Release Date
09/03/2023
Episode
10 Episodes
Genre
Romantic Thriller
Cast
Penn Badgley Charlotte Ritchie Amy-Leigh Hickman
Streaming Service
Netflix
Our score
7.5[รีวิวซีรีส์] You Season 4 – ยังดาร์กได้ใจ แม้ใช้สูตรเดิม
จุดเด่น
- การย้ายเรื่องราวไปลอนดอนได้ฉากที่สวยงาม แปลกตาจากซีซันก่อน ๆ
- การเริ่มด้วยแนวนิยาย อกาธา คริสตีเพิ่มความสดใหม่ให้เรื่องราวได้ดี
- นักแสดงใหม่ที่มาในซีซันนี้มีเสน่ห์ น่าติดตาม
- สอดแทรกเรื่องชนชั้นเข้าไปในได้กลมกลืน
จุดสังเกต
- เสียงบรรยายบางช่วงมีผลต่อความน่าติดตาม
- โจ โกลด์เบิร์ก ยังรอดพ้นจากอันตรายได้ง่ายไปหน่อย
-
การแสดง
7.0
-
โปรดักชัน
7.8
-
บทซีรีส์
7.7
-
ความบันเทิง
7.3
-
ความคุ้มค่าในการรับชม
7.8
ตั้งแต่ซีรีส์ ‘You’ เริ่มสตรีมซีซันแรกในปี 2018 มันได้สร้างฐานแฟนคลับทั้งกลุ่มคนที่อ่านนิยายต้นฉบับของ แคโรไลน์ เคปเนส (Caroline Kepnes) และผู้ชมซีรีส์ผ่าน Netflix และที่สำคัญคะแนนของซีรีส์ทาง Rotten Tomatoes ก็ไม่เคยตกไปอยู่ในแดนมะเขือเน่าเลยด้วยซ้ำเลยเป็นสาเหตุให้ซีรีส์ดาร์ก โรแมนติกเรื่องนี้สามารถสานต่อเรื่องราวมาถึงซีซันที่ 4 แล้ว
ในซีซันนี้ โจ โกล์ดเบิร์ก (รับบทโดย เพนน์ แบดจ์ลีย์, Penn Badgley) ได้ย้ายมากบดานในชื่อ โจนาธาน มัวร์ ศาสตราจารย์วรรณกรรมที่ลอนดอนเพื่อหวังมีชีวิตใหม่ แต่หลังจากมีศพปรากฎตัวในห้องของเขาหลังงานปาร์ตี้สุดเหวี่ยง ชีวิตของโจก็กลับมาสู่วงวนของการฆาตกรรมและความลุ่มหลงอีกครั้ง โดยเฉพาะคราวนี้ที่ชีวิตเขาต้องพัวพันกับ เคท กัลวิน (รับบทโดย ชาร์ล็อตต์ ริตชี่, Charlotte Ritchie) ภรรยาของผู้ตายที่ไม่รู้เลยว่าอดีตของเขาผ่านการฆาตกรรมมาอย่างโชกโชน
ซีรีส์ซีซันนี้ถูกแบ่งลงสตรีมมิงเป็น 2 ช่วงเหมือน ‘The Glory’ ซีรีส์เกาหลีแนวดราม่าทริลเลอร์สุดฮิต และหากใครติดตามในช่วงแรกของซีรีส์ที่ลงสตรีมมิงไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์จะพบว่าใน 5 ตอนแรกของซีซันนี้ได้มีการเปิดเผยตัวฆาตกรไปแล้ว ซึ่งหากคิดว่าในช่วงครึ่งแรกซีรีส์ดูจะไปหมกมุ่นกับนิยายแนวหาตัวฆาตกร (whodunit) จนเหมือนขาดเอกลักษณ์ของซีรีส์ ‘You’ ไปจนผิดสังเกต
ในครึ่งหลังอีก 5 ตอนต้องบอกเลยว่าความสนุกแบบซีรีส์ ‘You’ ซีซันแรก ๆ และการหักมุมที่ทำให้เห็นพัฒนาการของตัวละคร โจ โกล์ดเบิร์ก ทำให้ซีซันที่ 4 ของซีรีส์ชุดนี้นำพาทิศทางใหม่ ๆ ให้ซีรีส์เดินต่อไปได้อย่างน่าสนใจ ไม่เพียงแค่การที่ซีรีส์ย้ายการเล่าเรื่องไปที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษและมีการนำสูตรของนิยาย อกาธา คริสตี้ มายั่วล้อได้สุดปั่นป่วนเท่านั้น เหล่าตัวละครสมทบก็ยังมีสีสันน่าติดตามด้วยพฤติกรรมแบบคนอังกฤษที่มีสันดานดิบต่างจากชาวอเมริกันใน 3 ซีซันแรกจนทำให้การเดาตัวฆาตกรมีความท้าทายต่อคนดูมากขึ้นด้วย
ส่วนองค์ประกอบหลักที่ทำให้ซีรีส์ยังน่าติดตามอยู่ก็หนีไม่พ้นงานบทของซีรีส์ที่คราวนี้ดูจะเล่นใหญ่เล่นโต เพราะนอกจากจะเล่าเรื่องนอกอเมริกาเป็นหลักแล้ว ส่วนของเนื้อเรื่องยังกินพื้นที่ทั้ง อังกฤษที่มีทั้งลอนดอนและคฤหาสน์แถบชนบท รวมถึงเนื้อเรื่องบางส่วนที่ไปเล่ากันถึงนครปารีส ประเทศฝรั่งเศส ส่งผลให้งานภาพของหนังดูน่าตื่นตาด้วยโลเคชันสวย ๆ งานสถาปัตยกรรมงาม ๆ คุ้มค่าแก่การชมทุกตอนจริง ๆ ครับ
นอกจากนี้อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าบรรดาตัวละครในซีรีส์มีความน่าสนใจมากนักแสดงก็น่าสนใจไม่แพ้กัน สำหรับ เพนน์ แบดจ์ลีย์ ที่กลับมารับบท โจ ในซีซันนี้ก็ยังทำหน้าที่ได้ดีเช่นเคย เขายังคงเสน่ห์สุดอันตรายเป็นเนิร์ดหนังสือที่พยายามหลีกหนีอดีตอันโชกเลือดและลุคที่มีหนวดเคราในซีซันนี้ของเขาน่าจะโดนใจสาว ๆ ไม่น้อยเลยทีเดียว
ในส่วนของนักแสดงใหม่การได้ ชาร์ล็อตต์ ริตชี่ มารับบท เคต กัลวิน สาวสวยคนใหม่ที่โจให้ความสนใจก็ยิ่งทำให้ตัวละครนี้น่าสนใจโดยเฉพาะการเริ่มจากการเป็นสาวเย็นชาที่ค่อย ๆ เผยความปรารถนาสุดร้อนแรงขึ้น ซึ่งก็ทำให้อารมณ์โรแมนติกของซีรีส์ในซีซีนนี้มีความน่าสนใจมากขึ้น ส่วน เอ็ด สปีลเลอร์ส (Ed Speleers) ก็รับบท รีส นักการเมืองหนุ่มได้อย่างมีเสน่ห์น่าติดตาม และยังมี ทิลลี คีพเปอร์ (Tilly Keeper) สาวสวยมารับบทเลดี้ฟีบี้ ให้ผู้ชมหนุ่ม ๆ ได้กระชุ่มกระชวยหัวใจอีกด้วย
และที่เพิ่มความสนุกให้ซีรีส์ได้ไม่น้อยเลยคือตัวละคร นาเดีย ของ เอมี-ลีห์ ฮิกแมน (Amy-Leigh Hickman) โดยนาเดียเป็นลูกศิษย์ของโจที่มหาวิทยาลัย แต่ด้วยความเชี่ยวชาญในนิยายของ อกาธา คริสตี ก็ทำให้นาเดียกลายเป็นที่ปรึกษาของโจ และยิ่งกว่านั้นนาเดียยังเป็นตัวละครเดียวที่เริ่มหาความจริงเกี่ยวกับโจ จนกลายเป็นทั้งมิตรและศัตรูในซีซันเดียวกัน
เห็นเขียนมาอวยขนาดนี้แต่ต้องยอมรับล่ะครับว่า ‘You’ ก็ยังมีจุดผิดพลาดในเรื่องเดิม ๆ นั่นคือแม้เสียงบรรยายของแบดจ์ลีย์จะดูน่าฟังและเข้ากับคาแรกเตอร์แค่ไหน แต่ยอมรับเลยว่าพอซีรีส์ใช้วิธีนี้ในการบอกความคิดของโจ เราก็แอบรู้สึกเบื่อและอยากได้วิธีการอื่นบ้างเหมือนกัน และยังไม่นับความบังเอิญปนโชคดีที่โจ รอดจากเหตุการณ์ต่าง ๆ มานับไม่ถ้วนที่ทำให้ฉากบางฉากคนดูเหมือนโดนสปอยล์ไปแล้วว่ายังไงโจก็รอด
ยังดีที่บทซีรีส์ถูกเขียนมาให้มีปมต้องติดตามอยู่เรื่อย ๆ โดยเฉพาะปมของตัวละครแวดล้อมที่แต่ละตัวมีเรื่องราวน่าสนใจในตัวเอง ประกอบกับการพูดเรื่องชนชั้นในซีซันนี้ก็ทำให้มันกลับมาอยู่ในความสนใจของผู้ชมได้อีกครั้งจนได้
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส