[รีวิว]Bad Guys | ล่าล้างเมือง : ลูกไม้ไกลต้น ที่ยังห่างชั้นกับต้นฉบับ
Our score
6.5

ผลิต

TRUE CJ Creations

วันเวลาออกอากาศ

ศุกร์-เสาร์ 20:00 น ทาง TrueID และ NETFLIX

[รีวิว]Bad Guys | ล่าล้างเมือง : ลูกไม้ไกลต้น ที่ยังห่างชั้นกับต้นฉบับ
Our score
6.5

[รีวิว]Bad Guys | ล่าล้างเมือง : ลูกไม้ไกลต้น ที่ยังห่างชั้นกับต้นฉบับ

จุดเด่น

  1. แคสติ้งดีและนักแสดงหลักแบกทั้งเรื่องไว้ในกำมือ ด้วยฝีมือการแสดงที่เรียกว่าเยี่ยมมาก โดยเฉพาะการแสดงของเอ็ม สุรศักดิ์ ,หยวน ดรากอนไฟว์ และ ก็อต จิรายุ ที่ต้องเอ่ยปากชม

จุดสังเกต

  1. การใช้สีจัดจ้านที่น่าสนุกแต่กลับขาดจังหวะจนเกือบหมดสนุก เพลงประกอบที่ปล่อยออกมาแบบขัดจังหวะและบทที่ทำให้เนื้อเรื่องไม่ลื่นไหลไปตามอารมณ์ที่ควรจะเป็น ทำให้ละครขาดเสน่ห์ไปมาก
  2. ไม่เหมาะกับผู้ที่เคยดูต้นฉบับเกาหลีมาแล้ว แต่จะสนุกสำหรับผู้ที่ไม่เคยติดตามต้นฉบับมาเลย
  • บท

    6.0

  • นักแสดง

    8.0

  • โปรดักชัน

    6.0

  • การดำเนินเรื่อง

    6.0

  • ความสนุกตามแนวละคร

    6.5

กลับมาอีกแล้วกับการรีเมกซีรีส์เกาหลีของทรูซีเจ ที่ฝากผลงานการรีเมกชั้นดีเอาไว้จากเรื่อง ‘Voice | สัมผัสเสียงมรณะ’ ที่เรียกว่าดีเทียบเท่าต้นฉบับกันเลยเชียว และเมื่อมาถึงคิวของซีรีส์ขึ้นหิ้งอย่าง ‘Bad Guys’ แน่นอนว่าความคาดหวังที่จะได้เห็นซีรีส์ชั้นยอดเรื่องนี้ถูกนำกลับมาเล่าใหม่ ผ่านการตีความของผู้สร้างคนไทย ก็เป็นอะไรที่ตั้งตารอคอยอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะเมื่อเห็นการแคสติ้งที่ร้อง เฮ้ย! ทำไมแคสต์นักแสดงนำได้ดีแบบนี้นะ โดยเฉพาะในบทของ สกาย ที่ช่างมีความคล้ายกับต้นฉบับมาก ๆ

Bad Guys | ล่าล้างเมือง : เล่าเรื่องราวของ ‘ทีมหมาบ้า’ ทีมเฉพาะกิจที่ตั้งขึ้นมาจากความคิดของ ‘สารวัตรพิทักษ์’ (เอ็ม สุรศักดิ์) ตำรวจตงฉินพันธุ์หมาบ้าที่มีปมในใจเรื่องลูกสาว และความฟอนแฟะของวงการตำรวจที่ทำงานได้ขัดใจป๋าเอามาก ๆ เขากำลังถูกพักงานด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่ถูก ‘ผบ.นำชัย’ (สุรศักดิ์ ชัยอรรถ) เรียกตัวให้กลับมาทำคดีสุดหิน คือการตามล่าฆาตรกรสายฝน ฆาตรกรต่อเนื่องที่ก่อคดีในคืนฝนตก แต่ความบ้าของสารวัตรพิทักษ์ไม่หยุดที่ตัวเอง เขายังผุดไอเดียที่บ้าบิ่นขึ้นมาเสนอด้วยการขอตั้งทีมอภิมหาวายร้าย ด้วยการเอาโจรมาจับโจร

จากเหตุผลสุดห่ามของเขาที่ว่า ‘จะปราบปีศาจต้องใช้ปีศาจที่เลวร้ายกว่า’ และคัดสรรวายร้ายที่โดดเด่นกันไปคนละด้านมาใช้งาน เริ่มตั้งแต่ ‘ยักษ์’ (หยวน กวินรัฎฐ์) นักเลงที่ถนัดการใช้กำลังและใช้มันได้ดีจนเกินขีดจำกัด ‘เรส’ (ก็อต จิรายุ) นักฆ่ามืออาชีพที่ฆ่าโหดเหมือนโกรธใครมา และ ‘สกาย’ (ณ ณภัทร) ฆาตรกรต่อเนื่องสุดอัจฉริยะ แลกกับการลดโทษเป็นรางวัลตอบแทน โดยมี ‘ผู้กองอลิส’ (นิ้ง ชัญญา) นายตำรวจหญิงแม่นปืน ที่ท่านนำชัยไว้ใจให้เข้าร่วมทีมนี้ด้วย และนี่คือการรวมตัวของทีมสืบสวนพิเศษที่บรรจุไปด้วย อาชญากร ตำรวจบ้าและตำรวจหญิงสติดีเพียงหนึ่งเดียว

เมื่อหยิบงานสุดหินมารีเมก

จาก 4 ตอนที่ผ่านมาและการเริ่มต้นดูละครเรื่องนี้โดยพกความคาดหวังไปเต็มพิกัด ก็ต้องบอกว่ายังทำออกมาได้ไม่สมหวังดั่งใจคิด ฉะนั้นแล้วการรับชมให้ได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น คุณอาจจะต้องเป็นคนที่ไม่เคยดูต้นฉบับมาก่อน หรือไม่ก็เอาความคาดหวังพับใส่กล่องไปเลยจ้ะ เพราะมันเป็นการอดใจยากเอามาก ๆ ที่จะไม่เอาไปเปรียบเทียบกับต้นฉบับ เพราะภาพในหัวที่ความทรงจำยังคงอยู่ จะเสนอหน้าออกมาสลับฉากให้คุณเปรียบเทียบเข้าจนได้อย่างลืมตัว โดยเฉพาะถ้าต้นฉบับชิ้นนั้นเป็นผลงานที่ทำเอาไว้ในระดับ ดีมาก

‘Bad Guys’ (2014) เป็นซีรีส์อาชญากรรม สืบสวนสอบสวนขึ้นหิ้งของเกาหลีเลยก็ว่าได้ ด้วยการวางโครงเรื่องที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อนในเวลานั้น แต่ก็เป็นเอกลักษณ์ของช่อง ocn เขาละค่ะ จัดเป็นซีรีส์สายโหดที่ประสบความสำเร็จจนมีการสร้างซีซัน 2 ‘Bad Guys : Vile City’ ในปี 2017 และต่อเนื่องให้สาแก่ใจด้วยการสร้างเป็นฉบับภาพยนตร์ ‘The Bad Guys : Reign of Chaos’ ในปี 2019 ก็เป็นการรีเมกตัวเองด้วยการใช้คนเขียนบทคนเดียวกันหมด แตกต่างกันที่ทีมหมาบ้าเปลี่ยนคน เปลี่ยนภารกิจและต่างผู้กำกับ จนกลายเป็นหนังทำเงินอันดับ 6 ของปีนั้น แต่ความนิยมและความประทับใจก็ยังไม่สามารถเทียบชั้นตัวเองในซีซัน 1 ไปได้

ขนาดเขารีเมกตัวเองยังยากเลยค่ะ แล้วเรามารีเมกของเขาก็ต้องบอกเลยว่างานนี้เป็นงานที่ หินไม่ใช่เล่น แต่ในฐานะที่เราเห็นความตั้งใจที่เต็มร้อย จากรายละเอียดต่าง ๆ ที่ใส่มาในเรื่อง ทั้งฉาก แสง สี เพลงประกอบที่ผ่านการคิดเยอะมาแล้ว และที่สำคัญนักแสดงคุณภาพที่คัดสรรมาแล้วอย่างดี ทำออกมาได้ระดับนี้ก็ถือว่าไม่แย่แล้วละค่ะ

การแคสติ้งนักแสดงหลักที่ต้องปรบมือให้

ภาพแรกที่ออกมาของการแคสติ้งบอกเลยว่าประทับใจ โดยเฉพาะตัวละคร ‘สกาย’ ฆาตรกรโรคจิตที่ต้องบอกว่าการจับเอา ณ ณภัทร มาเปลี่ยนลุคเป็นพ่อโรคจิตเดาใจยากนี่เป็นการคัดสรรนักแสดงที่น่าจะทำการบ้านกันเข้มข้นน่าดู เป็นความละเอียดที่ร้องว่า เฮ้ย! ดีจัง ณ ณภัทร ลุคนี้คล้ายพัคแฮจินมาก ๆ และการแสดงของแต่ละคนก็ไม่ทำให้ผิดหวังโดยเฉพาะ เอ็ม สุรศักดิ์ ในบทของสารวัตรพิทักษ์ หัวหน้าทีมหมาบ้าที่บ้ากว่าอาชญากรไปหลายปีแสง งานนี้พี่แกใส่เต็มแบบปล่อยพลังจนเรารู้สึกว่าการดูคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น เพราะได้ชมผลงานของนักแสดงที่เราคิดถึงและไม่ผิดหวังกับการแสดงของเขาแม้แต่นิด

อีกคนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ หยวน กวินรัฎฐ์ หรือหยวน ดรากอนไฟว์ ที่เราคุ้ยเคยกันดี งานนี้หยวนเหมือนไม่ได้มาแสดงหรอกค่ะ แต่น่าจะเดินเข้ามาใช้ชีวิตในฉากเสียมากกว่า เพราะอินเนอร์และการปล่อยมุกที่เป็นธรรมชาติของหยวน ไม่ได้สร้างความขัดหูขัดตาใด ๆ เลยกับตัวละครตัวนี้ที่จัดเป็นตัวโจ๊กของเรื่อง ทั้ง ๆ ที่บทมันไม่น่าจะโจ๊ก จังหวะโบ๊ะบ๊ะมันไม่น่าจะโผล่มาในเวลานั้น ซึ่งทำให้เนื้อเรื่องที่ควรสะกดอารมณ์ หายไปในพริบตาอย่างน่าเสียดาย แต่เมื่อมาอยู่ในมือของหยวนก็ทำให้ลดความไม่น่าจะมีลงไปได้อย่างไม่ขัดใจสักเท่าไหร่

บทและการดำเนินเรื่อง

เสน่ห์ของละครอาชญากรรม สืบสวนสอบสวนมักจะอยู่ที่ความไม่รู้ ไม่สามารถเดาได้ว่าตอนต่อไปจะเป็นยังไง ยิ่งถ้าการดำเนินเรื่องสามารถดึงอารมณ์ร่วมของคนดูออกมาได้อย่างเต็มร้อย จนไร้ช่องว่างของการไว้ใจ ชนิดที่เราไม่สามารถไว้ใจใครได้สักคน ละครเรื่องนั้นก็ประสบความสำเร็จไปเกินครึ่งแล้วละค่ะ แต่การรีเมกครั้งนี้ยังไม่สามารถดึงอารมณ์นั้นออกมาได้ดีเท่าที่ควร ด้วยบริบทหลายอย่างประกอบกัน ทั้งการดำเนินเรื่องที่เลือกฉากก่อนหลังมาใช้ให้ยากที่จะคล้อยตาม บทที่ไม่สมเหตุสมผลในหลาย ๆ ฉากจนยากที่จะเชื่อ

ทำให้เสน่ห์ของละครที่ควรจะเฉิดฉายลดทอนลงไปอย่างน่าเสียดาย และเมื่อเกิดการชูตัวละครตัวใดตัวหนึ่งให้เด่นออกมาอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เสน่ห์ของละครเรื่องนี้ลดลงไปอีก (แล้ว) ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงแล้วทีมหมาบ้าควรมีความโดนเด่นทัดเทียมกัน ไม่มีใครน้อยหน้าใครจากเอกลักษณ์ความสามารถของแต่ละคน ด้วยการนำทีมของหัวหน้าทีมอย่างสารวัตรพิทักษ์ แต่สำหรับครั้งนี้เราปฏิเสธไม่ได้เลยจริง ๆ ว่าเราจะเห็นตัวละครตัวหนึ่งโดดออกมาจากคนอื่น ๆ ในทีมอย่างจงใจ

เรากำลังพูดถึง ก็อต จิรายุ นักแสดงที่ไม่เคยผิดหวังเลยสักครั้งกับฝีมือของเขา เรื่องนี้ก็อตออกมาแต่ละฉากนั้นช่างโดดเด่น น่าดู น่าตามไปทุก ๆ ฉากที่เขาเข้าไปเล่น แต่กลายเป็นเด่นเกินหน้าเกินตาจนแทบจะเป็นพระเอกของเรื่องไปซะแล้ว ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วเรื่องนี้ไม่มีพระเอก ไม่มีนางเอก มีแต่ตัวเอก 5 คนที่เคมีต้องเข้ากันอย่างถึงที่สุดและมีสารวัตรพิทักษ์นำทีมป๊อปสตาร์ไปค้นฟ้าคว้าฆาตรกรมาให้ได้ เท่านั้นเอง

ในส่วนของนักแสดงเขาทำได้ดีมาก ๆ ในส่วนของเขาแล้วค่ะ และทำดีมากขึ้นไปอีกเมื่อนักแสดงในทีมมีนักแสดงระดับฝีมืออยู่ในนั้นเกือบทั้งทีม จึงทำให้บรรยากาศน่าติดตามมากขึ้นและอยากติดตามจริง ๆ ซะด้วย ไม่ใช่ว่าต้องการจะติดตามเรื่องราวตอนต่อไปนะคะ แต่ต้องการจะชมผลงานที่ตั้งใจเล่นของนักแสดงเหล่านั้นซะมากกว่า

โปรดักชัน แสง สี เสียง

เรียกว่าเป็นลายเซ็นของทรูซีเจไปแล้วรึเปล่าก็ไม่ทราบได้ กับมู้ดแอนด์โทนจัดจ้านแสบทรวงยิ่งกว่าผีตากผ้าอ้อม ที่เห็นแล้วว้าวมาตั้งแต่ Voice | สัมผัสเสียงมรณะ แต่เมื่อมันถูกฉายซ้ำในเรื่องอื่นและเป็นการฉายที่ซ้ำแล้วซ้ำอีก โดยไม่เว้นที่ว่างให้ปล่อยอารมณ์ ก็ทำให้ไม่ว้าวสักเท่าไหร่แล้วละค่ะ บอกเลยว่าหลายฉากขัดอารมณ์มาก อะไรจะแดงแล้วแดงอีกขนาดนั้น ชนิดที่ทุกพื้นที่บนโลกพร้อมใจกันสาดแสงแดง แสงเหลืองจัด ๆ เขียวแสบ ๆ เต็มไปหมด จนขัดกับบริบทในหลาย ๆ ส่วนที่ตรงกันข้ามกันเสียอย่างนั้น เป็นความคอนทราสต์ที่ไม่สามารถดึงอารมณ์ได้ด้วยซ้ำ

ที่หากทิ้งสเปชให้ถูกที่ถูกเวลามากกว่านี้ ก็จะกลายเป็นการเล่นสีที่น่าสนใจเอามา ๆ และเมื่อรวมกับดนตรีประกอบที่มาบ่อย มาถี่ โดยไม่เว้นช่วงว่างให้คนดูได้ดิ่งไปกับฉากนั้น ๆ เองบ้าง ยิ่งทำให้การขยี้อารมณ์ที่ควรจะได้กลับไม่ได้หน้าตาเฉย ฉากที่ควรลุ้นระทึกกลับกลายเป็นเกินระทึก เอฟเฟกต์เลือดที่สาดกระจายแบบผิดธรรมชาติ ทำให้เหมือนจะน่ากลัวแต่ดันไม่น่ากลัว องค์ประกอบต่าง ๆ ภายในฉากที่ขาดความสมจริงไปมากจนสังเกตเห็น

ฉากที่กำลังจะบีบคั้นกลับเบรกอารมณ์ด้วยมุกโบ๊ะบ๊ะ มุมนี้ผู้เขียนก็เข้าใจว่า ผู้สร้างและผู้กำกับน่าจะมีความหวังดีไม่อยากให้เราต้องดิ่งตามละครที่ควรจะดิ่งนั่นแหละค่ะ แต่ความหวังดีนั้นกลับขัดใจ ทำให้สายอาชญากรรมบีบจิตอย่างเราไม่สาแก่ใจเล้ย จริง ๆ

ความหวังสุดท้ายที่จะรอชมในตอนต่อ ๆ ไป

ความทรงจำของผู้เขียนที่มีต่อซีรีส์ต้นฉบับก็คือ Bad Guys เป็นซีรีส์ที่จูงอารมณ์ของคนดูให้ดิ่งไปกับความสงสัยได้เก่งกาจ ภาพบรรยากาศที่สื่อออกมาสร้างพลังดึงดูดรุนแรงชวนติดตาม เคมีนักแสดงเข้ากันอย่างไม่มีใครโดดเด่นเกินหน้าเกินตาและกินกันไม่ลง บทสนทนาเข้มข้นทำให้คล้อยตามในทุก ๆ ฉาก และการวางปมที่ชวนติดตาม สร้างความสงสัยจนไม่สามารถเดาทางได้เลยแม้แต่นิด เป็นซีรีส์ที่สาแก่ใจอีช้อยยิ่งนัก ความคาดหวังจากการรีเมกครั้งนี้จึงมีมากพอสมควร มากพอ ๆ กับเมื่อครั้งที่ช่อง 3 รีเมก ‘My Love from the Star’ นั่นแหละค่ะ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส