[รีวิว]Little Women / สามพี่น้อง : แตกต่างแต่เแปลกใหม่แบบลุ้นระทึก
Our score
8.5

เขียนบท

คิมฮีวอน

กำกับ

จางซอกยอง

จำนวนตอน

12 ตอน / ตอนละ 60 นาที

วันเวลาออกอากาศ

ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 21.00 น. ทาง NETFLIX

[รีวิว]Little Women / สามพี่น้อง : แตกต่างแต่เแปลกใหม่แบบลุ้นระทึก
Our score
8.5

[รีวิว]Little Women / สามพี่น้อง : แตกต่างแต่เแปลกใหม่แบบลุ้นระทึก

จุดเด่น

  1. เทคะแนนให้เท่านี้ก่อนสำหรับสองตอนแรกที่ทำออกมาได้น่าติดตาม และมีการทิ้งปมให้ตามต่อได้อย่างชาญฉลาด
  2. ไม่ใช่ซีรีส์รีเมกของสี่ดรุณี แต่เป็นซีรีส์ที่นำสี่ดรุณีมาเป็นแรงบันดาลใจ และเปลี่ยนบรรยากาศให้เป็นสามพี่น้องที่ทั้งดราม่า เสียดสีและเต็มไปด้วยปริศนาฆาตรกรรม

จุดสังเกต

  1. สำหรับแฟนคลับ Little Women ของ ลุยซา เมย์ อัลคอตต์ ที่คาดหวังว่าจะได้เห็นสี่ดรุณีที่เหลือเพียงสามพี่น้องออกมาในบรรยากาศที่คล้ายกัน ผิดหวังแน่ค่ะเพราะนี่คือหนังคนละม้วนที่ใช้แกนของเรื่องมาเป็นต้นกำเนิดเท่านั้นเอง อย่าคาดหวังและควรล้างไพ่ให้หมดตับก่อนเปิดดู
  2. ไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องราวของต้นฉบับที่เป็นแรงบันดาลใจมาก่อน เพราะทุกอย่างใหม่สดสไตล์ดราม่าเกาหลีเขาจริง ๆ
  • บท

    9.0

  • โปรดักชัน

    8.0

  • การแสดง

    9.0

  • การดำเนินเรื่อง

    8.0

  • ความสนุกตามแนวซีรีส์

    8.5

ซีรีส์ดราม่าระทึกขวัญที่มีแรงบันดาลใจมาจากนวนิยายสุดคลาสสิก ‘Little Women’ หรือ ‘สี่ดรุณี’ ของ ‘ลุยซา เมย์ อัลคอตต์’ (Louisa May Alcott) นักเขียนอเมริกันที่ทำให้หนังสือเล่มนี้กลายเป็นผลงานที่รู้จักไปทั่วโลก และกลับมาคราวนี้ในฉบับซีรีส์ 12 ตอน ถือเป็นการพลิกสี่ดรุณีที่เราคุ้นเคยจนเรียกว่าคว่ำจานกันเลยทีเดียว ตั้งแต่พี่น้องที่เหลือเพียง 3 คน และการเปลี่ยนบรรยากาศสุดคลาสสิกของรัฐแมสซาชูเซตต์ ให้กลายเป็นความอึมครึมของชีวิตผู้คนในกรุงโซล สิ่งที่หลงเหลืออยู่คือแก่นสำคัญของเรื่อง ที่บอกเล่าถึงพลังของผู้หญิง การใช้ชีวิตเพียงลำพังพี่น้อง เพื่อบรรลุเป้าหมายและความฝันของตัวเอง ท่ามกลางเรื่องราวดราม่า ลุ้นระทึกและปมอาชญากรรม

แต่เดิม ‘Little Women” เป็นวรรณกรรมระดับตำนานที่ถูกหยิบมาเล่าหลายครั้งหลายคราว เรียกว่าบ่อยจนถึงเวอร์ชันล่าสุดของ ‘เกรต้า เกอร์วิก’ (Greta Gerwig ) ที่จัดว่าเป็นเวอร์ชันที่เยี่ยมยอดและตรึงใจผู้เขียนได้มาก ๆ บอกเล่าเรื่องราวของ 4 สาวพี่น้องตระกูลมาร์ช โจ เม็ก เอมี่ และเบธ ที่อาศัยอยู่กับแม่และประสบความแร้นแค้นท่ามกลางไฟสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อ หลังจากพ่อออกไปร่วมรบในช่วงศตวรรษที่ 19 จนมาถึงเวอร์ชันนี้ที่เรียกได้ว่าเป็นการพลิกสี่ดรุณีให้เหลือเพียง 3 พี่น้อง ในบรรยากาศและเนื้อหาที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

‘โออินจู’ (คิมโกอึน) พี่สาวคนโต

Little Women / สามพี่น้อง : เล่าเรื่องราวของพี่น้องตระกูลโอ ที่พ่อติดเหล้าและจากไปโดยทิ้งให้พวกเธออยู่กับแม่ที่เห็นแก่ตัวอย่างน่าโมโห พวกเธอมีฐานะยากจนและใช้ชีวิตอยู่ในห้องเช่าโกโรโกโสบนดาดฟ้า วันหนึ่ง ‘โออินจู’ (คิมโกอึน) พี่สาวคนโต ได้พบกับเหตุการณ์ระทึกขวัญที่เกิดขึ้นกับ ‘จินฮวายอง’ (ชูจาฮยอน) รุ่นพี่คนสนิทอย่างมีเงื่อนงำ ทั้งการจากไปอย่างไม่คาดฝัน กับเรื่องของเงินบริษัทจำนวน 70,000 ล้านวอนที่ถูกกว่าหาว่ายักยอก จินฮวายองยังทิ้งรองเท้า เสื้อผ้าและเงินสดจำนวน 2,000 ล้านวอนไว้ให้เธอดูต่างหน้า

‘โออินกยอง’ (นัมจีฮยอน) น้องสาวคนรอง

เงินจำนวนนี้ที่จินฮวายองทิ้งไว้ให้ แน่นอนว่ามันสามารถเปลี่ยนชีวิตของเธอและน้องสาวจากหน้ามือเป็นหลังมือ ถ้าหากว่ามันจะไม่นำเธอไปสู่เบื้องหลังของคดียักยอกเงินสุดซับซ้อน ที่ตามมาด้วยการตายของคนรอบตัวทีละคนสองคน จากน้ำมือของฆาตรกรลึกลับที่ทิ้งปริศนาไว้เพียง ‘ดอกกล้วยไม้สีน้ำเงิน’ ทางด้านของน้องสาวคนรอง ‘โออินกยอง’ (นัมจีฮยอน) ที่ทำงานเป็นนักข่าวก็กำลังขุดคุ้ยอดีตของ ‘พัคแจซัง’ (ออมกีจุน) นักการเมืองหน้าใหม่ที่เธอสงสัยว่าเขาคนนี้อาจเกี่ยวข้องกับคดีร้ายแรงหลายคดีที่เธอเคยเสนอข่าว

‘โออินฮเย’ (พัคจีฮู) น้องสาวคนเล็ก

ซึ่ง ‘โออินฮเย’ (พัคจีฮู) น้องคนเล็กสาวน้อยที่มีฝีมือทางการวาดภาพ ก็ได้เข้าไปสนิทสนมกับลูกสาวของนักการเมืองคนนี้ แต่ก็ถูกเอาเปรียบจากเพื่อนสนิทของตัวเองเพราะฐานะที่ต่างชั้น การพัวพันที่สามสาวไม่ตั้งใจอาจเป็นเส้นทางที่ทำให้สามสาวต้องเข้าไปมีส่วนกับเหตุการณ์สำคัญ ปมลึกลับ เงินและอำนาจ ที่ต้องเผชิญหน้ากับครอบครัวร่ำรวยที่แฝงอิทธิพลอย่างน่ากังขา

ไม่ใช่รีเมกแต่เป็นต้นทางแห่งแรงบันดาลใจ

การล้างไพ่ใหม่ของ ‘Little Women’ ในครั้งนี้ พูดได้เต็มปากเลยว่าเป็นการล้างซะเกลี้ยงแบบยกกระบิ ไม่หลงเหลือเค้าเดิมเอาไว้เลยจนเรียกได้ว่าเป็นต้นทางแห่งแรงบันดาลใจเท่านั้นเอง โดยการหยิบเอาแก่นของเรื่องมาเล่าใหม่ด้วยฝีมือของ ‘จองซอกยอง’ นักเขียนบทมือฉมังที่ฝากผลงานประทับใจเอาไว้อย่าง ‘The Handmaiden’ (2015) และ ‘Mother’ (2018) ก็เชื่อได้เลยว่าดราม่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน อีกทั้งยังได้ผู้กำกับหญิงคนเก่ง ‘คิมฮีวอน’ ที่การันตีผลงานได้จากการกำกับซีรีส์ ‘The Crowned Clown’ (2019) และ ‘Vincenzo’ (2021) 

‘พัคแจซัง’ (ออมกีจุน)

ด้วยการเล่าเรื่องที่จิกกัด เสียดสีโลกทุนนิยม ระบบชนชั้น ความเหลื่อมล้ำที่ผู้คนหมกมุ่นอยู่ที่เปลือกมากกว่าความสามารถ ในขณะที่ชี้ให้เห็นถึงความรักของพี่น้องและตัวตนกับการให้ค่าความสำคัญของชีวิตที่แตกต่างกัน และแตกประเด็นไปสู่เงื่อนงำของคดีฆาตรกรรมเชิงสัญลักษณ์ ที่ใช้ความอ่อนโยนและสวยงามของดอกไม้เป็นหมุดหมายที่ไร้ความปราณีและซ่อนเร้น เพื่อนำทางไปสู่ความลึกลับซับซ้อนเกินคาดเดา ซึ่งหากมองว่านี่คือการตีความใหม่ของวรรณกรรมสุดคลาสสิก ก็ดูจะเป็นการตีความที่น่าโมโหสำหรับแฟนนิยายและแฟน ๆ ที่รักในภาพยนตร์เรื่องนี้

Little Women สามพี่น้อง

แต่หากมองว่านี่คือการหยิบเอาแก่นของเรื่องมาเป็นแรงบันดาลใจในการสานต่อ แตกประเด็นและเล่าอีกครั้งในแบบสมัยใหม่ ซีรีส์เรื่องนี้ก็ถือว่าให้เกียรติวรรณกรรมอย่างเคารพ และเชิดชูแก่นของเรื่องได้อย่างน่าชื่นชมและน่าติดตามว่าพวกเธอจะฝ่าดงอยุติธรรมของฐานะทางสังคม และรับมือกับเงื่อนงำซับซ้อนจนรอดชีวิตมาได้อย่างไร

ส้นสูงแดงและกล้วยไม้สีน้ำเงิน

เพียง 2 ตอนเท่านั้นซีรีส์ก็สาดปมเอาไว้มากมาย โดยเริ่มเรื่องจากการปูพื้นตัวละครให้เราเข้าใจบริบท เห็นถึงความเป็นอยู่และความหวังใจลึก ๆ ของ 3 สาว ถึงแม้ความยากจนที่ซีรีส์นำเสนอจะไม่ถึงขั้น ‘Parasite’ แต่ความแร้นแค้นในจิตใจที่มีแม่ไม่เอาไหน และการถูกเดียดฉันท์จากสังคมรอบข้างที่เป็นสังคมวัตถุนิยม บวกกับความทดท้อในชีวิตที่ถูกบีบรัด เปรียบเทียบ ใจนางก็บางจนซังกะตายและอยากหลุดพ้นจากชีวิตเส็งเคร็งนี่ซะที แต่ถึงแม้ว่าพวกเธอจะอุตส่าห์ดำเนินไปตามวิถี และยอมรับกับฐานะที่สุขได้แม้มีไม่มากเท่าคนอื่น

แต่ชีวิตของพวกเธอก็ต้องมาเจอกับเรื่องราวสุดพลิกผันให้ระทึกขวัญยิ่งกว่าเก่า เพราะต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องราวลึกลับ ความหรูหรา ความสวยงามที่เป็นปริศนาและแฝงไว้ด้วยอันตราย คนพี่ค้นหาความจริงเรื่องคดีฆาตรกรรม คนน้องก็ค้นหาเบื้องลึกเบื้องหลังของนักการเมือง ที่อาจมีส่วนเอี่ยวกับคดีนั้นด้วยก็เป็นได้ ไม่แว้นแม้กระทั่งน้องคนเล็กที่เข้านอกออกในบ้านหลังนั้นจนอาจหลวมตัวเข้าไปในเรื่องยุ่ง ๆ ได้อย่างไม่รู้ตัว

ซีรีส์ใส่ปมความสัมพันธ์เหล่านี้เอาไว้อย่างถี่ยิบ เรียกว่าถี่จนแทบไม่มีช่องว่างให้คลายสงสัย แน่นอนว่าการเริ่มต้นนี้ทำให้เรายังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าใครคือเจ้าของดอกกล้วยไม้สีน้ำเงิน และส้นสูงสีแดงที่หญิงสาวมากกว่า 1 คนสวมใส่ เกี่ยวข้องอะไรกับคดีขวัญผวาเหล่านี้ ก็เรียกได้ว่า 2 ตอนที่ผ่านมาซีรีส์มีการขยันผูกปมเอาไว้ตามเบี้ยบ้ายรายทางอย่างชนิดที่ยังไม่มีใครแกะมันออก เป็นการดำเนินเรื่องที่เร็ว กระชับ หลังจากผ่านการปูเรื่องในครึ่งตอนแรกมาแล้วแบบเบรกแตกกันเลยทีเดียว

จับตาดูให้แน่ ๆ และอย่าพลาดบทสนทนา

เป็นซีรีส์ที่ต้องจับตาดูและตั้งใจฟังโดยเฉพาะบทสนทนาให้มั่น ๆ เพราะในทุก ๆ ไดอะล็อกล้วนมีความหมายซ่อนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการทำความเข้าใจในความปราถนาของตัวละครหลัก หรือแม้กระทั่งปมลึกลับที่ซ่อนอยู่ในการสนทนาแต่ละฉาก สัญลักษณ์มากมายที่ทิ้งเอาไว้เป็นปริศนาที่ไม่ควรมองข้าม เป็นซีรีส์ลับสมองที่อย่าคุยกันเลยเดี๋ยวจะพลาดอะไรดี ๆ ไปซะได้ ว่าอย่างนั้นเถอะ

ไม่ว่าการสนทนาของพี่น้องสองสาว หรือการขยี้หัวใจผ่านชนชั้น ที่พี่คนโตถูกจัดอันดับให้เป็นหมาหัวเน่าของบริษัท หรือการถูกตัดสินจากการใส่รองเท้าราคาถูก น้องคนรองถูกกระแนะกระแหนว่าอดทนเก่งเพราะเติบโตมาแบบคนจน และน้องคนเล็กถูกเอาเปรียบและฉกชิงความสำเร็จไปอย่างหน้าด้าน ๆ เพราะฐานะที่ด้อยกว่า ซึ่งผู้เขียนบทได้ขยี้เรื่องราวสุดรันทนเอาไว้อย่างเกินเบอร์ชนิดที่คิดว่าในโลกนี้จะมีคนที่ดูถูกคนด้วยความคิดแบบนี้ จริงน่ะเหรอ แต่ความเชื่อได้ของบรรยากาศที่ซีรีส์สร้างขึ้นได้เข้ามาเป็นน้ำเชื้อที่ทำให้กลมกล่อม และยอมเชื่อก็ได้เสียอย่างนั้น

อีกทั้งยังกระตุกต่อมความตื่นเต้น ความหวาดกลัวจากการคาดเดาที่ไม่อยากให้เกิดได้ง่าย ๆ บวกกับคำถามที่ทิ้งไว้ให้เราต้องหาคำตอบ และการรับประกันโดยบริบท ว่าเรื่องราวต่อจากนี้เราจะได้พบกับความตื่นเต้น ที่สามพี่น้องจะต้องเผชิญกับอิทธิพลมืดอย่างแน่นอน จากการทิ้งท้ายในแต่ละตอนที่ชวนให้ติดตามตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ

ถูกที่ถูกเวลา ละมุนตาในทุกฉาก

นอกจากนักแสดงแถวหน้าที่ตบเท้าเข้ามารับบทเด่น ๆ ในเรื่องนี้อย่างคับคั่ง การออกแบบคาแรกเตอร์ตัวละครยังมีความเป็นมนุษย์ที่ตัวเอกไม่ได้มีด้านดีเพียงด้านเดียว หากแต่หัวใจมนุษย์ย่อมสั่นคลอนจากสิ่งล่อใจได้ง่าย ๆ ถ้าใจไม่นิ่งพอ เราจะได้เห็นทั้งด้านมืด ด้านสว่างของตัวละครแต่ละตัวไม่เว้นแม้แต่สามสาวเจ้าของเรื่อง เรียกว่าเป็นการฉายภาพสังคมมนุษย์ให้ได้เห็นในทุก ๆ ด้านอย่างแท้จริง และการันตีความชั่วอย่างร้ายกาจให้กับตัวละครพัคแจซังกันได้เลย เพราะจูดันแทจาก ‘The Penthouse’ (2019) มาเอง

นอกจากนักแสดงที่คัดสรรมาอย่างสมบทบาทแล้ว ครั้งนี้งานโปรดักชันก็ไม่น้อยหน้า ด้วยมู้ดแอนด์โทนที่คลุมอารมณ์ของเรื่องได้อย่างไม่หลุดคอนเซ็ปต์ ส่งบรรยากาศให้เกิดความรู้สึกคล้อยตามโดยไม่ต้องมีซาวด์หวือหวา ตื่นระทึก แต่ก็ทำให้เราใจเต้นได้ง่าย ๆ ในฉากที่ควรจะเป็น ทุกสิ่งทุกอย่างถูกปล่อยออกมาอย่างถูกจัวหวะ ถูกที่ถูกเวลา ชี้ให้เห็นถึงจุดโฟกัสที่ผู้ชมไม่ควรพลาดและไม่อยากพลาดเลยด้วยซ้ำ

ก็เรียกได้ว่าการหยิบผลงานอันลือลั่นของ ลุยซา เมย์ อัลคอตต์ มาเป็นหัวใจของเรื่องราวทั้งหมด เป็นการหยิบมาแบบทะนุถนอมและเปี่ยมด้วยมารยาท ไม่มีจุดไหนที่กระทบบทประพันธต้นฉบับเลยสักนิด เพราะแม่ล้างไพ่ซะเกลี้ยงสำรับแล้วจัดกระบวนใหม่อย่างเมามัน ด้วยเส้นเรื่องฆาตรกรรมอำพรางและปมดราม่าครอบครัวที่เป็นทางถนัดของจองซอกยอง จนกลายเป็นซีรีส์ดราม่าทริลเลอร์ที่ซับซ้อน ซ่อนปมคนทรยศ เอาใจสายปั่นประสาทกันเน้น ๆ

แถมด้วยการเชื้อเชิญซงจุงกิ มารับบทพนักงานขายรองเท้าแบรนด์หรูเป็นชาวบ้าน 1 อีกต่างหาก จิตใจทำด้วยอะไรเนี่ย แล้วยังจะการวางยาจากผู้กำกับเอาไว้อีกว่า ได้อ้าปากค้างกันแน่ ๆ เมื่อถึงตอนจบของเรื่องนี้เพราะมันจะพีกมาก พาราต้องเข้าแล้วละงานนี้ เอาซี้

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส