Release Date
03/07/2024
ความยาว
ซีซันที่ 1 (12 ตอน)
สตูดิโอที่ผลิต
Doga Kobo
ต้นฉบับ
Light Novel (LC : Phoenix Next)
ช่องทางการดู
Bilibili, Ani-One Thailand, Netflix
Our score
8.8[รีวิว] คุณอาเรียโต๊ะข้าง ๆ ชอบพูดรัสเซียจีบพระเอกอยู่ตลอดเวลา แต่ที่ไหนได้เจ้าตัวดันฟังรู้เรื่องซะงั้น !
จุดเด่น
- ภาษารัสเซียที่ถูกนำมาใช้ช่วยดึงเสน่ห์ของตัวละครออกมาได้เยอะมาก
- คาแรกเตอร์ตัวละครแต่ละคน ค่อนข้างโดดเด่น มีความแตกต่างกันชัดเจน
- พระเอกของเรื่องมีจุดเด่น ทำให้เข้าใจได้ว่าทำไมคุณอาเรียถึงตกหลุมรัก
- เนื้อเรื่องแอบมีความดราม่าเข้ามาผสมด้วยนิดหน่อย ไม่เน้นไปเรื่องรักอย่างเดียว
จุดสังเกต
- เนื้อหาในอนิเมะมีการตัดรายละเอียดไปจากมังงะและไลต์โนเวลค่อนข้างเยอะ แต่ยังคงเนื้อหาหลักเหมือนเดิม
- มีการสลับเนื้อหาบางส่วนออก ทำให้คนอ่านมาก่อนจะเข้าใจแตกต่างจากคนดูอนิเมะอย่างเดียว
-
คุณภาพด้านเสียงพากย์
10.0
-
คุณภาพด้านแอนิเมชัน
9.0
-
คุณภาพของบท
7.0
-
คุณภาพของความบันเทิง
9.0
-
ความคุ้มเวลารับชม
9.0
เรื่องราวสุดแหวกแนวที่ให้นางเอกของเรื่องผู้เป็นสาวสวยลูกครึ่งญี่ปุ่น – รัสเซีย ซึ่งไม่เคยชาตามองชายคนไหนในโรงเรียนมาก่อน แต่อยู่ดี ๆ กลับมาพูดคำหวานคอยจีบพระเอกของเรื่องเป็นภาษารัสเซียซะงั้น เรื่องราวเป็นมายังไง มีเหตุผลอะไรที่นางเอกต้องทำแบบนี้ มาตามดูไปพร้อมกันเลยดีกว่ากับอนิเมะเรื่อง ‘คุณอาเรียโต๊ะข้าง ๆ พูดรัสเซียหวานใส่ซะหัวใจจะวาย’
‘คุณอาเรีย’ หรือ ชื่อเต็มว่า อาริสะ มิฮาอิลลอฟนา คุโจ สาวสวยดีกรีลูกครึ่งญี่ปุ่น – รัสเซีย ที่ไม่มีใครกล้าเข้าหาเพราะความเย็นชาของเธอ นอกจากนั้นยังพร้อมปฏิเสธหนุ่มหล่อทุกคนที่เข้ามาสารภาพรักแบบไร้เยื่อใย จนได้สมญานามว่า ‘องค์หญิงผู้สันโดษ’ แต่ใครจะรู้บ้างนะ ว่าความจริงคุณอาเรียกลับมีหนุ่มในใจอยู่แล้ว และเป็นเพียงชายหนุ่มสุดแสนธรรมดาคนหนึ่งที่ติดเกม บ้าอนิเมะ รวมความเป็นสุดยอดโอตาคุไว้ในตัวผู้นั่งโต๊ะข้าง ๆ กันนั่นเอง ชายผู้โชคดีคนนั้นคือ ‘คุเซะ มาซาจิกะ’
คุณอาเรียไม่กล้าสารภาพรักกับเขาตรง ๆ หรือแท้จริงแล้วอาจจะยังไม่รับรู้ถึงความรู้สึกของตัวเองก็เป็นได้ เพราะงั้นเวลาเขิน หรือ อยากจะชมอะไรที่มาซาจิกะทำ คุณอาเรียมักจะพูดออกมาเป็น ‘ภาษารัสเซีย’ เสมอ ไม่ว่าจะคำหวาน ๆ อย่าง น่ารักจัง หรือ เวลาจริงจังก็ออกจะเท่แท้ ๆ แต่เพื่อที่จะได้รักษาภาพลักษณ์ของตัวเอง เธอจึงไม่ออกปากชมเป็นภาษาญี่ปุ่นตรง ๆ เพราะยังไงในประเทศญี่ปุ่นก็คงไม่มีใครเข้าใจภาษารัสเซียอยู่แล้วแหละ แต่ความจริงคือ มาซาจิกะฟังภาษารัสเซียออกทุกคำ !!
ถ้าล้วงลึกถึงสาเหตุที่ว่าทำไมคนญี่ปุ่นโดยกำเนิดอย่างมาซาจิกะสามารถฟังภาษารัสเซียออกแบบเข้าขั้นเจ้าของภาษาได้นั้น สาเหตุก็เพราะคุณปู่ที่เป็นคนเลี้ยงดูมาซาจิกะมานั้นชอบหนังรัสเซียมาก ๆ และจับเข้านั่งดูด้วยเป็นประจำ จนเจ้าตัวค่อย ๆ ซึมซับภาษารัสเซียเข้ามากลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต และนั่นทำให้เขาต้องแกล้งฟังภาษารัสเซียที่คุณอาเรียคอยหยอดมาตลอดด้วยความเขิน แบบว่าทำไมถึงกล้าพูดออกมาซึ่ง ๆ หน้าขนาดนี้ล่ะเนี่ย แล้วอย่างงี้ความสัมพันธ์ของคุณอาเรียกับมาซาจิกะ จะคืบหน้าไปถึงขั้นไหน คุณอาเรียจะรู้ความจริงเมื่อไหร่ ต้องมารอติดตามกันในอนิเมะอีกทีแล้ว
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวแนวเลิฟคอมเมดีที่ชวนให้น่าสนใจตั้งแต่เนื้อเรื่องเลยทีเดียว ทั้งการเปิดเรื่องมาด้วยการจีบเป็นภาษารัสเซียของคุณอาเรีย แต่กลับหักมุมตั้งแต่ต้นด้วยการทำให้พระเอกอย่างมาซาจิกะสามารถฟังออกได้ซะงั้น ทีนี้เรื่องราวความรักของสองคนนี้มันก็ควรจะคืบหน้าต่อไปสิ ไหน ๆ พระเอกก็รับรู้ความรู้สึกตั้งแต่แรกแล้ว ทว่ามาซาจิกะกลับนึกว่าคุณอาเรียเป็นพวกชอบแกล้ง ที่จะแซวเป็นภาษาอื่นให้เจ้าตัวเขินเล่น ๆ ซะงั้น เพราะงั้นเลยต้องแกล้งทำเป็นฟังไม่ออกต่อไป
ในการนำเอาภาษารัสเซียมาเล่นนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งส่วนที่ดีงามมากของเรื่องนี้เลย เนื่องจากว่าในตอนอ่านต้นฉบับจากไลต์โนเวลจะเป็นการเขียนแปลภาษาไทยทับมาเลยโดยไม่มีภาษารัสเซียให้เห็น ส่วนในมังงะนั้น ถึงจะมีตัวอักษรภาษารัสเซียมาด้วย พร้อมกับคำแปลไทย แต่ก็เทียบไม่ได้กับเวอร์ชันอนิเมะ ที่มีเสียงในการพูดออกมาให้เราได้ฟังโดยตรง ว่าความแตกต่างเวลาคุณอาเรียพูดภาษาญี่ปุ่นสลับกับภาษารัสเซีย มันออกมาในรูปแบบไหน และภาษารัสเซียที่คุณอาเรียนำออกมาใช้แต่ละอย่างยิ่งสร้างคาแรกเตอร์ให้ตัวละครนี้ดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้นได้อีกด้วย
จากประวัติในการย้ายที่อยู่สลับกันไปมาระหว่างญี่ปุ่นกับรัสเซียเป็นประจำของคุณอาเรีย ทำให้เธอไม่ค่อยมีเพื่อนที่คบหากันได้อย่างสนิทใจ และยังไม่ค่อยเข้าใจวัฒนธรรมและคำศัพท์ของญี่ปุ่นมากขนาดนั้นอีก ทำให้มักจะมีเรื่องราวเปิ่น ๆ เกิดขึ้นจากตัวเธอเสมอ หรือเรื่องที่เธอพยายามจะเข้าใจเรื่องราวโอตาคุของมาซาจิกะ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่ทำให้เราหลงรักคาแรกเตอร์สาวลูกครึ่งนี้ได้อย่างลงตัวอีกด้วย
แต่การที่เธอจะหลงรักพระเอกมันต้องมีสาเหตุอะไรสักอย่างเกิดขึ้นสิ ไม่อย่างนั้นคนอย่างคุณอาเรียมีหรอที่จะชายตามองไอ้หนุ่มโอตาคุไม่ได้เรื่องอย่างมาซาจิกะ (ที่ไม่รู้ว่าฟังภาษารัสเซียได้) จุดเฉลยจะอยู่ในภาคย้อนอดีต ที่เล่าเรื่องราวการเจอกับมาซาจิกะตอนย้ายเข้ามาเรียนที่โรงเรียนนี้และได้นั่งข้างกัน คอยสังเกตพฤติกรรมต่าง ๆ และค้นพบว่าจากคนไม่ได้เรื่องที่คอยเอาแต่อู้งานอย่างเดียว แต่ในตอนที่มีปัญหาเกิดขึ้น มาซาจิกะกลับมองออกถึงต้นตอของปัญหานั้น จนดำเนินการแก้ไขไปได้แบบที่ไม่มีเพื่อนในห้องรู้สักคนเดียว นอกจากนั้นไม่พอ เขายังได้ช่วยละลายปมที่ติดอยู่ในใจของคุณอาเรียมาอย่างยาวนานแบบไม่รู้ตัว จนเธอเริ่มสนใจเขาขึ้นมาอีกด้วย
ถึงชื่อเรื่องจะบอกชัดเจนว่าจริง ๆ แล้วนางเอกของเรื่องนี้คือ ‘คุณอาเรีย’ แต่ก็ใช่ว่าอาจารย์คนแต่งจะไม่ใส่สาวคนอื่นมาเลย สองตัวละครหลักที่ปรากฏตัวตั้งแต่ในช่วงอนิเมะสองตอนแรก คือ ‘สุโอ ยูกิ’ เพื่อนสมัยเด็กที่ดูจะสนิทสนมกับมาซาจิกะมากเป็นพิเศษ จนทำให้คุณอาเรียแอบหึงขึ้นมาบ่อย ๆ ที่ตัวเองไม่ได้รู้จักมาซาจิกะดีเท่าตัวยูกิ และมักจะโดนปั่นหัวเล่นจากยูกิอยู่เสมอ นอกจากนั้นในสมัย ม.ต้น ยูกิกับมาซาจิกะยังเคยทำงานร่วมกันในสภานักเรียน ด้วยฐานะของประธานและรองประธานอีกด้วย แล้วทีนี้คุณอาเรียจะสู้ไหวมั้ยล่ะเนี่ย ?
กับอีกตัวละครหนึ่งคือ ‘มาชา’ หรือชื่อเต็มว่า มาริยะ มิฮาอิลลอฟนา คุโจ นามสกุลเดียวกันมาเป็นภาษารัสเซียขนาดนี้ อย่างที่ทุกคนคาดเดากันนั่นแหละ มาชา คือพี่สาวแท้ ๆ ของคุณอาเรียนั่นเอง ในตอนแรกเธอปรากฏตัวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คอยเป็นที่ปรึกษาให้แก่คุณอาเรียในด้านความรักเอย คอยเชียร์คุณอาเรียเอย แต่แท้จริงแล้วมาซาจิกะมีรักแรกเป็นเด็กผู้หญิงที่พูด ‘ภาษารัสเซีย’ ซึ่งเคยเล่นด้วยกันในสมัยเด็ก และแอบเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้มาซาจิกะตั้งใจเรียนภาษารัสเซียตั้งแต่นั้นมาอีกด้วย ถ้าเด็กสาวคนนั้นไม่ใช่คุณอาเรียจะยังเป็นใครไปได้กันอีกล่ะ ?
นอกจากยูกิ กับ มาชา ตัวละครสาว ๆ ที่จะปรากฏตัวออกมาสร้างความวุ่นวายระหว่างความสัมพันธ์ของมาซาจิกะกับคุณอาเรียนั้นยังมีอีกเพียบ แต่ขออุบไว้ก่อนละกันว่าจะมีใคร และโผล่มาในฐานะอะไรบ้าง จะส่งผลกระทบขนาดไหน คุณอาเรียจะแสดงอาการออกนอกหน้าถึงขั้นไหนกันนะ ต้องรอดูเอาเองในอนิเมะอีกที ทว่าตัวละครที่ส่งผลที่สุดยังไงก็คงหนีไม่พ้น ยูกิ แน่นอน เพราะคาแรกเตอร์แท้จริงของเธอนั้นเป็นสาวขี้แกล้งที่จ้องจะแกล้งคุณอาเรียอยู่ตลอดเวลา และยังเป็นคู่แข่งในด้านการชิงตำแหน่งประธานสภานักเรียนรุ่นถัดไปอีกด้วย นอกจากนั้นยังสนิทกับมาซาจิกะเป็นอย่างมาก เอาจริง ๆ ก็เกินกว่าคำว่าเพื่อนสมัยเด็กไปเยอะ แต่ความลับนั้นคืออะไร รอเฉลยในอนิเมะอีกทีดีกว่า ซึ่งบอกได้เลยว่าอึ้งแน่นอน !!
อีกหนึ่งเรื่องที่จะไม่พูดถึงในการรีวิวนี้ไม่ได้เลยคือ เนื้อเรื่องในเวอร์ชันอนิเมะ ซึ่งมีการตัดเนื้อหาออกไปจากมังงะและไลท์โนเวลในส่วนของรายละเอียดแบบเยอะมาก (เนื้อเรื่องหลักยังเหมือนเดิม) ถ้าสำหรับใครที่เริ่มต้นดูจากอนิเมะอย่างเดียว คิดว่าคงไม่ได้สังเกตกันขนาดนั้น แต่สำหรับใครที่เคยอ่านมังงะหรือไลต์โนเวลมาก่อน ต้องรู้สึกเหมือนกันแน่ ๆ ว่าเนื้อหาถูกเร่งรัดในบางจุดมากจนเกินไป แถมดีเทลบางฉากก็ไม่เหมือนกันอีกด้วย อาจจะเรียกได้ว่าเหมือนดูอีกเวอร์ชันหนึ่งเลยก็ได้ สนุกมั้ย ก็สนุกแหละ แต่ก็ยังรู้สึกขาด ๆ ในหลายส่วน
ขอยกตัวอย่างบางฉากจากในอนิเมะมาเทียบกับเวอร์ชันมังงะ เช่น ‘ฉากสวมถุงน่อง’ ให้คุณอาเรีย ในอนิเมะเป็นการนั่งสวมบนเก้าอี้และจบด้วยการเตะด้วยความเขินอาย แต่ในมังงะจะเป็นการนั่งสวมที่หน้าต่างและมีเพื่อนร่วมชั้นของมาซาจิกะเดินเข้ามาพอดี ทำให้ทั้งคู่ต้องหลบหลังม่านจนเกิดเป็นฉากหน้าอายขึ้นในจังหวะนั้น หรือ ‘ฉากเดินกลับบ้าน’ หลังจากกินข้าวกับยูกิและประธานนักเรียนเสร็จ ในอนิเมะนั้นเป็นการที่ทั้งสองคนคุยกันเพียงเล็กน้อยและกลับถึงบ้านแบบไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ทว่าในมังงะมีเหตุการณ์คนเมาเข้ามาหาเรื่องคุณอาเรียอยู่ จนทำให้มาซาจิกะโชว์เท่ด้วยการใช้ทักษะแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าไปอย่างราบรื่น
อีกทั้งการเล่าเรื่องในส่วนของอนิเมะและมังงะนั้นยังมีความแตกต่างกันอีกด้วย สลับเอาบางเหตุการณ์ขึ้นมาก่อน หรือสลับเอาบางฉากไปเล่าทีหลัง อย่างเช่น ‘ฉากย้อนอดีต’ ที่เกริ่นไปก่อนหน้า ถ้าเทียบเนื้อหาจากอนิเมะตอนที่ 2 นั้นดำเนินเรื่องจบเทียบเท่ากับมังงะเล่ม 3 แล้ว โดยมีการตัดพาร์ตย้อนอดีตของคุณอาเรียกับมาซาจิกะออกไป ซึ่งนั่นแอบเป็นหนึ่งในจุดที่ทำให้คนดูไม่ได้เห็นถึงที่มาของการที่คุณอาเรียคอยแอบหยอดมาซาจิกะมาตั้งแต่เนิ่น ๆ ว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร และทำให้มิติในการเล่าเรื่องแอบแตกต่างจากในเวอร์ชันมังงะไปเลย ต้องมาดูกันอีกทีว่าอนิเมะจะเอาฉากย้อนอดีตกลับมาเล่าในจังหวะไหน และจะทำออกมาได้โอเคมั้ย ?
กิมมิกสุดท้ายคือในช่วงท้ายของอนิเมะตามปกติ มักจะมีเพลงปิดมาให้เราได้ฟังกัน และโดยทั่วไปก็มักจะเป็นเพลงเดิมไปตลอดทั้งซีซันเลย แต่ไม่ใช่สำหรับคุณอาเรีย เพราะจากอนิเมะที่ออกมาแล้ว 2 ตอนนั้น เพลงปิดมีไปแล้ว 2 เพลงถ้วน แถมไม่รู้ด้วยว่าหลังจากนี้จะมีการเปลี่ยนเพลงปิดแบบนี้ไปทุกตอนเลยหรือเปล่านะ ? และที่สำคัญกว่านั้นคือเพลงปิดที่ 2 กลับเป็นเพลงที่เราเคยหลอนหูกันมาสำหรับสาวกอนิเมะในสมัยก่อนอีกด้วย อย่างเพลง ‘Kawiikute gomen’ ที่ได้นักพากย์คุณอาเรียอย่าง ‘อุเอซากะ สุมิเระ’ มาร้องให้อีกด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์มากสำหรับคนที่ดูอนิเมะ จะเป็นยังไงมาฟังกันดีกว่า
สรุป
‘คุณอาเรียโต๊ะข้าง ๆ พูดรัสเซียหวานใส่ซะหัวใจจะวาย’ เป็นอีกหนึ่งอนิเมะแนวเลิฟคอมเมดีกระแสแรง ที่หลายคนพร้อมจะเอาใจช่วยความรักของคุณอาเรียกับมาซาจิกะ ซึ่งดูเหมือนจะไม่ชอบหน้ากันสักเท่าไหร่ แต่แท้จริงแล้วกลับแอบหยอดฝ่ายชายด้วยภาษารัสเซียมาตลอด (แต่เขาฟังรู้เรื่องซะงั้น) โดยต้องค่อย ๆ ติดตามดูถึงจะรู้ว่าแท้จริงแล้วมีที่มาที่ไปสำหรับจุดเริ่มต้นความรักครั้งนี้อยู่ ความสัมพันธ์ของเหล่าตัวละครอื่น ๆ จะเข้ามาเป็นอุปสรรคแก่ความรักของคุณอาเรียมากขนาดไหน ถ้าใครชอบและอยากดูเรื่องราวแบบเต็ม ๆ โดยไม่ถูกตัดรายละเอียดออก ยังไงหลังดูอนิเมะจบแล้วก็แนะนำว่าควรไปหามังงะหรือไลต์โนเวลมาอ่านเพิ่มอีกที เพราะเนื้อหาบางช่วงมีทั้งการตัดสลับและหายไปอยู่เหมือนกัน