[รีวิว] ‘Go! Go! Loser Ranger!’ ถ้าขบวนการห้าสีพิทักษ์โลกเป็นตัวร้ายซะเอง แล้วใครกันล่ะที่เป็นคนดีกันแน่ !!
Our score
9.3

Release Date

07/04/2024

ความยาว

12 ตอน

สตูดิโอที่ผลิต

Yostar Pictures

ต้นฉบับ

มังงะ (LC Luckpim)

ช่องทางการดู

Disney+ Hotstar

Our score
9.3

Go! Go! Loser Ranger! ขบวนการกำมะลอ

จุดเด่น

  1. ความแปลกใหม่ของการเล่าเรื่องในการสลับมุมมองให้ฮีโร่เป็นตัวละครชั่วร้ายแทน
  2. ฉากต่อสู้ทำมาได้ดีและอลังการมาก สมกับเป็นขบวนการต่อสู้เพื่อปกป้องโลก
  3. บุคลิกตัวละครที่หลากหลายทำให้คาดเดาเนื้อเรื่องไปต่อไม่ถูก และตามลุ้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้สนุกขึ้น

จุดสังเกต

  1. เนื้อเรื่องในอนิเมะกับมังงะมีส่วนที่แตกต่างกันไปบ้าง ซึ่งทำให้รายละเอียดบางอย่างตกหล่น
  2. การดำเนินเรื่องที่ไวบวกกับการตัดฉากบางส่วน อาจจะทำให้คนดูสงสัยในบางจุด
  • คุณภาพด้านเสียงพากย์

    9.0

  • คุณภาพด้านแอนิเมชัน

    10.0

  • คุณภาพของบท

    8.0

  • คุณภาพของความบันเทิง

    10.0

  • ความคุ้มเวลารับชม

    9.5

ขบวนการห้าสีพิทักษ์โลกที่ในสมัยเด็กหลายคนน่าจะต้องตื่นมาตามทุกเช้า ชื่นชอบในการดูฮีโรเวลาสู้กับตัวร้ายทุกสัปดาห์ แต่จะเป็นยังไงกันนะถ้าความจริง สิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงการจัดฉากเพื่อสร้างชื่อเสียงให้ฮีโรโด่งดังเท่านั้น ? ถ้าที่จริงแล้วโฉมหน้าเบื้องหลังของขบวนการปกป้องโลกกลับเป็นคนคอยชักใยควบคุมโลกทั้งหมดด้วยตนเอง แล้วหลังจากนี้เรื่องราวจะเป็นยังไงกันล่ะเนี่ย ?

‘ดรากอนคีปเปอร์’ เป็นชื่อของขบวนการพิทักษ์โลกที่คอยต่อสู้กับเหล่าร้ายที่มาบุกรุกโลกตั้งแต่เมื่อสิบปีที่แล้ว ทุกวันอาทิตย์เหล่าร้ายที่เป็นตัวหัวหน้ากับพวกตัวประกอบกีกี๊จะมาต่อสู้เดิมพันกันในศึกตัดสิน ว่าใครกันแน่ที่จะเป็นผู้ชนะและได้ครอบครองโลกใบนี้ และแน่นอนว่าดรากอนคีปเปอร์ชนะทุกครั้ง ทว่าหากเรื่องราวการต่อสู้ที่เกิดขึ้นนับสิบปีนั้น กลับเป็นเพียงเรื่องราวแหกตาของขบวนการดรากอนคีปเปอร์ล่ะ แล้วความจริงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?

เรื่องราวของเหล่าร้ายที่มาบุกรุกเพื่อครอบครองโลกนั้นเป็นความจริง ทว่าพวกหัวหน้ากลับถูกกำจัดลงจนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในเวลาเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น ! ส่วนพวกลูกกะจ๊อกที่เหลือก็โดนดรากอนคีปเปอร์ขู่เชิงบังคับให้มาแสดงละครปาหี่บุกโลกในทุกสัปดาห์ จนไฟในการต่อสู้หายไปจนเกลี้ยง ได้แต่ทำตามคำสั่งไปวัน ๆ จนกระทั่ง ‘ตัวร้าย D’ ทนกับชีวิตที่โดนกดขี่นี้ไม่ไหว เลยตัดสินใจก่อปฏิวัติด้วยตัวคนเดียว ทำการปลอมตัวเป็นมนุษย์และแทรกซึมเข้าไปในขบวนการจากภายใน เพื่อสังหารดรากอนคีปเปอร์ให้หมดทุกคน!

พล็อตเรื่องแหวกแนวแบบนี้ของ ‘ขบวนการกำมะลอ หรือ Go! Go! Loser Ranger!’ ใครจะคิดว่าผลงานเรื่องก่อนหน้าของอาจารย์ผู้เขียน เนกิ ฮารุบะ จะเป็นเรื่องราว เลิฟคอเมดีในรั้วโรงเรียนอย่างเรื่อง ‘เจ้าสาวของผมเป็นแฝดห้า’ กันนะ หลังจากอาจารย์จบเรื่องราวอันสับสนของพระเอกหนึ่งกับนางเอกถึงห้าคนลงได้ อาจารย์ก็ได้มาเขียนเรื่องราวฮีโรสุดดาร์กนี้ต่อ จนถูกนำมาสร้างเป็นอนิเมะภายใต้การผลิตของสตูดิโอ Yostar Pictures เป็นจำนวน 12 ตอน และออกฉายในไทยแค่ทาง Disney+ Hotstar เท่านั้น

สิ่งแรกที่ควรพูดถึงคงจะหนีไม่พ้นเรื่องราวของเหล่าขบวนการและเหล่าร้าย ที่สถานะในเรื่องกลับตาลปัตรกันซะอย่างนั้น อยู่ ๆ ก็ต้องมาเอาใจช่วยเหล่าร้ายที่เป็นตัวเอก ทั้งที่จริง ๆ แล้วการที่พวกนั้นมาบุกโลกก็น่าจะถือเป็นเรื่องชั่วร้ายไปแล้วไม่ใช่เหรอ แต่กลับกันตัวละครของฝั่งฮีโร กลับชั่วร้ายยิ่งกว่า ทั้งในเรื่องของการบังคับให้เหล่าร้ายแสดงละครปาหี่เพื่อสร้างชื่อเสียง การกำจัดเหล่าร้ายโดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกในฐานะสิ่งมีชีวิต และที่โหดที่สุดคงจะเป็นการฆ่าพวกเดียวกันเองที่ขวางหูขวางตานี่แหละ

เพราะงั้นถ้าให้ถามว่าจะเชียร์ใครดี ใครเป็นคนดีคนเลวกันแน่ เวลาดูเรื่องนี้แนะนำให้ไม่ต้องสนตรงส่วนนั้นเลย เพราะเรื่องนี้จะตีความตัวตนที่แท้จริงของมนุษย์เราออกมาได้ค่อนข้างลึก ตรงที่ไม่มีคนไหนขาวสะอาดไปทั้งหมด ส่วนมากจะเป็นสีเทาทั้งนั้น (แค่ดรากอนคีปเปอร์สีค่อนข้างไปทางดำเท่านั้นเอง !) และตรงจุดนี้จะส่งไปถึงบุคลิกของตัวละครที่ค่อนข้างหลากหลายในเรื่องอีกด้วย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความสนุกของเรื่องนี้เลย ในการที่เราไม่สามารถคาดเดาความคิดตัวละครออกได้ว่าตั้งใจจะทำอะไรกันแน่ ?

เริ่มต้นที่ฝั่งดรากอนคีปเปอร์ทั้ง 5 คน แน่นอนอยู่แล้วว่าพวกเขาตั้งใจจะกำจัดเหล่าร้ายให้สิ้นซากด้วยความโหดขั้นสุด แต่ความจริงแล้วพวกเขาโหดร้ายตั้งแต่ชาติกำเนิดกันทุกคนจริง ๆ เหรอ หรือเขามีอดีตอะไรสักอย่างที่เราไม่รู้กันหรือเปล่านะ โดยทั้งหมดนี้จะเล่าผ่านมุมมองของตัวร้าย D เป็นหลัก โดยเขาเปรียบเสมือนเด็กทารกไม่รู้ประสีประสาอะไรบนโลก แต่ดันถนัดในการปลอมตัวร่างมนุษย์เป็นพิเศษ เลยตัดสินใจปฏิวัติเอาเองซะเลย ดังนั้นการตามดูพัฒนาการการเติบโตของตัวละครนี้ก็กลายเป็นเรื่องสนุกอย่างหนึ่ง เพราะเขามักจะทำอะไรที่คาดไม่ถึงอยู่เรื่อยในมุมมองของคนที่อยากจะกลายเป็นใหญ่และครอบครองโลกให้ได้ (แบบเด็กน้อยอะนะ)

ส่วนตัวละครสมาชิกขบวนการสองคนที่ตัวร้าย D เจอในตอนแรก อย่าง ‘สึซึคิริ ยูเมโกะ’ หญิงสาวที่รู้ตัวตนของเขาตั้งแต่ช่วงแรก และจัดการควบคุม และใช้งานเป็นเครื่องมือในการลอบจู่โจมดรากอนคีปเปอร์จากมุมมืดซะอยู่หมัด ทั้งที่ตัวเองก็เป็นหนึ่งในสมาชิกขบวนการด้วยนะ เบื้องลึกเบื้องหลังของเธอคืออะไรกันแน่ ที่ทำให้เธอจ้องจะหักหลักทีมของตนเอง ส่วนอีกคนคือ ‘ซากุรามะ ฮิบิคิ’ เปรียบเสมือนตัวละครคนละขั้วกับสึซึคิริ เขานั้นรู้ธาตุแท้ของพวกขบวนการเหมือนกัน แต่อยากจะเปลี่ยนแปลงระบบภายในให้ดีขึ้น จนกลายเป็นขบวนการที่ตั้งใจจะปกป้องโลกนี้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่วิธีการแต่ละอย่างที่เขาทำนั้นค่อนข้างจะสุดโต่งเกินไปหน่อยเท่านั้นเอง แล้วจากนี้ตัวร้าย D ของเราจะรับมือกับคนพวกนี้ยังไงดีล่ะ เนื้อเรื่องจะดำเนินต่อไปในทางไหนกันนะ ?

อีกอย่างที่น่าสนใจสำหรับเรื่องนี้เลยคือการดำเนินเรื่องที่ไปไวมาก ไวในแบบที่ช่วงต้น ๆ หลังจากที่ตัวร้าย D เพิ่งจะแทรกซึมเข้ามาแป๊บเดียวก็โดนจับตัวได้ซะแล้ว ไปอีกสักพักก็ดันเจอกับดรากอนคีปเปอร์ที่เตรียมตัวมาส่งเขาไปลงนรกแบบไม่ทันตั้งตัว ถึงจะสามารถตีเนียนแย่งชิงอาวุธและหนีจากสถานการณ์นั้นมาได้ แต่อีกแป๊บหนึ่งก็มีคนตามมาเจออีก แล้วก็ต้องมารับมือกับอีกสองตัวละครที่เดาใจไม่ได้อย่างสึซึคิริ กับซากุรามะ อีกต่างหาก สำหรับคนที่ไม่ได้ตามอ่านมังงะมาก่อน เนื้อเรื่องในอนิเมะจะถูกตัดทอนรายละเอียดลงไปอีกค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว เพราะงั้นอาจจะตกหล่นและงงไปบ้างในบางจุด

ยกตัวอย่างจากฉากหนึ่ง (แอบสปอยล์อนิเมะตอนที่ 4) ที่มีการสลับตัวกันระหว่างตัวร้าย D กับซากุรามะ ฮิบิคิ เพื่อหลอกล่อหนึ่งในขบวนการให้สับสน ในช่วงท้ายของอนิเมะตอนนั้นถูกรวบรัดเอาไว้ค่อนข้างเยอะ เป็นตอนที่ดูแล้วแอบงงเล็กน้อยเกี่ยวกับขั้นตอนการสลับตัวกัน ว่าใครเป็นใครกันแน่ ไปสลับตัวกันตอนไหน ทำไมต้องสลับตัวกัน และทำไปเพื่อจุดประสงค์อะไร ซึ่งพอมาเปรียบเทียบกับในมังงะต้นฉบับที่กลับมาอ่านอีกรอบ กลายเป็นว่าในมังงะมันมีขั้นตอนและจุดประสงค์ในการสลับตัวกันที่ค่อนข้างลึกกว่านั้น นอกจากนั้นยังมีการเล่าเรื่องที่อาจจะสลับไทม์ไลน์กันไปบ้างเมื่อเทียบกับมังงะ แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าเวอร์ชันอนิเมะนั้นเก็บจุดสำคัญได้ดีและทำให้ดูแตกต่างจากมังงะจนสนุกไปอีกแบบหนึ่งเหมือนกัน (แต่ผมชอบมังงะมากกว่านะ)

ถ้าให้เทียบกับหนังซีรีส์แนวแอนตี้ฮีโรนี้ น่าจะมี The Boys (จาก Amazon Prime) ที่แอบคล้ายคลึงกันบ้าง เพราะตั้งเป้าในการตามล่าฮีโรจากความแค้นที่ตัวเองได้รับมา ตัวละครเอกของทางฝั่งนั้นก็โดนพวกเหล่าฮีโรฆ่าและย่ำยีคนในครอบครัว ส่วนทางด้านตัวร้าย D ก็โดนกดขี่ข่มเหงให้แสดงละครปาหี่มาตลอดสิบกว่าปี ดังนั้นใครที่ชอบสไตล์แบบเรื่อง The Boys แนะนำเลยว่าเรื่องนี้น่าจะไม่ผิดหวังแน่นอน

นอกจากปั่นและแหวกแนวในเนื้อเรื่องยังไม่พอ เพลงเปิดและเพลงปิดในอนิเมะนั้นก็มีความแหวกในระดับหนึ่งทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรื่องผ่าน MV ที่ทำให้เรารับรู้ความลำบากในการถูกชักใยของพวกเหล่าตัวร้าย และความสามารถในการแปลงร่างเป็นมนุษย์ของตัวร้าย D จะแปลงเป็นใครกันบ้างนะ และทำให้มันวุ่นวายมากขึ้นขนาดไหนกันนะ และก็จบด้วยเพลงปิดที่เป็นการนำดรากอนคีปเปอร์กับเหล่าร้ายมาเต้นด้วยกันเฉย ?

สรุป

‘ขบวนการกำมะลอ’ คือ เรื่องราวของเหล่าร้ายที่โดนพวกขบวนการฮีโรปกป้องโลกบังคับให้แสดงละครหลอกเด็ก เพื่อเรียกชื่อเสียงของฝั่งตนเอง จน ‘ตัวร้าย D’ ทนไม่ไหว และตัดสินใจแอบแทรกซึมเข้ามาเพื่อสังหารดรากอนคีปเปอร์ และคืนความสงบสุขให้ฝั่งตัวร้ายให้จงได้ โดยจะเล่าเรื่องราวของฝั่งตรงข้ามฮีโรและดำเนินเรื่องในแบบฉบับที่ไปไวมากจนอาจจะตามเนื้อเรื่องไม่ทันไปหลายจุด อีกทั้งเวอร์ชันในมังงะกับอนิเมะ ยังมีการดำเนินเรื่องที่แตกต่างกันตรงส่วนรายละเอียดอีกด้วย เพราะงั้นถ้าใครดูเรื่องนี้แล้วติดใจแนะนำให้อ่านมังงะเพิ่มจะได้อรรถรสมากขึ้นไปอีกระดับหนึ่งเลยทีเดียว โดยในฉบับมังงะต้นฉบับนั้นสามารถอ่านแบบถูกลิขสิทธิ์จากสำนักพิมพ์รักพิมพ์ (Luckpim)