จริงๆถ้าเกิดอะไรเป็นอาชีพมันก็ไม่สนุกขนาดนั้นอะเนอะ แต่แบบนี้อรรู้สึกว่ามันก็เป็นงานนะคะ แต่ก็จะเป็นงานที่แบบยังสนุกไปกับมันด้วยอยู่
การให้เขามองเราว่าไร้สาระ ทำอะไร? ก็คือเพราะเขาไม่เข้าใจเราเท่านั้นเองละค่ะ หลายตัวจะเป็นแนวเซ็กซี่นิดนึงแต่ว่าเราก็คอสเพลย์เราไม่ได้ถ่ายวาบหวิวอะไร
แต่เราก็ค่อนข้างได้รับข้อความมาเยอะนะว่าแบบเซตนี้เห็น..ไหมหรือว่าขาย..มั้ยอะไรเงี้ย”
ส่วนหนึ่งของคำพูดจากบทสัมภาษณ์ คุณอร เลเยอร์คอสเพลย์ที่ใช้วงการว่า “Onnies” คุณอรมีผลงานประสบการณ์งานคอสที่มากมาย เป็นเหมือนไอดอลของเลเยอร์สาวๆรุ่นใหม่
ก่อนที่ทีมงานผู้กล้าเริ่มสัมภาษณ์ คุณอรได้แต่งคอสเป็น Tsunade จากการ์ตูนเรื่องนารูโตะ กล่าวเปิดทักทายด้วยรอยยิ้มที่ดูสดใส แววตาร่าเริ่ง
“สวัสดีค่ะ Onnies ตอนนี้ทำคอสเพสเป็นหลักนะคะทั้งแต่งเองด้วยแล้วก็ตัดชุดให้คนอื่นด้วยค่ะ เดี๋ยวนี้คอสเพลย์มันก็เติบโตขึ้นมาก ๆ จากที่เมื่อก่อนนี่ต้องแอบแม่ตัดชุดอะไรแบบนี้ แอบแม่ซื้อของแล้วตอนนี้ก็แบบเปิดเผยค่ะ ไม่มีใครห้ามได้”
มันเป็นอะไรที่แบบสิ้นเปลืองนะจริงๆ ถ้าไม่รู้สึกว่ารักจริงมันก็ยากที่จะทำได้นาน”
“ชื่อเล่นจริง ๆ ชื่ออรค่ะ แล้วก็มาจากตอนที่อรเล่นเกม เวลาเล่นเกมเนี่ยมันตั้งชื่อว่า ON ไม่ได้ใช่ไหม อย่างน้อยต้องใช้ตัวหนังสือประมาณ 6 ตัว”
“ก็เลยเออ! พิมพ์อะไรก็ได้อะ แค่นั้นแหละ!! จริง ๆ ไม่ได้มีเหตุผลพิเศษอะไรเลย ตอนแรกก็งงกันทำไมเค้าเรียกพี่สาวเพิ่งรู้แบบอ๋อมันเป็นความหมายเดียวกับเกาหลี” คุณอรพูดไปยิ้มไป
คุณ Onnies เริ่มต้นเข้าสู่วงการคอสเพลย์ได้ยังไงครับมันเกิดขึ้นจากอะไรครับ?
“มันเกิดขึ้นจากอะไรเพราะว่าเล่นเกมนี่ล่ะค่ะ เวลาเล่น Ragnarok มันจะมีกิลด์ใช่ไหมคะ เราค่อนข้างสนิทกันมากแล้วคิดว่าถ้าเราได้เจอ meeting กันจริงๆ สักทีก็ดี ถ้าจะเจอเฉย ๆ ก็น่าเบื่อก็เลยแต่งคอสกันด้วยค่ะ”
“ตอนนั้นชุด Priest ค่ะ เพราะว่าเราชอบเล่น Priest แต่เพื่อนเราจัดเต็มกว่า มันนั่น //ทำท่านึก คอสนั้น Bigfoot!! ตัวที่เป็นหมีชมพูอ่ะ มันจัดเต็มจริง เราแบบ OMG!” คุณอรเอามือทาบอกแล้วหัวเราะ
“จริง ๆ ตอนเด็กเป็นคนขี้อายค่ะ อารมณ์นึกถึงแบบเด็กที่แบบไม่ค่อยกล้าคุยกับคนอื่น วัน ๆ ก็นั่งเล่นแต่เกมไปอย่างงั้น แต่แบบการคอสเพลย์มันทำให้เราแบบ ได้เป็นตัวละครอีกตัวหนึ่งได้รับบทบาทอีกบทบาทหนึ่ง ได้เป็นอะไรที่เราอยากเป็น” คุณอรพูดด้วยยิ้มด้วย
“ถ้าเกิดสังเกตตัวละครที่อรคอสเพลย์ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้หญิงที่แบบ เก่ง ผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเอง เพึ่งตัวเองได้ ซึ่งมันเป็นคาแรกเตอร์ที่อรอยากเป็น”
อาชีพคอสเพลย์?
“จริง ๆ ถ้าเกิดพูดว่าอะไรเป็นอาชีพมันก็ไม่สนุกขนาดนั้น แบบนี้อ่อรู้สึกว่ามันก็เป็นงานนะ แต่ก็เป็นงานที่แบบอรยังสนุกไปกับมันด้วยอยู่อ่ะ บอกตรง ๆ คอสเพลย์คนอื่นอาจจะรายได้ดี แต่อรก็ไม่ได้ดีขนาดนั้นก็อยู่ได้”
“แล้วก็มันได้ทำส่วนอื่นที่ซัปพอร์ตเกี่ยวกันด้วย สำหรับคนดูอาจจะมองว่ามันเป็นการถ่ายรูปเซ็กซี่ มันไม่ใช่มันมีอะไรเยอะมาก อย่างเช่น แค่ของตัวอรไงหน้าก็ต้องมีเมกอัปแล้ว ใช่ว่าทุกคนจะแต่งหน้าเป็น ก็ต้องมีช่างแต่งหน้า”
“หรือว่าวิก อรก็ทอเองไม่ได้ก็ต้องซื้อวิก แล้ววิกไม่ใช่ว่าซื้อมามันจะแบบสวยเป๊ะ ใส่ได้เลยต้องมีคนเซตวิกขึ้นมาอีก ไม่ใช่ว่าทุกคนทำได้”
“ชุดก็ไม่ใช่ว่าซื้อกดสั่งในเน็ตเอามันไม่จบแค่นั้น มันก็ต้องมีขั้นตอนการตัดเย็บมีการซื้อหรือแม้กระทั่งการซื้อต้องรู้ว่าแบบอันไหนเหมาะกับเราหรือว่าได้มาแล้วชุดใหม่อาจจะไม่พอดีแต่เราก็เราต้องแก้ ถ้ามองให้มันแบบลึกซึ้งเข้าไป มันมีอาชีพซ่อนอยู่ในนั้นเยอะมาก ๆ เลยค่ะ” คุณอรพยายามเล่าให้เราเห็นภาพ
สำหรับคนที่มองว่าคอสเพลย์เป็นเรื่องไร้สาระ คือเราก็ต้องเข้าใจว่าแต่ละคนก็มีความแตกต่างกัน อย่างอรที่แบบอาจจะไม่เข้าใจวงการอื่นๆ เราก็จะมองว่าเขาทำอะไร เราก็เลยคิดเหมือนกันว่าเออ การให้เขามองว่าไร้สาระทำอะไร ก็คือเขาไม่เข้าใจเรานั่นเองล่ะค่ะ”
“ก่อนหน้านี้นึกถึงย้อนกลับไปเด็กๆ พอเราเห็นว่าแบบพ่อแม่ไม่เข้าใจ เราก็แบบยิ่งไปแอบทำอะไรเนี้ย เค้าก็ยิ่งแบบแอนตี้อะไรเข้าไปใหญ่” คุณอรเล่าต่อถึงอดีต
“แบบพออรคอสเพลย์แล้วก็บอก เล่าว่า..เราทำอะไรบ้าง..เราไปที่ไหน..เราได้อะไรกลับมาบ้าง? พอเข้าใจว่าเราทำอะไรเขาก็ยอมรับมากขึ้นค่ะ”
“ก็รู้สึกว่าคนที่เขามองว่ามันไร้สาระเนี่ย เพราะเขาไม่เข้าใจเรานะ เราคิดว่าทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้อยู่แล้วตราบที่ไม่ทำให้คนอื่นลำบาก”
“การที่เราคอสเพลย์เนี่ยมันก็เป็นสิทธิ์ของเราที่จะคอส แล้วก็เป็นสิทธิ์ของคุณถ้าคุณไม่ชอบ ถ้าคุณไม่ชอบคุณก็อยู่ในที่ของคุณ คุณก็อย่าระรานเราอะไรอย่างนี้ดีกว่า”
อยากให้เขาเปิดใจเรื่องยอมรับเรื่องความแตกต่างมากกว่าว่า คุณก็คงมีงานอดิเรกเราเองก็อาจจะไม่เข้าใจ ฉันก็มีงานอดิเรกของฉันที่คุณก็ไม่เข้าใจบางอะไรแบบนี้ค่ะ”
“เรื่องที่อยากให้คนนอกเข้าใจมากที่สุดนะคะ อรไม่ได้คาดหวังว่าเขาต้องมาเข้าใจว่าอรคอสอะไรเป็นอะไรเลย อรแค่อยากให้เข้าใจว่าคอสเพลย์มันเป็นงานอดิเรกงานหนึ่งแค่นั้นเอง”
“อรไม่ได้แต่งคอสตลอดเวลาค่ะ อย่างเช่นแบบ เรามีเพื่อนแบบเขาไม่ชอบการ์ตูน ไม่ได้ชอบเกม แต่แบบพอเห็นรูปเราแต่งตัวแต่งหน้าสวย ๆ ก็จะชอบมาถามว่าแบบ เธอ ๆ ทำไมเวลาเธอมาทำงานปกติอะ เธอไม่แต่งตัวแต่งหน้าแบบนี้มั่งอะ มาแต่งแบบนี้บ้างสิ คือ!! เราไม่ได้แต่งคอสเพลย์ตลอดเวลาไง แล้วก็เราไม่ชอบแต่งหน้าด้วยเราแค่ต้องแต่ง”
“เพราะว่าเราจะแต่งคอสเพลย์เพื่อให้เหมือนคาแรกเตอร์ มันก็ต้องแต่งหน้าแต่งตัวให้เหมือนใช่ป่ะ เขาเข้าใจเป็นว่าเรา 24 ชม. ก็อยากให้มองมันเป็นแค่งานอดิเรกงานหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ได้แบบว่าต้องใส่ชุดตลอดเวลาค่ะ” คุณอรระบายไปยิ้มไป
และมีคนเคยแบบมาแหวะเรามั๊ย แบบเนิร์ดจังเลยวะหรือว่าอะไรอย่างเนี้ย?
“ใช่!! ก็เป็นเนิร์ดไง ฉันเป็นเนิร์ด โห..คือส่วนใหญ่ก็อาจจะเป็นเพราะแบบภาพที่เราคอสเพลย์หลาย ๆ ภาพมันจะทำให้เราดูแบบอาจจะดูเป็นคนแรง ๆ ใช่ป่ะ ดูเป็นคนกล้าเปิดเผย ซึ่งจริง ๆ ถ้าเขาได้รู้จักเราจริง ๆ เราก็เป็นแค่เนิร์ดคนนึงเท่านั้นเองค่ะ ที่ชอบแต่งคอสเพลย์”
ผมก็เป็นเนิร์ด ผมก็ยอมรับว่าตัวเองเป็นเนิร์ดเกมอะไรอย่างเนี้ย แต่ว่าเนิร์ดที่หลายๆ คนอาจจะรู้สึกว่าต้องใส่แว่น แบบผมไม่สระอะไรงี้ถูกไหม แต่จริงๆแล้วเราแค่ชอบอะเกี่ยวที่//ทีมงานผู้กล้าไม่ทันพูดจบ
“ผมไม่สระมันเกี่ยวกับความสะอาดค่ะ!! //คุณอรส่วนขึ้นมาทันทีแล้วหัวเราะสุดเสียง อย่าเอาคำว่าเนิร์ดไปรวมกับความ ไม่สะอาดค่ะ” คุณอรย้ำพร้อมยิ้มไปหัวเราะไป
“คำถามที่ถามมาว่าเราเริ่มแต่งคอสเพลย์แนวเซ็กซี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ พอเราเจอคำถามนี้เราก็บอกตามตรงเราก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลยเหมือนกันว่าเออเริ่มแต่งแนวเซ็กซี่ตั้้งแต่เมื่อไหร่?”
“เพราะเรารู้สึกว่าเราไม่ได้เลือกตัวละครที่แบบว่าตัวนี้มันดูเซ็กซี่ดีอะ เราเลือกมาจากแบบว่า เออ..เราชอบตัวนี้จัง อาจจะเป็นเพราะว่า Type ที่เราชอบมันเป็นแนวเซ็กซี่อยู่แล้ว เลยไม่ได้คิดว่าเราต้องเริ่มคอสเซ็กซี่ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“เพราะว่าอรก็เริ่มแต่งตัวละครแนวผู้หญิงมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว สำหรับคำว่าเซ็กซี่เนี่ยมันมีคำนิยามคือยังไงอะ ต้องเปิดอก..ต้องโชว์อะไร..โชว์ขาอะไรอย่างนี้หรอ?”
คำถามมันค่อนข้างชี้จูงไปว่า เราเริ่มแต่งโป๊ ๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่อะไรรึเปล่าที่คืออยากถาม เราไม่ได้เลือกว่าเฮ้ยตัวนี้นมใหญ่ดีอะเออชอบ คอสมานนมใหญ่มากคอสเลย ไม่ใช่!! เราชอบตัวนี้ก็เลยคอส
จริงๆ รู้สึกว่าความเซ็กซี่ บางคนที่แบบแต่งปิดมิดชิดหมดเลยแบบโพสต์ท่าเซ็กซี่หรืออินเนอร์เซ็กซี่มันก็เซ็กซี่ได้ ตัวที่แบบชุดเปิดมากแต่แบบคา(แรกเตอร์) เขาไม่เซ็กซี่ นึกขึ้นได้ตัวหนึ่งอย่าง
มิซิริอย่างเนี้ยชุดเขาเปิดแวกอกเลยใช่ไหม แต่คา(แรกเตอร์)เขาไม่ได้เป็นสาวเซ็กซี่อ่ะ มันจะดูแบบน่ารักอะไรมากกว่า”
Sexually Harassment
“ถ้าคนที่เข้ามาพิมพ์มาแบบหื่นกระหายมาเลย เราก็จะแบบบล็อกค่ะ หลายตัวอาจจะแต่งแนวเซ็กซี่นิดนึง แต่ว่าเราก็คอสเพลย์เราไม่ได้ถ่ายวาบหวิวอะไร แต่เราก็ค่อนข้างได้รับข้อความมาเยอะนะว่าแบบเซตนี้เห็น..ไหม หรือว่าขายไหม อะไรเงี้ย ขาย…อะไรงี้ เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันเพราะว่าเราก็ชัดเจนมากว่าเราคอสเพลย์”
การที่เราจะเอาข้อความของคนที่เขาไม่รู้จักตัวเรา
ข้อความที่เขาแบบใช้เสี้ยววินาทีในสมองวิเดียวมาคิด ให้เรารู้สึกหนักใจเนี่ย
แล้วเราจะเก็บเอาสิ่งนั้นมาทำให้เราเครียดทำไม”
“ถ้าเรายิ่งไปให้ความสำคัญกับเขาก็จะทำให้เราบั่นทอนตัวเราเองมากกว่า เราจะไปให้ความหมายให้คุณค่ากับคนที่เค้าไม่ได้ให้คุณค่ากับเราทำไม”
“สำหรับคนที่ติดตามผลงานมาตลอดอรขอขอบคุณจริง ๆ ค่ะ//คุณอรยกมือไหว้ มันเป็นกำลังใจดีๆมาก ที่ทำให้อรได้คอสเพลย์ต่อไปเรื่อยๆค่ะ”
“สำหรับอรนะคะ การคอสเพลย์ก็คือ การได้เป็นอะไรที่เราในโลกความจริงเป็นไม่ได้มันเหมือนเป็นตัวตนเราอีกตัวตนหนึ่งที่เราสามารถทำได้อะค่ะ ดังนั้นเรารู้สึกว่าถ้าเราอยากลองทำอะไร อยากคอสอะไรลองทำเลยค่ะ ไม่มีผิด” พูดจบคุณอรก็ยิ้ม
จากบทสัมภาษณ์ของคุณอรทำให้เราเห็นว่า การแต่งคอสเพลย์ไม่ใช่เรื่องไร้สาระ ไม่ใช่แค่แต่งตัวหรือบ้าตามการ์ตูนหรือบ้าเกม สำหรับคนที่ใจรักจริง ๆ มันสามารถเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ ได้มหาศาลเลยทีเดียว
ใครอยากติดตามผลงานเป็นกำลังใจให้คุณอรสามารถเข้าไปได้ที่แฟนเพจ Onnies เลยนะคะ หรือใครอยากดูเป็นคลิปเต็มเข้าดูได้ที่ Facebook : TGS Thailand Game Show ได้เลยค่า
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส