คุณยายวัย 79 ปี จากประเทศญี่ปุ่น ประกาศขายรถ Mazda ของตัวเอง แต่กลับกลายเป็นไวรัลไปทั่วโซเชียลมีเดีย เพราะรถคันนี้คือ Mazda RX-7 หนึ่งในรถรุ่นไอคอนิกที่เป็นที่จดจำและรู้จักกันดีจากมังงะและอนิเมะเรื่องดัง ‘Initial D’ รวมถึงภาพยนตร์ ‘The Fast and the Furious’ แถมคนที่ซื้อไปก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นบริษัท Mazda Japan นั่นเอง
หญิงชราวัย 79 ปีรายนี้มีชื่อว่า นิชิโมโตะ นาโอโกะ (Nishimoto Naoko) เธอขับรถสปอร์ตรุ่นนี้มาตั้งแต่เมื่อ 24 ปีก่อน เนื่องจากอายุที่มากขึ้นเธอจึงตัดสินใจจะเลิกขับรถเพราะกลัวเกิดอุบัติเหตุ โดยเจ้าตัววางแผนจะขายรถคันนี้เมื่ออายุครบ 80 ปีในเดือนธันวาคมที่จะมาถึง เมื่อเรื่องราวของเธอถูกเผยแพร่ออกมาก็มีผู้ติดต่อเข้ามาขอซื้อรถมากกว่า 400 ราย แต่สุดท้ายคุณยายนิชิโมโตะตัดสินใจขายรถคันนี้กลับคืนให้บริษัท Mazda
รถสปอร์ต Mazda RX-7 เป็นที่รู้จักกันดีไปทั่วโลก ในฐานะรถแข่งสุดไอคอนิกจากการ์ตูนแนว Action/Coming-of-age/Sports เรื่อง ‘Initial D’ ขับโดย ทากาฮาชิ เคย์สุเกะ และยังมีพี่ชายของเขา ทากาฮาชิ เรียวสุเกะ ที่ขับ Mazda RX-7 Infini III (FC3S) ด้วย ส่วนในโลกภาพยนตร์ รถรุ่นนี้ยังเคยปรากฎตัวในเรื่อง ‘The Fast and the Furious’ เป็นหนึ่งในรถแข่งของ โดมินิก ทอเร็ตโต (รับบทโดย วิน ดีเซล – Vin Diesel) และ ‘The Fast and the Furious: Tokyo Drift’ ผู้ขับคือ ฮาน (รับบทโดย ซอง คัง – Kang Sung Ho) เรียกได้ว่าเป็นรถสุดไอคอนิกที่คนรักรถต้องรู้จัก
นิชิโมโตะเป็นคนชื่นชอบความเร็ว เธอซื้อรถคันแรกของตัวเองในวัย 21 ปี ด้วยโบนัสจากการทำงาน รถคันแรกของเธอคือ Toyota Publica ซึ่งในยุคนั้นมีผู้หญิงญี่ปุ่นไม่กี่คนที่จะซื้อและขับรถด้วยตัวเอง เธอกล่าวว่าผู้คนมักมองด้วยความประหลาดใจเสมอเมื่อเห็นเธอนั่งอยู่หลังพวงมาลัย จากนั้นเมื่อแต่งงานตอนอายุ 23 ปี เธอก็เปลี่ยนมาขับรถสำหรับครอบครัวอย่าง Toyota Corona และ Corona Coupe
กระทั่งวันหนึ่ง เมื่อเห็นลูกชายที่กำลังดูอนิเมะ ‘Initial D’ เธอได้เห็นรถ Mazda RX-7 เป็นครั้งแรกและตกหลุมรักมันทันที เมื่อได้รู้จากลูกชายว่านี่เป็นรถของแบรนด์อะไร เจ้าตัวก็ไม่ลังเล ตรงไปที่โชว์รูมของ Mazda และตัดสินใจซื้อ Mazda RX-7 สีเงินคันนี้และเธอก็ขับมันมาตลอด 24 ปี “ฉันไม่เคยขึ้นรถบัสเลยค่ะ” เธอกล่าว แต่ก็เริ่มวางแผนการใช้ชีวิตที่ไม่มีรถยนต์เอาไว้แล้ว เพราะเจ้าตัวคิดว่าความปลอดภัยต้องมาก่อน ในเมื่ออายุมากขึ้นแล้วก็ควรเลิกขับรถก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุจะดีกว่า
จากข้อมูลของ Mazda ระบุว่ารถรุ่นนี้เลิกผลิตไปแล้วเมื่อปี 2002 มันกลายเป็นรถหายาก และยิ่งยากขึ้นไปอีกที่ผู้หญิงญี่ปุ่นจะเป็นคนขับ แม้จะมีผู้ติดต่อเข้ามาขอซื้อรถคันนี้มากมาย แต่สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจขายให้กับบริษัท Mazda ซึ่งทางบริษัทอาจนำมันไปใช้ในฐานะ “รถประชาสัมพันธ์” ทางบริษัทพร้อมจัดเตรียมทีมช่างเฉพาะทางเพื่อให้การดูแลและบำรุงรักษา ทำให้รถที่นิชิโมโตะรักสามารถใช้งานได้ต่อไป เธอเองรู้สึกดีใจมากกับข้อเสนอของบริษัท เพราะเธอหวังว่าผู้คนอีกหลาย ๆ คนจะยังได้ชื่นชมรถคันนี้ และนี่ก็คือตอนจบที่ดีที่สุดของรถที่เธอรัก