สำหรับแฟน ๆ ที่ติดตามการ์ตูนยอดนักสืบรุ่นจิ๋วโคนันมาตั้งแต่เด็กจนวันนี้ลูกโตเข้าโรงเรียนหรือบางคนอาจจะลูกบวชกันไปแล้ว แต่เจ้าหนูน้อยโคนันหรือ “คุโด ชินอิจิ” ในร่างเด็กก็ยังไม่กลับคืนร่างเดิมเสียที แถมยังอยู่ชั้น ป.1 ทั้งที่เวลาในเรื่องน่าจะเกิน 365 วันไปแล้ว (หยอก ๆ ก็การ์ตูนนี่นะ) อย่างที่แฟน ๆ โคนันรู้กันว่าส่วนใหญ่แล้ว เขาจะใช้วิธียิงปืนยาสลบใส่ลุง “โมริ โคโกโร่” พ่อของรัน ที่โคนันไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยและมักตกอยู่ในสถานการณ์ต้องคลี่คลายคดีอย่างเป็น “นักสืบเงา” แทนเสมอ จนทำให้บางทีนักอ่านก็สงสัยเหมือนกันนะว่า ลุงโมริจริง ๆ แล้วมีความสามารถในการไขคดีกับเขาจริงบ้างมั้ยเนี่ย?

ภาพที่แฟนการ์ตูนโคนันเห็นจนชินตา เมื่อโคโกโร่ถูกยิงปืนยาสลบกลายเป็น "โคโกโร่นิทรา" และโคนันปลอมเสียงไขคดีแทน

ภาพที่แฟนการ์ตูนโคนันเห็นจนชินตา เมื่อโคโกโร่ถูกยิงปืนยาสลบกลายเป็น “โคโกโร่นิทรา” และโคนันปลอมเสียงไขคดีแทน

อย่างไรก็ตาม “อาโอยามะ โกโช” นักวาดและผู้เขียนการ์ตูนยอดนักสืบจิ๋วโคนันก็ได้เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ตัวละครโมริ โคโกโร่ที่มีนิสัยบ๊อง ๆ เจ้าชู้ และรับสมอ้างการเป็นโคโกโร่นิทราไปอย่างเนียน ๆ นั้นเป็นเพราะต้องการสร้างสีสันและลดความเครียดของเรื่องราวสอบสวนคดีฆาตกรรมลง และถ้าสังเกตดี ๆ ตัวโคโกโร่นั้นจะมีบุคลิกละมุนละม่อม ในวันที่ต้องบีบให้คนร้ายเผยตัว เช่นในตอน “วันที่โมริ โคโกโร่ เลิกเป็นนักสืบ” ที่ชวนปวดหัวใจอย่างยิ่ง เมื่อเขาอุตส่าห์ได้เจออดีตเพื่อนตำรวจที่ทำพลาดในอดีตจนกลายเป็นแผลฝังใจ ต้องกลายเป็นผู้ต้องสงสัยให้เขาต้องต้อนจนมุม หรือในตอน “ผู้ต้องสงสัยที่มองไม่เห็น” ที่เขาพบว่าเพื่อนเก่าที่แอบชอบเขาตั้งแต่มัธยม พยายามปกปิดความจริงว่าพ่อเป็นฆาตกร

วันนี้ What The Fact ขอนำเสนอคดีที่ลุงแกไขกระจ่างได้ด้วยตัวเองที่ก็มีไม่น้อยเลย จริง  ๆ แล้วลุงอาจจะเก่งจริงก็ได้นะ หรือใครอยากจะดูตอนไหนก็กดตาม link ที่แปะไว้ให้ที่หมายเลขตอนได้เลย

คดีฆาตกรรมเจ้าของหอศิลป์ (ปี 1 ตอนที่ 8)

โคนัน โคโกโร่ และสารวัตรเมงูเระ ในตอน คดีฆาตกรรมเจ้าของหอศิลป์

โคนัน โคโกโร่ และสารวัตรเมงูเระ ในตอน คดีฆาตกรรมเจ้าของหอศิลป์

นับเป็นคดีแรกที่ลุงโมริคลี่คลายบนจอด้วยตัวเอง คดีนี้เริ่มจากการมีข่าวลือว่า ชุดเกราะในหอศิลป์ขยับได้ในตอนกลางคืน ด้วยความสนใจ รันจึงชวนโคโกโร่และโคนันไปที่หอศิลป์แห่งนั้น แต่แล้วก็เกิดคดีฆาตกรรมขึ้นโดยที่กล้องวงจรปิดสามารถถ่ายภาพฆาตกรแบบไม่มีเสียงไว้ได้ แต่กลายเป็นว่า ฆาตรกรดันเป็นอัศวินในชุดเกราะอย่างนั้นหรือ? ในเรื่องเป็นหอศิลป์ที่อีก 10 วันก็จะปิดบริการเพราะเจ้าของใหม่อยากจะเอาหอศิลป์ไปทำโรงแรม และผู้จัดการหอศิลป์ก็รักสถานที่นี้และงานศิลปะทุกชิ้นมาก ต่อมาเจ้าของเกิดโดนฆาตกรรมจากชุดเกราะโบราณ แถมในมือของศพยังมีกระดาษเขียนชื่อของเจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ชอบขโมยงานศิลปะไปขาย ชวนฉงนว่านี่จะเป็น Dying Message งานนี้โมริไขคดีได้เพราะคำบอกใบ้ของโคนัน เลยไม่ต้องยิงลูกดอกยาสลบใส่ให้เปลือง

คดีฆาตกรรมสมาคมศิษย์เก่าของโคโกโร่ (ปี 1 ตอนที่ 28-29)

เพื่อนเก่าร่วมรุ่นชมรมยูโดที่ถูกจัดฉากฆาตกรรม ในตอน

เพื่อนเก่าร่วมรุ่นชมรมยูโดที่ถูกจัดฉากฆาตกรรม ในตอนคดีฆาตกรรมสมาคมศิษย์เก่าของโคโกโร่

โมริ โคโกโร่ โคนันและรันไปร่วมงานเลี้ยงรุ่นชมรมยูโดของมหาวิทยาลัยที่โคโกโร่เคยเรียน ต่อมากลับพบว่า “โฮริโคชิ ยูมิ” อดีตผู้จัดการชมรมถูกพบเสียชีวิตอยู่ในห้องพักแถมถูกจัดฉากว่าฆ่าตัวตายเอง ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อน ๆ โคนันเชื่อว่าในบรรดาคนศิษย์เก่าของชมรมนี้ มีบางคนแสร้งหลั่งน้ำตาหลังลงมือฆาตกรรมตามแผนที่วางไว้อย่างแนบเนียน โมริโชว์สืบสวนการตายของเพื่อนร่วมรุ่นยูโดผ่านการบอกใบ้ของโคนัน (เช่นเคย) โดยมีเพื่อนตำรวจอดีตแฟนเก่าของคนตายช่วยด้วย ในทีแรกโคนันก็เกือบจะใช้ปืนยิงยาสลบเหมือนทุกครั้ง แต่เพราะโมริเอ่ยปากหนักแน่น ระบายแค้นว่าจะต้องลากคนทำผิดมาลงโทษให้ได้ โคนันเลยให้ลุงกระชากหน้ากากคนร้ายจากปากตัวเอง แถมยังได้โชว์สกิลยูโดสุดเท่อีกด้วย

คดีฆาตกรรมอาวุธปริศนา (ปี 2 ตอนที่ 55)

สารวัตเมงูเระที่ช่วยอะไรไม่ค่อยได้ และโมริ โคโกโร่ที่ต้องให้โคนันใบ้ให้ตลอด

สารวัตเมงูเระที่ช่วยอะไรไม่ค่อยได้ และโมริ โคโกโร่ที่ต้องให้โคนันใบ้ให้ตลอด

ระหว่างที่โคโกโร่ โคนันและรันกำลังเดินเล่นอย่างเพลิดเพลิน จู่ ๆ ก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้น เหยื่อฆาตรกรรมผู้เคราะห์ร้ายคือ ผู้จัดการบริษัทอสังหาริมทรัพย์ NEED กับภรรยาที่พักอยู่ที่คอนโดแห่งนี้ กับผู้พักอาศัยอีกห้องหนึ่งเท่านั้น ในคดีนี้ผู้ต้องสงสัยแต่ละคนต่างก็มีแรงจูงในการฆ่าไม่น้อยไปกว่ากัน เบาะแสในการคลี่คลายคดีมีเพียงรอยครูดแปลก ๆ ที่พื้นและนกบาดเจ็บตัวหนึ่ง (?) เท่านั้น ตอนนี้เป็นตอนสั้น ๆ ที่ไม่ใช่คดีที่สลับซับซ้อน แต่อาจจะโอเวอร์ไปหน่อยตรงอาวุธที่ใช้ก่อคดีฆาตกรรม ส่วนโคนันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมไม่ใช้วิธีการยิงยาสลบ แต่หาวิธีการทำให้โคโกโร่ฉุกคิดขึ้นมาได้เอง สรุปแล้วก็เหมือนโคนันนั่นแหละที่เป็นคนไขคดีสำเร็จ

คดีแก๊งโจรในคฤหาสน์ปริศนา (ปี 3 ตอนที่ 110-111)

โมร โคโกโร่ รัน และโคนัน ต้องไปไขปริศนาในคฤหาสน์ประหลาดที่มีรหัสลับซ่อนอยู่ในนาฬิกามากมายในคฤหาสฯ์

โมร โคโกโร่ รัน และโคนัน ต้องไปไขปริศนาประหลาด กับรหัสลับซ่อนอยู่ในนาฬิกามากมายในคฤหาสน์

โคโกโร่ได้รับจดหมายจาก “นากามุระ มิซาโอะ” ให้ช่วยไขปริศนาประหลาดที่เกิดขึ้นในบ้านของเขา นั่นคือ นาฬิกานกที่ร้องแบบไม่ควรร้อง โดยมักจะร้องแค่ครั้งเดียวตอน 10 นาฬิกา 50 นาที และช่องหน้าต่างที่ควรเป็นนกโผล่ออกมาก็ไม่ใช่นกแต่เป็นตุ๊กตาปีศาจ 3 ตัวที่มีตัวอักษรภาษาอังกฤษอยู่ด้วย นอกจากนั้น ขณะที่เมื่อถึงเวลา 11 นาฬิกา เสียงนาฬิกาดิจิทัลก็จะดังพร้อมกัน โดยทุกเรือนล้วนมีรอยแตกที่หน้าปัดระหว่างเลข 11 กับเลข 0 ไม่เพียงเท่านั้นจะมีวิดีโอทำงานแค่ 1 นาทีอีกด้วย โคนันลองไล่เรียงสิ่งที่เกิดขึ้นจนพบว่าคุณปู่ของมิซาโอะซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว อาจจงใจบอกใบ้และทิ้งรหัสลับเลข 110 เพื่อนำไปสู่การไขปริศนาบางอย่าง ตอนนี้ยังมีปริศนาบางอย่างเกี่ยวข้องกับแก๊งโจรก๊อบลินในอดีตด้วย สุดท้ายโคนัน (เป็นหลัก) และลุงโมริ ก็ช่วยกันไขปริศนาแบบที่โคโกโร่นิทราไม่ต้องออกโรง

คดีความจริงในคดีรถระเบิด (ปี 4 ตอนที่ 160-161)

เป็นคดีที่สะเทือนใจลุงโมริ โคโกโร่อย่างมาก เพราะฆาตกรเคยเป็นถึงลูกศิษย์รักเลยทีเดียว

เป็นคดีที่สะเทือนใจลุงโมริ โคโกโร่อย่างมาก เพราะฆาตกรเคยเป็นถึงลูกศิษย์รักเลยทีเดียว

โคโกโร่นิทราคิดถึงเรื่องสมัยอดีตที่เคยเป็นครูสอนพิเศษจึงพาพวกรันไปเยี่ยม “เมกุมิ” ลูกศิษย์เก่าของเขา แต่พบว่ารถของเมกุมิถูกลอบวางระเบิดและคนที่โชคร้ายก็คือ “ฮิโรมิ” น้องสาวของเมกุมิที่ช่วยถอยรถแทนพี่สาว ผู้ต้องสงสัยคดีนี้เป็นคนเดียวกับผู้เสียหายในอีกคดีที่ภรรยาเพิ่งจะถูกฆ่าตาย ตำรวจพบพิรุธบางอย่างจึงรู้ว่านี่เป็นการ “แลกกันฆ่า” ของสามีภรรยาสองคู่ เพื่อหวังเงินประกันจากชีวิตของภรรยาทั้งสองฝ่าย เรื่องราวควรจะคลี่คลายลงแล้วแต่ก็มีบางอย่างที่ทำให้โคนันคลางแคลงใจ เมื่อมีเบาะแสบางอย่างว่าเมกุมิอาจมีส่วนรู้เห็นกับการตายของน้องสาว ส่วนโมริก็ทำใจเชื่อได้ยากว่าลูกศิษย์ที่แสนดีจะกลายไปเป็นฆาตกรจริง ๆ นะหรือ คดีที่สะเทือนใจลุงโมริแบบนี้ ปกติแล้วโคนันก็จะปล่อยให้โมริจัดการตัวเองไปเลยม้วนเดียวจบ

คดีภัตตาคารที่สั่นคลอน (ปี 6 ตอนที่ 279)

เป็นตอนที่คดีฆาตกรรมซ้อนคดีอีกที คดีแรกแม้โมริจะไขได้ แต่คดีที่ซ่อนไว้ลึกกว่าอีกชั้นก็ต้องถึงมือโคนัน

เป็นตอนที่คดีฆาตกรรมซ้อนคดีอีกที คดีแรกแม้โมริจะไขได้ แต่คดีที่ซ่อนไว้ลึกกว่าอีกชั้นก็ต้องถึงมือโคนัน

โมริ รัน และโคนันรู้จักเจ้าของภัตตาคารแห่งหนึ่งใกล้สถานที่ก่อสร้าง ในวันต่อมาพบว่าเจ้าของร้านกลายเป็นศพ ตอนแรกโคโกโร่สันนิษฐานว่าเป็นเพราะแจกันสั่นสะเทือนเพราะการก่อสร้างจนตกกระแทกหัวเขาตาย แต่จากการสำรวจก็พบว่าเป็นการฆาตกรรมซ้อนฆาตกรรมอีกทีหนึ่ง โดยมี “เกล็ดปลา” เป็นหลักฐาน คดีนี้ลุงโมริ โคโกโร่ลุยเดี่ยวไขคดีเองแบบที่โคนันแม้จะไปด้วยแต่ไม่ได้ช่วยใบ้อะไรเลย ถึงขนาดผู้หมวดทาคางิถึงกับเอ่ยปากว่า “รอบนี้ไขคดีได้โดยไม่ไม่ต้องหลับแหะ” แต่เดี๋ยวก่อนในตอนแรกที่เหมือนจะไขคดีสำเร็จไปแล้วนั้น สุดท้ายโคนันก็ต้องให้ลุงโมริกลายเป็นโคโกโร่นิทราเพื่อไขคดีซ้อนคดีอีกจนได้

ผู้ต้องสงสัยที่มองไม่เห็น (ปี 7 ตอนที่ 330-331)

โมริ โคโกโร่ ไปรับเชิญเป็นนักแสดงในละครสืบสวน ที่ดันเกิดคดีฆาตกรรมดาราในเรื่องเข้าจริง ๆ

โมริ โคโกโร่ ไปรับเชิญเป็นนักแสดงในละครสืบสวน ที่ดันเกิดคดีฆาตกรรมดาราในเรื่องเข้าจริง ๆ

โมริ โคโกโร่ ได้รับเชิญไปถ่ายละครนักสืบในฐานะนักสืบรับเชิญ โดยเพิ่งมารู้ทีหลังว่าคนที่เชิญให้เขาไปเล่นก็คือเพื่อนสาวสมัยมัธยมต้นที่ไม่ได้เจอกันนานแล้ว ภายในกองถ่ายมีดาราหนุ่มปากเสียลูกของสถานีข่าวที่เส้นใหญ่รับบทนำเป็นนักสืบ เขาชอบปากเสียระรานสร้างศัตรูกับดาราทุกคนในกองถ่าย แล้วจู่ ๆ ก็ปรากฎว่าเขาถูกฆาตกรรมและผู้พบศพคนแรกที่กลายเป็นผู้ต้องสงสัยหมายเลข 1 ก็คือเพื่อนสาวของโมริ ตอนแรกโคนันก็จะใช้ปืนยาสลบแต่ติดที่ว่าได้ใช้ไปแล้ว ตอนที่ช่วยโมริคลี่คลายคดีในละคร ตอนที่ดาราหนุ่มเกิดอยากลองเชิงโมริให้คลี่คลายคดีแบบที่ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน พอจะใช้ในการคลี่คลายจริงเลยไม่มีใช้! แต่โมริกลับคลี่คลายคดีฆาตกรรมนักแสดงหนุ่มได้เองอย่างที่โคนันก็แปลกใจ ส่วนหนึ่งก็โยงไปถึงเรื่องราวในอดีตที่เกี่ยวกับ “เอริ” แม่ของรันด้วย

แกงเผ็ดที่น่าสงสัย (ปี 8 ตอนที่ 356-357)

โมริ โคโกโร่ กับตำรวจในเขตกุนมะที่เป็นแฟนคลับตัวยง ชอบดูโคโกโร่นิทราคลี่คลายคดี

โมริ โคโกโร่ กับตำรวจในเขตกุนมะที่เป็นแฟนคลับตัวยง ชอบดูโคโกโร่นิทราคลี่คลายคดี

พวกโคนันและโซโนโกะไปเที่ยวเมืองคารุอิซาวะ ในเขตกุนมะ ขณะตกปลาข้าวของกลับลอยหายไปพร้อมรถเพราะฝนตกหนักจนน้ำท่วม พวกเขาจึงต้องไปพักค้างคืนในบ้านหลังหนึ่งกลางป่า ที่นั่นมีพ่อและลูกชายอยู่กัน 2 คนโดยวันที่พวกเขาไปพบ เป็นวันที่ภรรยาของลูกชายป่วยตายไปครบ 3 ปีพอดี ในคืนนั้นพ่อของเขากลับแขวนคอตายในห้องนอนชั้น 2 พร้อมกับแกงเผ็ดที่ยังทานไม่หมดวางไว้ข้างศพ โคนันรู้ทันอุบายที่คนร้ายใช้อำพรางให้ดูเป็นการฆ่าตัวตายและมั่นใจด้วยว่าลูกชายเป็นคนร้ายฆ่าพ่อไม่ผิดแน่ แต่โคนันที่เจ็บคออยู่จากการเป็นหวัด ทำให้ไม่สามารถพูดคลี่คลายปริศนาได้จึงต้องพยายามบอกใบ้ให้ทุกคนค่อย ๆ ไขปริศนาจนเปิดโปงคนร้ายได้ในที่สุด

ทางเดินที่พูดไม่ได้ (ปี 9 ตอนที่ 402-403)

โมริ โคโกโร่ ไปเยือนเมืองโอกินาวาเพื่อออกรายการทีวี แต่กลายเป็นต้องมาสืบสวนการตายของนักกีฬาดังแทน

โมริ โคโกโร่ ไปเยือนเมืองโอกินาวาเพื่อออกรายการทีวี แต่กลายเป็นต้องมาสืบสวนการตายของนักกีฬาดัง

โคโกโร่ถูกเชิญไปเป็นแขกรับเชิญในการสัมภาษณ์นักกีฬาที่เมืองโอกินาวา แต่ทว่านักกีฬาคนดังกล่าวกลับถูกฆ่าตายขณะวิ่งจ็อกกิ้งตอนเช้าและทิ้งศพไว้ข้างถนน ในตอนนี้ได้เผยหน้าของฆาตกรก็คือนักข่าวกีฬาที่จะเป็นผู้สัมภาษณ์นักกีฬาดังร่วมกับโมริ โคโกโร่ กันตั้งแต่ต้นตอน แต่ขณะเดียวกันเขาก็สร้างหลักฐานที่อยู่ตอนที่เกิดเหตุฆาตกรรมว่าคืนก่อนอยู่อีกเมืองหนึ่งซึ่งไกลจากโอกินาวามากชนิดขึ้นเครื่องบินมาก็ยังมาถึงไม่ทัน ทำให้โคนันต้องขบคิดให้ออกว่า คนร้ายคนนี้ใช้วิธีไหนในการหายตัวมาโผล่ที่อีกเมืองเผื่อลงมือได้ โมริ โคโกโร่ก็มีความสามารถในการไขคดีได้เองจากคำใบ้ของโคนัน ซึ่งในตอนนี้ไม่ได้บอกสาเหตุว่าทำไมโคนันถึงไม่ใช้ปืนยาสลบเหมือนทุกที

การจ้างวานจากครอบครัวพิลึก (ปี 9 ตอนที่ 432-433)

รันเริ่มสงสัยว่าโคนันจะติดต่อกับคุโด ชินอิจิหรือว่าจริง ๆ โคนันก็คือ คุโด?

รันเริ่มสงสัยว่าโคนันจะติดต่อกับคุโด ชินอิจิหรือว่าจริง ๆ โคนันก็คือ คุโด?

คุณนายบ้าน “คาริยะ” ว่าจ้างให้โคโกโร่ตามหามือถือที่หายไปของเธอ ขณะที่คนในครอบครัวของคุณนายก็มีท่าทีแปลก ๆ แต่พอตามหาได้สักพักเจ้าของก็หาเจอ ทว่าหลังจากนั้นคุณนายคาริยะกลับกลายเป็นศพอย่างมีเงื่อนงำ การตายของคุณนายคาริยะต้องมีบางอย่างแอบแฝงอยู่ และเป็นหน้าที่ของโคโกโร่กับโคนันที่ต้องคลี่คลายให้กระจ่าง โคนันพยายามบอกใบ้เพื่อให้โคโกโร่และสารวัตรเมงูเระรู้สึกเฉลียวใจ กระทั่งสามารถคลี่คลายคดีได้ (ด้วยตัวโมริเอง) ส่วนคนร้ายที่ลงมือฆ่าคุณนายก็คือ คนในครอบครัว ในตอนนี้โคนันถูกสงสัยจากรันว่า หรือจริง ๆ แล้วเขาก็คือ “คุโด ชินอิจิ” เขาถูกจับตาโดยไม่รู้ตัวจากรัน ซึ่งกำลังควานหาอะไรบางอย่างที่คลางแคลงใจเธอมานาน แต่การเฉลยตัวตนของคุโดก็ยังไม่ถูกพูดถึงในตอนนี้

ความลับของรัสเซียน บลู (ปี 10 ตอนที่ 483)

โคนัน โมริ และแมวชื่อโกโร่ ที่เอริเมียเก่าตั้งชื่อคล้ายโมริ และขอเอามาฝากไว้

โคนัน โมริ และแมวชื่อโกโร่ ที่เอริเมียเก่าตั้งชื่อคล้ายโมริ และขอเอามาฝากไว้

เอริเมียเก่าของโมริได้นำแมวรัสเซียนบลูขนสีเทาอมน้ำเงินกับตาสีเขียว มาฝากไว้ที่สำนักงานนักสืบของโคโกโร่ ก็พอดีกับที่คุณคิริชิตะมาจ้างให้โมริช่วยสืบเรื่อง “รหัสลับของลูกสาว” ซึ่งเป็นรหัสที่เธอส่งเมลผิดมาเข้ามือถือของคิริชิตะ ลูกสาวของคิริชิตะกำลังปกปิดเรื่องอะไรเอาไว้หรือกำลังมีใครหลอกเธอ? แล้วเจ้าแมวรัสเซียนบลู เข้ามาเกี่ยวข้องกับการไขรหัสยังไง? โมริเลยแกะรหัสจากภาษาอังกฤษที่ต้องแปลงตัวอีกษรเป็นภาษาญี่ปุ่นอีกทีจากความช่วยเหลือของแมวโกโร่ยอดนักสืบ แถมตอนจบนั้นยังชวนยิ้มและอบอุ่นที่ไม่อยากสปอยล์แต่ให้ไปดูเองดีกว่า จะได้เห็นด้านการเป็นคุณพ่อที่แสนดีของโคโกโร่กันกับเขาบ้าง

ปริศนาที่ไม่มีความอ่อนไหว (ปี 12 ตอนที่ 579-580)

เอริและโมริ พ่อแม่ของรันที่แม้แยกทางกันแล้ว ลึก ๆ ก็ยังรักกันไปงอนกันไปอยู่หลายตอน

เอริและโมริ พ่อแม่ของรันที่แม้แยกทางกันแล้ว ลึก ๆ ก็ยังรักกันไปงอนกันไปอยู่หลายตอน

โคนันกับรันไปหาเอริแม่ของรันที่สำนักงานทนายความ ที่นั่นพวกเขาได้เจอกับแชมเปียนยูโดหญิง เธอมาขอให้เอริไปช่วยสามีของเธอที่กำลังมีปัญหาธุรกิจโดยนัดคุยกันที่บ้านหลังจากสามีไปงานศพ แต่เมื่อไปถึงบ้านก็พบว่าสามีกลายเป็นศพเพราะถูกรัดคอตายไปเสียแล้ว ทั้งเอริและโคนันต่างสงสัยภรรยาว่าเป็นฆาตกร แต่ก่อนหน้านั้นเธอก็มีหลักฐานที่อยู่เป็นการไปนั่งทานอาหารกับเอริ รัน และโคนันตลอดเวลา ยกเว้น 10 นาทีที่ขอไปเข้าห้องน้ำเท่านั้น แต่แล้วรันก็ต่อสายหาโมริเพื่อให้เอริได้ขอความช่วยเหลือ (ทั้งที่เอริก็มีฟอร์มไม่ค่อยอยากขอความช่วยเหลือจากอดีตสามีเท่าไหร่) ในตอนนี้ยังมีการเปรียบเทียบคดีกับ “อิคารัส” ตำนานของกรีกเกี่ยวกับคนที่ทำปีกเพื่อบินขึ้นสู่ท้องฟ้าแต่สุดท้ายถูกแผดเผาเพราะดวงอาทิตย์ เรียกว่าเป็นอีกตอนที่ได้เห็นความน่ารักพ่อแง่แม่งอนของ “โมริและเอริ” พ่อแม่ของรัน

วันที่โมริ โคโกโร่ เลิกเป็นนักสืบ (ปี 12 ตอนที่ 591-592)

โมริ โคโกโร่ เกือบต้องวางมือจากการเป็นนักสืบ เพราะไขคดีใหญ่ผิดพลาด

โมริ โคโกโร่ เกือบต้องวางมือจากการเป็นนักสืบ เพราะไขคดีใหญ่ผิดพลาด (และไปเป็นบอร์ดีการ์ด)

ในตอนนี้เล่าจากมุมมองของโมริ โคโกโร่โดยตรง เขาต้องหาพยานหลักฐานมายืนยันการเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมของคน ๆ หนึ่ง ถึงขนาดเจ้าตัวโทรมาลองเชิงถามความคืบหน้าจากโมริเองว่า รู้แล้วหรือยังว่าเขาเป็นฆาตกรจริงหรือไม่? ต่อมาเขาถูกพบเป็นศพจากการถูกจัดฉากว่าฆ่าตัวตาย โดยทำให้เชื่อว่า เขาฆ่าตัวตายเพราะถูกใส่ร้ายป้ายสีให้เป็นฆาตกรจากคดีเมื่อ 5 ปีก่อน ผู้ต้องสงสัยคือหลานชายของผู้ตายที่มีปากเสียงกัน โมริคาดคั้นเขาจนหลานชายก็ชิงฆ่าตัวตายไปอีกศพหนึ่ง ก่อนที่จะมีพยานยืนยันที่อยู่ภายหลังว่าหลานชายไม่ใช่ฆาตกรที่ฆ่าผู้ต้องสงสัยคนแรก

หนังสือพิมพ์หลายฉบับตีพิมพ์ความผิดพลาดในการไขคดีครั้งนี้จนโมริประกาศขอเลิกเป็นนักสืบ และยอมไปทำงานเป็นบอร์ดีการ์ของไฮโซสาวอ้วนที่เป็น FC ของเขา โคนันจึงต้องให้โมริเป็นคนไขคดีนี้ให้เองเพื่อกลับมากู้ชื่อเสียงอีกครั้ง ในตอนนี้ยิ่งชวนปวดหัวใจอย่างยิ่ง เมื่อเขาอุตส่าห์ได้เจออดีตเพื่อนตำรวจที่ทำพลาดในอดีต ต้องกลายเป็นผู้ต้องสงสัยให้เขาต้อนจนมุม

แม่มดในม่านหมอก (ปีที่ 12 ตอนที่ 596-597)

โมริ รัน และโคนัน ตามล่าแม่มดสีเงินที่ก่อคดีซิ่งรถหายไปในม่านหมอกบนภูเขาสูงด้วยตัวเอง

โมริ รัน และโคนัน ตามล่าแม่มดสีเงินที่ก่อคดีซิ่งรถหายไปในม่านหมอกบนภูเขาสูงด้วยตัวเอง

เมื่อ 4 ปีก่อน มีนักซิ่งออกขับอาละวาดบนท้องถนนในภูเขาฟูนูยะ เป็นนักซิ่งหญิงในตำนานที่ขับรถ FD สีขาวฉายาแม่มดสีเงิน จนตอนนี้ที่นักซิ่งมากมายมารับคำท้าของแม่มด กลับมาประลองความเร็วท้าทายแม่มดบนถนนจนบาดเจ็บสาหัส จากคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่า แม่มดสามารถขับรถไปบนหมอกและหันกลับมาโบกมือให้ได้ โคโกโร่จึงอยากจะโชว์ฝีมือจับแม่มดให้ได้ เขาไปไขคดีถึงที่จุดเกิดเหตุและได้ขับรถแข่งกับแม่มดสีเงิน ด้วยฝีมือขับรถห่วย ๆ ของลุงโมริก็เกือบทำให้รันและโคนันเอาชีวิตไม่รอด ก่อนที่รถจะหายไปในม่านหมอก เมื่อให้ตำรวจสกัดจับก็มีผู้ต้องสงสัยเป็นกลุ่มคน 3 กลุ่มกับรถ FD สีขาว 3 คัน ท้ายที่สุดด้วยคำใบ้ของโคนัน ทั้งคู่จึงสามารถกระชากหน้ากากคนร้ายที่เป็น “แม่มดสีเงิน” และขับรถไล่ตามจับตัวจนได้

วันเกิดที่เลวร้ายที่สุด (ปีที่ 13 ตอนที่ 640-641)

รันวางแผนให้โมริกับเอริมาเที่ยวด้วยกัน เพื่อให้โมริมอบของขวัญวันเกิดให้ แต่ก็มาเกิดคดีฆาจกรรมเสียก่อน

รันวางแผนให้โมริกับเอริมาเที่ยวด้วยกัน เพื่อให้โมริมอบของขวัญวันเกิดให้ แต่ก็มาเกิดคดีฆาจกรรมเสียก่อน

รันจับฉลากได้รางวัลที่พักในโรงแรมแห่งหนึ่ง จึงใช้โอกาสนี้วางแผนเพื่อให้พ่อกับแม่ได้คืนดีกันในวันเกิดของเอริ แต่แผนของรันล้มเหลว แม้ว่าจะได้ไปเที่ยวพร้อมหน้าแต่ลุงโมริก็กินเหล้าจนเมาหลับไปเสียได้ ส่วนเอริเมื่อกลับไปที่ห้องแล้วพบว่า ลูกความที่เธอรู้จักดันมาปรากฏเป็นศพภายในห้องของเธอเสียอย่างนั้น การเคลื่อนย้ายเตียงทำให้รู้ว่าตอนแรกคนร้ายทำการซ่อนศพเอาไว้ใต้เตียงเพื่อไม่ให้เอริเห็น โคนันตั้งใจให้โคโกโร่แสดงฝีมือโดยแอบช่วยอยู่ห่างๆ เพื่อให้ลุงโชว์ฝีมือและให้ของขวัญที่เตรียมมากับเอริในที่สุด

ปราสาทอินุบุชิ กับสุนัขเพลิงปิศาจ (ปีที่ 13 ตอนที่ 662-664)

เมื่อสุดยอดนักสืบอย่างเฮจิ คุโดในร่างโคนัน และโมริ โคโกโร่มาร่วมไขปริศนาคำสาปลึกลับ "สุนัขปิศาจเปลวเพลิง"

เมื่อสุดยอดนักสืบอย่างเฮจิ คุโดในร่างโคนัน และโมริ มาร่วมไขปริศนาคำสาปลึกลับ “สุนัขปิศาจเปลวเพลิง”

โคโกโร่ โคนัน รัน คาซึฮะและเฮจิ เดินทางไปยังบ้านของตระกูล “อินุบุชิ” เพื่อสืบหาความจริง แต่กลับพบว่ามีคนตายเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับบ้านนี้เลย ทำให้คนหวาดกลัวกับคำสาปสุนัขเพลิงปิศาจมากขึ้นทุกที ระหว่างนั้นรันและคาสึฮะได้พบกับสุนัขปีศาจที่อาบด้วยเปลวเพลิงด้วยตาตัวเอง รันและคาสึฮะต่างถูกมันเล่นงานแต่ก็ทำให้พบเบาะแสหลายอย่าง พวกโคนันจึงออกตามเบาะแสนั้นไป และในที่สุดก็เจอสุนัขไฟเข้าจริง ๆ ส่วนปริศนาสุนัขที่อาบด้วยเปลวไฟยังคงทำให้โคนันและเฮจิมืดมน แต่ในที่สุดโคนันและเฮจิก็สืบหาคนร้ายพบ พร้อมกับลูกเล่นลวงตาที่ใช้หลอกผู้คนว่า เหตุร้ายเกิดขึ้นเพราะคำสาป คดีนี้เมื่อมีเฮจิ สุดยอดนักสืบวัยรุ่นแห่งภาคตะวันออกพอ ๆ กับคุโด ชินอิจิ มาร่วมคลี่คลายกับโคนัน จึงไม่จำเป็นต้องให้โคโกโร่นิทราต้องเหนื่อยอยู่คนเดียว

 

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส