[รีวิวอนิเมะ] Jujutsu Kaisen : ‘มหาเวทผนึกมาร’ การ์ตูนแนวดาร์กแฟนตาซีที่มีจุดขายคือไสยเวท!!!
Our score
9.4

[รีวิวอนิเมะ] Jujutsu Kaisen : ‘มหาเวทผนึกมาร’ การ์ตูนแนวดาร์กแฟนตาซีที่มีจุดขายคือไสยเวท!!!

จุดเด่น

  1. การใช้แสงสีและเงาในเรื่องทำออกมาได้ดีมาก
  2. รายละเอียดของฉากทำออกมาได้ดี อลังการมาก
  3. เนื้อเรื่องน่าติดตาม
  4. มีมุกตลกแทรกให้ขำเป็นพัก ๆ
  5. อธิบายเกี่ยวกับไสยเวทย์ให้เข้าใจได้อย่างง่าย ๆ

จุดสังเกต

  1. ถ้าเราอ่านมังงะมา บางฉากที่อาจารย์เกะเกะวาดออกมาอย่างอลัง แต่พอมาอยู่อนิเมะกลับโผล่ออกมานิดเดียว ค่อนข้างผิดหวังในเรื่องนี้เหมือนกัน
  2. บางฉากดูแล้วอาจจะรู้สึกเบื่อนิด ๆ
  • ความสมบูรณ์ของบท

    9.0

  • ความสวยงามของภาพ

    10.0

  • การเล่าเรื่อง

    9.0

  • ความน่าติดตาม

    9.0

  • คุ้มค่าเวลาดู

    10.0

ครั้งแรกที่เห็นข่าวการนำมังงะเรื่อง Jujutsu Kaisen หรือชื่อไทยคือ มหาเวทย์ผนึกมาร มาทำเป็นอนิเมะ บอกตรง ๆ ว่าฉันร้องกรี๊ดเลย!!! ยิ่งได้เห็นทีเซอร์ที่ปล่อยออกมาก็คือหวีดไปหลายวันจนจะหมดลมหายใจอยู่แล้ว เพราะเป็นมังงะที่ติดตามมาตั้งแต่แรกตอนแรก ๆ มาวันนี้ได้ถูกนำมาทำเป็นอนิเมะ ความรู้สึกตอนนั้นมันเหมือนส่งลูกไปรับปริญญาเลยทีเดียว ถามว่าเวอร์ไปไหม? ก็ตอบเลยว่า “ค่ะ ยอมรับ” (ฮา) แถมยังได้สตูดิโอดี ๆ อย่าง MAPPA ที่เคยฝากผลงานดัง ๆ เอาไว้ เช่น Banana Fish , Yuri!!! on Ice , Kakegurui หรือล่าสุดนี่ก็ Attack on Titan: The Final Season นี่แหละ เพราะฉะนั้นบอกเลยว่าคาดหวังได้แน่นอน!!!

Jujutsu Kaisen : ‘มหาเวทย์ผนึกมาร’

ตัวอย่าง Jujutsu Kaisen

แนะนำตัวละคร

อิตาโดริ ยูจิ : เด็กชายธรรมดาที่พลังกายไม่ธรรมดา ผู้ต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์บางอย่าง จึงทำให้เขาได้กินคำสาประดับพิเศษเข้าไปจนกลายเป็นภาชนะของเรียวเมง สุคุนะ และต้องเข้าเรียนที่โรงเรียนเฉพาะทางไสยศาสตร์ในกรุงโตเกียว

ฟุชิงุโระ เมงุมิ(aka กระสอบทราย or เจ้าหยิ๋งดิสนี่ย์ or น้อนเม) : นักเรียนชั้นปี 1 ของโรงเรียนเฉพาะทางไสยศาสตร์กรุงโตเกียว ที่ได้รับภารกิจให้ไปตามหาคำสาประดับพิเศษที่โรงเรียนเก่าของอิตาโดริ ทำให้ทั้งสองได้เจอกันเป็นครั้งแรก และทำให้ฟุชิงุโระได้รู้ว่าอิตาโดริเป็นคนที่เก็บคำสาปนั้นไป

คุกิซากิ โนะบาระ : นักเรียนชั้นปี 1 ของโรงเรียนเฉพาะทางไสยศาสตร์กรุงโตเกียว เพื่อนร่วมชั้นของอิตาโดริและฟุชิงุโระ มีความมั่นใจในตัวเองสูง ทั้งด้านการต่อสู้ รูปร่างหน้าตา หรือแม้กระทั่งรูปแบบการต่อสู้ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร

โกะโจ ซาโตรุ :(เปิดผ้าแล้วหล่อโคตร หล่อแบบขี้โกง ลูกรักแมปป้าสุด) อาจารย์ประจำชั้นปี 1 ของโรงเรียนเฉพาะทางไสยศาสตร์กรุงโตเกียว คอยดูแลและให้คำแนะนำในการใช้ไสยเวทต่าง ๆ ให้กับนักเรียน แถมยังเป็นคนที่เรียกได้ว่ามีพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคอีกด้วย

เรียวเมง สุคุนะ : คำสาประดับพิเศษที่ร่างจริงมี 4 มือและแข็งแกร่งมากจนไม่สามารถทำลายได้ เลยถูกผนึกไว้ในนิ้วทั้ง 20 นิ้วของตนและกระจายไปซ่อนหลายพื้นที่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปผนึกจึงอ่อนกำลังลง และเป็นคำสาปที่อิตาโดริกินเข้าไป

เรื่องย่อ

อิตาโดริ ยูจิ เด็กนักเรียนชั้นมัธยมปลายปี 1 หนึ่งในสมาชิกชมรมวิจัยสิ่งลี้ลับ ผู้ค้นพบวัตถุประหลาดเข้า จึงได้นำมามอบให้กับพวกรุ่นพี่ที่อยู่ในชมรม ในขณะเดียวกัน ฟุชิงุโระ เมงุมิ ก็ได้ออกมาตามหาคำสาประดับพิเศษ นั่นก็คือนิ้วของ เรียวเมง สุคุนะ ที่อิตาโดริเก็บได้นั่นเอง ฟุชิงุโระเมื่อรู้ว่าคำสาปอยู่ที่อิตาโดริจึงรีบตามไปเอาคืน แต่ก็พบว่าความซวยได้มาเยือนพวกเขาแล้วแน่นอน เมื่อเหล่ารุ่นพี่ของอิตาโดริตัดสินใจที่จะคลายผนึกออก (เห้ย! ผนึกคำสาปอะไรมันจะแกะออกง่ายขนาดนั้น) 

Jujutsu Kaisen : ‘มหาเวทย์ผนึกมาร’

และแล้วฝันร้ายก็เริ่มต้นขึ้นจนได้ เมื่อเหล่าคำสาปที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นสัมผัสได้ถึงพลังที่แข็งแกร่งจึงรีบเข้ามาแย่งกัน เพราะมันคือ ‘กุญแจสำคัญ’  ในการมอบพลังอำนาจอันแข็งแกร่งให้แก่ผู้ที่กินมันเข้าไป

ทั้งฟุชิงุโระและอิตาโดริพยายามช่วยรุ่นพี่ทั้งสองให้ปลอดภัย แต่ฟุชิงุโระกลับบาดเจ็บหนักจนไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก เพื่อจะช่วยทั้งรุ่นพี่และฟุชิงุโระ พ่อหนุ่มอิตาโดริจึงตัดสินใจกินคำสาประดับพิเศษเข้าไปเองซะงั้น!! เพราะ “คำสาปต้องกำจัดด้วยคำสาปเท่านั้น” นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวอันยิ่งใหญ่กับความวุ่นวายระดับ ‘บรรลัย’ ที่สายแอ็กชัน-แฟนตาซีไม่ควรพลาด!

ความรู้สึกหลังดู

ขอบอกก่อนเลยว่าเรื่องนี้เราตามมาตั้งแต่ยังเป็นมังงะ ซึ่งที่เอามารีวิวเนี่ย ถ้าถามว่าฮาร์ดเซลไหม? ก็ต้องบอกตรง ๆ เลยว่านิดนึง (ฮา) เพราะว่ามันสนุกมากยังไงล่ะ! เลยอยากจะมาเผยแพร่ความสนุกนี้ให้ทุกคนได้เข้าไปพร้อม ๆ กับ รับประกันว่าดีงามไม่แพ้อนิเมะดังเรื่องอื่น ๆ อย่างแน่นอน

สิ่งแรกที่ต้องขอพูดเลยก็คือ ‘ความกล้า’ ที่ Jujutsu Kaisen เลือกจะหยิบเอาเรื่องราวของการปราบผี ไล่ปีศาจ ล่าคำสาป หรือไสยเวทมนตร์ดําในสไตล์เราชาวตะวันตก มาเล่าเรื่องให้สนุกและทันสมัยได้ ทั้งที่กระแสอนิเมะสยองขวัญในยุคนี้ก็ดูจะไปได้ไกลอยู่ไม่กี่เรื่อง ความเชื่อในเรื่องสยองขวัญสไตล์เอเชียจึงเป็นจุดขายสำคัญของอนิเมะเรื่องนี้ ซึ่งมันมีความโดดเด่นและไม่เหมือนใครเลยจริง ๆ

คอนเซปต์หลักของเรื่องอย่าง ‘ไสยเวท’ เปิดตัวมาได้น่าสนใจ  บวกกับการเล่าที่ทำออกมาได้ค่อนข้างลื่นไหล  จึงทำให้เรายิ่งอยากรู้จักโลกของ Jujutsu Kaisen มากขึ้นไปเรื่อย ๆ “อิตาโดริกินคำสาปเข้าไปแล้วยังไงต่อ?” “แล้วถ้ากินครบ 20 นิ้วของสุคุนะจะเป็นยังไง?” “จะถูกสุคุนะยึดร่างเข้าไปหรือเปล่า?” “หรือสุดท้ายอิตาโดริจะยอมร่วมมือกับสุคุนะแต่โดยดี?” คือมันมีเรื่องให้คิดตามและตื่นเต้นไปกับปมเรื่องใหม่ ๆ เหล่านั้นอยู่ตลอดเวลา

คาแรกเตอร์และสไตล์การต่อสู้ของแต่ละตัวละคร ก็ทำออกมาได้น่าสนใจและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบสุด ๆ จนถึงขั้นดูจบแล้วจะรู้สึกได้เลยว่าภาพจำเก่า ๆ ของไสยเวทในหัวเรามันเปลี่ยนไป ทำไมดูมันหล่อเท่อะไรขนาดนั้นฟะ!! อย่างตัวละคร ‘ฟุชิงุโระ’ ที่สามารถอัญเชิญชิกิงามิจากเงาของตัวเองขึ้นมาเป็นสัตว์ต่าง ๆ ที่สามารถซัปพอร์ตทีมได้ ทั้งในการต่อสู้ระยะประชิดหรือการไล่ล่า หรือตัวละคร ‘คุกิซากิ’ ที่ใช้ค้อนและตะปูคำสาปและวิชาคุณไสยหุ่นฟางที่สามารถสาปในระยะไกลได้(เจ๋งมากกก) หรือแม้กระทั่งตัวละครตัวเอกของเรื่องอย่าง ‘อิตาโดริ’ เองที่ในตอนแรกมีแค่พลังกายล้วน ๆ ก็ต้องเริ่มฝึกการควบคุมพลังไสยเวทตั้งแต่เริ่มต้น เราก็จะได้เห็นพัฒนาการของตัวละครไปทีละเล็กทีละน้อย ทำให้เรารู้สึกผูกพันและสนิทสนมกับตัวละครได้ไม่ยาก เรียกได้ว่าเรื่องปั้นตัวละครให้สุดปังนี่ทางถนัด Shonen Jump  เขาล่ะ!

อีกสิ่งที่ทำให้น่าติดตามไม่แพ้กันเลยก็คือ ‘กระดานหมากการเมือง’ ในวงการคุณไสยที่จะมีเหล่าพวก ‘คนเบื้องบน’ คอยใช้อำนาจออกคำสั่งเพื่อตักตวงผลประโยชน์แล้วส่งต่อการสืบทอดอำนาจไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้ ‘ความเหลื่อมล้ำ’ ที่เป็นประเด็นมาแรงในยุคสมัยนี้ จึงถูกนำมาผสมผสานเข้ากับเรื่องราวให้มีความเข้มข้นยิ่งขึ้น

อีกหนึ่งความดีงามของเรื่องก็คือการเล่าเรื่องราวแบบใส่ใจคนดู เพราะเราจะได้เรียนรู้ความเป็นมาของ ‘ไสยเวท’ ที่ดูจะเป็นเรื่องไกลตัวให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น จากการเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กับตัวละครเอกอย่าง ‘อิตาโดริ’ ที่ไม่รู้อะไรเลยพอ ๆ กับเรานี่แหละ! รับประกันว่าย่อยง่าย ไม่มีงงแน่นอน

อย่างไรก็ตาม Jujutsu Kaisen ก็เป็นอีกหนึ่งอนิเมะที่ดูแล้วน่าจะเดินตามรอยสูตรสำเร็จสไตล์ Shonen Jump! อยู่พอสมควร คนที่ไม่ชอบพระเอกแนวเหล่ท่อ หล่อเท่ หรือเรื่องราวคลิเชสไตล์การ์ตูนยุค 90’s ก็คงต้องขอบาย แต่กับคอนเซปต์เรื่องที่แข็งแรงขนาดนี้จะไม่ดูเลยก็น่าเสียดายนะจะบอกให้ 

และแน่นอนว่านี่อาจเป็นอนิเมะที่ไม่สามารถเคลมได้ว่า ‘เหมาะสมกับทุกวัย’ เพราะฉากการใช้ความรุนแรง เลือดสาดกระจายอะไรอย่างนี้ก็มีค่อนข้างเยอะพอสมควร เอาเป็นว่าผู้ที่สามารถรับชมได้ควรจะอายุ 15 ปีขึ้นไปหรือถ้าดูแล้วได้รับคำแนะนำจากผู้ปกครองไปด้วยก็จะดีมาก

สามารถรับชมได้ทางเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน iQIYI ทุกวันเสาร์ เวลา 9 โมงเช้า(เวลาฉายสดคือวันศุกร์ เวลาประมาณ 5 ทุ่มกว่า ถือว่าแปลซับได้เร็วมาก) คาดว่าจะมีถึง 24 ตอนด้วยกัน แถมยังได้กลิ่นภาค 2 ลอยมาอยู่ไม่ไกล ใครที่กำลังหาอนิมะใหม่ ๆ ดู ก็รับ Jujutsu Kaisen ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ รับรองว่าติดใจ!

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส