[รีวิว]Alchemy of Souls : ศิษย์เรื่องเยอะกับอาจารย์บ้าระห่ำ บู๊ครบรส กุ๊กกิ๊กมีฟิน
Our score
8.2

กำกับ

พัคจุนฮวา

เขียนบท

ฮงจองอึน และ ฮงมิรัน

จำนวนตอน

20 ตอน

ช่องทางการรับชม

ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ทาง NETFLIX

[รีวิว]Alchemy of Souls : ศิษย์เรื่องเยอะกับอาจารย์บ้าระห่ำ บู๊ครบรส กุ๊กกิ๊กมีฟิน
Our score
8.2

[รีวิว]Alchemy of Souls : ศิษย์เรื่องเยอะกับอาจารย์บ้าระห่ำ บู๊ครบรส กุ๊กกิ๊กมีฟิน

จุดเด่น

  1. การดำเนินเรื่องที่ฉับไวน่าติดตาม ฉากบู๊ดนียน ๆ กับพลังเวทที่เก่งกาจ ผสมผสานไปกับเครื่องเคียงขำขัน ทำให้เรื่องนี้ครบรสโดยไม่มีจุดน่าเบื่อและรอคอยตอนต่อไป

จุดสังเกต

  1. น้ำหนักดราม่าและความขบขัน ฟินจิ้น มีมากพอ ๆ กับความแฟนตาซีพลังยุทธ์ ถูกใจแฟนคลับแน่นอนแต่สายพลังยุทธ์ที่ต้องการความสาแก่ใจอาจบอกว่าน้อยไปนิด
  • บท

    8.0

  • โปรดักชัน

    8.0

  • การแสดง

    9.0

  • ความสนุกตามแนวซีรีส์

    8.0

  • ความคุ้มค่าในการรับชม

    8.0

ณ อาณาจักรแดโฮ ดินแดนแห่งหนึ่งซึ่งไม่ปรากฏบนแผนที่โลกซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าจอมเวท ได้ปรากฏเหตุการณ์โกลาหล วิญญาณคนตายหวนคืนกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ปะปนกับผู้คนในสภาพของผู้แปรวิญญาณ มือสังหารเงาที่ถูกเรียกขานว่านักซู ไล่ฆ่าฟันเหล่าจอมเวทในเมืองหลวง ทำให้ผู้นำแห่งสำนักซงริม รวบรวมจอมเวทมากฝีมือไปจัดการจนทำให้นักซูได้รับบาดเจ็บสาหัส เธอหนีตายด้วยการแปรวิญญาณตัวเองไปอยู่ในร่างของคนอื่น และกลายเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของนักซูในร่างของมูด็อกกีกับจางอุก นายน้อยจากตระกูลจาง ที่มาพร้อมกับความลับเรื่องชาติกำเนิด

Alchemy of Souls/เล่นแร่แปรวิญญาณ : เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในดินแดนสมมติที่มีชื่อว่า อาณาจักรแดโฮ ดินแดนที่เต็มไปด้วยผู้คนที่มีพลังเวทประหนึ่งฮอกวอตส์ฉบับเกาหลีก็ไม่ปาน พวกเขาใช้ชีวิตเยี่ยงจอมขมังเวทร่วมกับประชาชนธรรมดา แต่แล้วก็เกิดศาสตร์มืดศาสตร์หนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหา วิญญาณคนตายสามารถย้ายร่างเข้าไปแทนที่ร่างคนเป็น หรือแม้กระทั่งยังไม่ตายก็ย้ายร่างกันได้เสียอย่างนั้นด้วยวิชา ‘แปรวิญญาณ’ ซึ่งเรื่องราวมันเริ่มต้นเมื่อ 20 ปีที่แล้วนู่นแน่ะ

‘จางกัง’ (จูซังอุก) เป็นจอมเวทที่ศึกษาวิชาแปรวิญญาณจนช่ำชอง จำใจต้องแลกเปลี่ยนวิญญาณกับพระราชาที่ป่วยใกล้ตาย 7 วัน “แปรวิญญาณกันเถอะ ขอเวลา 7 วันเท่านั้นแหละให้ข้าได้กระชุ่มกระชวยก่อนตายบ้าง” พระราชาผู้เชื่อถือเรื่องดวงดาวว่างี้ แต่จริง ๆ แล้วฮีต้องการมีทายาทสืบเชื้อสาย เมื่อเปลี่ยนร่างกับจางกังเป็นที่เรียบร้อยก็ใช้โอกาสนั้นมีสัมพันธ์กับ ‘โดฮวา’ (แบคังฮี) ภรรยาของจางกังจนนางตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายออกมากับเขาคนหนึ่งคือ ‘จางอุก’ (อีแจอุค) แล้วบอกว่า “ถ้าโดฮวาตั้งครรภ์ให้รู้เอาไว้นะว่าบุตรที่คลอดออกมาเป็นลูกของข้า” เวลาผ่านไปไม่นานไอ้วิชานี้ก็สร้างปัญหาให้ผู้คนและเหล่าจอมเวทมากมาย จนต้องมีการล้อมปราบและกำจัดผู้แปรวิญญาณเนื่องจาก ผู้แปรปวิญญาณที่ควบคุมตนเองไม่ได้จะกลายเป็นปีศาจ ฆ่าได้แม้กระทั่งลูกเมียและคนใกล้ชิด บ้างก็ต้องคอยสูบวิญญาณจากคนเป็นเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิต

สำนักเวททั้งหลายต่างผนึกกำลังในการกำจัดจนเวลาผ่านไป 20 ปี ได้มีมือสังหารเงานามว่า ‘นักซู’ (โกยุนจอง) ตามสังหารจอมเวทแบบแค้นฝังหุ่น เรียกว่าอย่าให้เจอกันเชียวนะเพราะแค่หล่อนวิ่งผ่านหัวจอมเวทก็หลุดออกจากบ่าได้ง่าย ๆ ผู้นำแห่งสำนักซงริมจึงจัดทีมงานชุดใหญ่ตามฆ่านักซู ก็ในเมื่อคนเกินสิบรุมหนึ่งขนาดนี้ จะเก่งกาจขนาดไหนก็พ่ายแพ้ได้ง่าย ๆ นักซูผู้รู้เคล็ดวิชาแปรวิญญาณจึงหนีตายด้วยการย้ายวิญญาณตัวเองไปอยู่ในร่างของคนอื่น แต่เหตุการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้น เมื่อวิญญาณของหล่อนไม่ได้เข้าร่างที่หล่อนเลือก แต่กลับไปเข้าร่างของ ‘มูด็อกกี’ (จองโซมิน) สาวตาบอดที่ถูกขายไปอยู่หอนางโลม แถมยังอ่อนแอและไร้พลังเรี่ยวแรง

“ทำไมฉันต้องมาอยู่ในร่างที่อ่อนแอแบบนี้ด้วยเนี่ย” เธอสถบอย่างหัวเสีย แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะในเมื่อ ย้ายแล้วย้ายกลับก็ไม่ได้ซะด้วยสิจ๊ะ แต่การย้ายร่างครั้งนี้ก็ทำให้ร่างของมูด็อกกีหายตาบอดขึ้นมาเฉย ๆ มองเห็นชัดแจ๋วเพราะร่องรอยของการแปรวิญญาณได้เข้ามาอยู่ที่ลูกนัยน์ตา แทนที่จะอยู่ที่อกข้างซ้อยเหนือหัวใจอย่างผู้แปรวิญญาณคนอื่น ๆ ข้อดีของเรื่องนี้ก็คือ การตามหาตัวเธอเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น ไม่มีใครรู้ว่ามูด็อกคือนักซูแปรวิญญาณมา เพราะหาจุดสีฟ้า ๆ จุดนั้นไม่เจอจ้ะ แต่มีเพียงผู้เดียวที่นึกรู้ตั้งแต่แรกเห็นคือ จางอุก นายน้อยจากตระกูลจาง ที่ถูกพ่อปิดพลังเอาไว้ตั้งแต่ยังเป็นทารก เขาผ่านอาจารย์มาแล้ว 12 คนแต่ไม่เคยได้ฝึกฝนวิชาอย่างจริงจัง เพราะอาจารย์ไม่คิดจะสอน จนได้พบกับมูด็อก

สองคนตกลงกันที่จะเป็นอาจารย์และศิษย์ มูด็อกจะถ่ายทอดวิชาให้เขา จะสอนให้เขาเป็นจอมเวทที่แข็งแกร่งให้ได้ ขณะเดียวกันเมื่อเขาแข็งแกร่ง เธอจะได้ยืมพลังจากเขามาฟื้นพลังของตัวเอง เพราะร่างกายอ้อนแอ้นนี้ ปวกเปียกเหลือเกิน และหมายมาดว่าเมื่อแข็งแกร่งแล้วจะกลับไปฆ่าจอมเวทให้สิ้นซาก แล้วเรื่องราวต่าง ๆ ก็ดำเนินต่อไปอย่างถึงพริกถึงขิง เฟี้ยวฟ้าว สาดแสงและมุ้งมิ้งในบางเวลา

ทำความรูจักสำนักในต่าง ๆ กันหน่อย

เรื่องนี้นอกจากตัวละครจะเยอะแล้ว สถานที่และสำนักต่าง ๆ ในเรื่องก็เยอะด้วยสิ แบ่งเป็นสำนักต่าง ๆ ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองเหมือนบ้านต่าง ๆ ในฮอกวอตส์ผสมรวมกับสำนักต่าง ๆ จากมังกรหยกก็ไม่ปาน ซึ่งเรารู้จักกันแค่ไม่กี่ที่ก็พอเอาที่สำคัญ ๆ เริ่มจาก ‘ซงริม’ เป็นสำนักเวทสำนักใหญ่ของตระกูลพัคที่มี ‘พัคจิน’ (ยูจุนซาง)เป็นหัวหน้าสำนัก ศิษย์จากหลายตระกูลต่างร่ำเรียนวิชาเวทอยู่ที่สำนักนี้ เรียกว่า สำนักซงริมจองจินกัก และที่แห่งนี้คือที่หมายปองของพระเอก อยากจะเรียนที่นี่เหลือเกินอยากเป็นสมาชิกซงริมกับเขาบ้าง แต่เขาไม่ยินดีต้อนรับจ้ะ เพราะอะไรนั้นแค่ดูไปเพียงไม่กี่ตอนในเรื่องก็จะค่อย ๆ เฉลยให้เห็น กระจ่างเชียว

ต่อมาเป็น ‘ชอนบูกวัน’ สำนักนี้เป็นสำนักของตระกูลจาง ก็ของพ่อพระเอกนั่นแหละจ้ะ โดยมี ‘จินมู’ (โจแจยอน) เป็นรองหัวหน้าสำนักรักษาการแทนจางกังหัวหน้าสำนักที่ทิ้งลูกและดาบคู่ใจเอาไว้แล้วหายไปไหนก็ไม่รู้ จินมูเป็นศิษย์เอกของพ่อพระเอกและได้รับการถ่ายทอดวิชาแปรวิญญาณมาอย่างลับ ๆ เป็นคนสอนนักซูให้กลายเป็นมือสังหารแต่เรื่องราวพวกนี้ไม่มีใครรู้ คงรู้แต่เพียงว่าเขาคือศิษย์เอกได้ดูแลสำนักแทน มีฐานะเป็นอาจารย์ของรัชทายาทและได้รับความไว้ใจจากพระมเหสี

‘เซจูควอน’ เป็นสำนักหมอที่รักษาได้สารพัดโรค ใครเจ็บใครป่วยมาที่นี่แต่ต้อนรับเฉพาะนักเวทและคนของสำนักเวทเท่านั้นนะ มีหัวหน้าสำนักคือ ‘ฮอยอม’ (อีโดคยอง) ปราชญ์เทวดาแห่งดินแดนแดโฮที่สนิทสนมกันดีกับผู้นำสำนักซงริม สุดท้ายเป็นสำนัก ‘จินโยวอน’ สำนักนี้ประดุจดั่งคลังเก็บของวิเศษ ทั้งช่วยคนได้และทำให้ตายอย่างอนาถ มี ‘จินโฮกยอง’ (พัคอึนฮเย) จากตระกูลจินเป็นหัวหน้าสำนักหญิงเพียงหนึ่งเดียวจากหลาย ๆ ตระกูล และที่ขาดไม่ได้คือแหล่งข่าวลือ ข่าวจริงที่คราคร่ำไปด้วยสาวงามอย่าง ‘หอชวีซอนรู’ หอนางโลมที่มี ‘จูวอล’ (โซจิน) ดูแลอยู่ เป็นที่ท่องเที่ยวของทั้งหญิงชาย เป็นที่นัดพบ สืบข่าว ซื้อขายสินค้าที่อยากขายอยากซื้อ เป็นทุกอย่างให้เธอแล้วที่ชวีซอนรู

รู้จักคุณหนู 4 ฤดูกันอีกนิด

เมืองสมมติแห่งนี้นอกจากจะมี 4 ตระกูลใหญ่ที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องพลังเวทที่เก่งกาจแล้ว คุณหนูของตระกูลต่าง ๆ ยังเลื่องชื่อเรื่องหน้าตาที่ชาวบ้านต่างเล่าขานและเปรียบเปรยให้เป็นความงามแห่ง 4 ฤดูอีกด้วย ก็เริ่มจากพระเอกของเราก่อนเลย จางอุกนี่เองไม่ใช่ใครที่ไหน เขาได้รับคำกล่าวขานว่าผู้ส่องประกายราวหิมะในฤดูหนาว เรื่องราวของเขาเกริ่นไปตั้งแต่ต้นแล้วนะคะ คงไม่ต้องแนะนำอะไรกันมาก

คนต่อมาคือ ‘ซอยุล’ (ฮวังมินฮยอน สมาชิกวง นิวอิสต์/NU’EST) หนุ่มหล่อจากตระกูลซอผู้ได้รับฉายาว่า สง่างามราวกับแสงสีทองอร่ามแห่งฤดูใบไม้ร่วง ฉลาดและเก่งกาจในวิชาเวท และในอดีตเคยมีเรื่องราวกุ๊กกิ๊กวัยเด็ก อยู่กับมือสังหารเงานักซู ถัดมาเป็นผู้สืบทอดแห่งตระกูลพัค ‘ดงกู’ (ยูอินซู) เขาคือผู้มีชีวิตชีวาราวกับฤดูร้อนเป็นหลานของพัคจิน ผู้นำสำนักยงริม

สุดท้ายเป็นคุณหนูคนสวย ลูกสาวคนเล็กแห่งตระกูลจินผู้งดงามราวกับฤดูใบไม้ผลิ ‘จินโชยอน’ (อาริน /สมาชิกวงไอดอล Oh My Girl) สวยใสและไร้เดียงสา และกลายเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้านที่อาจจะได้ครอบครองของวิเศษ เพราะพี่สาวหายตัวไป รักจางอุกและอยากแต่งงานกับจากอุกเหลือเกิน ส่วนตัวแถมคนที่ 5 ไม่ได้อยู่ในตระกูลไหนกับเขาเลยแต่ใหญ่กว่า คือองค์รัชทายาท ‘โกวอน’ (ชินซึงโฮ) ผู้ตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นราชาที่ดีและมีเมตตา แต่บ้ายอเป็นที่สุด เห็นตัวละครเยอะแบบนี้อย่าเพิ่งท้อ เพราะในเรื่องยังมีตัวละครสำคัญที่จะโผล่มาให้เยอะกว่านี้เข้าไปอีกจ้ะ แต่ไม่ทำให้งงใด ๆ ดูไปแล้วจะจำได้ไปเองแบบไม่รู้ตัว

บทผสมผสานที่ลงตัวหน้าตาเฉย

บทเรื่องนี้ยกประโยชน์ให้สองพี่น้องตระกูลฮง ฮงจองอึน และฮงมิรัน ที่เคยฝากผลงานให้เราชื่นชมเอาไว้ในซีรีส์ The Master’s Sun และ Hotel Del Luna พี่น้องคู่นี้ถนัดนักเรื่องผูกปมให้ติดตามแถมยังผูกสำเร็จซะด้วยสิ เพราะเรื่องนี้ปมเยอะแต่ก็คลี่คลายเป็นเปลาะ ๆ ตัวแสดงไม่รู้แต่คนดูรู้ก็พอแล้ว เขาได้ทิ้งปริศนาน่าสงสัยให้ผู้คนในอาณาจักรแดโฮตั้งคำถามกันให้แซดก็คือ จางอุกเป็นลูกใครกันแน่? มีเสียงซุบซิบมากมายถึงความคลางแคลงในเรื่องนี้ ซึ่งจางกังผู้เป็นพ่อได้สารภาพกับพัคจินเอาไว้ก่อนทิ้งลูกไปหลังจากที่ปิดผนึกพลังลูกไปแล้วว่า เด็กคนนี้เป็นลูกพระราชาองค์ก่อน เขาเกิดมาพร้อมดวงดาวกษัตริย์ เพราะเราแปรวิญญาณกัน

ก็อยากจะหายตัวเข้าไปในซีรีส์แล้วบอกว่า เห้ย..วิญญาณของกษัตริย์อ่ะใช่ แต่ร่างกายเป็นของท่านไม่ใช่รึจางกัง อสุจิที่มันว่ายไปเจาะไข่แดงมันก็เป็นของท่านนะเจ้าคะ แต่เขาคงไม่เชื่อเราอ่ะค่ะเพราะในดินแดนแห่งนี้เชื่อถือเรื่องดวงดาว พลังเวทและวิญญาณ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่มีอยู่จริงในดินแดนไหน ๆ เพราะฉะนั้นอย่าไปเถียงเขา เราจึงอนุมานได้ว่าพระเอกของเราก็คือเจ้าชายเลือดผสมหรือแฮรี่พ็อตเตอร์ปลอมตัวมานั่นเองจ้ะ ตอนแรกเขาจะไม่เก่งตามแบบฉบับของโคตรพระเอกทั่วไป แต่จะเก่งขึ้นเรื่อย ๆ ผ่านการฝึกวิชาที่ได้รับการเสี้ยมสอนแบบบ้าระห่ำจากมูด็อก และความบังเอิญที่มากับดวงของเขาแท้ ๆ

ศิษย์อาจารย์คู่นี้บ้าบอพอกัน ข้างฝ่ายอาจารย์รึก็บ้าดีเดือด ทำแต่ละเรื่องล้วนเสี่ยงตาย แล้วไม่เสี่ยงคนเดียวแต่ลากเอาลูกศิษย์ตัวเองเสี่ยงไปด้วยกัน เรียกว่ารอดก็จะเจ๋ง ไม่รอดก็ตายแค่นั้นเองจะกลัวอะไร พวกเขาต้องผ่านความยากลำบากมากมาย ทั้งการต่อสู่ การตามล่าต่าง ๆ นานา แต่ท่ามกลางความวุ่นวายที่ต้องพิสูจน์ตัวตนเหล่านั้น เรื่องราวของตัวละครอื่น ๆ โดยเฉพาะเรื่องราวของคนทั้งคู่ก็สลับสับเปลี่ยนมาเป็นเครื่องเคียงซาบซ่าให้ได้ ยิ้ม หัวเราะ กันหน้าตาเฉย ซะงั้นน่ะ เรื่องนี้ติ่งพระรองอย่างฮวังมินฮยอนมีติดแฮชแท็กทีมพระรองกันถ้วนหน้า แน่นอน

CG อลังการ ฟาดฟันดั่งพายุทะลุฟ้า

CG ร้องว้าวได้เลยนะจ๊ะ ถึงแม้ในบางจุดเราจะเห็นข้อผิดพลาด แต่ก็เป็นเพียงจุดเล็ก ๆ เท่านั้นไม่ได้ทำให้สูญเสียอรรถรสในการรับชมใด ๆ เลย ในทางตรงกันข้ามเราจะรู้สึกตื่นเต้น สนุก ลุ้นไปกับทุก ๆ ฉากและร้องว้าว ว่าโอ้โหเว้ย ที่มันซีรีส์เกาหลีหรือซีรีส์จีนกำลังภายในกันแน่คะ ความแฟนตาซีและอภินิหารบานตะไทล้วนเกิดขึ้นในเรื่องนี้ ปล่อยแสงกันเฟี้ยวฟ้าวเหนือมนุษย์กันสุดติ่ง เพราะเขาเหล่านั้นต่างเป็นจอมเวทผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์ต่างสาขากันไป

สำคัญคือลีลาท่าทางและการจัดระเบียบร่างกายเชื่อว่าผ่านการฝึกหนักมาอย่างยาวนาน แต่ทุกคนเจ็บเป็นไม่ได้แกร่งอย่างหินผาที่โดนแทงแล้วไม่เป็นไร ยังคงมีความเป็นมนุษย์ที่ต้องหาหมอ ต้องการการรักษาอย่างปุถุชนทั่วไป ก็เรียกได้ว่าเก่งเพราะฝึกฝนไม่ได้อึด ถึก ทน จนเกินที่จะเชื่อ และพลังต่าง ๆ ที่แต่ละคนมีก็ล้วนมาจากวิชาเวทที่ร่ำเรียน ทำให้แต่ละฉากสมจริงและต้องเชื่อ เพราะเขาบอกอยู่แล้วว่านี่คือดินแดนสมมติที่บรรจุไปด้วยเหล่ามนุษย์ผู้เก่งกาจ ที่มากปัญหา หลากเงื่อนงำให้ตามต่อกันรายตอน

ขบขัน ฟินเคลิ้มและดราม่ามาครบรส

เสน่ห์ของซีรีส์เกาหลีมากกว่าครึ่ง ที่ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์แนวไหน ความขบขันปาฮาและความฟินเคลิ้มกับความรักของสองพระนางก็จะจัดมาให้มากน้อยแล้วแต่บรรยากาศ ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่พลาดในส่วนนั้น ยังคงเป็นพิมพ์นิยมตามแบบฉบับเหมือนเครื่องเคียงที่ขาดไม่ได้ และมันดีมากซะด้วยสิ ยิ้มแน่มีความสุขแน่ ๆ เมื่อพวกเขาได้อยู่ด้วยถัน ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่จะเลือดอาบก็ตามที แถมด้วยความเอนเอียงของแฟนคลับที่มักเทใจให้พระรองกันเป็นระยะ ทำให้เคมีนักแสดงสอบผ่านฉลุย

เสื้อผ้าหน้าผมมีความผสมผสานวัฒนธรรมเอเชียจนอดคิดไม่ได้ว่า ประเทศสมมติประเทศนี้น่าจะแหวกมิติเวลามาดูการแต่งกายแฟนตาซีของหนุ่มสาวสมัยใหม่แน่ ๆ แต่ไม่ได้ทำให้เป็นจุดขัดตาแต่อย่างใด กลับเป็นการดีและเหมาะสมกับบุคลิกของแต่ละตัวละครอย่างกลมกลืน

ในด้านของพาร์ตดราม่า สองพี่น้องตระกูลฮงก็จัดการเขียนบทมาให้อย่างทันสมัยและแฝงข้อคิดเอาไว้ในทุก ๆ ไดอะล็อก จุดนี้สามารถสะกิดสถาบันครอบครัวได้ง่าย ๆ ว่าสิ่งที่พ่อแม่คิดว่าดีว่าเหมาะสมแล้วกับลูกหลานอันเป็นที่รัก มันคือสิ่งที่ดีที่เหมาะสมจริง ๆ แล้วเหรอกับชีวิตที่เขาเหล่านั้นต้องเดินต่อไปข้างหน้าด้วยตัวเอง เราไม่สามารถกำหนดชีวิตใครได้เพียงเพราะคำว่าเป็นห่วง ไม่สามารถคิดแทนเขาและเชื่อในสิ่งที่คิดมากกว่าที่จะเชื่อในความเป็นเขา เพราะชีวิตใครก็ชีวิตมัน และทุกคนควรมีสิทธิ์กำหนดชะตาชีวิตตัวเอง ถึงแม้ว่าปลายทางมันจะน่ากังวลสักแค่ไหนก็ตาม

ดราม่านี้แน่นอนว่ามอบให้กับพระเอกของเราล้วน ๆ ตามมาด้วยการพลิกผันของโชคชะตาที่เกิดขึ้นจากเวทมนตร์ ทั้งของนางเอกและผู้ร่วมชะตาอีกมากมายในท้องเรื่อง ซึ่งกำลังเข้มข้นและน่าติดตามเข้าไปทุกที

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส