สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนใน What The Fact วันนี้ผมก็จะมาเขียนบทความรีวิว Anime โดยเหตุผลในการเขียนบทความประเภทนี้คืออยากจะบอกถึงจุดเด่นของเรื่อง รายละเอียด และเสน่ห์ของเรื่องที่เป็นจุดดึงดูดซึ่งบางส่วนอาจจะมาจากความคิดเห็นส่วนตัวหรือจากการที่ผมรับชมแล้วรู้สึกว่าจุดนี้ดีจุดนี้ไม่ดี ส่วนหลักในการให้คะแนนผมจะยึดจากเนื้อหาที่เรื่องนำเสนอไม่ใช่ใช้เหตุผลที่ว่าตัวเองชอบในจุดของดีไซต์ของตัวละครโดยถือว่าเป็นการเขียนครั้งแรกผมก็ขออธิบายถึงองค์ประกอบที่มีปัจจัยในการ Review ครับมีดังนี้
เนื้อเรื่อง – ยึดในความคิดที่ว่าในการดำเนินเนื้อเรื่องตั้งแต่ต้นถึงจบนั้นสามารถบอกได้หรือเปล่าว่ามีแก่นหรือสิ่งที่จะ Present (การนำเสนอ) โดยถ้าจุดนี้มีความคิดสร้างสรรค์ที่ดูแปลกใหม่ก็จะได้คะแนน
ดีไซต์ตัวละครและคุณภาพ Animation – ในจุดนี้ก็จะดูว่าแต่ละครในเรื่องนั้นมีอกลักษณ์ที่เราน่าจดจำหรือเปล่า ไม่ใช่เป็นแค่ตัวละครที่นำมาใช้แล้วไม่มีประโยชน์ในเนื้อเรื่อง ส่วนคุณภาพอาจจะไม่เจาะลึกมากแต่ถ้าเรื่องไหนที่อยู่ในระดับที่แย่หรือที่เราจะเรียกติดปากกันว่าเผาก็ต้องโดนตัดคะแนนตรงจุดนี้
เพลงประกอบ – ถึงจะไม่ซีเรียสมากแต่เรื่องของเพลงประกอบนั้นก็ยังมีความสำคัญอยู่เพราะผู้ชม Anime บ้างท่านก็อาจจะเลือกชมอนิเมะจากเพลงประกอบของเรื่องที่มีความไพเราะและดึงดูดใจ
ข้อคิดและสิ่งที่จะนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน – เป็นสิ่งที่ผมว่าแทบจะสำคัญที่สุดเลยเพราะการที่ใช้เวลาในการดูอนิเมะแต่ละเรื่องถ้ามันไม่คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปก็ไม่มีประโยชน์ที่จะดู อย่างน้อยที่สุดควรมีข้อคิดที่เป็นคติเตือนใจหรือนำมาปรับใช้ได้
เขียนมายังไม่เข้าเรื่องเลยมาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
Review Eromanga Sensei
Eromanga Sensei / น้องสาวของผมคืออาจารย์เอโรมังกะ เป็นอนิเมะที่ดัดแปลงมากจากไลท์โนเวล ผลิตโดยสตูดิโอ A-1 Pictures เริ่มฉายทางโทรทัศน์ในประเทศญี่ปุ่นเดือนเมษายน ปี 2017 (Spring 2017)
รายละเอียดค่าย A-1 Pictures
บริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ปี 2005 โดยอดีตโปรดิวเซอร์ของทาง Sunrise คุณ อิวาตะ มิกิฮิโร่ เป็นบริษัทสาขาของทาง Aniplex ซึ่งเป็นสาขาย่อยของทาง Sony Music Entertainment Japan อีกที
รายชื่อทีมงาน
- Director: Ryohei Takeshita
- Series composition: Tatsuya Takahashi
- Original illustrations: Hiro Kanzaki
- Character design: Hiroyuki Oda
- Animation production: A-1 Pictures
เนื้อเรื่องย่อ
Eromanga Sensei เป็นเรื่องราวของ Izumi Masamune เด็กหนุ่มผู้ได้เป็นนักเขียนนิยายตั้งแต่ยังเรียนชั้นมัธยมปลาย และเขาเองก็มีคนในครอบครัวอีกเพียงคนเดียวคือ Izumi Sagiri สาวน้อยที่ได้มาเป็นน้องสาวของเขาเมื่อหนึ่งปีก่อนแต่เธอเอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ในห้องหรือพูดง่ายๆก็คือเธอเป็นฮิคคิโคโมรินั่นเองและไม่ออกมาจากห้องมาเป็นปี เวลาหิวก็ทุบพื้นเสียงดังให้เขาทำอาหารมาให้ แน่นอนว่าเขาก็อยากให้น้องสาวออกมาจากห้องเพื่อไปพบเจอผู้คนภายนอก
Light Novel เรื่อง Eromanga Sensei ผลงานใหม่จากผู้เขียน Fushimi Tsukasa (OreImo) วาดภาพประกอบโดย Hiro Kanzaki (OreImo, Classroom Crisis) ตีพิมพ์ภายใต้ชื่อของค่าย Dengeki Bunko จัดจำหน่ายโดย ASCII Media Works เริ่มเขียนตั้งแต่ธันวาคมปี 2013 วางจำหน่ายฉบับรวมเล่มถึงเล่ม 8 ในเดือนมกราคมปี 2017 ปัจจุบันยังไม่จบ
ตัวอย่างคลิป Preview
รายละเอียดตัวละครหลัก
นักพากย์: Matsuoka Yoshitsugu
นักเรียนมัธยมปลายอายุ 15 ปี เคยชนะการประกวดเขียนซีรี่ย์ไลท์โนเวล ทางสำนักพิมพ์ทำให้เขาได้ทำงานร่วมกับนักวาดภาพประกอบที่ใช้นามแฝงว่า เอโรมังกะเซ็นเซย์ ภายหลังได้พบว่าเป็นน้องสาวของเขาเอง
นักพากย์: Fujita Akane
อายุ 12 ปี น้องสาวต่างสายเลือดของมาซามูเนะ เป็นนักวาดที่ไม่เคยมีใครเห็นหน้าภายใต้ชื่อ เอโรมังกะเซ็นเซย์ ชอบการวาดภาพที่แม่สอน หลังจากเสียแม่ไปกลายเป็นพวกฮิคคิโคโมริที่ไม่ออกจากห้องของตัวเอง
นักพากย์: Takahashi Minami
อายุ 14 ปี เป็นนักเขียนจากต่างสำนักพิมพ์ มั่นใจในผลงานของตนเอง และชื่นชอบผลงานที่วาดโดยเอโรมังกะเซ็นเซย์
นักพากย์: Oonishi Saori
อายุ 14 ปี นักเขียนอายุน้อยในสำนักพิมพ์เดียวกับมาซามุเนะ มีผลงานที่ขายได้ 1.45 ล้านเล่ม ด้วยเหตุผลบางอย่างได้กลายมาเป็นศัตรูกับมาซามุเนะ
นักพากย์: Kido Ibuki
อายุ 12 ปี เพื่อนร่วมชั้นของซากิริเป็นมิตรกับทุกคน ไม่ถูกกับกบ และมีการพูดคุยที่ค่อนข้างแสดงอุปนิสัยของเธอ
นักพากย์: Ishikawa Yui
อายุ 15 ปี เพื่อนร่วมชั้นของมาซามุเนะ เป็นพนักงานในร้านหนังสือและรักการอ่าน ซึ่งเป็นแฟนผลงานของมาซามุเนะ
รายละเอียดของเนื้อเรื่องตั้งแต่ตอนที่ 1-12
เนื้อเรื่องในตอนที่ 1
จะเป็นการกล่าวถึงตัวละครหลักทั้ง 2 คนคือ มาซามูเนะ และ ซากิริ ที่มีเกี่ยวข้องกันคือเป็นพี่น้องแต่ไม่ใช่ทางสายเลือดมาอยู่ในบ้านหลังเดียวกันเพราะพ่อแม่ของทั้งคู่ซึ่ง มาซามูเนะ ผู้เป็นพี่ชายก็ไม่ได้เจอน้องสาวของเขาเลยตั้งแต่ตอนที่พบกันครั้งแรกตอนที่มาอาศัยอยู่ที่บ้านชายคาเดียวกันเพราะน้องสาวของเขาคือ ซากิริ ไม่ยอมออกจากห้องแต่เขาก็ค่อยเอาใจใส่น้องสาวคือการที่ค่อยทำอาหารให้ และ มาซามูเนะ ก็ยังเป็นนักเขียนนิยายอีกด้วยถึงจะไม่ค่อยมีชื่อเสียงก็ตาม
ตัวเอก มาซามูเนะ นั้นก็ยังเรียนอยู่ในชั้นปี 1 หรือมัธยมปลายในบ้านเรา ตรงส่วนจะมีอีกตัวละครหนึ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับตัวเอกคือ โทโทมเอะ เป็นเพื่อนของ มาซามูเนะทำงานอยู่ที่ร้านขายหนังสือและนิยายรวมถึงเขาก็ติดตามผลงานของตัว มาซามูเนะ อีกด้วย
ต่อมาเป็นเหตุการณ์สำคัญในตอนนี้เลยคือตัว มาซามูเนะ ได้เปิดไปเจอการ Livesteam(การถ่ายทอดสด) การวาดภาพของอาจารย์ Eromanga Sensei ผู้เป็นคนวาดภาพประกอบให้กับนิยายของเขาก็เลยได้กดเข้าไปดู
แต่พอเขานั่งดูไปเรื่อยๆก็สังเกตเห็นว่าในห้องของ Eromanga Sensei นั้นมีอาหารเช้าที่เขาเตรียมไว้ให้หน้าห้องของน้องสาวของเขา มาซามูเนะ พยายามถามในแชทว่าใช่น้องสาวของเขาหรือเปล่าพอเขาเห็นว่า Eromanga Sensei กำลังจะถอดเสื้อก็เลยพยายามขึ้นไปบอกที่ห้องน้องสาวของเขาก็ได้รู้ความจริงว่า Eromanga Sensei ก็คือน้องสาวของเขาเอง ซากิริ นั้นเอง จากนั้นในวันต่อมา มาซามูเนะ ได้ไปที่สำนักพิมพ์ที่เขาส่งผลงานตีพิมพ์และได้เห็นภาพขอบคุณแฟนๆผู้อ่านที่ Eromaga Sensei เป็นผู้วาด และเมื่อกลับมาถึงบ้านทั้ง มาซามูเนะ และ ซากิริ ก็ได้เริ่มพูดคุยกันในช่วงแรกนั้น มาซามูเนะ ตกใจที่ห้องของ ซากิริ สะอาดเรียบร้อยมาก หัวข้อที่ใช้พูดคุยก็คือทำไม ซากิริ ถึงวาดภาพและอุปสรรคอะไรหรือเปล่า ซากิริ ก็เลยเล่าเหตุการณ์ต่างๆที่เธอต้องเผชิญเหมือนกับความสิ้นหวังแต่ที่ผ่านมาได้เพราะแฟนๆผู้อ่านจึงอยากจะขอบคุณ เป็นจุดเริ่มต้นของการปรับความเข้าใจกันของทั้ง 2 คน
สำหรับผมตอนที่ 1 ทำออกมาได้ดีเยี่ยมเพราะสามารถอธิบายถึงตัวละครหลักทั้ง 2 คนว่ามีความเกี่ยวข้องกันยังไง ความซับซ้อนไม่มากเกินความจำเป็นถึงเรื่องนี้จะโดนครหาว่าก็อปเอาไอเดียของเรื่อง Oreimo มาแต่สำคัญคือต้องทำได้ดีกว่า จัดว่าเป็นบทนำของเรื่องที่ดีครับ
เนื้อเรื่องในตอนที่ 2
เปิดเริ่มมาจะเหมือนเป็นการแนะนำตัวละครใหม่คือ จินโนะ เมกุมิ โดยเธอบอกว่าตนเองนั้นเป็นเพื่อนร่วมชั้นและหัวหน้าห้องในโรงเรียนของ ซากิริ และเธอก็ชอบ…….ของคุณผู้ชายมากอีกด้วย(เธอพูดไว้ในเรื่องนะ) จึงมาที่บ้านของ มาซามูเนะ เพราะอยากเป็นเพื่อนกับ ซากิริ เมื่อเธอเข้ามาในบ้านก็ถาม มาซามูเนะ ว่าเขาใช่โอตาคุหรือเปล่าแล้วเธอก็บอกด้วยว่าชอบเหมือนกันโดยเฉพาะ One Piece เป็นคนที่พูดตรงไปตรงมา เมกุมิ เสนอแผนให้ ซากิริ ออกจากห้องโดยตัดเน็ตทำให้เธอโวยวายในห้อง
เมกุมิ เมื่อได้จังหวะเข้าใกล้มาซามูเนะก็ชิงเอาโทรศัพท์มือถือไปเพื่อเม็มเบอร์ของซากิริที่ฟังอยู่ตลอด หลังพูดคุยเรื่องของซากิริ เมกุมิได้ขอตัวกลับบ้าน
ผลงานของมาซามูเนะถูกปฎิเสธจากทางบ.ก.และเล่มที่วางจำหน่ายไปก็ขายไม่ดีนัก เมื่อไปถึงที่ทำงานคือสำนักพิมพ์เขาก็ได้รู้จักกับ ยามาดะ เอลฟ์ เป็นนักเขาจากต่างสำนักพิมพ์ที่ผลงานขายดีกว่าเขาที่ต้องการตัว Eromaga Sensei มาเป็นคนวาดภาพประกอบนิยายของเธอจึงมาเจรจากับมาซามูเนะถึงที่ และยังพูดทับถมเรื่องยอดขายที่ดีกว่าเขาจนถูกเตือนให้กลับไปโดยทางบก.ทำให้มาซามูเนะไม่ยอมและพยายามเขียนผลงานให้ดีขึ้น
ส่วนในตอนที่ 2 ก็มีการดำเนินเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างดีมีการนำตัวละครมานำเสนอ 2 คนคือเมกุมิกับยามาดะเอลฟ์ที่มีเอกลักษณ์นิสัยที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ยกตัวอย่างเช่นเมกุมิเป็นคนที่พูดอะไรอย่างตรงไปตรงมาส่วนเอลฟ์จะเป็นคนที่มีความมั่นใจในตนเองสูง
เนื้อเรื่องในตอนที่ 3
เมกุมิกลับมาหาอีกครั้ง มีแผนที่จะทำให้ซาการิไปโรงเรียนได้พาเพื่อนร่วมชั้นมายกห้องเพื่อชวนเธอกลับไปเรียน แต่มาซามูเนะห้ามเพราะผลลัพธ์จะตรงกันข้ามจึงแยกย้ายกันไป เมกุมิเก็บหนังสือเรียนจากเพื่อนบ้านได้ มาซามูเนะคิดว่าเพราะบ้านข้างๆมีอาถรรพ์ที่ลือกันว่ามีผู้หญิงในชุดขาว
ซาการิกลัวจนเข้ามากอดเขา เพราะเสียงเปียโนที่ดังมาจากบ้านนั้นจนเขาต้องไปเช็คว่ามีอะไรอยู่ แต่ได้เห็นเอลฟ์ที่แก้ผ้าเล่นเปียโนในบ้านเขาจึงไปคุยจากหน้าบ้าน จึงทราบว่าทำไปเพราะเกี่ยวกับงานที่เขียนเธอย้ายมาเพราะต้องคุยกับสตูดิโออนิเมะเรื่องงานของเธอ แล้วยังเกทับเรื่องที่ซื้อบ้านด้วยเงินตัวเองด้วยวัยอายุเพียง 14 ปีจากผลงานที่ได้เป็นอนิเมะ
มาซามูเนะได้เข้ามาในบ้านเธอมีการคุยเรื่องงาน เขาไม่ชอบแนวโรแมนติกคอเมอดี้ปนเซอร์วิสซึ่งต่างจากวัยรุ่นชายทั่วไป เธอยังพูดเรื่องผลงานที่หวังให้ดังระดับโลก เมื่อมาซามูเนะกลับมาที่บ้านเอลฟ์ยังคงคุยผ่านหน้าต่างเรื่องที่เขาเห็นเธอเปลือย ทำให้เขาจะโชว์ให้เธอดูเพื่อให้หยุด ซาการิ ไม่พอใจสิ่งที่เขาทำจนไล่ออกจากห้องและด่าว่าเขาเป็นโรคจิต
เอลฟ์ชวนเขามาที่บ้านอีกทั้ง เธอพยายามหาที่อยู่ของเอโรมังกะเซ็นเซย์โดยอ่านทางบล็อก จนพอประมาณได้ว่าน่าจะอยู่ใกล้ๆแถวนี้ เขายังกังวลเรื่องที่ถ้าซาการิไลฟ์สตรีมรายการสดโดยไม่ปิดม่านอาจทำให้เธอทราบได้ เธอสังเกตว่าเขามองนอกหน้าต่างตลอด
เมื่อถามเหตุผลที่มาซามูเนะเป็นแฟนผลงานเธอ ทำให้เขาเล่าถึงความรู้สึกที่ได้อ่านผลงานเอลฟ์เป็นครั้งแรกในช่วงที่เขาพบมรสุมชีวิต เขาประทับใจจนน้ำตาไหลและมีความสุขกับผลงานเธอ แต่เขาไม่ได้บอกเธอว่า ผลงานเธอเป็นแรงบัลดาลใจให้เขาเริ่มงานเขียนแรก
เมื่อทราบว่ามาซามูเนะเขียนงานได้จำนวนมาก แต่ไม่ได้หาแรงบัลดาลใจให้เต็มที่ก่อนเขียน ทำให้เธอโมโห ในขณะที่ซาการิเริ่มสังเกตว่าพี่ชายไปหาเอลฟ์บ่อยขึ้น
เนื้อเรื่องในตอนที่ 3 นั้นจะมีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้นเพราะเมกุมิก็ยังพยายามที่จะเป็นเพื่อนกับซากิริให้ได้โดยการสื่อสารผ่านทางพี่ชายคือมาซามูเนะ ส่วนทางด้านเอลฟ์ก็ได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นกับมาซามูเนะทำให้ทั้ง 2 คนเชื่อมความสัมพันธ์กันมากขึ้นหรือพูดง่ายๆสนิทสนมกันมากขึ้นนั้นเอง
เนื้อเรื่องในตอนที่ 4
มาซามูเนะได้ไปหาเอลฟ์บ่อยขึ้น มีการนำอาหารมาฝากน้องสาวจนซาการิที่เห็นไม่พอใจ เขาจึงประกาศว่าจะเขียนงานที่ให้เธอเป็นตัวละครหลัก
มาซามูเนะประชันผลงานกับเอลฟ์หลังแลกกันอ่านเขาคิดว่าผลงานเธอยอดเยี่ยม แต่เอลฟ์กลับพูดเรื่องไม่มีทางชนะได้ ก่อนจะอธิบายเรื่องงานเขียนเขาถึงทุ่มเทวิญญาณใส่เข้าไปในชิ้นงาน แต่เขียนเพื่อใครสักคนเท่านั้นไม่ได้หวังให้ทุกคนสนุกกับงาน
เธอยังเข้าใจเนื้อความที่เขียนว่าน้องสาวเขาเป็นเอโรมังกะเซนเซย์ ซึ่งเขาตั้งใจเขียนให้น้องสาวอ่านจริง แม้จะแก้รายละเอียดบางอย่างเพื่อปิดบังสถานะของทั้งสอง แต่ยังเข้าใจโดยรวมได้
เอลฟ์ยังแซวว่า มาซามูเนะเขียนเพื่อเป็นจดหมายรักของเขาให้น้องสาวที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด เธอยอมรับความพ่ายแพ้และทำลายงานตัวเอง
มาซามูเนะนำงานไปให้เอโรมังกะเซ็นเซย์อ่านโดยกระโดดผ่านระเบียงไปยังห้องของน้องสาว
หลังได้อ่านผลงานของมาซามูเนะ ซาการิกลับบอกว่า “เธอมีคนที่ชอบอยู่แล้ว” เรื่องที่เขาอกหักนำไปบอกเอลฟ์เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม มาซามูเนะยังคงมีความฝันของเขา ประกาศที่จะสร้างผลงานที่มีน้องสาวเป็นคนวาดภาพประกอบให้ หวังให้ผลิตเป็นอนิเมะและทั้งสองได้ดูด้วยกัน ซาการิเดินออกจากห้องเป็นครั้งแรกและบอกที่จะสนับสนุนเขา
โดยเนื้อเรื่องในตอนที่ 4 จะแสดงให้เราเห็นถึงความตั้งใจในการทำผลงานนิยายของทั้งมาซามูเนะและเอลฟ์และเหมือนว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น อีกส่วนทำให้เห็นว่ามาซูเนะนั้นตั้งใจเขียนนิยายเพื่อน้องสาวของเขามากเมื่อซากิริได้อ่านก็เหมือนกับความรู้สึกด้ส่งไปถึงแล้ว
เนื้อเรื่องในตอนที่ 5
มาซามูเนะหาโอกาสที่จะคุยกับซาการิอีกครั้ง เขาพูดด้วยความมั่นใจว่าซาการิอ้างเรื่องมีคนอื่นที่ชอบแล้ว เพราะอายที่เขาสารภาพรักจนซาการิไม่พอใจนัก
เอลฟ์ได้ติดต่อเขาและมีการรับเธอที่โดดลงมา เธอต้องการพูดคุยกับเอโรมังกะเซ็นเซย์ จึงให้ติดต่อผ่านทางโน๊ตบุ๊คเขา
มาซามูเนะเข้ามาเห็นตอนเอลฟ์ถลกกระโปรงให้วาดภาพใต้กระโปรงพอดี เอลฟ์ถูกคนทวงต้นฉบับลากไป ด้านซาการิวาดภาพที่ต้องการออกมาได้ดี แต่ทำให้ช่วงนี้เธอวาดได้แต่แนวนี้
เมื่อได้พูดคุยกับเมกุมิที่กำลังอาบน้ำอยู่ เขาได้พบเธอที่มาหาที่ร้านหนังสือของโทโมเอะ เมื่อเมกุมิพูดดูถูกคนอ่านไลท์โนเวลทำให้ โทโมเอะ โมโห
ในส่วนของตอนที่ 5 นี้เราก็จะได้เห็นพัฒนาการของตัวละครเอกมาซามูเนะที่พยายามเริ่มพูดคุยกับน้องสาวตนเองอย่างจริงจัง รวมไปถึงเอลฟ์ที่เริ่มทำความรู้จักกับซากิริในฐานะเพื่อน และตัวละครเมกุมิที่เริ่มอยากเข้าใจความรู้สึกของคนที่ชอบอ่านนิยาย
เนื้อเรื่องในตอนที่ 6
โทโมเอะไม่พอใจเมกุมิที่ดูถูกคนอ่านนิยายไลท์โนเวล จึงแนะนำหนังสือให้เธอไปอ่าน
ด้านเมกุมิพยายามทำความเข้าใจซาการิให้มากขึ้น มาซามูเนะให้เธอมาหาน้องสาวได้ แต่มีเงื่อนไขให้ปิดตาและมัดมือก่อนเข้าห้องซาการิที่พยายามวาดภาพกางเกงในจนถอดออกมาทำให้เมกุมิร้อง จึงปล่อยเธอและปรับความเข้าใจกันได้
งานใหม่ของมาซามูเนะต้องรออีกเป็นปีกว่าจะได้ตีพิมพ์ ทำให้เขาร้อนใจเพราะเหมือนโดนเลิกจ้างชั่วคราว หลังบอกซาการิก็ไปปรึกษาเอลฟ์เรื่องนี้ เมื่อไปสำนักงานได้พบผู้หญิงหน้าทางเข้า ถึงจะเป็นคนเขียนไลท์โนเวลแต่ไม่รู้จักชื่อของเอลฟ์
เมื่อกลับไปคุยกับทางบ.ก. เธอบอกว่าเขาเข้าใจผิด เธอต้องการให้เขาประกวดในงานที่กำลังจะมาถึงและให้เขาลงชื่อเข้าร่วมประกวด เมื่อได้ยินชื่อของมาซามูเนะ ทำให้ผู้หญิงคนนั้นลงชื่อเข้าร่วมด้วย
เซ็นจู มุรามาซะ นักเขียนไลท์โนเวลที่อายุพอๆกับพวกมาซามูเนะ แต่ผลงานขายดีกว่าเอลฟ์ร่วม 10 เท่า เธอประกาศเป็นศัตรูกับมาซามูเนะ
ในตอนที่ 6 นี้จะเป็นเนื้อเรื่องที่ต่อเนื่องมาจากตอนที่แล้วที่เมกุมิอยากเข้าใจความรู้สึกของคนที่ชอบนิยายโดยได้คำแนะนำมาจากโทโมเอะเพื่อนที่ร้านหหนังสือของมาซามูเนะทำให้เมกุมิอยากจะพูดคุยตรงๆกับซากิริเมื่อทั้ง 2 ได้ทำความรู้จักมิตรภาพจึงเกิดขึ้น ส่วนในช่วงท้ายของตอนมีการปรากฏตัวของตัวละครใหม่คือมุรามาสะที่เป็นเหมือนนักเขียนคู่แข่งของมาซามูเนะ
เนื้อเรื่องในตอนที่ 7
มุรามาซะเป็นคนที่แย่งคิวการตีพิมพ์เรื่องใหม่ของมาซามูเนะไปเอง จนทำให้เขาต้องรออีกปีกว่าจะได้ตีพิมพ์ ซึ่งเคยเกิดกรณีคล้ายกันในปีก่อน เธอบอกเรื่องที่ไม่พอใจเรื่องเพ้อฝันของเขา เขาจึงท้าทาย โดยให้เธอสั่งคนแพ้ได้ตามต้องการ ถ้าเขาชนะต้องการให้เธอไม่ยุ่งกับความฝันของเขาอีก
ซาการิทราบเรื่องที่เขาไปเดทกับเอลฟ์ผ่านทางโซเชียล ทำให้ไม่พอใจ มีการคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เอล์ฟบอกที่จะร่วมมือกับเขาในการประกวด โดยจะช่วยดูเรื่องที่เขียนให้
เวลาผ่านไป มุรามาซะมาหาเขาถึงบ้านเพื่อให้เขายอมแพ้ ก่อนจะเข้าเรื่องที่ให้ เขาเป็น (นักเขียน) ของเธอ เอลฟ์มาขัดก่อนที่จะอธิบาย มีการสนทนากันในบ้านรวมทั้งซาการิจากในห้อง
เขาไม่เข้าใจมุรามาซะมากขึ้น ขนาดชื่อเรื่องที่เขียนก็ยังจำไม่ได้ ซึ่งเธอเป็นประเภทหลงใหลในการเขียนและสร้างงานออกมาดีที่สุด ซึ่งเคยมีจดหมายแฟนที่ทำให้เธอตั้งใจมากขึ้น ก่อนกลับเธอบอกเรื่องที่เขียนไม่ได้อีก หลังอ่านผลงานของมาซามูเนะจึงต้องการให้เขาช่วยเขียนให้เธอ
ซาการิไม่ยอมให้เขาไป โดยออกมาจากห้อง มาซามูเนะจึงปฏิเสธและพูดเรื่องผลงานเขาจะเป็นผลงานชิ้นเอก
เวลาผ่านไปจนถึงวันประกาศผล ระหว่างรอมีการคุยเรื่องงานของมุรามาซะที่เขียนทำนองเดียวกับเขามาก่อน ที่เหมือนเป็นคำสารภาพรักต่อเขาแล้วโดนปฏิเสธว่ามีคนชอบ พอประกาศถึงมาซามูเนะจะชนะ แต่เพราะมุรามาซะถูกตัดสิทธิ์เรื่องเนื้อหาบางส่วน ซึ่งถ้านับคะแนนโหวตเธอจะชนะเขาห่างกัน 15 โหวต อย่างไรก็ตามทำให้เขาได้สร้างผลงานใหม่พร้อมน้องสาว
ในตอนที่ 7 นี้ผมสามารถสรุปได้สั้นๆเลยคือเป็นการแข่งขันกันเพื่อชิงตำแหน่งผู้ที่จะได้ตีพิมพ์นิยายและแสดงให้เราเห็นถึงจิตใจและความรู้สึกที่แท้จริงของมุรามาสะ
เนื้อเรื่องในตอนที่ 8
มาซามูเนะได้เห็นชุดยูกาตะของซาการิ แต่ก็ชมว่าสวยเหมือนอาจารย์มุรามาซะ ซึ่งเขาสารภาพว่าชอบมุรามาซะอยู่โดยเฉพาะที่เธอเคยบอกว่าสนใจนิยายของเขามากสุดในโลก แต่ยังคงชอบน้อยกว่าซาการิ
ด้านมาซามูเนะต้องไปค้างคืนที่สำนักพิมพ์เพื่อตรวจเช็คงาน ซาการิจึงออกมาจากห้อง ซึ่งมีปัญหาบ้างอย่างมีคนมาส่งของและไม่มีความกล้าพจะไปรับเอง
เอลฟ์มารอพบเพราะเขาไม่อ่านข้อความเธอบอกเรื่อง ชิโด คุนิมิตสึ ที่ได้อันดับสามจะมาร่วมปาร์ตี้ที่บ้านเขา, หนังสือของทั้งสามอันดับได้ตีพิมพ์ และให้เขาไม่ต้องกังวลกับเรื่องชวนมุรามาซะที่เขาเหมือนบอกเลิกเธอไป มาซามูเนะชมเธอว่าจัดการเรื่องพวกนี้ได้ดีเหมือนเป็นพี่สาว แต่เธอไม่ต้องการเขาเป็นน้องชาย
คุนิมิตสึ และ มาซามูเนะเพิ่งเคยได้พบกัน เขาแปลกใจกับเรื่องของพวกมาซามูเนะหลายเรื่องแล้วยังมีเสียงซาการิที่ทำเสียงจากชั้นบน มาซามูเนะทำอาหารให้แล้วเริ่มแนะนำตัวกัน พูดถึงความฝันแต่ละคน เมื่อถามซาการิ เธอบอกเรื่องฝันอีกอย่าง คือ แต่งงานกับคนที่ชอบ
เมี่ออยู่ตามลำพัง เขาบอกเหตุผลที่โทรมาด้วยความเห็นห่วงเพราะเขาเคยเสียแม่จากอุบัติเหตุ จึงกังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์เดิมกับครอบครัวใหม่ ระหว่างที่มีการจุดดอกไม้ไฟ เธอพูดเรื่องที่ไม่อยากให้เขาเป็นพี่ชายนัก แต่เห็นเขาดูพึ่งพาไม่ได้นัก จึงจะเป็นน้องสาวให้เขาไปอีกสักระยะ
เนื้อเรื่องในตอนที่ 8 จะเป็นการจัดปาร์ตี้ร่วมกันของคนที่ได้ร่วมแข่งงานประลองไลท์โนเวลและมีฉากเซอร์วิสนิดหน่อย มีฉากที่พูดคุยกับซากิริเล็กน้อยและดูดอกไม้ไฟด้วย ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจมาก
เนื้อเรื่องในตอนที่ 9
ระหว่างปาร์ตี้ เอลฟ์ชวนไปทะเลกัน พวกมาซามูเนะและชิโดจึงไปที่นั่น และได้พบกับคนที่เป็นทั้งพี่ชายและบก.ของเธอ ยามาดะ คริส ก่อนไปที่พัก
ระหว่างอยู่ที่ชายหาด มาซามูเนะเกร็งกับพี่ชายของเอลฟ์ที่มองเขาตอนกำลังจะทาโลชั่นกันแดดให้ มุรามาซะต้องใส่ชุดว่ายน้ำที่เอลฟ์เตรียมไว้ให้ ซึ่งเธอรู้สึกอาย มาซามูเนะจึงให้เสื้อนอกเขาไปใส่
ช่วงอาบน้ำร้อน คริส ได้ขอ มาซามูเนะ แต่งงาน …กับน้องสาวเขา ด้านชิโดได้ยินแค่ท่อนแรกจึงเข้าใจผิด มาซามูเนะปฏิเสธที่ไม่ได้สนิทกับเอลฟ์ขนาดนั้น เขาเล่าหลายๆเรื่องให้ซาการิฟังผ่านโน๊ตบุ๊ค
ตอนค่ำ เอลฟ์พามาซามูเนะไปดูหิ่งห้อย และมีการพูดเรื่องอดีตของเธอที่เสียพ่อไปตั้งแต่เด็ก เธอยังบอกชื่อจริงเขาว่าชื่อ เอมิลี่ (Emily Granger)
ในตอนที่ 9 ผมสรุปง่ายๆเลยครับคือถ้าชอบหรืออวยตัวละครเอลฟ์ก็คงจะรู้สึกใจเต้นเมื่อดูตอนนี้เพราะเธอคนนนี้ก็กระชากหัวใจผมไปเช่นกัน เป็นฉากสารภาพรักของตัวละครเอลฟ์นั้นเอง
เนื้อเรื่องในตอนที่ 10
วันต่อมา เอลฟ์ไปปลุกมาซามูเนะถึงที่ห้องแต่โดนขัด เขาลองเรียกเธอด้วยชื่อจริง (เอมิลี่) เล่นๆทำให้เธอโมโหนึกว่าเขาจริงจังกับเรื่องชื่อเธอ เมื่อวางแผนจะเล่นอีกนานจนโดนพี่ลากไปทำงาน
ระหว่างทำงานมีการพูดถึงเรื่องของมุรามาซะที่คนอื่นทราบว่ากำลังมีคนชอบอยู่และพอเดาได้ว่าเธอคิดอะไรบ้างหรือคิดถึงมาซามูเนะยังไงบ้าง ซึ่งเธอปิดความลับไม่เป็น แล้วไม่พอใจเอลฟ์ที่ขัดเธอตลอด
หลังทำงานไปสักพักและพี่เธอไม่อยู่ มีการเปลี่ยนไปเล่นเกมราชากัน ชิโด หนีไปก่อนจะต้องจูบกับมาซามูเนะตามที่สั่ง ด้าน ซาการิ ร่วมเล่นผ่านโน๊ตบุ๊คแทนโดยให้เป็นราชาตลอด เอลฟ์จึงถอดเสื้อ มุรามาซะถูกถามเรื่องแพนตี้ซึ่งเธอไม่ได้ใส่
ช่วงท้ายมีการพูดตามลำพังระหว่างมาซามูเนะกับมุรามาซะ เขาชวนพูดเรื่องจดหมายของแฟนผลงานซึ่งเขารู้ว่าแฟนคนนั้นเป็นมุรามาซะจากลายมือที่เคยเห็น เธอประกาศความฝันใหม่ที่จะเขาตกหลุมรักเธอในสักวัน
ตอนที่ 10 ก็จะอารมณ์คล้ายๆตอน 9 แต่เปลี่ยนตัวละครเป็นมุรามาสะแทนแต่จะอยู่ในเชิงที่ว่าเป็นการพูดคุยกันของมาซามูเนะกับมุรามาสะซะมากกว่า
เนื้อเรื่องในตอนที่ 11
ซาการิที่ไม่ได้ออกไปทะเลด้วย ใส่ชุดว่ายน้ำโชว์มาซามูเนะในบ้าน
เมื่อมาซามูเนะเดินไปข้างนอกเพราะเป็นวันที่หนังสือไลท์โนเวลเรื่องใหม่เล่มแรกของเขาวางจำหน่าย จึงให้เธอไปพร้อมกับเขาโดยติดต่อเธอผ่านโน๊ตบุ๊ต
ระหว่างทางมาซามูเนะและซาการินึกถึงเรื่องในอดีต สมัยพ่อเขาและแม่เธอเพิ่งคบกัน ติดต่อกับมาซามูเนะผ่านมือถือตลอด เธอฝึกวาดภาพตามแม่ของเธอที่เป็นนักวาด ในขณะที่มาซามูเนะเคยส่งเรื่องที่เขาแต่งผ่านมือถือให้ซาการิเรื่อยๆมีการติดต่อกันจนมีการทะเลาะกันจนต่างคนต่างมุ่งจะทำตามความฝันของตน
เมื่อเขาไปดูย่านหนังสือในอากิบาฮาระและไปดูหนังสือที่กำลังขายซึ่งมีการพูดถึงกัน มาซามูเนะได้เห็นกลุ่มคนที่คุยเรื่องผลงานเล่มใหม่ของเขาที่เพิ่งวางจำหน่าย ก่อนกลับไปที่บ้านและพบซาการิที่ออกมาจากห้องเพื่อต้อนรับกลับ
ส่วนในตอนที่ 11 จะเป็นการอธิบายปมที่ว่ามาซามูเนะกับซากิรินั้นมารู้จักกันได้อย่างแล้วทำไมทั้ง 2 คนถึงได้ตัดสินใจทำงานร่วมกันซึ่งถือว่าเป็นตอนที่ผมโคตรประทับใจมาก แถบช่วงท้ายยังตัวละครจากน้องสาวไม่น่ารักมาปรากฎอยู่ในเรื่องด้วยดีใจไม่เป็นสุขครับตอนนั้น
เนื้อเรื่องในตอนที่ 12
พวกเอลฟ์และมุรามาซะมาเป็นแบบให้กับซากิริวาดภาพช่วงที่กำลังเล่นทวิตเตอร์ในชุดว่ายน้ำกัน ระหว่างนั้น โทเมเอะนำหนังสือมาให้มาซามุเนะ ทำให้ซากิริพยายามแย่งมาดู
หลังได้เห็นหนังสือการ์ตูนอย่างว่า ซากิริต้องการเห็นผู้ชายเปลือย ทำให้เอลฟ์ช่วยเธอถอดเสื้อผ้ามาซามูเนะ ภายหลังพวกเอลฟ์ได้กลับบ้านไป
ในตอนที่ 12 นั้นเป็นตอนที่ไม่ค่อยจะมีแก่นสารเท่าไรมีแค่ตัวละครมาเซอร์วิสถ้าให้ผมพูดคือไม่มีความจำเป็นกับเนื้อเรื่องด้วยซ้ำแต่ถ้าบ้างคนชอบผมก็ขอโทษด้วยครับ
บทวิเคราะห์
- ก็คงต้องเริ่มอธิบายจากจุดที่เป็นข้อดีของเรื่องกันก่อนคือเราจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละครหลักคือซากิริและมาซามูเนะที่เริ่มจากการพูดคุยกันจนมาทำงานร่วมกันอย่างเปิดใจแต่ที่เรื่องนี้ไร้เหตุผลคือไม่คิดจะให้ตัวละครเอกซากิริได้ออกจากห้องของตนเองเลยคือเหมือนกับความสัมพันธ์ในด้านต่างๆพัฒนายกเว้นการออกไปเผชิญสังคมภายนอกมีแต่ให้ตัวละครอื่นๆเข้ามาคุยด้วยไม่เคยคิดจะไปคุยกับเพื่อนเองเลยมันดูแตกต่างกับความเป็นจริงอย่างมาก
- จุดต่อมาคือฉากเซอร์วิสที่มีมากเกินความจำเป็นพูดได้ว่าในการดูเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนที่ 1-12 จะมีฉากตัวละครหญิงเซอร์วิสมากกว่า 75% จากทั้งหมด ถือเป็นการกีดกันคนดูที่เป็นเพศหญิงค่อนข้างมากพูดง่ายๆคือเป็นการ์ตูนที่ทำมาให้ผู้ชายดูซึ่งจะแตกต่างกับเรื่องที่เคยโด่งดังก่อนหน้านี้คือ Oreimo (น้องสาวของผมไม่น่ารักขนาดนั้นหรอก) ที่อาจจะมีฉากเซอร์วิสแต่ก็แค่นิดหน่อยพอเป็นสีสัน เป็นต้น
- ส่วนในการการ Present แนะนำตัวละครจัดว่าทำออกมาได้โอเคมากตัวเนื้อเรื่องไม่ได้เร่งรีบแนะนำตัวละครทุกตัวออกมาภายในตอนเดียวเหมือนอย่างบางเรือง เช่น Rewrite(เรื่องมันรีบจนคนไม่เห็นความสำคัญของตัวละครหลัก) เป็นต้น
- อีกอย่างก็คงไม่พ้นเอกลักษณ์ของตัวละครไม่ใช่แสดงแค่ความน่ารักแต่มันแสดงออกถึงความโดดเด่นหรือเอกลักษณ์นั้นจริงๆ เช่น ตัวซากิริที่มีความขี้อายก็ไม่กล้าพูดคุยกับใครเลยเรื่องที่เธอเป็น Eromanga Sensei หรือตัวละครเอกอย่างมาซามูเนะที่มีความตั้งใจอยากจะทำอะไรก็ตั้งเป้าและพยายามไปให้ถึงด้วยความมุมานะ เป็นต้น
- สำหรับเรื่องคุณภาพอนิเมชั่นคงไม่ต้องพูดถึงเพราะค่ายที่ทำ A-1 Picture ถือว่าเป็นค่ายอนิเมะชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น
- อีกส่วนคือเนื้อเรื่องในช่วงหลักที่พยายามแบ่งความสัมพันธ์ของตัวเอกเป็นรูทๆเริ่มตั้งแต่เอล์ฟ มุรามาซะ ซากิริ ก็ถือว่าอยู่เกณท์ที่โอเคเพราะเป็นการอธิบายสื่อให้เราเข้าใจถือจุดเปลี่ยนหรือจุดที่ตัวละนั้นเกิดการพัฒนาไม่ใช่มีมาอย่างไรเหตุผล ยิ่งตอนที่ 11 ถือว่าเป็นที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเรื่องนี้เลยอธิบายได้ชัดเจน กระชับ และเข้าใจง่าย
- เหมือนผมจะอวยเรื่องนี้แต่จุดที่น่าติชมหรือปรับปรุงก็มีมากเช่นกันกัน จุดที่ผมเกลียดที่สุดในเรื่องนี้เลยคือตอนที่ 12 ตอนสุดท้ายที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลยจริงๆไม่ควรจะมีด้วยซ้ำเป็นแค่การที่ตัวละครมารุมล้อมพระเอกแล้วก็เซอร์วิสถ้าจะให้พูดง่ายๆเลยคือเป็นตอนที่ปัญญาอ่อนที่สุดของเรื่องไร้แกนสานเอามากๆ
- ต่อมาเลยคือเรื่องนี้ยังคงไม่ค่อยมีจุดเด่นอะไรที่ทำให้คนอยากติดตามนอกจากอยากเห็นตัวละครเซอร์วิสหรือเหตุการณ์ต่างๆในเรื่องถ้าพูดแบบดูดี จุดต่อมาคือเรื่องนี้ไม่ควรดูรอบ 2 ครับเพราะมันไม่มีความท้าทายอะไรคุณเลยนอกจากอะไรเดิมๆที่น่าเบื่อแต่ถ้ามีความอดทนก็สามารถรับชมอีกรอบได้
- ท้ายที่สุดก็คงเพลงประกอบเพลงเปิดร้องโดย Claris เป็นวงที่ผมชื่นชอบและกล้าการันตีความสุดยอดและเพลงจบก็ถือว่าโอเคถือเนื้อหาจะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเลยก็ตามต่อไปจะเป็นในส่วนของการให้คะแนนว่าเรื่องนี้ควรค่าแก่การที่คุณจะดูหรือไม่
คะแนนโดยรวม
Eromanga Sensei มีระดับคะแนนโดยรวมอยู่ที่ 6.5/10 (อยู่ในขั้นที่ไม่แย่แต่ก็ยังสามารถหาดูได้ยุคสมัยนี้เป็นทั่วไป)
ข้อดี
- เป็นเรื่องที่มีคติเตือนใจให้คุณได้ถึงจะไม่มากก็ตามแต่ก็ยังมีคุณค่า
- เนื้อเรื่องดำเนินไปได้เข้าใจง่ายเหมาะสำหรับทุกวัยแต่ไม่ทุกเพศ
- เอกลักษณ์ของตัวละครเด่นชัดและแสดงให้ผมที่รับชมเข้าใจได้ง่าย
- ระดับคุณภาพของอนิเมชั่นและเพลงอยู่ในระดับกลางไปจนถึงสูง
ข้อเสีย
- ฉากเซอร์วิสในเรื่องมีมากเกินความจำเป็นถือเป็นการกีดกันคนดูอีกด้วย (-0.5)
- ตัวละครซากิริไม่มีความพยายามจะเข้าหาคนอื่นในสังคมภายนอกขัดหลักความเป็นจริง (-1)
- เนื้อเรื่องตอนที่ 12 คือตอนสุดท้ายเป็นตอนที่ไร้เหตุผลและไม่มีคุณประโยชน์ใดๆเลย (-1)
- เนื้อเรื่องไม่ได้มีความดึงดูดสำหรับผู้ชมหน้าใหม่ (-1)
ถ้าเพื่อนๆคนไหนที่อ่านแล้วชื่นชอบก็ฝากช่วยกันติชมหน่อยนะครับ หรือจะมาร่วมพูดคุยกันได้ที่ Fanpage What The Factและเพจ Beartai Hitechขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก: https://myanimelist.net/