นาทีนี้ถ้าพูดถึงการ์ตูนทำอาหาร เทียบชั้นความดังคงต้องยกให้ ยอดนักปรุงโซมะ นอนกินไปแน่นอนครับ แต่ถ้าเทียบกับความสดใหม่และความบันเทิงเริงใจแบบสุดๆ ณ ตอนนี้ ต้องบอกว่าการ์ตูนไทยเรื่องนี้ขึ้นแท่นนัมเบอร์วันเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ กับ เจ้าหนูข้าวจี่ เรื่องนี้
เจ้าหนูข้าวจี่ เป็นผลงานการสร้างสรรค์ของค่าย การ์ตูนไทยสตูดิโอ ซึ่งผมก็มักหยิบมาแนะนำอยู่หลายครั้งแล้ว และครั้งนี้เป็นการร่วมมือกันของ เกษม อภิชนตระกูล ที่วาดและคิดเรื่อง โดยมี คุณากร ขุนนราศัย เป็นเจ้าของไอเดียดั้งเดิมครับ ใครที่ติดตามวงการการ์ตูนไทยเชื่อว่าคงคุ้นชื่อคุ้นลายเส้นและลายเซ็นอันเป็นเอกลักษณ์ในฉบับการ์ตูนสายฮาของเกษมดี หนึ่งในนั้นก็เข้าขั้นชิ้นโบว์แดงของวงการการ์ตูนเรื่องหนึ่งทีเดียว กับเรื่อง ชมรมวารสาร ตำนานสถาบัน ที่เป็นสไตล์การ์ตูนแก๊กที่สนุกและฮาสุดๆ
มารอบนี้กับเจ้าหนูข้าวจี่นี่ ยิ่งต้องบอกว่าเป็นที่กล่าวขวัญมาตั้งแต่ลงรายสัปดาห์ในนิตยสารซีคิดส์ที่ปัจจุบันได้หยุดตีพิมพ์ไปแล้วด้วย แฟนๆหลายคนต่างก็ไถ่ถามว่าจะมีโอกาสได้อ่านต่อหรือไม่ และสยามอินเตอร์คอมมิกส์ก็ไม่รอช้าจับส่งรวมเล่มแรก ออกมาในช่วงสัปดาห์หนังสือแห่งชาติทันที และก็ไม่ผิดคาดครับกระแสปากต่อปากดังจนกลายเป็นการ์ตูนขายดีไม่แพ้ฝั่งมังงะญี่ปุ่นเลยทีเดียว เรามาดุกันดีกว่าว่าการ์ตูนเรื่องนี้มันมีดีอะไร
เจ้าหนูข้าวจี่ เล่ม 1 มาพร้อมสร้อยคำประจำเล่มว่า แผงลอยมหากาฬ ปิ้งสะท้านปฐพี ขึ้นปกด้วยตัวเอกอย่าง ข้าวจี่ และนักข่าวสาวไม้ประดับที่คอยรับมุกประจำเรื่องอย่าง เอม ตรงนี้ใส่เลข ๑ มาแบบเหมือนจะเน้นว่าเป็นการ์ตูนรสไทยแท้ สมชื่อเรื่องที่ว่าด้วยอาหารไทยข้างทางที่ฮิตระดับทานเป็นกิจวัตรชาวอีสานอย่าง ข้าวจี่ นั่นเองครับ
เนื้อหาก็ว่าด้วย เมืองขอนแก่นที่กำลังพัฒนาอย่างเต็มกำลัง ร้านอาหารดังๆแบรนด์เนมต่างก็หลั่งไหลเข้ามายึดพื้นที่ถนนย่านอาหารจนกิจการเดิมๆต่างลมหายตายจากไปหมด แต่ทว่าท่ามกลางร้านรวงหนูๆทั้งหลายยังมีเพิงปิ้งข้าวจี่ยืนเด่นอย่างท้าทายแบบไม่สนโลก แถมขายดีมีลูกค้าประจำหมุนเวียนมาซื้อทุกวันอีกต่างหาก และเจ้าของร้านไม่ธรรมดานี้ก็คือ เจ้าหนูข้าวจี่ พระเอกของเรานี่เองครับ ซึ่งพี่แกก็เป็นตัวเอกที่มีสไตล์ชัดเจนแบกทั้งเรื่องไว้ด้วยบุคลิกที่น่าสนใจแบบ ศรีธนญชัย เลยครับ คือกลยุทธ์ในการแข่งทำอาหารของเฮียแกนี่ทำเอาต้องหงายเงิบอยู่บ่อยครั้ง แถมยังเดาทางยากเสียด้วย ยิ่งถ้าใครอ่านการ์ตูนทำอาหารมามากจะยิ่งช็อกสุดๆกับมุกในเรื่องนี้ครับ เพราะโคตรไทยและโคตรไร้ยางอายกันเลยทีเดียวในบางที แต่ก็เป็นการเสียดสีการ์ตูนทำอาหารทั้งหลายได้อย่างสนุกมือทีเดียวล่ะ
เจ้าหนูข้าวจี่ มักจะโดน เอม นักเขียนคอลัมน์อาหารตามแจเพราะเธอต้องการได้สกู๊ปเด็ดๆไปเขียน ซึ่งไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกัน ร้านข้าวจี่นี่ก็มักจับพลัดจับผลูได้ไปไฝว้ร้านดังๆ ทั้งหลายอย่างที่พระเอกไม่ได้สนใจจะแข่งอยู่เสมอเลยครับ ทั้งร้านปลาเผาของดีขึ้นชื่อประจำจังหวัด หรือร้านระดับโลกอย่างราชันย์อาหารจีน และอาหารฝรั่งเศส ที่เข้ามาพัวพันรอบตัวพระเอกเสมอ ตรงนี้มาสไตล์ฮาเร็มนิดๆครับ เพราะคู่แข่งพี่แกมักเป็นสาวน้อยเสมอเลย พอชนะทีก็มักได้มาเป็นพวกอยู่เสมอ ก็เป็นการเอาใจนักอ่านพอประมาณครับ
ด้านความสนุก นอกจากมุกไม้ตายที่เป็นตัวชี้ขาดผลแพ้ชนะในแต่ละตอนแล้ว เกษมก็ใส่มุกเล็กมุกน้อยหยอดตลอดเวลาแน่นปั้กเลยครับ ถ้าสังเกตนี่ตั้งแต่ชื่อตอนที่อลังการบ้าพลังสุดๆ เหมือนกับจะล้อเลียนการตั้งชื่อไทยของหนังฮอลลีวู้ดเลยครับ นอกนั้นบรรดาตัวละครมากหน้าหลายตาทั้งตัวหลักตัวประกอบที่บางทีโผล่มาแค่ครั้งเดียว ต่างก็ช่วยกับชงมุกรับมุกกันสนุกสนานทีเดียว แต่ตรงนี้ก็แล้วแต่ชอบนะครับ สำหรับผมมุกฮามากๆ ก็มี ที่แป้กก็พอประมาณ แต่ความถี่การปล่อยมุกดูจะมากไปสักหน่อย ส่วนตัวชอบงานอย่างใน ชมรมวารสารฯ ที่ยังมีช่วงพักอารมณ์ไปนู่นนี่บ้างมากเสียกว่า
สำหรับรูปเล่ม จัดมาตามมาตรฐานการ์ตูนไทยปกติครับ กระดาษธรรมดาไม่มีลูกเล่นปกใน ราคา 55 บาทก็ค่อนข้างแพง แต่เทียบคุณภาพของเรื่องกับว่าได้ช่วยสนับสนุนวงการการ์ตูนไทยที่ความเสี่ยงในการลงทุนสูง ก็ถือว่าคุ้มค่ามากๆครับ ตรงนี้บอกเลยว่าสายฮาห้ามพลาดครับ