Release Date
25/01/2023
ความยาว
105 นาที
แนวหนัง
ตลก โรแมนติก
ผู้กำกับ
พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ
นักแสดง
พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ พัชราภา ไชยเชื้อ อนันดา เอเวอริงแฮม รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น
Our score
1.8[รีวิว] ทิดน้อย – ละครตลกสามช่าที่หาจังหวะขำยากไปหน่อย
จุดเด่น
- การแสดงของ รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น ช่วยให้หนังไม่กร่อยจนเกินไป
จุดสังเกต
- เอานักแสดงอย่าง อั้ม และ อนันดา มาฆ่าตายคาจอที่แท้ทรู
- หนังไม่ตลกเลย ทั้งที่คนดูตีตั๋วเข้าไปดูเพื่อจะหัวเราะ
- บทหนังเล่าได้สะเปะสะปะ และ ยืดยาดเกินความจำเป็น
-
การแสดง
2.0
-
โปรดักชัน
2.0
-
บทภาพยนตร์
1.0
-
ความบันเทิง
2.0
-
ความคุ้มค่าในการรับชม
2.0
พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ ในฐานะผู้กำกับเคยผ่านงานมาแล้วทั้ง ‘เท่ง โหน่ง คนมาหาเฮีย’ ‘เท่ง โหน่ง จีวรบิน’ และ’แคท อ่ะ แว่บ!’ ที่ล้วนประสบความสำเร็จด้านรายได้เป็นอย่างดี และในอีกชื่ออย่าง เท่ง เถิดเทิง ก็คือนักแสงตลกที่สามารถข้ามความสำเร็จจากวงการทีวีสู่วงการภาพยนตร์ได้อย่างสวยงามทั้งงานสร้างชื่ออย่าง ‘มือปืน/โลก/พระ/จันทร์’ จนถึง ‘หลวงพี่เท่ง’ ที่สามารถสร้างรายได้ระดับปรากฎการณ์ได้ทั้งคู่
และหลังจากทิ้งทวนงานกำกับไป 8 ปี พี่เท่ง เถิดเทิงก็กลับมาอีกครั้งกับงานกำกับครั้งใหม่อย่าง ‘ทิดน้อย’ หนังที่ขอหยิบตำนานแม่นาคพระโขนงมาเล่าใหม่ในมุมมองของคนแอบรักอย่างตัวละครทิดน้อยที่ถูกมอบหน้าที่ คนตาบอดเพราะความรัก เรียกได้ว่านี่จะเป็นงานหนังตลกปนโรแมนติกเรื่องแรกในพอร์ตโฟลิโองานกำกับของเขา
ณ ทุ่งพระโขนง สาวงามอย่าง นาค (พัชราภา ไชยเชื้อ) เป็นที่หมายปองของหนุ่ม ๆ มากมายรวมถึง มาก (อนันดา เอเวอริงแฮม) หนุ่มหล่อบึกบึนแห่งทุ่งพระโขนง และ ทิดน้อย (เท่ง เถิดเทิง) ชายหนุ่มที่มีตาไว้มองเพียงแต่นาคผู้เดียว และเป็น มาก ที่ได้ใจนาคไปครอบครองแต่หลังจากเขาถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร ทิดน้อยเลยต้องรับหน้าที่คอยดูแลนาคที่กำลังท้องแก่ และในช่วงเวลานี้ที่จะพิสูจน์ใจว่าระหว่างรักแท้ของมาก กับ รักแท้แท้ของทิดน้อย ใครจะได้ครอบครองหัวใจของนาคกันแน่
หลังจากดูหนังแล้วคงไม่ผิดนักหากจะบอกว่าบทหนังของ ‘ทิดน้อย’ ดูจะเป็นการต่อยอดจากละครสามช่าไม่ต่างจากงานชิ้นก่อน ๆ ทั้งการนำตำนานที่คนรู้จักอยู่แล้วมาผูกเรื่องเข้าไปแบบหลวม ๆ และมีซีนทีเล่นทีจริงที่หลายคนคิดถึงจากรายการชิงร้อยชิงล้าน พอคนดูไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องราวอะไรมากนักก็เป็นโอกาสของพี่เท่งเขาล่ะที่จะใส่มุกเข้ามาไม่ยั้ง ซึ่งพี่เท่งก็ใช้บริการจากบรรดานักแสดงตลกที่เป็นพันธมิตรกันทั้งรุ่นเก๋าอย่างพี่โหน่ง หรือ น้าถั่วแระ เชิญยิ้ม ไปจนถึงรุ่นใหม่อย่าง แจ๊ค แฟนฉัน และ รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น ที่มาสร้างสีสันให้หนังได้เป็นอย่างดี
แต่ไฮไลต์จุดขายของหนังจริง ๆ คือการเอา อนันดา เอเวอริงแฮม ที่ไม่ค่อยปรากฎตัวในหนังตลกแนว ๆ นี้มาประกบคู่กับ อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ นางเอกซุปตาร์ที่ร้างจอไปนานกลับมารับบท แม่นาค อีกรอบหลังจากแสดงในเวอร์ชันละครไปเมื่อ 24 ปีที่แล้วก็ทำให้ ‘ทิดน้อย’ มีแนวทางชัดเจนว่ากลุ่มเป้าหมายคือบรรดาแฟนคลับอั้ม รวมถึงคนที่เคยดูหนังที่อนันดาเล่นแล้วอยากเห็นเขาเล่นบทตลกบ้างก็ทำให้หนังดูมีสิ่งที่ชวนติดตามไม่น้อยเลยทีเดียวล่ะ
เพียงแต่ งานกำกับของพี่เท่งก็ยังไม่สามารถทำให้อั้มและอนันดา เก็ตกับการเล่นมุกแบบด้นสดหรือการปล่อยจอยไหลไปกับบทแบบเดียวกับนักแสดงตลกรับเชิญมากมายบนจอได้ เลยทำให้ภาพรวมเองก็ออกมาไม่กลมกล่อมนัก นักแสดงหลักก็ดูจะพยายามแสดงในส่วนที่เล่าเรื่อง แต่ด้วยงานกำกับที่ไม่ได้เน้นการคุมแอ็กติ้งก็ทำให้ภาพรวมการแสดงของทั้งคู่ออกมาดูไม่จืดจนเหมือนนักแสดงฝีมือตกอย่างเห็นได้ชัด
ส่วนนักแสดงตลกก็เอามาสร้างสีสันแบบไม่ได้มีผลกับเรื่องราวเท่าไหร่นัก มิหนำซ้ำคงต้องยอมรับล่ะว่าหากจะประเมินในฐานะหนังตลกเองก็ยังเป็นหาจังหวะที่จะทำให้คนดูขำได้ยาก เพราะการเอาโนว์ฮาว (Know How) การเล่นมุกไปเรื่อยแบบละครสั้นสามช่ามาใช้กับหนังชั่วโมงครึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาเลยกลายเป็นหนังที่ล้นไปทุกส่วนจนบาลานซ์ระหว่างความตลกกับความโรแมนติกอย่างที่มันอยากเป็นไม่ได้
และไม่เพียงมุกตลกที่เล่นอะไรก็ดูผิดจังหวะเท่านั้น แม้แต่ไอเดียที่เป็นจุดขายอย่างการเอาทิดน้อยมาเป็นตัวละครศูนย์กลางในการเล่าเรื่องก็กลับเล่าได้สะเปะสะปะเหมือนไม่รู้ว่าจะวางมันไว้ตรงไหน จะให้คนดูลุ้นว่าทิดน้อยจะเอาชนะใจนาคยังไงก็ดันให้คาแรกเตอร์ทิดน้อยดูไม่ค่อยฉลาด เข้าข้างตัวเองและแสดงความเห็นแก่ตัวออกมาเรื่อย ๆ หรือจะให้คนดูซาบซึ้งกับความเสียสละของทิดน้อยและทำให้เห็นความรักที่มั่นคงของเขา หนังก็กลับไม่ได้ให้น้ำหนักกับเรื่องราวในส่วนนี้มากพอเสียด้วย
และปัญหาสำคัญของหนัง ‘ทิดน้อย’ เลยคือการที่พี่เท่งยังยึดติดกับรสนิยมการดูหนังของตนเอง จนทำให้จังหวะจะโคนการเล่าเรื่องของมันดูเชื่องช้า ย่ำกับที่ และไม่ตอบโจทย์ในการพาผู้ชมยุคใหม่เข้าโรงไปฮากับหนังสักเท่าไหร่ และที่ถือว่าไม่สนใจความเปลี่ยนแปลงของสังคมเลยก็คือบทเดือนของ รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น ที่ยังคงเป็นมุมมองผู้ชายในยุคเบบี้บูมที่เห็นกะเทยเป็นสิ่งแปลกปลอมและหมั่นลวนลามผู้ชายจนดูน่ากลัว
และกล่าวสรุปอย่างโหดร้ายที่สุด การเอาหนังทั้งเรื่องความยาว 105 นาที ที่เล่าเรื่องยืดยาวและมุกตลกไม่ทำงานกับคนดูไปเทียบกับคลิปตลก ๆ ที่มีความยาวเพียงไม่กี่วินาที ก็คงไม่ต้องบอกหรอกนะว่าระหว่างการเสียเงินซื้อบัตรชมภาพยนตร์ในยุคที่เศรษฐกิจฝืดเคืองกับการเปิดคลิปตลกในแอปต่าง ๆ แถมดูได้ทุกที่ ผู้ชมที่ต้องการความบันเทิงแบบทันทีจะเลือกแบบไหน