดตัวเหล่าอสูรข้างขึ้นที่เหลืออยู่เป็นครั้งแรก ฉากนี้เป็นหนึ่งในฉากสุดทรงพลัง ที่แม้จะอยู่ในสถานที่เดียว แต่ทำให้เราได้เห็นถึงมิติของชีวิต ความนึกคิด ลำดับขั้น ความน่าเกรงขามของพวกอสูร จนแทบรอไม่ไหวที่จะได้ดูส่วนที่เหลือของภาคนี้
ทางด้านเนื้อเรื่องนั้น ก็เพิ่มความน่าสนใจด้วยการให้แก๊ง 3 หน่อตัวเอกอย่าง ทันจิโร่ เซนอิทสึ อิโนะสุเกะ นั้นต้องแยกย้ายกัน นั่นทำให้เนื้อราวได้ขยายขอบเขต พาไปรู้จักตัวละครอื่น ๆ ที่จะเป็นกำลังสำคัญในอนาคตมากขึ้น
ภาคสู่หมู่บ้านช่างตีดาบ ได้พาดาบพิฆาตอสูรเดินทางเข้าสู่ครึ่งเรื่องแล้ว ด้วยการนี้จึงทำให้เราได้เห็นเค้าลางบางอย่างที่จะนำไปสู่บทสุดท้าย ทั้งการเปิดตัวละครใหม่ ปริศนาที่ถูกโยนเข้ามา ความลับบางอย่างที่กำลังจะคลี่คลาย อันถือว่าเป็นบทโหมโรงได้ดีทีเดียว
โดยรวมแล้ว ดาบพิฆาตอสูร: สู่หมู่บ้านช่างตีดาบ เป็นเพียงซีรีส์ที่นำมาฉายโรง หากคาดหวังว่าจะไปดูความอิมแพ็กต์แบบศึกรถไฟสู่นิรันดร์ คุณอาจจะผิดหวังได้ คิดซะว่าตีตั๋วไปดูซีรีส์ในโรงหนังก่อนใคร ก็เป็นหนึ่งในความคุ้มค่าที่น่าลองนะ โดยเฉพาะแฟนคลับ Kimetsu no Yaiba นั้นภาคนี้ควรไปดูในโรง จะทำให้ได้อรรถรสที่แตกต่างจากซีรีส์เป็นอย่างมาก แต่ถ้าไม่เคยดูเลย แนะนำว่ารอสตรีมมิงดีกว่านะ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส