การปลดปล่อยสวัสดิกะ หรือเรียกตามภาษาญี่ปุ่นว่า ‘บังไค’ นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของอนิเมะเรื่อง Bleach เลยทีเดียว เพราะผู้ชมหลายคนต่างก็เฝ้ารอการปลดปล่อยพลังที่แท้จริงของดาบฟันวิญญาณของยมทูตแต่ละคน ที่เต็มไปด้วยความเท่ และความงดงาม ซึ่งความสามารถหรือรูปลักษณ์จะแตกต่างกันไปอีกด้วย
อนิเมะภาคสงครามเลือดพันปี พาร์ต 2 ที่เพิ่งฉายจบลงในเดือนกันยายน ที่ผ่านมา หรือเรียกว่าช่วง Summer season ประจำปี 2023 ของทางญี่ปุ่นนั้น ได้เรียกเสียงฮือฮาแก่เหล่าแฟนคลับเป็นอย่างมาก เพราะมีการดัดแปลงเนื้อหาเพิ่มเติมจากตันฉบับมังงะมาในทางที่ดีขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การเพิ่มฉากปลดปล่อยสวัสดิกะที่ไม่มีปรากฏในเนื้อหามังงะต้นฉบับเข้ามา
ในบทความนี้ผมได้รวบรวมการปลดปล่อยสวัสดิกะของยมทูตแต่ละคน ที่ปรากฏในอนิเมะ ภาคสงครามเลือดพันปี พาร์ต 2 (ตอนที่ 14 – 26) พร้อมอธิบายถึงรายละเอียดความสามารถเบื้องต้นให้เข้าใจง่าย รวมไปถึงพลังยมทูตคนไหนบ้างที่เป็นส่วนเพิ่มเติมเข้ามาในอนิเมะเท่านั้น
1. ตัวต่อสายฟ้าพิฆาต (จาคุโฮ ไรโคเบ็น)
ปรากฏในมังงะ เล่มที่ 62 ตอนที่ 553, ในอนิเมะ ตอนที่ 16
หลังจากที่ในอนิเมะพาร์ตแรก หัวหน้าหน่วย แห่ง 13 หน่วยพิทักษ์หลายคน ถูกควินซี่ขโมยพลังปลดปล่อยสวัสดิกะไป จนต้องไปฝึกฝนตัวเองเพิ่ม ทว่าหัวหน้าหน่วยที่ 2 ซุยฟง ก็ยังไม่สามารถเอาชนะควินซี่ที่ขโมยพลังของตนไปอย่าง BG9 ได้
จนในที่สุด อุราฮาร่า คิสึเกะ สามารถหาวิธีชิงพลังปลดปล่อยสวัสดิกะคืนจากพวกควินซี่ได้ ด้วยการให้ยาที่มีส่วนผสมพลังฮอลโลว์และมีความเป็นพิษต่อร่างกายควินซี่ แก่ยมทูตทุกคนที่ถูกชิงพลังไป ทำให้ซุยฟงสามารถปลดปล่อยสวัสดิกะได้อีกครั้ง ความสามารถของพลังนี้จะมีรูปร่างเสมือนกับปืนใหญ่บาซูก้า เมื่อยิงกระสุนออกไปสร้างความเสียหายระเบิดแรงสูงแก่จุดที่เป้าหมาย ซึ่งแตกต่างไปจากการปลดปล่อยขั้นต้นของซุยฟงที่เป็นเพียงอาวุธขนาดเล็กไว้สำหรับลอบสังหาร
2. วงแหวนน้ำแข็ง ดอกบัวโลหิต (ไดกุเร็น เฮียวรินมารุ)
ปรากฏในมังงะ เล่มที่ 62 ตอนที่ 553, ในอนิเมะ ตอนที่ 16
หัวหน้าหน่วยที่ 10 ฮิซึกายะ โทชิโร่ ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่โดนควินซี่ช่วงชิงปลดปล่อยสวัสดิกะไปและได้รับการช่วยเหลือจากอุราฮาร่า คิซึเกะ จนทำให้ได้รับพลังของตนคืนมาเช่นเดียวกับซุยฟง เพียงแต่รูปร่างของการปลดปล่อยนั้น กลับมีลักษณะที่มีส่วนผสมของฮอลโลว์เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เช่น บริเวณดวงตาที่เป็นรู เป็นต้น
แม้ในส่วนของรูปร่างจะเปลี่ยนแปลงไป แต่ฮิซึกายะก็ยังสามารถควบคุมน้ำแข็งและปริมาณน้ำในอากาศได้เหมือนกับพลังปลดปล่อยสวัสดิกะแบบดั้งเดิม และจัดการชางตู ควินซี่ที่ขโมยปลดปล่อยสวัสดิกะของตนสำเร็จ ก่อนที่เจ้าตัวจะหมดสติไปหลังจบการต่อสู้
3. ซากาชิมะ โยโกชิมะ ฮัปโป ฟุซานางิ (ยังไม่มีชื่อแปลไทยจาก สำนักพิมพ์ Ned)
ปรากฏในอนิเมะ ตอนที่ 16
การปลดปล่อยสวัสดิกะนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกประทับใจมากตอนเห็นครั้งแรกในอนิเมะตอนที่ 16 เพราะเป็นครั้งแรกที่มีการเพิ่มฉากที่ไม่มีในมังงะขึ้นมา และทำการเปิดเผยความสามารถการปลดปล่อยสวัสดิกะของหัวหน้าหน่วยที่ 5 ฮิราโกะ ชินจิ เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นหนึ่งในพลังอันตรายจนถูกสั่งให้ห้ามใช้ในเซย์เรย์เทย์อย่างเด็ดขาด (ตามต้นฉบับจะถูกเปิดเผยครั้งแรกใน นิยาย Bleach : Can’t fear your own world เล่ม 3 ซึ่งเป็นเนื้อหาหลังจบภาคสงครามเลือดพันปี)
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ถูกสั่งห้ามใช้ เนื่องมาจากความสามารถที่อันตรายเกินไป เพราะพลังปลดปล่อยสวัสดิกะของฮิราโกะนั้น จะปลดปล่อยสารบางอย่างออกมา เพื่อทำให้ทุกคนที่อยู่รอบข้างไม่สามารถแยกแยะมิตรและศัตรูได้ ส่งผลหลอนประสาทให้เกิดการฆ่าฟันกันเอง ดังนั้นฮิราโกะจึงต้องเล็งใช้ในจังหวะที่ไม่มีพรรคพวกยมทูตอยู่รอบข้างเท่านั้น
4. โลกบาล กาฬสุตต อาภรณ์เชือกไร้เกราะ (โคคุโจ เท็นเง็นเมียวโอ ดันไกโจเอะ)
ปรากฏในมังงะ เล่มที่ 62 ตอนที่ 557, ในอนิเมะ ตอนที่ 17
หลังจากที่หัวหน้าหน่วยที่ 7 โคมามูระ ซาจิน ได้กลับไปยังถิ่นกำเนิดของเผ่าพันธุ์เพื่อค้นหาวิชาลับที่ทำให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น นั่นคือการเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ด้วยการแลกหัวใจของตน พร้อมกันกับการพัฒนาไปอีกขั้นของพลังปลดปล่อยสวัสดิกะดั้งเดิมของเขา ที่อยู่ในสภาพชายร่างใหญ่ สวมชุดเกราะซามูไรญี่ปุ่น
อาภรณ์เชือกไร้เกราะ (ดันไกโจเอะ) จะทำการปลดปล่อยชุดเกราะจากร่างกายมหึมาเผยให้เห็นร่างที่แท้จริง มีพละกำลังมหาศาลและการฟื้นฟูร่างกาย แม้ว่าความบาดเจ็บจะถูกถ่ายถอดถึงโคมามูระตามเดิม แต่เนื่องจากว่าร่างกายมนุษย์ของเขานั้นไม่มีหัวใจ ทำให้ไม่ว่าจะถูกโจมตีไปสักเท่าไหร่โคมามูระก็ไม่สามารถสิ้นลมหายใจได้ จนในที่สุดก็สามารถจัดการแบมบิเอ็ตต้า บัสเตอร์ไบน์จนพ่ายแพ้ไปได้
5. หมัดเหล็กไหล สะบั้นวายุ (เท็คเค็น ทาจิคาเซะ)
ปรากฏในมังงะ เล่มที่ 62 ตอนที่ 560, ในอนิเมะ ตอนที่ 18
มุกุรุม่า เค็นเซย์ หนึ่งในสมาชิกไวเซิร์ดที่กลับมารับตำแหน่งหัวหน้าหน่วยที่ 9 (แทนโทเซ็น คานาเมะ ที่ทรยศไปพร้อมกับไอเซ็น โซสึเกะ) ในการต่อสู้กับควินซี่มาสค์ เดอ มาสคูลิน หลังจากที่เขาได้เข้ามาช่วยเหลือรองหัวหน้าหน่วยของตนที่พ่ายแพ้ไปก่อนหน้า เคนเซย์ก็ได้ทำการปลดปล่อยสวัสดิกะตั้งแต่เริ่มการต่อสู้แม้จะยังไม่รู้ความสามารถที่แท้จริงของอีกฝ่ายเลยก็ตาม
รูปลักษณ์ของการปลดปล่อยสวัสดิกะของเคนเซย์จะเป็นอุปกรณ์สวมมือและแขนทั้งสองข้าง เพื่อรวบรวมอานุภาพการทำลายของการปลดปล่อยขั้นต้นทั้งหมดไปที่พลังหมัดของตัวเองในการต่อสู้ระยะประชิดกับอีกฝ่าย รวมถึงความสามารถพิเศษอย่างการปลดปล่อยพลังทั้งหมดกระหน่ำใส่อย่างไม่มีวันจบตราบเท่าที่หมัดยังสัมผัสตัวอยู่ แอบคล้ายหมัดตะปูของโทริโกะอยู่เหมือนกันนะ
6. นักระบำต้นสาละทอง (คินฉะราบุโทดัน)
ปรากฏในมังงะ เล่มที่ 63 ตอนที่ 561, ในอนิเมะ ตอนที่ 18
โอโทริบาชิ โรจูโร่ อีกหนึ่งสมาชิกไวเซิร์ดที่เข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าหน่วยที่ 3 (แทนอิชิมารุ งิน ที่ทรยศไปพร้อมกับไอเซ็น โซสึเกะ) เขาได้เข้าต่อสู้กับควินซี่มาสค์ เดอ มาสคูลิน หลังจากที่เค็นเซย์โดนจัดการไป โดยเขาได้เล็งจัดการเจมส์ หนึ่งในสมุนที่คอยเพิ่มพลังให้แก่ศัตรูหลังจากรับรู้ความสามารถที่แท้จริงของอีกฝ่าย จากนั้นจึงได้ทำการปลดปล่อยสวัสดิกะเพื่อหวังจัดการให้เด็ดขาด
ความสามารถการปลดปล่อยสวัสดิกะของโอโทริบาชิ คือ การควบคุมเสียงดนตรี เพื่อครอบงำจิตใจของศัตรูให้พบกับภาพหลอนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหรือไฟ อย่างไรก็ตามเขากลับพลาดท่าเปิดเผยความสามารถแก่ศัตรูก่อนที่จะเผด็จศึก ทำให้มาสคูลิน จัดการทะลวงแก้วหูของตัวเองเพื่อไม่ให้ได้ยินเสียง และหลุดพ้นจากความสามารถของโรจูโร่ออกมาได้ (เนื้อหาในมังงะช่วงที่เขาปลดปล่อยสวัสดิกะมีเพียง 4 หน้าเท่านั้น)
7. ราชันย์แฝด หางอสรพิษ(โซโอ ซาบิมารุ)
ปรากฏในมังงะ เล่มที่ 63 ตอนที่ 564, ในอนิเมะ ตอนที่ 18
หลังจากหัวหน้าหน่วยทั้งสองคน เค็นเซย์กับโอโทริบาชิ โดนมาสค์ เดอ มาสคูลิน จัดการไป รองหัวหน้าหน่วยที่ 6 อย่าง อาบาราอิ เร็นจิ ที่เพิ่งกลับลงมาจากฝึกฝนบนวังราชันย์ ก็ได้อาสาจัดการศัตรูต่อด้วยตัวคนเดียว และให้ลูเคียที่มาด้วยกันทำการช่วยเหลือหัวหน้าหน่วยทั้งสองคนออกไปจากพื้นที่การต่อสู้
ชื่อของพลังปลดปล่อยสวัสดิกะที่เขาใช้มาตลอดตั้งแต่แรกเริ่ม คือ ราชันย์วานร หางอสรพิษ (ฮีฮีโอ ซาบิมารุ) นั้นเป็นพลังเพียงแค่ครึ่งเดียวของเขาเท่านั้น ทว่าหลังจากทำให้ดาบฟันวิญญาณยอมรับได้สำเร็จ เขาก็สามารถปลดปล่อยพลังเต็มที่ออกมาได้ โดยสิ่งที่เปลี่ยนไปมากที่สุด คือ ‘รูปลักษณ์ของพลัง’ แขนซ้ายเป็น ฮีฮีโอ ที่สามารถยืดไปจับสิ่งที่ต้องการได้ ส่วนแขนขวาเป็น ดาบที่ถูกครอบด้วยหัวของโอโรจิ และด้วยพลังนี้ทำให้เรนจิสามารถเอาชนะมาสคูลินไปได้อย่างง่ายดาย (เก่งกว่าหัวหน้าหน่วยสองคนก่อนหน้าซะแล้ว)
8. ทัณฑ์หิมะขาว (ฮักกะ โนะ โทงาเมะ)
ปรากฏในมังงะ เล่มที่ 63 ตอนที่ 569, ในอนิเมะ ตอนที่ 19
คุจิกิ ลูเคีย รองหัวหน้าหน่วยที่ 13 หลังจากที่เธอได้ทำการช่วยเหลือหัวหน้าหน่วยทั้งสองที่บาดเจ็บ และกำลังจะกลับไปรวมตัวกับ เรนจิ เพื่อร่วมการต่อสู้ เธอก็ได้บังเอิญไปเจอกับ เอส นอดท์ ควินซี่ที่ชิงปลดปล่อยสวัสดิกะของ คุจิกิ เบียคุยะเข้าซะก่อน จึงทำให้เกิดการต่อสู้กันอย่างเลี่ยงไม่ได้
ลูเคียสามารถดึงเอาพลังที่แท้จริงของโซเดโนะ ชิรายูกิ ออกมาใช้ได้ในการต่อสู้ช่วงแรก แต่ยังไม่เพียงพอที่จะจัดการศัตรูได้ เธอจึงปิดฉากการต่อสู้นี้ด้วยปลดปล่อยสวัสดิกะ ‘ทัณฑ์หิมะขาว’ โดยความสามารถนี้จะทำการเปลี่ยนร่างกายของตัวเอง พื้นที่บริเวณใกล้เคียงและทุกชีวิตโดยรอบ ให้มีอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งทันที แต่เนื่องด้วยเป็นความสามารถที่อันตรายมาก จึงต้องทำการคลายพลังแบบช้าๆเพื่อรักษาสมดุลของการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิภายในร่างกายของผู้ใช้ไม่ให้ถึงชีวิต
9. เงาหาญซากุระ พันดอก (เซมบงซากุระ คาเงโยชิ)
ปรากฏในอนิเมะ ตอนที่ 23
ฉากนี้เป็นอีกหนึ่งฉากที่ถูกเพิ่มเข้ามาในอนิเมะเท่านั้น เนื่องจากว่ามังงะในตอนที่ 594 นั้นเนื้อหาได้ถูกตัดสลับมาที่หัวหน้าหน่วยที่ 6 คุจิกิ เบียคุยะ หลังจากจัดการควินซี่ทั้งสามคนลงไปได้แล้ว โดยที่ทางคนอ่านไม่มีโอกาสเห็นฉากการต่อสู้นั้นเลย ดังนั้นในฉากต่อสู้ที่ถูกเพิ่มเข้ามาจะเป็นการแสดงความเหนือชั้นของเบียคุยะแก่เหล่าควินซี่ทั้งสามที่ถูกจัดการลงไป
ความสามารถปลดปล่อยสวัสดิกะของเบียคุยะนั้นถูกเปิดเผยมาหลายครั้งในเนื้อเรื่อง โดยจะทำการเปลี่ยนตัวดาบของเขาให้กลายเป็นคมดาบนับไม่ถ้วนในรูปแบบของกลีบดอกซากุระ และพุ่งเข้าจู่โจมศัตรูจากทุกทิศทาง นอกจากนั้นยังมีรูปแบบต่างๆ มากมายถึง 4 รูปแบบเลยทีเดียว แต่ที่ปรากฏในอนิเมะตอนนี้เป็นเพียงแค่รูปแบบแรกเท่านั้น
10. ชาทัตสึ คารางาระ ชิงารามิ โนะ สึจิ (ยังไม่มีชื่อแปลไทย จากสำนักพิมพ์ NED)
ปรากฏในอนิเมะ ตอนที่ 26
ชูทาระ เซ็นจูมารุ หนึ่งในสมาชิกหน่วยศูนย์ ผู้ซึ่งเป็นคนตัดชุดต่างๆให้แก่ยมทูต เธอเป็นผู้ถูกเลือกจากสมาชิกหน่วยศูนย์อีกสามคน (ยกเว้น อิจิเบย์) ให้รับหน้าที่ในการกำจัดควินซี่ทั้งหกคนที่บุกรุกขึ้นมายังวังราชันย์ เนื่องจากว่าพลังของหน่วยศูนย์แต่ละคนนั้นมีมากเกินไป จึงต้องถูกผนึกไว้ด้วยชีวิตของสมาชิกคนที่เหลือในหน่วย และจะสามารถปลดผนึกได้ด้วยการสังเวยชีวิต เพื่อให้เหลือเพียงคนเดียวที่สามารถใช้พลังได้เต็มที่เท่านั้น
การปลดปล่อยสวัสดิกะของสมาชิกหน่วยศูนย์เพียงแค่คนเดียวนั้นสามารถสะเทือนไปได้ถึงสามโลก โดยพลังปลดปล่อยสวัสดิกะของเซ็นจูมารุ คือการถักทอผ้าไหมเป็นห้องต่างๆ เพื่อรับมือกับพลังของควินซี่แต่ละคน ประกอบไปด้วย ห้องสะท้อน, ห้องหนามแหลม, ห้องทรายดูด, ห้องเยือกแข็ง, ห้องเพลิงโลกันต์, และห้องดูดอณูวิญญาณ ทำให้เธอสามารถจัดการควินซี่ทั้ง 6 คนไปได้หลังจบอนิเมะตอนที่ 26
11. กระบวนอันเที่ยงแท้ หนึ่งอักขระ พู่กันขาว (ชิราฟุเดะ อิจิมอนจิ)
ปรากฏในมังงะ เล่มที่ 67 ตอนที่ 609, ในอนิเมะ ตอนที่ 26
เฮียวซึเบะ อิจิเบย์ หัวหน้าแห่งหน่วยศูนย์ ผู้ได้รับสมญานามจากเรย์โอว่า ‘ผู้ขนานนามที่แท้จริง’ โดยมีที่มาจากการที่เขาเป็นผู้ตั้งชื่อให้แก่ทุกสรรพสิ่งในโซลโซไซตี้ ไม่ว่าจะเป็นคำว่า ปลดปล่อยขั้นต้น, ปลดปล่อยสวัสดิกะ หรือแม้กระทั่ง ชื่อของดาบฟันวิญญาณทุกชิ้น และในการต่อสู้กับ ยูฮาบัคห์ ผู้นำสูงสุดของเหล่าควินซี่ อิจิเบย์ ก็ได้ทำการปลดปล่อยกระบวนอันเที่ยงแท้ออกมา (ต้นกำเนิดของท่านี้ก่อนเขาจะทำการตั้งชื่อว่า ปลดปล่อยสวัสดิกะ ตามมาในภายหลัง)
การปลดปล่อยพลังนี้จะเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับการปลดปล่อยขั้นต้นของเขา หนึ่งอักขระ (อิจิมอนจิ) ซึ่งจะย้อมทุกอย่างให้เป็นสีดำเพื่อตัดชื่อของสิ่งต่างๆ ออกไป และหลังจากเขาได้ทำการปลดปล่อย หนึ่งอักขระ พู่กันขาว ดาบของอิจิเบย์จะกลายเป็นพู่กันสีขาวตามชื่อ เขาสามารถสลักชื่อใหม่ให้แก่สิ่งที่ถูกย้อมเป็นสีดำได้ เพื่อมอบความสามารถตามชื่อนั้นๆ เช่น คนที่ถูกมอบชื่อมดดำให้ใหม่ ก็จะมีความสามารถทุกอย่างเป็นเพียงพลังของมดดำเท่านั้น
และนี่คือ 11 การปลดปล่อยสวัสดิกะทั้งหมดที่ปรากฏในอนิเมะ Bleach ภาคสงครามเลือดพันปี พาร์ต 2 ส่วนในอนิเมะพาร์ต 3 (ตอนที่ 27 – ตอนที่ 39) ที่มีการประกาศแล้วว่าจะฉายภายในปี 2024 ทุกคนคาดหวังจะได้เห็นปลดปล่อยสวัสดิกะของใครเพิ่มเติมจากเนื้อหาในมังงะต้นฉบับกันบ้างนะ?
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส