[รีวิว] Spy x Family – ครอบครัวกำมะลอ ผู้พร้อมปล่อยหมัดฮุคเพื่อให้คนดูหลงรัก
Our score
7.9

วันฉาย

14 / 10 / 2566

แนว

แอ็กชัน, คอเมดี้, สายลับ

นาทีต่อตอน

25

ผู้แต่ง

ทัตสึยะ เอ็นโดะ

เรตผู้ชม

ทั่วไป

OUR SCORE

7.9

[รีวิว] Spy x Family – ครอบครัวกำมะลอ ผู้พร้อมปล่อยหมัดฮุคเพื่อให้คนดูหลงรัก
Our score
7.9

[รีวิว] Spy x Family – ครอบครัวกำมะลอ ผู้พร้อมปล่อยหมัดฮุคเพื่อให้คนดูหลงรัก

จุดเด่น

  1. วางบทได้ดีมาก แทบไม่มีตอนไหนที่น่าเบื่อ
  2. บางครั้งตัวละครเด็กในเรื่อง แบกเส้นเรื่องได้ดีกว่าตัวที่เป็นผู้ใหญ่ซะอีก
  3. อีกหนึ่งรสชาติใหม่ของโชเน็นจัมป์ที่น่าลอง
  4. เหมือน Gintama เวอร์ชันลดความทะเล้น ที่ออกมากลมกล่อมเป็นอย่างมาก

จุดสังเกต

  1. มีบางตอนที่ภาพแอบเผา
  2. ด้วยความที่เนื้อหาจะเป็นไปในรูปแบบจบในตอน ทำให้เนื้อหาจะออกมาเนิบ ๆ
  • คุณภาพด้านเสียงพากย์

    8.5

  • คุณภาพแอนิเมชัน

    8.0

  • คุณภาพของบท

    7.0

  • คุณภาพของความบันเทิง

    8.0

  • ความคุ้มเวลาในการชม

    8.0

มังงะแนวคอมเมดี้ ถือเป็นหนึ่งในประเภทของการ์ตูนที่มีคนอ่านมากที่สุดของนิตยสารโชเน็นจัมป์ เพราะความตลกโปกฮาเหล่านี้มักจะตรึงผู้อ่านไว้ได้อยู่หมัด ยิ่งถ้าคนเขียนรู้วิธียืดเนื้อหาให้ขายได้นาน ๆ โดยผู้อ่านไม่รู้สึกเบื่อ ก็ยิ่งทำให้คนอ่านติดหนึบจนโชเน็นจัมป์หากินได้อีกยาว ทว่าหลังจากการ์ตูนเรื่อง Gintama ประกาศอวสานไป แฟนคลับหลายคนก็เป็นกังวลว่า โชเน็นจัมป์จะขาดการ์ตูนสายแก๊กตลกโปกฮาไป ซึ่งโชเน็นจัมป์ก็ไม่ปล่อยให้รอนาน ด้วยการเข็นการ์ตูนคอมเมดี้เรื่องใหม่ออกมาให้แฟน ๆ ได้เจอะเจอกับ Spy x Family

สำหรับในสายมังงะนั้น Gintama นับว่าเป็นเสาหลักของการ์ตูนคอมเมดี้มาอย่างยาวนาน ซึ่งแน่นอน เราคงไม่คิดว่า Spy x Family จะสามารถทดแทนเอกลักษณ์ความตลกของ Gintama ได้ (เพราะคนเขียนก็คนละคนแล้ว) ทว่า Spy x Family กลับทำให้เราประทับใจด้วยมิติที่ต่างออกไปในแบบที่ไม่คาดหวัง แต่ดีเกินคาดหวัง เพราะการ์ตูนเรื่องนี้ไม่ได้มุ่งเน้นที่ความทะเล้นในแบบที่ Gintama เป็น แต่กลับเปี่ยมด้วยหัวใจของคอมเมดี้ ผสมพลอตการก้าวพ้นผ่านวัยที่เป็นแนวถนัดของโชเน็นจัมป์ รวมกับการจารกรรม พลังจิต โลกแห่งสายลับ ไปจนถึงดราม่าการเมืองไว้ภายใต้ความขบขันอย่างลงตัว จนกลายเป็นการ์ตูนตัวตึงคอมเมดี้เรื่องใหม่ที่ยืนอยู่ในใจคนดูได้สบาย 

Spy x Family เป็นอนิเมะที่ดัดแปลงจากมังงะของอาจารย์ทัตสึยะ เอ็นโดะ (Tatsuya Endo) ซึ่งเล่าถึงความขัดแย้งที่คุกรุ่นระหว่างประเทศเวสทาลิส และออสตาเนีย โดยสายลับผู้มีโค้ดเนมว่า ‘สนธยา’ หรือ ลอยด์ ฟอร์เจอร์ ได้รับมอบหมายให้สอดแนมหัวหน้าพรรคสามัคคีแห่งชาติ โดโนแวน เดสมอนด์ ที่อยู่ในออสตาเนีย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเดสมอนด์เป็นคนที่ระวังตัวอยู่ตลอด นั่นทำให้วิธีเดียวที่สนธยาจะเข้าใกล้เขาได้ คือการเข้าทางลูก ฉะนั้นแล้วสนธยาจึงต้องด้วยการสร้างครอบครัวปลอม ๆ เพื่อส่งเด็กเข้าเรียนในโรงเรียนเอกชนเดียวกันกับลูกชายของเดสมอนด์ โดยสนธยาจะรับบทเป็นคุณพ่อนั่นเอง

ความสนุกของ Spy x Family นั้นจะอยู่ที่ตัวละครหลักทั้ง 3 อย่างลอยด์ ยอร์ และอาเนีย ซึ่งพวกเขาต้องล่มหัวจมท้ายมาเป็นครอบครัวกำมะลอให้กัน โดยแต่ละคนนั้นจะมีพาร์ตของชีวิตที่ค่อนข้างแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากลอยด์เป็นสายลับเบอร์ต้น ๆ ของประเทศ ทำให้ในพาร์ตสายลับเราจะเห็นเลยว่าลอยด์ก็มีชีวิตด้านต่าง ๆ อันน่าค้นหาภายในเงามืด เขาจะใช้ความเป็นสายลับนี้แหละมาทำภารกิจต่าง ๆ ซึ่งช่วยเพิ่มไดนามิกให้เรื่องราวมีความน่าติดตามมากขึ้น

ส่วนยอร์นั้น นอกจากจะรับบทเป็นภรรยาแล้ว พาร์ตชีวิตของเธอก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะยอร์เป็นนักฆ่าโค้ดเนม ‘เจ้าหญิงหนาม’ ซึ่งมีน้องชายเป็นตำรวจลับ แถมเธอยังต้องปลอมตัวเป็นพนักงานหญิงในศาลากลางเบอร์ลินอีก โดยเราจะเห็นเลยว่า แม้ยอร์จะไม่ใช่สายลับเหมือนลอยด์ แต่เธอก็สามารถต่อสู้ได้อย่างแข็งแกร่ง บทแอ็กชันของนักฆ่าทำให้พาร์ตของเธอมีสีสันเป็นอย่างมาก ซึ่งมันช่างคอนทราสต์กับนิสัยโก๊ะ ๆ ของเธอ จนชวนเราขำซะทุกที

และสุดท้ายก็คือลูกเลี้ยงของลอยด์อย่าง อาเนีย เด็กพลังจิตผู้เป็นดั่งมาสคอตของซีรีส์นี้ ความสนุกของเรื่องมักจะเกิดขึ้นเพราะอาเนียนั้นอ่านใจคนได้ นั่นทำให้น้องล่วงรู้ความลับของทั้งลอยด์กับยอร์ (โดยที่พวกเขาก็ไม่รู้ฉากหลังของกัน และกัน) เราจึงต้องมาลุ้นอยู่ตลอดว่าอาเนียจะทำแผนแตกมั้ย แล้วน้องจะทำอย่างไรให้พ่อแม่รักกัน เพราะถ้าน้องทำอะไรผิดพลาด มีหวังบ้านได้แตกจนอาเนียต้องกลับไปอยู่บ้านเด็กกำพร้าเป็นแน่ 

อย่างหนึ่งที่ขอชมคือผู้แต่งเขียนเนื้อหาของทั้ง 3 ตัวละครออกมาได้กลมกล่อมมาก เพราะในแต่ละตอนจะมีการเปลี่ยนไปโฟกัสที่ตัวละครตัวใดตัวหนึ่ง ซึ่งตัวละครเหล่านั้นก็จะมีเส้นเรื่องย่อยที่แตกต่างกันไปอีก ในแต่ละพาร์ตที่คนเขียนพาตัวละครไปพบเจอ ก็สร้างสีสันได้สนุกจนเป็นสปินออฟขนาดย่อม ๆ ได้ อาทิ พาร์ตของอาเนียที่ต้องไปโรงเรียนเพื่อตีสนิทกับดาเมี่ยนลูกชายของเดสมอนด์ โดยเราจะพบว่าตัวละครในโรงเรียนที่อาเนียอยู่นั้น ต่างมีคาแรกเตอร์ที่น่าจดจำทุกตัว (ซึ่งการ์ตูนบางเรื่อง เวลาไม่มีตัวเอกอยู่ครบ มักจะมีมุมที่น่าเบื่อด้วยซ้ำ) คาแรกเตอร์ของเพื่อน ๆ อาเนียทำให้เราแอบคิดว่า หากเรื่องนี้ได้ทำภาคต่อในวัยที่อาเนียเติบโต คงน่าติดตามไม่ใช่น้อย เพราะตัวละครรองเหล่านี้ ก็น่าจดจำไม่แพ้ 3 ตัวละครหลักเลยล่ะ 

แม้ว่าในพาร์ตเส้นเรื่องแยกจะทำออกมาได้กลมกล่อม แต่เมื่อพวกเขาทั้ง 3 กลับมาอยู่เป็นครอบครัวในเส้นเรื่องหลัก ผู้เขียนก็สามารถดึงเสน่ห์ของครอบครัวฟอร์เจอร์ออกมาได้อย่างชัดเจน เรียกได้ว่าครอบครัวนี้มีเคมีโบ๊ะบ๊ะที่สนุก จนทำให้เราอยากตามต่อไปเรื่อย ๆ 

ในแง่ของเนื้อหา แม้ว่า Spy x Family จะลำดับเรื่องราว ค่อนข้างแตกต่างจากการ์ตูนโชเน็นอื่น ๆ ในระยะหลัง (กล่าวคือการ์ตูนโชเน็นในระยะหลัง มักจะไม่ค่อยมีการแตะเบรกกัน เพราะเนื้อเรื่องจะเร่งไปข้างหน้าอยู่ตลอดเวลา) ทว่า Spy x Family กลับวางเรื่องราวในแบบที่จบในตอน โดยตอนแรกเราค่อนข้างจะกังวลว่าเนื้อหาคงมีความน่าเบื่อ ทว่าผู้แต่งกลับใช้จุดเด่นของตัวละครดึงดูดคนไว้ได้ เพราะบทจะฮาก็ขำซะลั่น บทจะดราม่าก็เล่นกันซะซึ้ง 

สำหรับคนที่ชอบให้เนื้อเรื่องเดินไปข้างหน้านั้น ผู้แต่งก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดไม่เดินเรื่องเลย เพราะอาจารย์เอ็นโดะ ยังแอบแซมการดำเนินเรื่องมาทีละนิด เพื่อไม่ให้เนื้อหาเนิบจนเกินไป นั่นทำให้เราไม่สามารถดูอนิเมะเรื่องนี้ในแบบข้ามตอนไปได้เลยล่ะ

อีกหนึ่งความดีงามก็คงต้องยกให้ทีมอนิเมะ เพราะเคมีตัวละครของลูกชายของเดสมอนด์อย่าง ดาเมี่ยนกับน้องอาเนียนั้น ทำออกมาได้ดีกว่ามังงะเอามาก ๆ (ถึงขนาดที่ผู้เขียนการ์ตูนยังตกใจ ว่าคนชอบคู่นี้มากขนาดนั้น) เพราะเวลาพวกเขาจิกกัดกันมันช่างเป็นความโรแมนติกที่ชวนตลกซะไม่มี ซึ่งถือได้ว่าทีมอนิเมะใส่ใจรายละเอียด รวมทั้งทำให้เนื้อหานั้นน่าจดจำมากขึ้น จนคนแคปภาพไปทำมีมมากมาย นอกจากนั้นจุดที่เราชอบคือผู้แต่งค่อย ๆ ทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นผู้ปกครองอีกคนในบ้านฟอร์เจอร์ เพราะอยู่ ๆ เราก็รู้สึกว่าดูน้องอาเนียแล้ว เหมือนดูน้อง-ดูลูกตัวเองค่อย ๆ โตอย่างไรอย่างนั้นเลยทีเดียว

การที่โชเน็นจัมป์เปิดตัวการ์ตูนแนวสายลับ ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูก เพราะเรื่องนี้เป็นแนวทางที่ไม่ค่อยได้เจอนัก ยิ่งเป็นแฟนภาพยนตร์ฮอลลีวูดยิ่งจะสนุกมาก เพราะ Spy x Family อุดมไปด้วยมุกล้อหนังสายลับ สำหรับใครที่เป็นคอหนังสืบสวนจะสนุกเวลานั่งจับอีสเตอร์เอ้กเหล่านี้มาก โดยเฉพาะ 007 ที่จะโดนแซวบ่อยเป็นพิเศษเลยล่ะ

หากผู้เขียนจะแนะนำอนิเมะที่เหมาะจะนั่งดูกันทั้งครอบครัว ในแบบที่เนื้อหาสนุก และมีครบทุกรสชาติ ผู้เขียนคงจะแนะนำ Spy x Family อย่างแน่นอน เพราะอนิเมะเรื่องนี้ ผู้เขียนนิยามว่ามันคือ Gintama ในเวอร์ชันสายลับตะวันตกที่ลดความทะเล้นลง โดยแฝงด้วยความคอเมดี้อันอบอุ่น ซึ่งบอกเลยว่า Spy x Family จะกลายเป็นอีกหนึ่งการ์ตูนของโชเน็นจัมป์ที่คนต้องพูดถึงไปอีกนาน

Spy x Family เป็นมาสเตอร์พีซของอนิเมะคอมเมดี้ โดยผสานแนวสายลับกับความตลกโปกฮาไว้ได้อย่างลงตัว ซึ่งโลกอันน่าหลงใหลที่ถูกสร้างมานี้ ทำให้ตัวละครแต่ละตัวมีความโดดเด่นจนเราหลงรักได้ไม่ยาก ดังนั้นแล้วไม่ว่าคุณผู้อ่านจะชอบดูการ์ตูนหรือภาพยนตร์ก็ตาม Spy x Family จะตอบโจทย์ความสนุกทุกแบบที่เราต้องการได้ครบเลยล่ะ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส