อากิระ คานาอิ (Akira Kanai) หัวหน้าบรรณาธิการคนปัจจุบันประจำนิตยสาร Weekly Afternoon ของ Kodansha ออกมากล่าวว่า มุมมองทางสังคมและการเมืองของผู้ชมชาวตะวันตกไม่ควรมีอิทธิพลต่อการสร้างสรรค์มังงะญี่ปุ่น เจ้าตัวลั่น “ผมไม่ยอมให้ตัวเองถูกชักนำโดยสิ่งที่เรียกว่าความถูกต้องทางการเมืองจากต่างประเทศเด็ดขาด”
คานาอิเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการมังงะ เขาร่วมงานกับ Kodansha มาตั้งแต่ปี 1994 และทำงานเป็นบรรณาธิการให้กับนิตยสารของสำนักพิมพ์หลายฉบับ กระทั่งได้เลื่อนเป็นหัวหน้าบรรณาธิการในปี 2015 ซึ่งช่วงนั้นเขารับหน้าที่ดูแลมังงะที่มีชื่อเสียงหลายเรื่อง อย่าง Ajin: Demi-Human ของกามอน ซากุไร (Gamon Sakurai), Fragile ของบิน คุซามิซุ (Bin Kusamizu) และซาบูโร่ เมกุมิ (Saburo Megumi) รวมถึง Vinland Saga ของมาโคโตะ ยูกิมูระ (Makoto Yukimura)
เขาได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความพยายามของชนชาติตะวันตก ในการบังคับใช้มาตรฐานทางวัฒนธรรมกับสื่อจากฝั่งตะวันออก โดยให้สัมภาษณ์กับ Manga Passion ระหว่างถูกถามคำถามเกี่ยวกับการทำให้มังงะประสบความสำเร็จระดับนานาชาติ รวมถึงถูกถามว่ามีการพยายามทำงานร่วมกับนักเขียนเพื่อผลักดันผลงานออกสู่สายตาผู้อ่านนอกญี่ปุ่นหรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบชัดเจนว่า “ไม่”
“มีกฎบางอย่างที่ผมยังปฏิบัติตามอยู่ครับ อย่างการเผยแพร่ภาพที่มีความรุนแรง ภาพโป๊เปลือยทั้งชายและหญิง หรือกฎเกณฑ์เกี่ยวกับศาสนา แต่สำหรับมาตรฐานอื่น ๆ ผมว่าพื้นฐานของมันไม่ได้มีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นในญี่ปุ่น เยอรมัน จีน หรือเกาหลีใต้ แม้แต่ในระดับการเมืองก็ตามครับ”
คานาอิกล่าวต่อไปว่า “ผมไม่ยอมให้ตัวเองถูกชักนำโดยสิ่งที่เรียกว่าความถูกต้องทางการเมืองจากต่างประเทศ และต้องสร้างสรรค์ผลงานไปตามนั้น ผมคิดว่าหากงานชิ้นไหนน่าสนใจจริง ๆ มันก็จะถูกยอมรับและเข้าใจได้โดยทั่วกัน ไม่ว่าผู้อ่านจะมาจากประเทศไหนก็ตาม ไม่ว่าผลงานนั้นจะมีความเป็นญี่ปุ่นแบบสุดลิ่มทิ่มประตู หรือจะมาเป็นธีมเยอรมัน หรือจีน ผมก็มองว่าพื้นฐานของมันไม่ได้ต่างกันเลย
การจะสั่งห้ามงานชิ้นหนึ่งแค่เพราะมันมีความเป็นญี่ปุ่นมากเกินไป หรือเพราะต้องการกำหนดทิศทางของงานแบบเฉพาะเจาะจงนั้นเป็นเรื่องที่แทบจะไม่เคยเกิดขึ้นเลย นอกจากนั้นผมยังสงสัยเอามาก ๆ ว่าผลงานที่ประสบความสำเร็จระดับโลกเขาเขียนเนื้อหากันแบบไหน มุ่งเน้นตลาดในญี่ปุ่นหรือตลาดโลกมากกว่า ? ผมว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างงานให้ออกมาเป็นกลาง เพราะมันจะไม่ดึงดูดใครเลยสักคน”
“ลองดูตัวอย่างเรื่อง Skip and Loafer (มังงะอีกเรื่องที่ตีพิมพ์ใน Weekly Afternoon) สิครับ มันเป็นเรื่องราวของเด็กผู้หญิงที่มาจากชนบทของญี่ปุ่น เธอย้ายไปอาศัยอยู่โตเกียวคนเดียว เพื่อเรียนต่อระดับชั้นมัธยมปลาย ผมคิดว่าผู้คนทั่วโลกสามารถเข้าใจความรู้สึกไม่มั่นคงของเธอได้เป็นอย่างดี นั่นคือเหตุผลที่ผลงานชิ้นนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากในระดับนานาชาติ ไม่จำเป็นต้องเขียนเอาใจต่างชาติแต่แรกเลย”
ช่วงท้าย Manga Passion ได้ถามคุณคานาอิว่าการแลกเปลี่ยนในระดับโลกมีความสำคัญต่อมังงะหรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบว่าสำคัญอย่างมาก แต่ถึงจะสำคัญ การแลกเปลี่ยนเหล่านั้นก็ไม่ควรทำให้สูญเสียเอกลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่นไป “ความคิดว่าถ้าสำนักพิมพ์ญี่ปุ่นจะจนลงถ้าไม่ขยายไปต่างประเทศ มันน่าสมเพชมากครับ โยนทิ้งไปเถอะความคิดแบบนี้ แต่ขณะเดียวกันผมก็หวังว่าชุมชนผู้อ่านมังงะจะเติบโตขึ้น เพราะทุกวันนี้เราสามารถอ่านมังงะจากที่ไหนของโลกก็ได้ ไม่ว่าพวกคุณจะมาจากไหน หรือนับถือศาสนาอะไรครับ”
สามารถรับชม Vinland Saga ซีซัน 1 – 2 ได้ทาง Netflix ส่วน Skip and Loafer สามารถรับชมได้ทาง Netflix, Bilibili และ TrueID