Release Date
26/04/2023
ความยาวหนัง
110 นาที
แนวหนัง
แอนิเมชัน
ผู้กำกับ
ยูซูรุ ทาชิคาวะ
เขียนบท
ทาเคฮารุ ซากูไร
Our score
7.6[รีวิว] ยอดนักสืบจิ๋วโคนันเดอะมูฟวี่ 26 มฤตยูใต้น้ำทมิฬ – ระทึกกับปมปริศนาจิกหมอนกับซีนโรแมนติก
จุดเด่น
- เป็นโคนันเดอะมูฟวี่ที่ดูสนุกมากอีกภาคหนึ่ง
- มีการนำเทคโนโลยี AI มาเป็นกิมมิกหลักในการดำเนินเรื่องและทำได้สมเหตุสมผลดีด้วย
- งานภาพผสานแอนิเมะ 2D กับซีจีคอมพิวเตอร์ได้เนียนตาและตื่นตาตื่นใจ
- พาร์ทโรแมนติกทำได้ดีใครลุ้นความสัมพันธ์ โคนันกับไฮบาระ ไอมีฟินจิกเบาะแน่นอน
จุดสังเกต
- ยังคงใช้ลูกเล่นเดิม ๆ ทำให้คาดเดาการดำเนินเรื่องง่ายไปหน่อย
- ตัวละครที่เคยมีบทบาทในหนังเรื่องอื่น ๆ อาจจะจางหายไปบ้างเช่น โมริ รัน ที่เหมือนตัวประกอบมาก
- หลายข้อมูลต้องเป็นแฟนโคนันและติดตามมาพอสมควร มิเช่นนั้นอาจจะงงได้
-
งานพากย์เสียง
7.5
-
โปรดักชัน ลายเส้น ซีจี
8.0
-
บทภาพยนตร์
7.5
-
ความบันเทิง
7.5
-
ความคุ้มค่าในการรับชม
7.5
ในที่สุดยอดนักสืบจิ๋วโคนันก็เดินทางมาถึงภาคที่ 26 สำหรับฉบับเดอะมูฟวี่ ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง เด็กซ์ (Dex) ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายแอนิเมะของโคนันทั้งฉบับทีวีและภาพยนตร์ได้ฉาย ‘ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน จุดเริ่มต้นของไฮบาระ ไอ ปริศนารถด่วนทมิฬ’ ไปในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังจากได้ดูมูฟวี่ที่ถูกดัดแปลงจากแอนิเมะในทีวีซีรีส์เพื่อเล่าเรื่องราวของไฮบาระ ไอแล้วก็ถึงคราวที่เราจะได้เป็นประจักษ์พยานการเผชิญหน้าระหว่างคุโด้ ชินอิจิ หรือ โคนัน กับเหล่าองค์กรชุดดำที่หมายเอาชีวิตไฮบาระ ไอกันแบบเดือดพล่าน
เหล่าวิศวกรและเจ้าหน้าที่ระดับสูงมารวมตัวกันที่ แปซิฟิก บุย ศูนย์บัญชาการกลางน้ำของยูโรโพลที่มีเทคโนโลยี AI ในการระบุอัตลักษณ์บุคคลได้ทั่วโลก ในขณะที่โคนันและเพื่อน ๆ ได้รับคำเชิญจากโซโนโกะขึ้นเรือไปดูวาฬที่เกาะใกล้กับฮาจิโจ จิมะ ที่ตั้งของแปซิฟิก บุย แต่แล้วไฮบาระ ไอก็ดันถูกกลุ่มองค์กรชุดดำลักพาตัวขึ้นเรือดำน้ำไปพร้อมกับวิศวกรหญิงคนหนึ่งของยูโรโพลเพื่อค้นหาตัวตนของไฮบาระ ไอว่าใช่นักวิทยาศาสตร์นามว่า เชอร์รี ที่องค์กรชุดดำตามหาตัวอยู่หรือไม่
สำหรับเดอะมูฟวีภาคที่ 26 นี้ได้กลับมาใช้บริการ ยูซูรุ ทาชิคาวะ ผู้กำกับหนังโคนันในภาค 22 ชื่อตอน ปฏิบัติการสายลับเดอะซีโร่ และ ทาเคฮารุ ซากูไร มือเขียนบทหนังโคนันขาประจำมารังสรรค์เรื่องราวในภาคนี้โดยมีจุดเด่นที่การเล่นกับเทคโนโลยีในการสอดส่องประชากรผ่านกล้องวงจรปิดทั่วญี่ปุ่นแล้วใช้ AI ในการเทียบเคียงหาอัตลักษณ์บุคคลโดยสามารถเทียบเคียงกับภาพถ่ายในทุกช่วงวัยได้มาเป็นกิมมิกหลักในการดำเนินเรื่องและเล่นแง่หักมุมในตอนท้ายแถมยังทันสมัยด้วยการหยิบยกเทคโนโลยีดีปเฟคมาเป็นลูกเล่นในหนังอีกด้วย
อีกจุดหนึ่งที่ดูเหมือนจะกลายเป็นจุดขายในภาคนี้โดยปริยายคือการพูดถึงความสัมพันธ์เชิงโรแมนติกระหว่างเอโดงาวะ โคนัน กับ ไฮบาระ ไอ ซึ่งในหนังภาคพิเศษก่อนหน้านี้เหมือนจะมีการปูความกิ๊กกั๊กระหว่างสองนักสืบที่ตัวหดและกลายเป็นเด็กเหมือนกันมาเปรยก่อนหน้านี้ ซึ่งเพื่อความไม่สปอยล์ บอกได้คำเดียวว่าในหนังภาคนี้แอบมีฉากให้ฟินจิกเบาะจนแอบเขินแทนอยู่เหมือนกันครับ
แต่กระนั้นก็ต้องยอมรับว่าลูกเล่นหลายอย่างของโคนันที่ปรากฎในหนังภาคนี้ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายเท่าไหร่ทั้งมุกโคโกโร่ นิทราในการเฉลยคดีหรือวิชาคาราเต้ของรันในฉากแอ็กชันดังนั้นใครคาดหวังความแปลกใหม่นี่ในหนังแอนิเมะโคนันเลยยังไม่ใช่คำตอบครับแต่เหมาะสำหรับแฟนเดนตายที่คาดหวังจะเห็นจุดเด่นในหนังโคนันทุกภาคมากกว่า
อีกสิ่งหนึ่งที่ผมมองว่าหนังโคนันภาคนี้พยายามคืนกำไรให้ผู้ชมคือการปรากฎตัวของบรรดาตัวเอ้ในองค์กรชุดดำโดยเฉพาะการปรากฎตัวของ ปิงก้า ที่เหมือนรองบอสใหญ่ขององค์กรที่มีคาแรกเตอร์โดดเด่นโดยเฉพาะการแฝงกายปลอมตัว และในขณะเดียวกันหนังภาคนี้ยังบอกเรากลาย ๆ ว่าในองค์กรชุดดำเองก็มีความขัดแย้งที่สมาชิกในองค์กรพยายามไต่เต้าให้ได้ตำแหน่งสูง ๆ อีกด้วย
สำหรับ ‘ยอดนักสืบจิ๋วโคนันเดอะมูฟวี่ 26 มฤตยูใต้น้ำทมิฬ’ ก็ถือว่าเป็นหนังโคนันอีกเรื่องที่ดูสนุก ชวนลุ้นระทึกกับปริศนาและที่สำคัญในรอบพิเศษที่ผมได้ชมก็ยังคงพิสูจน์ได้ถึงความเหนียวแน่นของแฟนหนังโคนันที่มีต่อเนื่องเสมอมาจริง ๆ ครับ สำหรับแฟนโคนันที่ไม่ได้ชมรอบพิเศษก็ไม่ต้องเสียใจเพราะหนังจะเข้าฉายในวันที่ 26 เมษายน 2566 นี้ทั่วประเทศครับ