เมื่อพูดถึงอนิเมะแนวหุ่นยนต์ที่ยังคงหลงเหลือในตลาดตอนนี้ ก็คงจะมีเพียงซีรีส์ ‘Mobile Suit Gundam’ ที่ยังมีภาคใหม่ออกมาให้แฟนเก่าและใหม่ได้หามาดูได้เรื่อย ๆ ที่นับเป็นการ์ตูนขายของเล่นที่ประสบความสำเร็จอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่น รวมถึงในบ้านเราที่ก็ชื่นชอบซีรีส์ขับหุ่นการเมืองซีรีส์นี้มาก ๆ ที่ไม่ใช่แค่ตัวหุ่นที่จงใจทำออกมาเพื่อนขายของเล่นอย่างเดียว แต่เนื้อเรื่องในซีรีส์นี้ก็จัดว่ายืนหนึ่งในความโหดจริงจังดุดันไม่เกรงใจใคร ซึ่งสำหรับคนที่ไม่ทราบ เรื่องราวในซีรีส์ ‘Mobile Suit Gundam’ จะเน้นไปที่ตัวละครที่เป็นมนุษย์โดยมีหุ่นเป็นเพียงเครื่องมือในการสู้ กับเนื้อเรื่องที่เกี่ยวกับสงคราม การเมือง ที่ตัวละครหลักในซีรีส์นี้แม้แต่พระเอกนางเอกก็สามารถตายได้โดยที่ไม่สนเลยว่าตอนจบจะเป็นอย่างไร ส่วนหุ่นยนต์ที่เราเห็นนั้นก็เป็นแค่อุปกรณ์ในการสู้รบ แบบเดียวกับรถถังเครื่องบินที่ใช้ในสงคราม และเมื่อจุดเด่นของซีรีส์นี้คือเนื้อเรื่อง พอมีภาคไหนที่ทำเนื้อเรื่องออกมาไม่ดุดัน เกรงใจแฟน ๆ ก็ย่อมจะถูกด่าเป็นธรรมดา วันนี้เราจัดอันดับซีรีส์ ‘Mobile Suit Gundam’ ที่แฟน ๆ ไม่ถูกใจเอามานำเสนอ โดยเราจะนับแค่ซีรีส์หลักและภาคที่เชื่อมกับภาคหลักมานำเสนอเท่านั้น จะมีภาคไหนที่ไม่สนุกถูกใจแฟน ๆ บ้างนั้นมาดูไปพร้อมกันเลย
อ้างอิง https://ranky-ranking.net/I0001823/&page=1
อันดับที่ 8 Mobile Suit Gundam the Witch from Mercury ไม่สุดเลยสักทาง
จบไปอย่างสวยงามแบบล้มบนฟูกซึ่งเต็มไปด้วยรอยยิ้มความสุข กับซีรีส์ภาคล่าสุดของ ‘Mobile Suit Gundam the Witch from Mercury’ ที่เปิดมาอย่างน่ารักกลางเรื่องอย่างโหดก่อนจะจบด้วยรอยยิ้มของตัวละครในเรื่อง ที่แฟน ๆ ซีรีส์ ‘Mobile Suit Gundam’ ต่างเสียงแตกออกไปสองทาง ว่ามันก็โอเคสมยุคสมัยที่มาแบบกลาง ๆ ไม่โหดจัดจริงจังพอประมาณ กับอีกฝ่ายบอกว่ามันไม่โหดสะใจแบบภาคก่อน จนทำให้ซีรีส์นี้ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่คนไม่ชอบอันดับที่ 8 โดยเรื่องราวในภาคนี้จะกล่าวถึงโลกในอนาคตที่มนุษย์สามารถอยู่บนอวกาศได้ แต่มันก็ไม่ได้สะดวกสบายเพราะสภาพแวดล้อมในอวกาศนั้นเลวร้ายมาก ๆ เหล่านักวิจัยจากสถาบัน ‘Vanadis’ จึงคิดค้นสร้าง “GUND” ที่ช่วยให้ระบบประสาทของมนุษย์สามารถควบคุมอวัยวะเทียมได้เมื่อใช้ชีวิตในอวกาศ จนโครงการขยายมาเป็นการควบคุมหุ่นยนต์ แต่พอมาเป็นหุ่นยนต์คนที่ขับจะต้องแบกภาระอย่างหนักในการควบคุมระบบ จนผู้ใช้เสียชีวิต ทางสถาบันเลยถูกมองว่าเป็นพวกแม่มด (ทีมงานพัฒนาส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง) จนสถาบันถูกบุกและฆ่าทุกคนทิ้งเพื่อกันเทคโนโลยีนี้ถูกเอาออกไปภายนอก จนวันเวลาผ่านไปหลายสิบปีก็มีหุ่นที่ใช้ระบบของ ‘GUND’ ปรากฏในโรงเรียน ตัวเรื่องออกแนวใส ๆ วัยรุ่นโรงเรียนที่เอาใจวัยรุ่นสาว ๆ เพื่อนหญิงพลังหญิง ใครที่อยากเริ่มต้นดูซีรีส์ ‘Mobile Suit Gundam’ ก็เริ่มจากภาคนี้เลย ที่พอดูจบแล้วไปหาภาคอื่นมาดูต่อคุณจะเข้าใจว่าทำไมแฟน ๆ ไม่ชอบภาคนี้
อันดับที่ 7 Mobile Suit Gundam Wing เนื้อหาเข้าใจยากตัวละครเยอะจนคนดูตามไม่ทัน
ถ้าซีรีส์ ‘Mobile Suit Gundam the Witch from Mercury’ เป็นเรื่องราวแบบล้มบนฟูกเหมือนจะโหดก็โหดนิดเดียวจะสดใสก็ใสแบบนิดหน่อย จะการเมืองก็การเมืองแบบเบาบางอยู่ตรงกลางไม่สุดเลยจนแฟน ๆ บ่น คราวนี้มาดูแบบไปสุดทางทั้งเนื้อหาสงครามการเมืองการหักหลังความตายแบบจัดเต็มกับซีรีส์ ‘Mobile Suit Gundam Wing’ ที่มาพร้อมกับพระเอกถึง 5 คน 5 แบบเพื่อตีตลาดสาว ๆ กับการแอบขายของเล่นให้เหล่าหนุ่ม ๆ ได้หามาสะสม กับเรื่องราวโคโลนีในอวกาศ (ผู้คนที่อาศัยบนอวกาศ) ที่ถูกคนบนโลกมองเป็นพวกเกรด 2 ที่ถูกกดขี่ จนเหล่าผู้คนบนโคโลนีทนไม่ไหวแอบสร้างหุ่นออกมา 5 ตัวพร้อมนักบิน 5 คนมาบนโลกเพื่อวางแผนก่อการร้ายที่เรียกว่า ‘Operation Meteor’ ตัวเนื้อเรื่องจะเล่าผ่านตัวเอกทั้ง 5 คนที่ต่างก็ทำตามแผนของตัวเอก โดยมี ฮีโร ยุย (Heero Yuy) เด็กหนุ่มผู้สวมเสื้อกล้ามตัวเดียวขับหุ่นลุยน้ำขึ้นไปบนอวกาศได้หน้าตาเฉย กับคำถามที่ถามคนดูว่า “สงครามคืออะไร สันติภาพที่แท้จริงอยู่ที่ไหนกันแน่” ที่ถ้าคุณเป็นสายเนื้อเรื่องคุณต้องชอบซีรีส์นี้แน่นอน แต่คุณต้องตั้งใจดูเพราะมันแทบไม่มีช่วงผ่อนคลายเลย เนื้อเรื่องจริงจังทั้งเข้มและขมเป็นกาแฟไม่ใส่นมตลอดเรื่องตั้งแต่ต้นยันจบ เพราะแบบนี้คนถึงไม่ค่อยชอบซีรีส์นี้เพราะมันเข้าถึงยากไปหน่อยนั่นเอง
อันดับที่ 6 Mobile Fighter G Gundam มันไม่ใช่ Gundam ที่เรารู้จัก
ถึงกับต้องขยี้ตาแรง ๆ กันเลยทีเดียว เมื่อเห็นซีรีส์หุ่นชกกันอย่าง ‘Mobile Fighter G Gundam’ หรือชื่อไทยสุดเจ๋งว่า “หุ่นนักสู้สะท้านปฐพี จี กันดั้ม” ที่ออกฉายในปี 1994 ที่ในปีนั้นเกมต่อสู้อย่าง ‘Street Fighter ll’ กำลังโด่งดังเป็นโรงงานทำพลุระเบิด เลยทำให้ทีมสร้างอนิเมะ ‘Mobile Suit Gundam’ อยากเปลี่ยนแนวมาทำอนิเมะโชเน็นที่ประกอบด้วยมิตรภาพของผองเพื่อนการต่อสู้แบบตัวต่อตัวการแหกปากตะโกนแล้วจะมีพลัง กับการโยนความสมจริงที่เคยมีในซีรีส์ก่อน ๆ ทิ้งไปให้หมด และเอามาเฉพาะความสนุกสะใจอย่างเดียว กับเรื่องราวการต่อสู้ของโคโลนีประเทศต่าง ๆ ที่จะส่งหุ่นยนต์มาสู้กันในศึกที่ชื่อว่า ‘Gundam Fight’ ที่จะจัดขึ้นทุก ๆ 4 ปี ประเทศที่ชนะจะปกครองโลกให้เป็นตามที่ตัวเองต้องการ ในคราวนี้เราจึงได้เห็นหุ่นแปลก ๆ ที่ดึงเอกลักษณ์ของประเทศนั้น ๆ มาทำเป็นหุ่นที่เรียกว่าหลุดโลกทะลุจักรวาลแบบสุด ๆ แถมเนื้อเรื่องก็เป็นแนวสู้กันผสมการเมืองที่ดู ๆ ไปมันก็สนุกแต่มันไม่ใช่ ‘Mobile Suit Gundam’ ที่เรารู้จัก จนแฟน ๆ บางส่วนไม่อยากนับเป็นซีรีส์หลักด้วยซ้ำ
อันดับที่ 5 Gundam Reconguista in G มาเร็วไปเร็วดูไม่รู้เรื่อง
มาถึงอันดับที่ 5 ของซีรีส์ ‘Mobile Suit Gundam’ ที่คนไม่ชอบที่สุด กับภาคที่มีเนื้อหาน่าสนใจทั้งการเมืองการต่อสู้ที่ดีแต่คุณต้องตั้งสมาธิในการดู เพราะถ้าคุณสมาธิหลุดคุณจะดูไม่รู้เรื่องเลยทีเดียว กับ ‘Gundam Reconguista in G’ ซีรีส์ที่เปิดเรื่องมาแบบรวดเร็วไม่มีการปูตัวละครเยอะ มาถึงตัวเอกเจอหุ่นก็ขับไปสู้เลยกับการเมืองที่มาแบบเร่งรีบ ตัวละครก็มาแบบไม่ต้องปูพื้นมาถึงปรากฏตัวสู้ ๆ ตายบางคนก็มีบทมาไม่นานก็ไป แบบเร็วเกินไปจนคนดูตามไม่ทัน ที่จากข้อมูลบอกว่าตัวซีรีส์ถูกหั่นจากตอนยาวจาก 40 กว่าตอนเหลือ 26 ตอน พอถูกตัดตอนไปแต่ผู้สร้างไม่อยากตัดเนื้อหาที่มีมันเลยต้องไปเร็วมาเร็วเพื่อเล่าเรื่องให้ครบ จนคนดูต้องอุทานว่าช้าได้ช้านะพี่ผมตามไม่ทัน กับเรื่องราวการต่อสู้ในสงครามระหว่างคนบนโลกกับอวกาศที่เราแทบไม่สามารถบอกคุณได้ว่าอะไรคืออะไร เพราะมันมาเร็วไปเร็วมาก ๆ จนจับต้นชนปลายไม่ทัน จึงทำให้แฟน ๆ ไม่ชอบซีรีส์นี้ ใครที่ดูรู้เรื่องมาสรุปเรื่องราวให้จะขอบคุณมาก ๆ
อันดับที่ 4 Turn A Gundam เนื้อเรื่องแสนยิ่งใหญ่แต่เนื้อหากลับธรรมดา
หนึ่งในซีรีส์หุ่นลูกรักของลุงบัน (Bandai) ที่เมื่อมีโอกาสทางลุงบันก็จะหยิบเอาหุ่นในเรื่องนี้มาขายใหม่เสมอ แม้ตัวซีรีส์อนิเมะกับตัวหุ่นจะไม่ถูกใจแฟน ๆ ก็ตาม (แต่ลุงแกน่าจะชอบ) เลยทำให้ซีรีส์ ‘Turn A Gundam’ ถูกเอามาขายผ่านสายตาแฟน ๆ นักสะสมเรื่อย ๆ โดยชื่อจริงของหุ่นตัวนี้ก็มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ‘The System-∀99 ∀ Gundam’ กับฉายาที่คนในจักรวาลนั้นเรียกว่า “White Doll” กับ “Mustache” ที่บอกเล่าเรื่องราวของสงครามเมื่อหลายร้อยปีก่อนระหว่างชาวดวงจันทร์และชาวโลก ที่มีหุ่น ‘Turn A Gundam’ เป็นตัวจบสงครามด้วยการทำลายทั้งดวงจันทร์จนเป็นแบบที่เราเห็นตอนนี้ แต่ชาวดวงจันทร์ยังตายไม่หมดพวกเขารอเวลาแก้แค้นด้วยการออกตามหาหุ่น ‘White Doll’ ตัวนี้จนเจอ สงครามระหว่างโลกกับดวงจันทร์จึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง ด้วยการเอาหุ่นที่ทำลายล้างดวงดาวมาเป็นที่เลี้ยงวัวเป็นสะพานให้รถข้ามไปจนถึงราวตากผ้า กับชีวิตแบบเรียบง่ายไม่ได้กดดันต่อสู้จริงจังอะไร จนแฟน ๆ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเนื้อเรื่องซีรีส์นี้ค่อนข้างน่าเบื่อหุ่นก็ไม่สวยทั้งที่ได้ ซิด มีด (Syd Mead) คนออกแบบสัตว์ประหลาดเลือดกรด ‘Aliens’ มาเป็นคนออกแบบก็ไม่ช่วยให้แฟน ๆ ชื่นชอบขึ้น (ตรงข้ามกลับไม่ชอบมากกว่าเดิม) ใครอยากหาซีรีส์หุ่นแบบเรียบง่ายดูแล้วหลับก็ไปหามาดูได้
อันดับที่ 3 Mobile Suit Gundam Char’s Counterattack เรื่องราวของชายหนุ่มที่คิดแก้แค้นให้สาวน้อยที่จากไปจนคิดทำลายโลก
นับตั้งแต่ที่ซีรีส์ ‘Mobile Suit Gundam’ ภาคแรกสุดออกฉายในปี 1979 ที่เรียกว่าสงคราม 1 ปีจบลงไปด้วยความพ่ายแพ้ของฝั่งอวกาศ ‘Zeon’ เรื่องราวก็ดูเหมือนจะจบลงด้วยดีทหารกลับบ้านไปพบครอบครัว ฝ่ายแพ้ก็ตกอยู่ใต้อำนาจของผู้ชนะแต่มันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของจุดจบเท่านั้น เพราะเรื่องราวสงครามยังเกิดขึ้นมาเรื่อย ๆ ในภาคต่าง ๆ อีกหลายภาค จนมาถึงภาคที่เป็นบทสรุปของเรื่องราวของสองตัวเอกอย่าง อามุโร่ เรย์ (Amuro Ray) อดีตเด็กเห่อหุ่นยนต์ที่ขับหุ่นไปสู้จนชนะสงคราม กับนายสีแดงแรงสามเท่าอย่าง ชาร์ อัสนาเบิล (Char Aznable) ที่เป็นเพียงนามแฝงในวงการที่กลายเป็นชื่อจริงที่คนรู้จัก แต่ชื่อจริงของเขาคือ แคสวัล เรม ไดคุน (Casval Rem Deikun) ที่ตลอดหลายปีทั้งคู่ก็สู้กันไปมาบางทีก็เป็นมิตรบางทีก็เป็นศัตรู จนมาถึงภาค ‘Mobile Suit Gundam Char’s Counterattack’ ที่พี่ชาร์เราอยากทำลายโลกด้วยการส่งโคโลนีไปชนให้ทุกคนบนโลกตาย การต่อสู้จึงเริ่มขึ้นโดยเนื้อหาหลักใหญ่ใจความในภาคนี้ก็คือการแก้แค้นให้กับ ลาล่า ซู (Lalah Sune) เด็กสาวที่ตายในสงครามระหว่างที่ทั้งคู่สู้กัน (โดยไม่ตั้งใจ) ที่ฝ่ายชาร์อยากแก้แค้นให้น้องคนนี้จนกลายเป็นศึกการต่อสู้เพื่อแก้แค้นเพื่อเด็กสาว ที่แม้จะเป็นภาคบทสรุปแต่แฟน ๆ ก็เฉย ๆ กับตอนจบมาก ๆ ที่จบได้แบบก็โอเคไม่ดีไม่แย่ บางคนก็บอกจบเสียที หรือบางส่วนก็บอกว่าจบแบบที่พี่สบายใจเลย แต่สิ่งที่เชิดหน้าชูตาที่สุดในภาคนี้คือหุ่นของตัวเอกทั้งสองที่สวยถูกใจนักสะสม
อันดับที่ 2 Mobile Suit Gundam AGE เนื้อหาจืดจางชวนหลับ
อย่างที่เคยบอกไปว่าจุดเด่นของซีรีส์ ‘Mobile Suit Gundam’ คือเนื้อเรื่องที่แสนจะจริงจังโหดดิบสงครามการเมืองการฆ่าฟัน ซึ่งซีรีส์ ‘Mobile Suit Gundam AGE’ ก็มีทุกอย่างที่กล่าวมาครบทุกอย่างตามสูตร แต่สุดท้ายซีรีส์นี้ก็ไม่ถูกใจแฟน ๆ ‘Mobile Suit Gundam’ จนมาอยู่อันดับที่ 2 กับเนื้อหาที่เป็นการส่งผ่านภูมิปัญญาจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูกไปจนถึงรุ่นหลานตามชื่อซีรีส์ ที่กล่าวถึงสงครามกับมนุษย์ต่างดาวปริศนาที่มาบุกโลกที่เรียกว่า ‘UE’ เมื่อในอดีตฆ่าผู้คนทั้งอาณานิคมอวกาศจนหมดมีเพียง ฟลิท อาซึโนะ (Flit Asuno) ที่รอดมาได้ พร้อมกับข้อมูลการสร้างหุ่นในตำนานจนสร้าง ‘Gundam AGE-1 Normal’ ขึ้นมาเพื่อสู้ในสงคราม แต่มันก็ยังไม่จบเพราะมันส่งต่อไปยังรุ่นลูกที่เป็น ‘AGE-2 Gundam’ และรุ่นหลานที่เป็น ‘AGE-3 Gundam’ ผ่านเนื้อเรื่องสามช่วง ที่โดยรวมก็สนุกพอหลับใช้ได้ ตัวหุ่นก็ออกแบบมาได้สมเป็นของเล่นดี (นี่ชมนะ) แต่ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่มีทั้งเนื้อเรื่องบทบาทตัวละครหุ่น (โดยเฉพาะเนื้อเรื่องที่เป็นแก่นหลักที่ไม่สนุก) เลยทำให้ซีรีส์ ‘Mobile Suit Gundam AGE’ ก็เลยข้ามยุคสมชื่อไปเลย
อันดับที่ 1 Mobile Suit Gundam Seed Destiny เนื้อเรื่องไม่น่าสนใจตัวเอกถูกขโมยซีน
มาถึงอันดับที่ 1 ซีรีส์ ‘Mobile Suit Gundam’ ที่เรียกว่าเละยิ่งกว่าโจ๊กป้าแม้นท้ายซอย (ป้าแม้นคือใครก่อน) ที่จะเป็นซีรีส์ไหนไปไม่ได้นอกจากซีรีส์ ‘Mobile Suit Gundam Seed Destiny’ ที่ภาคแรกใน ‘Mobile Suit Gundam Seed’ เป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่หลังจากที่ซีรีส์นี้หายไปจากจอทีวี พอมาภาค ‘Destiny’ ก็เหมือนคนเดินหกล้มเพราะปัญหามากมาย ไม่ว่าเบื้องหลังการไปตีท้ายครัวของนักพากย์กับคนเขียนบท ขณะที่คนพากย์พระเอกประจำภาคก็ดันไปเข้าข้างนักพากย์ด้วยกัน เลยทำให้ตัวเองถูกตัดบทจากพระเอกเป็นตัวประกอบ (ไปยุ่งกับคนเขียนบทเลยโดนแบบนี้) บวกกับความหล่อเทพของพระเอกภาคเก่าอย่างพี่ คิระ ยามาโตะ (Kira Yamato) ก็โคตรขโมยซีน ทำให้คนเขียนบทได้ช่องดันพระเอกภาคเก่าให้เด่น จนบทพระเอกประจำภาคหายไปเกือบหมด ทำให้เรื่องราวที่วางโครงไว้ก่อนหน้านี้มั่วไปหมด จนสุดท้ายเรื่องราวดี ๆ ที่น่าสนุกของภาคต่ออย่าง ‘Mobile Suit Gundam Seed Destiny’ เลยมั่วและเละหาความสนุกไม่เจอ จะมีดีแค่หุ่นในเรื่องที่ออกแบบมาได้ดีถูกใจแฟน ๆ กับตัวละครผู้ชายที่สวยทุกคน ใครที่คิดจะดู 2 ภาคนี้ก็ทำใจไว้หน่อยเพราะภาคแรกดีมาก ๆ ภาค 2 ก็ไม่ได้แย่แค่มันไม่ดีเท่านั้น คุณต้องไปดูเองถึงจะเข้าใจในส่วนนี้ มาดูเรื่องราวในซีรีส์ ‘Seed’ และ ‘Destiny’ จะบอกเล่าถึงสงครามระหว่างมนุษย์บนโลกที่เกิดแบบธรรมชาติกับมนุษย์บนอวกาศที่ถูกตัดต่อพันธุกรรมที่ฉลาดกว่าคนทั่วไป จนเกิดเป็นสงครามความขัดแย้งของการมีอยู่ของทั้งสองฝ่าย ที่ภาคแรกจะเล่ามุมมองของฝ่ายโลกภาคสองจะเล่ามุมมองของฝ่ายอวกาศ ที่บอกเลยว่าสนุกครบทุกรสสำหรับภาคแรก ส่วนภาคสองก็ดูเพลิน ๆ ได้เพื่อรอภาคใหม่ที่กำลังมาในอนาคตบอกเลยซีรีส์นี้ของดี
ก็จบกันไปแล้วกับ 8 เรื่องราวของซีรีส์ ‘Mobile Suit Gundam’ ที่คนไม่ค่อยชอบมีภาคไหนที่ไม่ถูกใจคุณบ้างก็เอามาพูดคุยกันได้ ส่วนอันดับต่อ ๆ มาก็มี ‘Mobile Suit Gundam ZZ’ ที่คนให้เหตุผลว่าเนื้อเรื่องมันอ่อนไป มีแต่เด็ก ๆ ที่ดูสดใสไม่สมเป็นภาคที่ 3 ของสงครามที่ 2 ภาคก่อนปูมาอย่างโหด มาภาคนี้ลดเนื้อหาลงจนแฟน ๆ ไม่โอเค อันดับถัดมาคือ ‘Mobile Suit Gundam SEED’ ซีรีส์ที่เป็นตัวเปิดหลังจากซีรีส์ ‘Mobile Suit Gundam’ หายไปจากจอทีวีเกือบ 10 ปีกับเรื่องราวที่คล้าย ๆ ภาคแรกสุดของซีรีส์ ที่เป็นการเดินทางหนีตายของลูกเรือ ซึ่งที่แฟน ๆ ไม่ชอบคือตัวละครสวยหล่อทุกคนขนาดตัวประกอบยังสวยหล่อ ต่างกับซีรีส์ปกติที่มีทั้งแบบหน้าบ้าน ๆ หน้าขี้เหร่สวยหล่อสลับ ๆ กันไป กับเนื้อเรื่องที่จงใจลอกของเดิมมา แต่ยังดีที่ไม่มีชายสวมหน้ากากขับหุ่นสีแดง แต่โดยรวมคือสนุกคนที่จะเริ่มต้นดูซีรีส์ ‘Mobile Suit Gundam’ ภาคนี้เหมาะสุด ใครที่สนใจภาคไหนซีรีส์ใดของซีรีส์ ‘Mobile Suit Gundam’ ก็เอามาพูดคุยกันได้ ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรในวงการการ์ตูน ก็ติดตามที่แบไต๋ได้เลยเพราะเราจะเอาบทความดี ๆ สนุก ๆ มาให้คุณได้อ่านเรื่อย ๆ หรือไปอ่านย้อนหลังเราก็มีบทความดี ๆ อีกมากมายรอคุณอยู่ติดตามเอาไว้ได้เลย รับรองไม่มีผิดหวังแน่นอน
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส