ทำไมหลาย ๆ คนที่ตามอ่านมังงะมหาเวทย์ผนึกมารหรือ Jujutsu Kaisen ถึงช่วงล่าสุด แล้วต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่าเนื้อเรื่องเละเทะ ไม่สนุกเหมือนเก่า เกลี่ยบทตัวละครได้ไม่ดี และอีกหลากหลายคำถามมากมาย ในบทความนี้จะพามาดูกันว่า ประเด็นหลักที่ทำให้เนื้อเรื่องมหาเวทย์ผนึกมารถูกพูดถึงแบบทุกวันนี้คืออะไรกันแน่ ?
คำเตือน : มีการสปอยล์เนื้อหามังงะจนถึงตอนที่ 254
เนื้อเรื่องของอนิเมะซีซันที่ 2 จะจบลงที่ภาคอุบัติการณ์ชิบุยะ หรือว่ามังงะในตอนที่ 137 เท่านั้น แต่เนื้อหามังงะที่กลายเป็นประเด็นในบทความนี้จะอยู่ช่วงตอนที่ 222 เป็นต้นไป (ภาคศึกชี้ชะตาอสุราชินจูกุ) เพราะงั้นสำหรับคนที่ตามดูอนิเมะมาอย่างเดียวอาจจะข้ามเนื้อเรื่องไปค่อนข้างเยอะ เลยขอพูดถึงเรื่องราวสรุปโดยรวมก่อนเลยแล้วกัน
ภาค จรดลล้างบาง
มังงะตอนที่ 138 – 221, เล่มที่ 16 – 24
พวกนักเรียนโรงเรียนไสยเวทคนที่เหลือรอดพยายามที่จะหาวิธีปลดผนึกอาจารย์โกะโจ ซาโตรุ ออกจากอุปกรณ์ไสยเวทโกะคุมงเคียวให้ได้ ดังนั้นจึงได้รวมทีมกันตามหานักไสยเวทที่มีฉายาว่า ‘นางฟ้า’ หรือชื่อจริงว่า คุรุสุ ฮานะ ผู้มีอาคมในการสลายอาคมทุกประเภท และเป็นเพียงคนเดียวในเวลานี้ที่สามารถปลดผลึกโกะโจได้
แต่เนื่องจากนางฟ้าเป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมเล่นเกม ‘จรดลล้างบาง (Culling game)’ เกมฆ่าฟันกันที่ถูกจัดขึ้นโดย เคนจาคุ (สมองที่สิงร่างของเกะโท) เพื่อคัดนักคุณไสยให้เหลือรอดเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้น ดังนั้นพวกยูจิ, เมงุมิ, และนักเรียนโรงเรียนโรงเรียนไสยเวทคนอื่น จึงได้ร่วมมือกันผนึกกำลังตามหาตัวนางฟ้า และต้องเกลี้ยกล่อมเธอให้มาช่วยปลดผนึกโกะโจให้ได้
ทว่าเหตุการณ์กลับไม่เป็นไปตามนั้น หลังจากยูจิกับเมงุมิพบตัวนางฟ้า และกำลังจะพาตัวกลับไป สุคุนะกลับอาศัยเล่ห์กลจากแผนพันธะที่ทำเอาไว้กับยูจิ และวางเอาไว้มาเนิ่นนานตั้งแต่ช่วงสถานพินิจ (มังงะเล่ม 2 ตอนยูจิตาย) สุคุนะทำการย้ายวิญญาณและพลังของตัวเองออกจากร่างของยูจิผู้เป็นภาชนะเก่า และ ไปสิงสู่ร่างภาชนะใหม่ผู้เป็นเจ้าของอาคมสิบเงา ฟุจิงุโระ เมงุมิแทน !!
ภาค ศึกชี้ชะตาอสุราชินจูกุ
มังงะตอนที่ 222 – 234, เล่มที่ 24 เป็นต้นไป
หลังจากสุคุนะชิงร่างเมงุไป เขาก็ได้ทำพิธีบางอย่างเพื่อกดจิตวิญญาณของเมงุมิที่กำลังแตกสลายให้ดำดิ่งลงไปให้ลึกที่สุด ส่วนทางด้านโรงเรียนไสยเวท ก็ขอให้นางฟ้าทำการปลดผนึกโกะโจออกจากโกะคุมงเคียวได้สำเร็จ ทำให้สองผู้แข็งแกร่งที่สุดในแต่ละยุคต้องมาเผชิญหน้ากันเพื่อตัดสินผล
‘โกะโจ ซาโตรุ’ ชายที่ถูกเรียกว่านักไสยเวทที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคปัจจุบัน ผู้ครอบครองดวงตาริคุกันที่สามารถมองอาคมทุกอย่างออก อาคมหลักของเขาคือ มุเก็นที่เสมือนกำแพงคอยป้องกันเขาจากสิ่งต่าง ๆ แบบอัตโนมัติ กับมุคาเก็น ที่สามารถประยุกต์ใช้พลังดึงดูดและผลักออกได้อย่างเชี่ยวชาญ (จากดวงตาริคุกัน) นอกจากนั้นยังมีการกางอาณาเขตที่สามารถยัดข้อมูลทุกอย่างเข้าสมองของศัตรูจนสามารถสร้างสถานะอัมพาตแก่ศัตรูได้อีกด้วย
(อ่านเพิ่มเติมแบบละเอียดได้ที่ บทความ นักไสยเวทระดับพิเศษ)
‘เรียวเมนสุคุนะ’ ราชาคำสาปที่แข็งแกร่งที่สุดเมื่อพันปีที่แล้ว เขาได้แบ่งวิญญาณลงโดยการตัดนิ้วและผนึกเป็นวัตถุต้องสาประดับพิเศษทั้งหมด 20 ชิ้น วิญญาณของเขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาในยุคปัจจุบันเพราะอิตาโดริ ยูจิกลืนนิ้วเข้าไป อาคมของสุคุนะคือการตัดและเฉือน ความสามารถการกางอาณาเขตจะเป็นแบบเปิดและสามารถกำหนดระยะที่ต้องการใช้งานได้ นอกจากนั้นยังมีความรู้ทางด้านคุณไสยอยู่มากมายจากประสบการณ์พันปีที่ผ่านมาอีกด้วย
และหลังจากสุคุนะได้ครอบครองร่างกายของเมงุมิ ก็ทำให้เขาสามารถใช้อาคมสิบเงาได้ด้วย เขาได้ทำการกำราบชิคิงามิที่แข็งแกร่งที่สุดในอาคมสิบเงาอย่าง ‘มโหรากา’ และนำมาประยุกต์ใช้ในการสู้กับโกะโจได้อย่างคล่องแคล่ว (ใช้อาคมสิบเงาได้มีประสิทธิภาพกว่าเจ้าของร่างอย่างเมงุมิอีก) นอกจากนั้นเขายังมีอาคมลับที่ยังไม่ถูกเปิดเผยรายละเอียดอย่าง ‘ฟูกะ’ ที่เรียกไฟมาใช้ในการต่อสู้กับวิญญาณคำสาป โจโกะ ที่อุบัติการณ์ชิบุยะ และ อาวุธไสยเวทประจำตัวของสุคุนะอีกสองชิ้น
การต่อสู้ระหว่างโกะโจกับสุคุนะถือเป็นหนึ่งในการต่อสู้ที่ยาวที่สุดตั้งแต่มีมาในเรื่องมหาเวทย์ผนึกมาร เป็นการผลัดกันรุกผลักกันรับ โดยที่ไม่สามารถคาดเดาผลลัพธ์การต่อสู้ได้เลยว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะกันแน่ แต่สาเหตุหลักที่สุคุนะช่วงชิงร่างของเมงุมิมาใช้งาน ก็เพราะต้องการความสามารถในการปรับตัวเข้ากับอาคมได้ทุกรูปแบบของชิคิงามิมโหรากา ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญในการต่อสู้ครั้งนี้เลยทีเดียว
การรับมือของสุคุนะ
สุคุนะกางอาณาเขตสู้กับโกะโจไปถึง 5 รอบ จนสมองของทั้งคู่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก จากนั้นสุคุนะจึงเรียกใช้งานมโหรากากับชิคิงามิตัวอื่น ๆ เพื่อมารุมโกะโจ และเมื่อความสามารถในการปรับตัวของมโหรากาทำงาน สุคุนะจึงสามารถโจมตีทะลุมุเก็นเข้าไปถึงตัวโกะโจได้ แม้สุดท้ายมโหรากาจะถูกโกะโจทำลายไปด้วยมุราซากิ แต่สุคุนะก็ได้นำการปรับตัวของมโหรากา มาผนวกรวมเข้ากับอาคมตัดของตัวเอง จนกลายเป็น ‘สะบั้นผ่าโลกา’ หรือ ไคผ่ามิติ ที่ฟันทะลุได้ทุกสิ่งทุกอย่างรวมถึงผ่าครึ่งร่างกายของโกะโจ ซาโตรุด้วย
(โกะโจ ซาโตรุ ต่อสู้ตั้งแต่ตอนที่ 223 – 236 รวมทั้งหมด 14 ตอน)
จุดเริ่มต้นคือหลังจากโกะโจ ซาโตรุ พ่ายแพ้
เนื่องจากไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ว่าโกะโจ ซาโตรุ ‘นักไสยเวทที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคปัจจุบัน’ จะพ่ายแพ้จนถึงแก่ความตายในสภาพขาดครึ่งตัวไปทั้งอย่างนั้น แต่ในส่วนของบทที่อาจารย์เกเกะปูมาตลอดว่า สุคุนะคือราชาคำสาปเมื่อพันปีที่แล้ว ถ้าโกะโจชนะไปอย่างงั้นมันก็ดูจะจบง่ายไปหน่อย เพราะงั้นโดยส่วนตัวแล้วยังคิดว่าเนื้อเรื่องไปในทางที่ถูกต้องอยู่นะ
แต่หลังจากโกะโจตายนี่สิ จะมีใครที่เก่งทัดเทียมกับโกะโจลงมาต่อสู้กับสุคุนะเป็นคนต่อไปได้บ้าง และผลกระทบจากการที่สุคุนะต่อสู้กับโกะโจจะส่งผลยังไงต่อตัวสุคุนะบ้างนะ จุดนี้นี่แหละที่ทำให้คนอ่านหลายคนเริ่มไม่พอใจในส่วนเนื้อเรื่องกันมากขึ้น เพราะเนื้อหาหลังจากการต่อสู้นั้นมันวนซ้ำอยู่ตลอด มาลองไล่เรียงไทม์ไลน์ไปพร้อมกันเลยดีกว่า
คู่ต่อสู้คนที่ 2
นักไสยเวทที่แข็งแกร่งที่สุดเมื่อ 400 ปีที่แล้ว ‘คาชิโมะ ฮาจิเมะ’
คาชิโมะเคยต่อสู้กับ ฮาคาริ คินจิมาก่อน ในการแข่งขันจรดลล้างบางโคโลนีโตเกียวเขต 2 เขาได้ตัดสินใจเข้าร่วมกับทีมโรงเรียนไสยเวทหลังจบการต่อสู้นั้น เพราะเป้าหมายหลักของเขาคือการโค่นล้มสุคุนะ ผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดตลอดกาลให้ได้ (จากในมุมมองของ เคนจาคุ) นอกจากนั้นคาชิโมะยังไม่ได้ใช้อาคมแบบทุ่มสุดตัวในการต่อสู้กับฮาคาริอีกด้วย เนื่องจากว่าใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
หลังจากโกะโจตายไป คาชิโมะก็รีบกระโจนเข้าสู่สนามรบในทันที และไปเผชิญหน้ากับสุคุนะก่อนใครเพื่อน ในการต่อสู้เขาไม่รีรอ รีบเปิดใช้งานอาคมที่กั๊กไว้ตอนสู้กับฮาคาริทันที (อาคมปกติจะเป็นพลังสายฟ้า) ร่างกายของเขาถูกห่อหุ้มด้วยสายฟ้าเพื่อเพิ่มพลังโจมตีและความเร็วในการเคลื่อนที่ แต่ต้องแลกมาด้วยกับการเผาผลาญพลังชีวิตของตัวเองในทุกวินาที
การรับมือของสุคุนะ
ตอนสู้กับโกะโจนั้น สุคุนะต้องอาศัยร่างกายของ ‘ฟุจิงุโระ เมงุมิ’ เพื่อนำพลังในการปรับตัวของมโหรากาจากอาคมสิบเงามาใช้ในการต่อสู้ แต่พอสู้กับคาชิโมะก็ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป เขาตัดสินใจกลับคืน ‘ร่างดั้งเดิม’ ของเขาในอดีตเมื่อพันปีที่แล้ว ในร่างที่มีสี่แขนสองปาก เพื่อเพิ่มความสามารถในการใช้มือทำสัญกรณ์และปากในการร่ายคาถา จากนั้นก็จัดการใช้ไคผ่ามิติในการจัดการคาชิโมะลงไปได้
(คาชิโมะ ฮาจิเมะ ต่อสู้ตั้งแต่ตอนที่ 237- 238 รวมทั้งหมด 2 ตอน)
คู่ต่อสู้คนที่ 3
นักไสยเวทอัจฉริยะที่พัฒนาอย่างรวดเร็วหลังอาคมตื่นขึ้น ‘ฮิกุรุมะ ฮิโรมิ’
ก่อนจะมาเป็นนักไสยเวท ฮิกุรุมะเคยเป็นทนายมาก่อน แต่เมื่ออาคมตื่นขึ้นตอนอยู่ในชั้นศาล เขาก็ได้พลั้งมือฆ่าผู้พิพากษาไป และเข้าร่วมเป็นหนึ่งในผู้เล่นจรดลล้างบางในโคโลนีโตเกียวเขต 1 จนกระทั่งยูจิเข้ามาพบและเกิดการต่อสู้กันจนสามารถดึงฮิกุรุมะให้เข้ามาเป็นพรรคพวกในโรงเรียนไสยเวทได้
หลังจากคาชิโมะโดนจัดการไป ฮิกุรุมะ กับ ยูจิ และนักไสยเวทคนอื่น ๆ ก็กระโดดเข้าสู่การต่อสู้มาพร้อมกัน และช่วยกันรุมใส่สุคุนะ พร้อมด้วยพลังการกางอาณาเขตของฮิกุรุมะตามแผนการที่วางเอาไว้ก่อนหน้านี้ แต่ผลลัพธ์กลับออกมาไม่เป็นตามที่วางไว้ เนื่องจากเขาไม่สามารถยึดอาคมสุคุนะจากเงื่อนไขของอาณาเขตได้ ทำได้เพียงแค่ยึดอาวุธประจำตัวเท่านั้น ทว่าก็ยังสามารถทำการเรียกดาบเพชรฆาตซึ่งเมื่อฟาดฟันโดนใครก็จะตายทันทีออกมาได้เหมือนเดม
การรับมือของสุคุนะ
เนื่องจากว่าโดนยึดอาวุธประจำตัวไป ทำให้เรียกสายฟ้ามาช่วยในการต่อสู้ไม่ได้ แต่สุคุนะก็ยังมีอาคมตัดอยู่ ถึงแม้คู่ต่อสู้จะมีหลายคน (ฮิกุรุมะ, ยูจิ, คุซาคาเบะ, อิโนะ, โจโซะ) ทว่าก็ไม่คณามือสุคุนะเลยสักนิด สุดท้ายนี้แม้สุคุนะจะชื่นชมความสามารถของฮิกุรุมะในด้านพัฒนาการประยุกต์ใช้อาคมกับพลังไสยเวทย้อนกลับที่ตื่นขึ้น แต่ก็ยังไม่เข้าขั้นเป็นคู่มือที่เขาจะพึงพอใจอยู่ดี
(ฮิกุระมะ ฮิโรมิ ต่อสู้ตั้งแต่ตอนที่ 244 – 247 รวมทั้งหมด 4 ตอน)
คู่ต่อสู้คนที่ 4
นักไสยเวทระดับพิเศษคนสุดท้ายที่ยังเหลือรอด ‘อคคทสึ ยูตะ’
อคคทสึ ยูตะ เป็นนักเรียนโรงเรียนไสยเวทปีสองเพียงคนเดียว ที่ถูกรับเลือกเป็น ‘ระดับพิเศษ’ ด้วยพลังความสามารถของเขา ซึ่งทุกคนจะได้เห็นกันแบบเต็ม ๆ ในอนิเมะมูฟวี่ ‘Jujutsu Kaisen Zero’ ที่ยูตะเป็นตัวเอกในการดำเนินเรื่อง หลังจากนั้นเขาปรากฏตัวในภาคหลักอีกครั้งเมื่อจบศึกอุบัติการณ์ชิบุยะ และได้เข้าร่วมต่อสู้ในฐานะของผู้เล่นจรดลล้างบาง เพื่อจะจัดการเคนจาคุให้ได้
ในระหว่างที่คนอื่นกำลังต่อสู้กับสุคุนะอยู่นั้น ยูตะได้เป็นคนแยกตัวออกไปจัดการกับเคนจาคุ แต่กลับมาไม่ทันก่อนที่ฮิกุรุมะจะโดนจัดการ ดังนั้นเมื่อเขาเริ่มการต่อสู้กับสุคุนะ ยูตะเลยทำการกางอาณาเขต ‘ปฏิพัทธ์แท้เที่ยง’ โดยไม่รอช้าทันที ยูตะสามารถนำอาคมของคนที่เคยก้อปปี้ไปแล้วมาใช้งานได้ผ่านดาบจำนวนมากที่อยู่ในอาณาเขตของเขา นอกจากนั้นยังอนุญาตให้ยูจิเข้ามาช่วยซัดกับสุคุนะในอาณาเขตอีกด้วย
การรับมือของสุคุนะ
ถึงแม้จะรับมือค่อนข้างยากจากการโดนรุมสาม (ยูตะ, ยูจิ, ริกะ) รวมกับหมัดแต่ละหมัดของยูจิที่สะเทือนไปถึงวิญญาณของสุคุนะ และค่อย ๆ ตัดการเชื่อมต่อกับร่างกายของเมงุมิมากขึ้นในทุกครั้งที่โดนโจมตี บวกกับข้อจำกัดภายในอาณาเขตที่มีแต่อาคมพุ่งเป้า ทำให้เขาต้องใช้แขนไปสองข้างเพื่อร่ายเวทป้องกันตัวเองตลอดเวลา และยังโดนยูตะดึงลิ้นออกจากปากที่ท้องเพื่อตัดการร่ายอาคมออกไปอีก
แม้ฝั่งของยูตะกับยูจิเหมือนจะได้เปรียบมากก็ตาม แต่สุดท้ายสุคุนะก็สามารถหาจังหวะร่ายอาคม และใช้ไคผ่ามิติฟันใส่ทั้งสามคนได้ จนอาณาเขตของยูตะพังทลายลง
(อคคทสึ ยูตะ ต่อสู้ตั้งแต่ตอนที่ 248 – 251 รวมทั้งหมด 4 ตอน)
คู่ต่อสู้คนที่ 5
ร่างไร้พลังไสยเวทต้องสาปข้อผูกมัดสวรรค์ ที่สุดทางด้านพลังกายภาพ ‘เซนอิง มาคิ’
เซนอิง มาคิ เป็นเพียงนักไสยเวทที่ไร้ซึ่งพลังเวทและถูกตระกูลเซนอิงของตัวเองประเมินให้ตกต่ำมาตลอดแม้จะมีความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิดสูงแค่ไหนก็ตาม จนเมื่อถึงวันที่ ไม (น้องสาวฝาแฝด) เสียชีวิต เสมือนว่าสิ่งที่เหนี่ยวรั้งมาคิไว้ขาดสะบั้น คำสาปข้อผูกมัดสวรรค์ส่งผลต่อร่างกายของมาคิแบบก้าวกระโดด ทำให้พลังทางกายภาพของเธอสูงขึ้นจนเรียกได้ว่าเทียบเท่าหรืออาจจะเหนือกว่าผู้ต้องคำสาปคนก่อนอย่าง ‘เซนอิง โทจิ’
หลังจากยูตะให้สัญญาณในการลอบโจมตีด้วยการสลายอาณาเขต มาคิรีบพุ่งไปใช้ดาบสะบั้นวิญญาณเข้าไปเสียบหัวใจของสุคุนะจากข้างหลังทันที และเนื่องจากว่ามาคิไร้ซึ่งพลังไสยเวท จึงทำให้สุคุนะชะล่าใจและไม่รู้ตัวจนดาบเสียบทะลุไปแล้ว มาคิพยายามใช้พลังทั้งหมด (การต่อสู้ระยะประชิด) เข้าต่อสู้กับสุคุนะอย่างเต็มที่ จนมองในอีกมุมคือสามารถไล่ต้อนสุคุนะได้แล้ว
การรับมือของสุคุนะ
หลังจากโดยเสียบเข้าหัวใจแบบเต็ม ๆ สุคุนะก็ใช้พลังในการประคองให้หัวใจยังเต้นอยู่ พร้อมกับต่อสู้กับมาคิไปด้วย แต่เนื่องจากพลังทางกายภาพของมาคิสูงมาก ในบางจังหวะทำให้สุคุนะโดนจับโยนซะกระเด็น และมาคิยังหลบไคผ่ามิติของเขาได้อีกด้วย สุคุนะยอมรับในความสามารถของมาคิว่าเป็นที่สุดทางด้านสายกายภาพแล้ว ก่อนจะปิดฉากซัดมาคิให้ไปกระแทกกำแพงด้วย ‘ประกายทมิฬ’
(เซนอิง มาคิ ต่อสู้ตั้งแต่ตอนที่ 252 – 253 รวมทั้งหมด 2 ตอน)
คู่ต่อสู้คนที่ 6
นักไสยเวทระดับที่ 1 ที่แข็งแกร่งที่สุด ‘คุซาคาเบะ อัตสึชิ’
คุซาคาเบะ อัตสึชิ เป็นเพียงคนเดียวที่ได้ขึ้นเป็นนักไสยเวทระดับที่ 1 โดยไม่มีอาคมประจำตัว เขาปรากฏตัวครั้งแรกในภาคอุบัติการณ์ชิบุยะ ในสถานะอาจารย์ที่คอยดูนักเรียนปี 2 โรงเรียนไสยเวทโตเกียว แต่ในการต่อสู้จริงเขากลับจ้องจะหาโอกาสในการเอาตัวรอดอยู่เสมอ อะไรที่เสี่ยงอันตรายเกินไปก็จะพยายามเลี่ยงให้ได้มากที่สุด ดังนั้นเขาเลยยังไม่ได้โชว์ฝีมือการต่อสู้แบบจริงจังสักที
จนกระทั่งทุกคนจากโรงเรียนไสยเวทโดนสุคุนะจัดการไปจนเกือบหมดก๊วน ทำให้คุซาคาเบะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการต่อสู้ได้อีกต่อไป ไม่งั้นสิ่งที่ทุกคนเสียสละกันมาจะสูญเปล่าจนหมด เขางัดเอาทุกวิชาขึ้นมาใช้ต่อกรกับสุคุนะ เนื่องด้วยการที่ไม่มีอาคมประจำตัว เขาเลยเชี่ยวชาญทางด้านทฤษฎีและใช้การกางอาณาเขตแบบย่อเป็นพิเศษ ทุกอย่างที่เข้ามาในอาณาเขตของเขาจะถูกโจมตีโดนและตัวเขาจะลดความเสียหายที่ได้รับลง
การรับมือของสุคุนะ
เนื่องจากคุซาคาเบะคาดเดาการเคลื่อนไหวล่วงหน้าจากท่าทางการปล่อยอาคมของสุคุนะ ดังนั้นสุคุนะจึงรับมือด้วยการไม่ขยับตัวตอนปล่อยอาคม และนอกจากนั้นยังจับทางคุซาคาเบะออกอีกด้วย ว่าตั้งใจจะเล็งจู่โจมไปที่หัวใจของตนที่ได้รับบาดเจ็บอยู่แล้ว เลยสามารถจัดการได้อยู่หมัดในตอนเดียว และวางแผนจะลอบทำร้ายอุยอุยที่กระโดดเข้ามาเป็นหน่วยช่วยเหลืออีกด้วย
(คุซาคาเบะ อัตสึชิ ต่อสู้ในตอนที่ 254 รวมทั้งหมด 1 ตอน)
คู่ต่อสู้คนต่อไป…
ใครจะสามารถเป็นผู้ที่ชนะสุคุนะได้กันนะ…
ขอให้รู้ไว้ว่าท่านสุคุนะยังไม่เอาจริง
หลังจากผ่านการต่อสู้มาดุเดือดหลายต่อหลายคน และในมุมมองของนักอ่านอย่างเราคือสุคุนะต่อสู้อยู่ตลอดเวลา ค่อย ๆ สะสมอาการบาดเจ็บมากขึ้น แต่สิ่งที่ทำให้คนอ่านขัดใจมากที่สุด คือ คำพูดของ ‘อุราอุเมะ’ คนสนิทของสุคุนะที่กำลังต่อสู้กับฮาคาริอยู่ ซึ่งบลัฟกันแบบโต้ง ๆ เลยว่า ในการต่อสู้ที่ผ่านมาของท่านสุคุนะจนถึงตอนนี้ ‘ท่านสุคุนะยังไม่เอาจริง’ (?)
สิ่งที่หลายคนน่าจะคิดเหมือนกัน คือการที่เปรียบเทียบได้เหมือนเป็นการด้อยค่าตัวละครต่าง ๆ ที่ออกมาต่อสู้หลังโกะโจ ซาโตรุ ไม่ว่าจะเป็นตัวละคนที่ถูกชูให้เก่งที่สุดเมื่อ 400 ปีที่แล้วอย่างคาชิโมะ หรือ ตัวละครอื่น ๆ ที่เข้ามาสู้เลือดตาแทบกระเด็น แต่สุดท้ายกลับยังไม่ใช่การลงสนามอย่างจริงจังของสุคุนะ นอกจากนั้นตัวละครใหม่ ๆ ยังทยอยเข้ามาตายกันเรื่อย ๆ จนคนอ่านหลายคนเริ่มเอือมระอากับบทเดิมซ้ำ ๆ ที่วนลูปอยู่อย่างงี้
นอกจากนั้นยังอาจมองได้อีกมุมหนึ่งว่า อาจารย์เกเกะอาจจะต้องการเร่งตัดบทให้จบลงในปีนี้ตามที่ได้ประกาศไว้จริง ๆ เลยนำตัวละครที่เหลือรอดอยู่มาให้สุคุนะเชือดทิ้งเล่น ๆ พร้อมกับบัพพลังของสุคุนะต่อไปอีก (ยังมีอาคมไฟกับอาวุธอีกชิ้นที่ยังไม่ได้ใช้ด้วย) เอาให้แบบรู้เลยว่านอกจากโกะโจ ซาโตรุ ก็ไม่มีใครมีความสามารถทัดเทียมพอที่จะสู้กับสุคุนะได้ยาวนานหลายตอน แม้ตัวละครนั้นจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาขนาดไหนก็ตาม
ในขณะที่พระเอกอย่าง ‘อิตาโดริ ยูจิ’ ของเรานั้นกลับโดนด้อยค่าลงเรื่อย ๆ เข้าไปต่อสู้กับสุคุนะร่วมกับคนอื่น ทั้งฮิกุรุมะ และ ยูตะ แม้จะมีพลังใหม่ที่ถูกเปิดเผยมาบ้าง อย่างเช่น แขนแบบใหม่, หมัดที่ต่อยทีสะเทือนถึงวิญญาณ, หรือว่าจะเป็นการใช้ไสยเวทย้อนกลับที่เป็นอาคมชั้นสูงได้ จนทำให้สุคุนะเริ่มยอมรับในตัวยูจิ แต่ก็ไม่วายโดนเชือดทิ้งพร้อมกับยูตะอยู่ดี
ทีนี้ที่คนอ่านอย่างเราเดาทางต่อไปไม่ได้เลยก็คือ ตอนจบของเรื่องที่อาจารย์เกเกะวางเอาไว้ จะเป็นยังไงกันแน่นะ ? ดูจากสถานการณ์การต่อสู้ที่จนป่านนี้สุคุนะก็ยังไม่เอาจริง หรือว่าจะจบด้วยการที่สุคุนะสังหารทุกคนทิ้ง กลายเป็นราชาคำสาปในยุคปัจจุบันต่ออีกจนกระทั่งหมดอายุขัยและผนึกตัวเองลงไปอีกรอบ รอคนในอีกหลายร้อยปีข้างหน้ามาจัดการต่อ หรือจบแบบยูจิที่ไปพักรักษาตัวมา อยู่ดี ๆ ก็มีพลังใหม่แล้วเข้าไปต่อสู้กับสุคุนะจนสามารถชนะได้ (น่าจะยาก)
จากทั้งหมดที่กล่าวมา จะออกไปทางเนื้อเรื่องมังงะที่วนลูปการต่อสู้กับสุคุนะมาหลายต่อหลายรอบ ทำให้คนอ่านหลายคนเริ่มเอือมกับบทที่เหมือนจะหาทางลงไม่ได้ของอาจารย์ แต่ทั้งหมดนี้อาจจะเป็นแผนการดำเนินเรื่องของอาจารย์เกเกะที่จงใจวางไว้ให้เป็นแบบนี้ก็ได้ ให้เนื้อเรื่องดำเนินไปถึงจุดที่ทำให้เข้าใจได้ว่าสุคุนะเหมาะสมกับตำแหน่งราชาคำสาปในสมัยก่อนที่ไม่มีใครสามารถเอาลงได้จริง ๆ ก่อนที่จะพลิกบทหรือมีจุดพลิกผันจากทางฝั่งนักไสยเวทเกิดขึ้น (มโนล้วน)
ซึ่งตรงจุดนี้ก็ยังไม่มีอะไรยืนยันได้ว่า ความสามารถของนักคุณไสยในยุคอดีตกับนักคุณไสยในยุคปัจจุบันใครเหนือกว่ากันแน่ (แต่ที่รู้ ๆ โกะโจแข็งแกร่งที่สุดที่เปิดเผยมาในตอนนี้) ดังนั้นสุคุนะปัจจุบันเอาจริงเท่ากับสมัยก่อนหรือยัง หรือคนในอดีตเก่งกว่า ทั้งหมดนี้อาจจะต้องรอเปิดเผยเนื้อหาเพิ่มเติมในอนาคตอีกที เพื่อรอดูว่าอาจารย์เกเกะวางแผนอะไรในตอนจบอที่ต้องการกันแน่
ถ้าถามถึงความเห็นส่วนตัวผมก็ยังถือว่าชอบเรื่องนี้อยู่นะ และคงจะตามเนื้อเรื่องต่อไปยันรู้บทสรุปที่แท้จริงของเรื่องมหาเวทย์ผนึกมารแน่นอน
อ่านมังงะมหาเวทย์ผนึกมารแปลไทย ถูกลิขสิทธิ์ได้ที่ Manga plus