ย้อนเวลากลับไปเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมปี 1987 บริษัท Square ได้วางจำหน่ายเกมใหม่ล่าสุดของบริษัท ในชื่อ Final Fantasy ที่เป็นเกมแนว RPG ซึ่งอาศัยชื่อเสียงและกระแสความดังเป็นพลุแตกของ Dragon Quest ที่ออกมาก่อน เมื่อเกมถูกวางจำหน่าย ด้วยความสนุกที่แตกต่างกับ Dragon Quest กับความเป็นแฟนตาซียุคใหม่ ที่มีเนื้อเรื่องน่าสนใจ จึงทำให้เกม Final Fantasy ขึ้นแท่นเป็นเกมชื่อดัง และกลายเป็นกระแสไปทั่วโลก เมื่อมีการแปลเป็นภาษาอังกฤษในปี 1990 จนมาถึงตอนนี้ 31 ปีผ่านไป เกม Final Fantasy ออกภาคหลักมาแล้วถึง 15 ภาค และภาครองภาคเสริมภาคแยกอีกมากมาย จึงไม่น่าแปลกใจที่เกมนี้จะมีเรื่องราวต่างๆที่น่าสนใจที่เรายังไม่เคยรู้อยู่ และนี่คือ 10 เรื่องราวที่เกี่ยวกับ Final Fantasy ที่คุณยังไม่รู้ จะมีเรื่องอะไรบ้างมาดูกัน
– Final Fantasy XIII มีแผนจะสร้างและลงบน PS2 ก่อนจะย้ายมาลงบน PS3
เริ่มต้นเรื่องแรกกับเกมภาคต่อ ที่เคยสร้างกระแสทั้งแง่บวกและแง่ลบไปพร้อมๆกัน กับเกม Final Fantasy XIII ที่เมื่อตัวเกมออกมา ก็เกิดเสียงแตกออกไปสองทาง คือชอบมากๆกับเกมแย่ๆมากๆ จนเป็นที่ถกเถียงกันในโลกของอินเตอร์เน็ตในยุคนั้น ซึ่งเราก็คงจะทราบดี ว่าตัวเกมภาคนี้นั้นวางจำหน่ายลงบนเครื่องเกม PS3 แต่ก่อนหน้านี้ตัวเกม Final Fantasy XIII เคยถูกกำหนดให้ลงบนเครื่อง PS2 โดยเรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยมาจากคุณ Yoshinori Kitase ที่เริ่มต้นโครงการ Final Fantasy XIII มาตั้งแต่ปี 2004 ซึ่งโครงสร้าง Final Fantasy Xlll บนเครื่อง PS2 นั้น จะเป็นเรื่องราวของโลกในอนาคต ที่มีเครื่องจักรกับเวทมนต์ และเป็นเรื่องราวของผู้คนที่ต้องต่อสู้กับโชคชะตาตัวเอง
ตัวเกมยังคงอ้างอิงระบบยืนเรียงหน้ากระดาน เพื่อเลือกคำสั่งโจมตีใช้เวทมนต์แบบเกมภาคก่อนๆ ซึ่งภายหลังทางทางทีมพัฒนาเริ่มเปลี่ยนใจ และอยากให้ฉากต่อสู้ในเกมเหมือนกับภาพยนต์ Final Fantasy VII Advent Children ที่กำลังพัฒนาในตอนนั้น(หนังฉายปี 2005) ทีมงานจึงจัดการยกเครื่องระบบที่จะใช้ในเกมใหม่ทั้งหมด รวมถึงการเปลี่ยนเครื่องเกมที่วางจำหน่าย เพราะเครื่อง PS2 ไม่สามารถทำแบบที่ทีมงานต้องการได้ ตัวเกมเปิดตัวอย่างแรกบนเครื่อง PS3 ในงาน E3 2006 ที่สร้างเสียงฮือฮาเป็นอย่างมากในตอนนั้น ก่อนที่ตัวเกมก็วางจำหน่ายในเดือนธันวาคมปี 2009 ซึ่งเมื่อตัวเกมออกมากลับไม่เหมือนกับตัวอย่างใน E3 2006 เลยแม้แต่น้อย จึงเป็นที่มาของหนึ่งในการถกเถียงในยุคนั้น
-ในเกม Final Fantasy Vll เราสามารถออกเดทกับใครก็ได้ในกลุ่มด้วยเซฟพิเศษ
ย้อนกลับไปที่เกม Final Fantasy 7 บนเครื่อง PS1 ที่แฟนเกมทั่วโลกหลงรัก กับเรื่องราวความประทับใจในฉาก และเนื้อเรื่องตัวละคร องค์ประกอบต่างๆ ที่ตัวเกมนำเสนอออกมา และหนึ่งในฉากที่แฟนๆเกม Final Fantasy 7 จดจำมากที่สุดฉากหนึ่งในเกม ก็คือฉากการออกเดทในตำนาน ที่เราจะได้เล่นเป็น Cloud เพื่อชวน Aerith หรือ Tifa มาออกเดทในสวนสนุก Gold Saucer ก่อนจะปิดท้ายด้วยฉากประทับใจบนกระเช้าลอยฟ้าที่แสนโรแมนติก ซึ่งนั่นคือเว่อร์ชั่นปกติที่เราเลือกได้แค่ 2 สาวเท่านั้น แต่ในเว่อร์ชั่นพิเศษที่เป็นแผ่นเกมซึ่งแถมมาแบบพิเศษ(ผู้เขียนซื้อแผ่นก๊อปมาจากสะพานเหล็ก) ที่มีเซฟในเกมของ Final Fantasy 7 ที่จะเริ่มต้นเกมที่ฉากออกเดทใน Gold Saucer ที่เราสามารถเลือกคนที่จะไปออกเดทได้ทุกคนในทีมตอนนั้น ไม่ว่าจะเป็น RED Xll, Barrett หรือแม้แต่ Yuffie ให้เราโหลดเซฟไปเล่นในช่วงนั้นโดยเฉพาะ ซึ่งถ้าเป็นยุคนี้คงไม่ต้องไปหาแผ่นที่มีเซฟเกมแบบนั้นให้ยุ่งยาก เพราะเราสามารถ Mod ขึ้นมาได้ง่ายๆ
-เกม Final Fantasy XII, Final Fantasy Tactics และ Vagrant Story อยู่ในจักวาลเดียวกัน
เชื่อว่าหลายคนคงจะทราบกันดี ว่าเกม Final Fantasy ในแต่ละภาค ทั้งภาคหลักภาคแยกภาคเสริมเกือบทั้งหมด ถ้าไม่ใช่ตอนต่อที่เป็นภาค 2 ก็จะเป็นการเล่าเรื่องราวใหม่โลกใหม่จักรวาลใหม่ที่ไม่เกี่ยวข้องกัน จะมีน้อยมากๆที่เกี่ยวกันเช่นเทพเจ้าบางองค์ แต่ก็มีบางเกมในซีรี่ส์ Final Fantasy ที่อยู่ในจักวาลเดียวกันมิติเดียวกันแผ่นดินเดียวกัน แค่ต่างกันตรงช่วงเวลาในแต่ละภาคเท่านั้น โดยดินแดนในจักวาลนี้เรียกรวมๆว่า Ivalice ซึ่งมีเกมที่อยู่ในดินแดนนี้ถึง 6 เกม และ 1 เกมก็ไม่ได้เป็นเกมในซีรี่ส์ Final Fantasy อีกด้วย ซึ่งถ้าเราจะนับช่วงเวลาในดินแดน Ivalice ในเกม Final Fantasy ก็จะเริ่มจาก Final Fantasy XII, Final Fantasy XII Revenant Wings, Final Fantasy Tactics A2 Grimoire of the Rift, Final Fantasy Tactics, Vagrant Story และ Final Fantasy Tactics Advance ซึ่งในแต่ละเกมนั้น จะใช้เวลาในการเล่าเรื่องห่างกันเป็นหลักร้อยหลักพันปีในบางภาค จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมบางเกมถึงไม่มีบางเผ่าแบบในภาคนี้ หรือทำไมภาคนี้มีเทคโนโลยีมาเกมนี้กลับดูถดถอย เพราะในจักวาล Ivalice มีทั้งการสื่อโทรมและเจริญรุ่งเรื่องตามยุคสมัยเพราะสงครามนั่นเอง
– Final Fantasy Legend of the Crystals การ์ตูนเรื่องแรกในชื่อ Final Fantasy
ย้อนเวลากลับไปในปี 1994 การ์ตูน Final Fantasy Legend of the Crystals ที่เป็นการ์ตูนเรื่องแรกในซีรี่ส์ Final Fantasy ได้ถูกปล่อยออกมาในรูปแบบ Original Video Animation(OVA) ให้แฟนๆชาวญี่ปุ่นได้ชมกัน ซึ่งการเผยแพร่แบบ OVA นั้นคือการเผยแพร่การ์ตูนในรูปแบบโฮมวิดีโอ โดยไม่ต้องฉายทางโทรทัศน์หรือในโรงภาพยนตร์ ซึ่งมีทั้งหมด 4 ตอน Episode I Wind Chapter, Episode II Fire Chapter, Episode III Dragon Chapter และ Episode IV Star Chapter ซึ่งเนื้อเรื่องของการ์ตูนเรื่องนี้ จะเป็นการเล่าเรื่องราวต่อจากเกมต้นฉบับในภาคที่ 5 ที่กล่าวถึงลูกหลานของตัวเอกในเกมภาค 5 หลังจากเรื่องราวในเกมจบลงไปแล้วกว่า 200 ปี เรียกว่าน่าสนใจมากๆ แต่พอแฟนๆเกม Final Fantasy ได้ไปดู มันกลับให้ความรู้สึกตรงข้ามกับเกมไปคนละขั้ว ที่แบบถ้าไม่บอกว่านี่คือ Final Fantasy และเป็นเนื้อเรื่องต่อจากเกมภาคที่ 5 เราคงคิดว่ามันคือการ์ตูนแฟนตาซีธรรมดาๆเรื่องหนึ่งเท่านั้น
เนื้อภายในการ์ตูนจะพูดถึงครีสตัลที่เป็นเมนหลักของ Final Fantasy 5 แต่ทุกสิ่งทุกอย่างกลับตรงกันข้ามกับ Final Fantasy 5 ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นฉากที่เปลี่ยนเป็นแบบจีนโบราณ ที่ต่างกับต้นฉบับที่เป็นปราสาทแบบยุโรป โจโคโบะที่ไม่มีขน เวทมนต์ต่างๆก็ไม่มี จนแฟนๆในยุคนั้นต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้าไม่มีชื่อ Final Fantasy แปะ เราก็คงไม่รู้ว่านี่คือการ์ตูนจากเกม Final Fantasy นับเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรง ที่แฟนๆเกมไม่ยอมรับเรื่องราวใน Final Fantasy Legend of the Crystals เป็นจักวาลเดียวกับเกม Final Fantasy 5 เลยทีเดียว
– Buster Sword ใน Final Fantasy ภาคต่างๆ
เมื่อพูดถึงเกม Final Fantasy 7 อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ ที่หลายคนมักจะพูดถึง และเอามาล้อกันบ่อยๆเมื่อพูดถึงเกมนี้ นั่นคือเรื่องราวของดาบ Buster Sword ของ Cloud ที่ไม่ว่าจะดูมุมไหน มันก็คือแผ่นเหล็กขนาดใหญ่มากกว่าดาบ ที่คนธรรมดาจะมีคนเอามาใช้ และมันก็มีที่มาที่ไปซึ่งน่าสนใจ ที่ตกทอดมาถึงสองรุ่นก่อนจะมาถึง Cloud และด้วยเอกลักษณ์ที่เป็นจุดเด่นนี้เอง ทางทีมพัฒนาเกม Final Fantasy ภาคต่างๆ ก็เลยเอาดาบเล่มนี้ไปในในเกมของตัวเอง เริ่มจาก Final Fantasy 9 ที่จะพูดถึงดาบขนาดใหญ่ในร้านค้าอาวุธใน Lindblum ที่พูดถึงเจ้าของดาบเล่มนี้ ว่าชายผู้มีผมแหลมเป็นเจ้าของ
ต่อมา Buster Sword ก็ไปปรากฏในฐานะอาวุธของ Tidus ใน Final Fantasy 10 และใน Fianl Fantasy 12 ที่ตัวดาบจะพิเศษกว่าเล่มอื่น ตรงที่จะมีตัวคันจิภาษาญี่ปุ่นเขียนที่ตัวดาบที่แปลได้สองความหมายคือ Replica (แบบจำลอง) กับ Fake (เทียม) แล้วแต่เราจะตีความหมายเอา ตามมาด้วยภาค Lightning Returns Final Fantasy XIII ที่มาทั้งชุดและดาบของ Cloud เลย และใน Final Fantasy 14 ที่เราจะได้มาทั้งดาบ Buster Sword เรืองแสง และท่า Limit Breaks Bladedance มาอีกด้วย นี่ยังไม่นับของ Cloud ที่ใช้ในเกม Kingdom Hearts ที่มีลักษณะต่างกับเล่มอื่นๆอีกด้วย
– Final Fantasy The Spirits Within คือจุดเริ่มต้นและจุดจบของหลายๆสิ่ง
เมื่อพูดถึงภาพยนตร์เรื่องแรกในซีรี่ส์เกมในตำนานอย่าง Final Fantasy หลายคนคงจะคิดถึงเรื่องราวของการเดินทางในโลกแฟนตาซี ที่มีทั้งเครื่องจักรมอนสเตอร์เวทมนต์และอสูรต่างๆในหนัง หรือไม่ก็เป็นการเอาเรื่องราวต่อจากเกม ภาคใดภาคหนึ่งมาสร้างเป็นหนัง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วภาพยนตร์ Final Fantasy The Spirits Within ที่ถูกฉายในปี 2001 นั้น กลับไม่มีสิ่งที่กล่าวมาอยู่เลยแม้แต่อย่างเดียว จะมีเพียงชื่อตัวละครที่ชื่อซิตเท่านั้นที่บ่งบอกว่านี่ Final Fantasy ตัวหนังจะเป็นการ์ตูนคอมพิวเตอร์กราฟฟิกที่สวยงามสมบูรณ์แบบ ที่ล้ำกว่าการ์ตูนทุกเรื่องในยุคนั้น แถมการสร้างตัวละครก็ทำออกมาได้เหมือนคนจริงๆแบบไม่มีผิดเพี้ยน
จนหลายคนแซะไปว่า ถ้าทำได้ขนาดนั้นแต่แต่งเนื้อเรื่องแบบนี้ สู้เอาคนมาแสดงไม่ดีกว่าหรือ ซึ่งมันก็เหมาะจะเป็นแบบนั้นจริงๆ เพราะนอกจากเรื่องราวที่ไม่มีอะไรเป็น Final Fantasy แล้ว เนื้อเรื่องในหนังยังอืดชวนหลับไม่น่าสนใจแม้แต่น้อย จนทาง Square ที่มั่นอกมั่นใจว่าหนังจะดัง ก็ลงทุนไปกว่า 137 ล้านดอลลาร์ แต่ได้กลับมาเพียง 87 ล้านดอลลาร์เท่านั้น เรียกว่าขาดทุนกระจายจนบริษัทแทบล้มละลาย ซึ่งนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการรวมบริษัท Square Enix ที่เหมือนการจับมือกันของศัตรูที่ห่ำหั่นกันมาของ Dragon Quest กับ Final Fantasy มาอยู่รวมกัน และเป็นการลาออกของ Hironobu Sakaguchi ผู้ให้กำเนิดซีรี่ส์ Final Fantasy และเป็นการคิดใหม่ทำใหม่ของ Square Enix ในการสร้างหนังจากเกมในชื่อ Final Fantasy เพราะหลังจากนั้นก็มี Final Fantasy VII Advent Children ออกมาในปี 2005 เพื่อแก้มือ
– Side Quest ปริศนาใน Final Fantasy IX ที่ใช้เวลากว่า 13 ปีกว่าจะมีคนค้นพบ
ย้อนกลับไปในปี 2013 กับเกม Final Fantasy IX ที่วางจำหน่ายบนเครื่อง PS1 ในช่วงปี 2000 เกมที่เหล่านักเล่นเกมและแฟนๆทั่วโลกได้เล่นกันจนจบ ซึ่งทุกคนคงจะรู้ถึงทุกสิ่งทุกอย่างในเกมนี้แบบทะลุปุโปร่ง แต่ก็มีเรื่องน่าประหลาดใจเกิดขึ้น เมื่อจู่ๆก็มีคนโพสประกาศในเว็บไซต์ GameFAQs ว่า ได้ค้นพบ Side Quest ปริศนาใน Final Fantasy IX โดยผู้ที่คนพบนี้มีชื่อว่า MysterPixel ได้ค้นพบ Side Quest ในช่วงต้นของเกมแผ่นที่ 4 ที่มีชื่อว่า The Lost Nero Family ที่เราจะได้เจอ Side Quest นี้ต้องไปที่ Tantalus Hideout ในย่านโรงละครของ Lindblum และพูดคุยกับสมาชิกครอบครัว Nero ที่ตอนแรกจะมีเพียง Benero และ Zenero และเราต้องตามหาสมาชิกทั้ง 8 คนให้พบ ซึ่งการค้นหาต้องอาศัยคำใบ้จากเกม และต้องทำตามเงื่อนไขต่างๆที่เกมกำหนดมากมายกว่าจะสำเร็จ ซึ่งสิ่งที่เราจะได้มาหลังทำภารกิจสำเร็จ คือ Protect Ring ซึ่งกว่าจะมีคนรู้ว่ามี Side Quest นี้และทำสำเร็จ ก็หลังจากเกมวางจำหน่ายมาแล้วว่า 13 ปีเลยทีเดียว
– Cloud และ Aerith เคยไปเป็นแขกรับเชิญใน Final Fantasy Tactics
Final Fantasy Tactics ถือเป็นอีกหนึ่งซีรี่ส์เกม ที่อาศัยชื่อ Final Fantasy ในการขยายตลาดไปสู่เกมแนววางแผนการรบแบบหมากรุก ที่ตัวเกมวางจำหน่ายบนเครื่อง PS1 เมื่อปี 1997 ตัวเกมจะเป็นโลกของ Ivalice ที่เชื่อมโยงกับเกม Final Fantasy 12 ที่ถูกสร้างขึ้นมาหลังจากนั้น ตัวเกมจะเกี่ยวกับการต่อสู้แย่งชิงดินแดน ที่มีเนื้อเรื่องซับซ้อน มีการชิงไหวชิงพริบการหักหลังหลอกลวงของตัวละครในเรื่อง เรียกว่าถ้าเราจะเอาเนื้อเรื่อง Final Fantasy Tactics มาเขียน คงต้องใช้บทความต่างหากเลยทีเดียว ซึ่งนอกจากเนื้อเรื่องระบบการเล่นที่น่าสนใจแล้ว ยังมีตัวละครพิเศษที่ถูกใส่มาเพื่อใจแฟนๆอย่าง Cloud และ Aerith ในเกม Final Fantasy 7 ปรากฏตัวอยู่ด้วย โดยเราสามารถเอา Cloud มาเป็นพวกได้ ถ้าทำตามเงื่อนไขในเกม และในภาค Final Fantasy Tactics The War of the Lions ที่ถูกเอามาลงใหม่บนเครื่อง PSP ก็ได้เพิ่มตัวละครอย่าง Balthier จาก Final Fantasy 12 ลงไปด้วย
– Squall ตายไปแล้วในท้ายแผ่นแรกที่เราเล่นในช่วงหลังคือจินตนาการสุดท้ายของเขา
ถ้าใครที่ได้ติดตามข่าวสารในช่วงงาน E3 ที่ผ่านมา คงจะทราบข่าวแล้วว่า เกม Final Fantasy 8 ภาคนี้จะถูกเอามา Remastered เปลี่ยนกราฟฟิกให้สวยงามขึ้น สร้างเสียงฮือฮาให้แฟนๆเป็นอย่างมาก ซึ่งเมื่อพูดถึงเกม Final Fantasy 8 สิ่งที่เป็นตำนานไม่แพ้ระบบการเล่น และเนื้อเรื่องที่เกี่ยวกับความรัก นั่นคือข่าวลือที่แฟนๆต่างคิดและมโนกันไป ว่าตัวของ Squall นั้นเสียชีวิตไปแล้วในช่วงท้ายแผ่นที่ 1 หลังการต่อสู้กับ Edea ที่ Squall ได้ถูกมนต์น้ำแข็งแทงหน้าอกจนทะลุ
ซึ่งแฟนๆต่างมโนคิดกันไปต่างๆนาๆ ว่าสิ่งที่เราได้เล่นในช่วงแผ่น 2 ขึ้นมานั้น คือความทรงจำสุดท้ายของ Squall ที่คิดไปเองก่อนจะตาย ซึ่งตรงกับชื่อเกมที่สื่อถึงจินตนาการครั้งสุดท้าย(Final Fantasy) ได้เป็นอย่างดี ซึ่งแฟนๆต่างอ้างหลักฐานในช่วงท้ายเกม ว่าเราจะได้เห็นหน้าของ Squall เป็นรู ที่เหมือนเป็นการบอกใบ้อ้อมๆของนักพัฒนาที่บอกกับแฟนๆ ก่อนที่ทางทีมพัฒนา Final Fantasy 8 จะออกมาบอกว่า Squall ยังไม่ตาย น้ำแข็งแค่ปักหัวไหล่ Squall เท่านั้น ส่วนรูป Squall ที่หน้าเป็นรู นั่นคือความกลัวในจิตใจของ Rinoa ที่คิดว่าจะเสีย Squall ไป ดับฝันแฟนๆกันเลยทีเดียว
– Final Fantasy Crystal Chronicles Series ที่ถูกผู้เล่นลืม
ปิดท้ายด้วยซีรี่ส์ Final Fantasy ที่ถูกลืมอย่าง Final Fantasy Crystal Chronicles ที่ทาง Square Enix หมายมั่นปั้นจักวาลใหม่ขึ้นมาเป็นซีรี่ส์ของตัวเอง เพื่อพัฒนาลงเครื่อง GameCube และเครื่องเกมอื่นๆในเครือของ Nintendo ในปี 2003 พัฒนาโดย Production Development Division ที่นำโดย Akitoshi Kawazu ที่มีผลงานเด่นๆเช่น Final Fantasy 1-2 เกมตระกูล SaGa กับ Seiken Densetsu ที่ออกมาทั้งหมด 6 ภาคได้แก่ Final Fantasy Crystal Chronicles, Final Fantasy Crystal Chronicles My Life as a King, Final Fantasy Crystal Chronicles Echoes of Time, Final Fantasy Crystal Chronicles My Life as a Darklord และ Final Fantasy Crystal Chronicles The Crystal Bearers โดยแต่ละภาคจะเป็นเรื่องราวในดินแดนเดียวกัน คล้ายๆกับดินแดน Ivalice ในจักวาล Final Fantasy 12 เพียงแค่เราจะหาเกมเหล่านี้ได้จากเครื่องของ Nintendo เท่านั้น
ซึ่งเกือบทุกเกมจะเน้นรูปแบบออนไลน์ เล่นร่วมกับผู้เล่นคนอื่น ผ่านเผ่าพันธุ์อาชีพต่างๆในการผ่านด่าน พร้อมกับเรื่องราวที่น่าสนใจ ซึ่งยังคงมีกลิ่นอายความเป็น Final Fantasy อยู่ แต่ก็มีเกมแนวแปลกๆอย่างภาค Final Fantasy Crystal Chronicles My Life as a King ที่จะเป็นเกมแนวสร้างบ้านสร้างเมืองกึ่ง RPG ที่เราต้องรวบรวมวัตถุดิบในการสร้างเมือง เพื่อเรียกผู้คนมาอาศัยในอาณาจักรของเรา ที่เมื่อคนมากขึ้นเราก็จะมีกองกำลังในการบุกไปตามสถานที่ต่างๆมากขึ้น ภารกิจในเกมก็มีหลายแบบที่น่าสนใจ ตัวเกมเน้นความเรียบง่ายเล่นสนุก เอาใจคนชอบแนวเกมสร้างบ้านสร้างเมือง กับอีกเกมคือ Final Fantasy Crystal Chronicles My Life as a Darklord ที่เป็นเกมแนวที่เรียกว่า Tower Defense ที่เราต้องรับบทเป็นทายาทราชาปีศาจ ที่สร้างหอคอยตามที่ต่างๆ เพื่อท้าทายผู้กล้าที่แน่จริงมาบุก ตัวเกมจะเป็นการวางแผนสร้างกำดัก ใช้ลูกสมุนไปหาวัตถุดิบมาสร้างหอคอย ตัวเกมต้องใช้สมองคิดวางแผนการสร้างกำดักต่างๆ ตัวเกมเน้นที่ความน่ารักไม่เน้นจริงจังเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย แต่น่าเสียดายที่ทั้งสองเกมนี้นั้นจะเล่นได้บน WiiWare เท่านั้น
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 10 เรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวกับ Final Fantasy ที่เราเอามานำเสนอ บางเรื่องหลายคนอาจจะทราบแล้ว บางเรื่องก็อาจจะยังไม่ทราบ ทางทีมงานก็พยายามค้นหาเรื่องราวแปลกๆที่น่าสนใจมารวบรวมให้อ่านกัน และถ้าใครมีเรื่องราวอื่นที่น่าสนใจ ซึ่งเกี่ยวกับ Final Fantasy ก็บอกกันมาได้ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดกัน ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรก็รอติดตามกันได้