‘The Banshees of Inisherin’ มิตรภาพบาดหมาง กับสงครามกลางเมือง

Release Date

14/12/2022

2022 ‧ Comedy/Drama ‧ 1h 54m

Starring: Colin Farrell, Brendan Gleeson, Kerry Condon, Barry Keoghan

‘The Banshees of Inisherin’ มิตรภาพบาดหมาง กับสงครามกลางเมือง
Our score
8.6

‘The Banshees of Inisherin’ มิตรภาพบาดหมาง กับสงครามกลางเมือง

จุดเด่น

  1. การแสดงในระดับยอดเยี่ยม บทหนังที่คมคาย เคลือบไว้ด้วยสารสำคัญให้ชวนคิดต่อ การถ่ายภาพที่สวยจับใจ

จุดสังเกต

  1. อาจจะชวนให้เบื่อได้ง่าย เพราะการดำเนินเรื่องไม่หวือหวา ตัวละครไม่เยอะ ฉากมีแค่บนเกาะและน้ำทะเล
  • การแสดง

    10.0

  • โปรดักชัน

    9.0

  • บท

    9.0

  • ความบันเทิง

    7.0

  • คุ้มเวลาในการชม

    7.9

ตามตำนานเทพปกรณัมของไอร์แลนด์ แบนชี (Banshee) คือชื่อของผีผู้หญิงที่สวมชุดเสื้อคลุมยาวสีดำ ล่องลอยเลือนลางอยู่ในม่านหมอก หากแบนชีปรากฎตัวขึ้น เชื่อว่าจะมีคนตาย

แม้หนัง ‘The Banshees of Inisherin’ จะได้รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประเภทเพลงหรือตลกจากเวทีลูกโลกทองคำ แต่อย่าถามหาเสียงหัวเราะจากหนังความยาวเกือบสองชั่วโมงเรื่องนี้ เพราะนี่คือหนังตลกร้าย เสียดสี ที่หนักอึ้งกว่าคำว่าคอมเมดี้ เขียนบทและกำกับโดย มาร์ติน แม็กโดนาห์ (Martin McDonagh) ที่เลื่องชื่อมาจาก ‘Three Billboards Outside Ebbing, Missouri’ (2017) เล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของเพื่อนรักสองคนบนเกาะไอนิเชอริน (เกาะสมมติที่อยู่ทางตะวันตกของไอร์แลนด์)  ที่จู่ ๆ ก็เกิดสั่นคลอน เมื่อพาเดร็ก (โคลิน ฟาร์เรล – Colin Farrell) ถูกคอล์ม (เบรนดัน กลีสัน – Brendan Gleson) เมินเ​ฉยและ ‘อันเฟรนด์’ เลิกคบแบบไม่มีสาเหตุ เขาจึงพยายามหาทางสานสัมพันธ์ให้เหมือนเดิม แต่ทุกอย่างกลับแย่ลงเมื่อคอล์มขู่ว่าเขาจะตัดนิ้วทิ้งทีละนิ้ว ทุกครั้งที่พาเดร็กมายุ่มย่ามกับเขา

พาเดร็กเริ่มรู้สึกเหงาและเคว้งคว้าง เขาเป็นชายโสดที่อาศัยอยู่กับน้องสาวที่โสดเหมือนกัน (เคอร์รี คอนดอน – Kerry Condon) ในบ้านที่มีม้าและลาเป็นเพื่อน มิหนำซ้ำเกาะไอนิเชอรินมีแค่เมืองเล็ก ๆ ที่ไม่มีอะไรตื่นตา นอกจากโบสถ์ บาร์ และร้านขายของ โอบล้อมด้วยเนินเขาเขียวและน้ำทะเลสีคราม แลเห็นแผ่นดินใหญ่อยู่สุดสายตา นอกจากคอล์มแล้วอีกคนที่พาเดร็กคุยด้วยอยู่บ่อย ๆ คือโดมินิก (แบร์รี คีโอกัน – Barry Keoghan) หนุ่มที่ดูไม่สมประกอบ ลูกชายของนายตำรวจที่ชอบใช้ความรุนแรง ส่วนตัวละครอื่น ๆ ที่เหลือก็ล้วนแต่มีความผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นแม่ค้าที่ชอบเผือกเรื่องชาวบ้าน หรือหญิงชราลึกลับที่มีลักษณะเหมือนแบนชี

หนังเล่าเรื่องจากมุมมองของพาเดร็กที่รู้สึกแย่กับการห่างเหินของคอล์ม เขาจึงเรียกร้องหามิตรภาพ เรียกร้องให้คนอื่นทำดีกับเขา แต่กลับไม่เคยรู้ว่าตัวเองโง่เขลาแค่ไหน หนังเปี่ยมไปด้วยภาพอันงดงามของธรรมชาติบนเกาะ ทำให้บรรยากาศตอนเริ่มต้นดูรื่นรมย์ แต่กลับค่อย ๆ อึมครึมและมืดมิดในตอนท้าย อดีตเพื่อนรักสองคนค่อย ๆ บ่มเพาะความเกลียดชังและบันดาลโทสะจนชีวิตของทั้งคู่ดิ่งลงเรื่อย ๆ 

นี่เป็นการร่วมงานครั้งที่ 3 ต่อจาก ‘In Bruges’ และ ‘Seven Psychopaths’ ระหว่างผู้กำกับ แม็กโดนาห์ และแฟร์เรลที่เปล่งสำเนียงไอริชได้สมกับเป็นภาษาบ้านเกิด เขาสวมบทพาเดร็กหนุ่มบ้านนอกแสนทึ่มที่ค่อย ๆ ระเบิดอารมณ์ออกมาเพราะความกดดัน ขณะที่กลีสันก็ทำให้ตัวละครคอล์ม ดูมุทะลุ ชอบเอาชนะ และเต็มไปด้วยทิฐิ ที่น่าสนใจคือแฟร์เรลและกลีสันไม่ได้เล่นใหญ่รัชดาลัย แต่ปะทะคารมและอารมณ์กันได้แบบพอเหมาะพอเจาะ เชือดเฉือนกันแบบนิ่ง ๆ เป็นธรรมชาติ แฟร์เรลคว้าลูกโลกทองคำนักแสดงนำชายมาแล้ว และน่าจะมีสิทธิ์ได้เข้าชิงออสการ์ เช่นเดียวกับกลีสัน (สองคนนี้ก็เคยร่วมงานกันมาแล้วใน ‘In Bruges’) รวมไปถึงคีโอกัน ที่โดดเด่นทุกครั้งที่ปรากฎตัวและทำให้โดมินิกเป็นตัวละครที่น่าเห็นใจ

หนังเดินเรื่องแบบเนิบ ๆ ไม่มีไคลแมกซ์ที่ยิ่งใหญ่ แต่กลับน่าติดตามเพราะบทพูดที่คมคายและการแสดงที่นิ่งแต่ทรงพลัง ไม่น่าเชื่อว่านี่คือบทหนังที่แม็กโดนาห์เขียนขึ้นมาใหม่ แต่ออกมาละเมียดละไมไม่ต่างจากนิยายของ เจมส์ จอยส์ นักเขียนชาวไอริช

หนังย้อนเวลากลับไปในปี 1923 ช่วงที่ใกล้จบสงครามกลางเมืองไอร์แลนด์ (Irish Civil War) ที่ในตอนนั้นไอร์แลนด์ถูกแบ่งออกเป็นไอร์แลนด์เหนือ กับเสรีรัฐไอริช ทำให้กองทัพของสาธารณรัฐไอริช หรือไออาร์เอ (Irish Republican Army) ไม่พอใจ และต่อสู้กับฝ่ายรัฐบาลเฉพาะกาล ซึ่งเหตุการณ์นั้นนำมาสู่การแบ่งแยกดินแดนระหว่างไอร์แลนด์เหนือที่เป็นของสหราชอาณาจักร และประเทศไอร์แลนด์ 

แม้สงครามกลางเมืองไอร์แลนด์จะมีระยะเวลาสั้น ๆ ไม่ถึงหนึ่งปี (26 มิถุนายน 1922 – 24 พฤษภาคม 1923) แต่คาดว่ามีผู้เสียชีวิตราว 1,000 ราย

นี่แหละคือสารสำคัญที่ ‘The Banshees of Inisherin’ ต้องการสื่อ 

“ไม่ได้ยินเสียงปืนไรเฟิลจากแผ่นดินใหญ่มาวันสองวันแล้ว มันน่าจะจบแล้วมั้ง” คอล์มเอ่ยขึ้นมา

“ฉันว่าอีกเดี๋ยวพวกเขาก็ยิงกันใหม่ บางอย่างมันเดินหน้าต่อไปไม่ได้ และ​ฉันคิดว่านั่นเป็นเรื่องที่ดี” พาเดร็กตอบ

ความบางหมางระหว่างเพื่อนสองคนอาจจะเกิดขึ้นจากเรื่องเล็ก ๆ ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แต่สุดท้ายความเกลียดชังค่อย ๆ ก่อตัวจนนำมาสู่ความพินาศของทั้งสองฝ่ายที่ไม่มีใครชนะ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส