AKA : เจ้าหน้าที่เงา
Run Time : 2h 2m
Action, Crime, Thriller
Director : Morgan S. Dalibert
Writers : Morgan S. Dalibert, Alban Lenoir
Stars : Alban Lenoir, Eric Cantona, Thibault de Montalembert
Our score
6.7[รีวิว] AKA : เก่ง โหด ดุ สมมงอันดับ 1 Netflix
จุดเด่น
- อัดฉากแอ็กชันมาถี่ สะใจคอหนังแอ็กชัน
- ฉากต่อสู้ โหด ดุ รุนแรง เลือดสาด
จุดสังเกต
- ใส่เหตุการณ์ปลีกย่อยมาเยอะ และตัวละครเยอะมาก ต้องใช้สมาธิในการรับชม
- เหลือช่วงเวลาปูความสัมพันธ์ระหว่างอดองกับโจนาธานมาน้อย เลยไม่หนักแน่นพอที่จะให้คล้อยตามกับการเสี่ยงชีวิตไปช่วย
-
คุณภาพงานสร้าง
7.5
-
คุณภาพนักแสดง
6.0
-
บทภาพยนตร์
5.0
-
ความบันเทิงตามแนวหนัง
7.0
-
คุ้มค่าเวลารับชม
8.0
ฝรั่งเศสเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เก่งในเรื่องการสร้างหนังแอ็กชันที่สนุก มันส์ ไม่แพ้ฮอลลีวูด หลาย ๆ เรื่องที่ผู้ชมอาจจะเข้าใจไปว่าเป็นหนังฮอลลีวูดก็อย่างเช่น Taken, Taxi, Transporter, B13-U, From Paris With Love, Leon The Professional เหล่านี้ล้วนเป็นหนังที่สร้างโดยสตูดิโอฝรั่งเศส หรือไม่ก็ทีมงานชาวฝรั่งเศส แต่หลัง ๆ มานี่หนังแอ็กชันฝรั่งเศสฟอร์มใหญ่ก็เว้นช่วงไปนานพอควร จะมีให้เราได้ดูกันบ้าง ก็จะเป็นฟอร์มเล็กที่ได้ดูกันทางสตรีมมิงอย่าง AKA นี่แหละ
เนื้อหาของ AKA นี่จะเรียกได้ว่ามาตามสูตรสำเร็จของหนังแอ็กชันเลยก็ว่าได้ เก็บเล็กผสมน้อยจากเรื่องนั้นเรื่องนี้มายำรวม ๆ กัน แต่ก็ต้องยอมรับว่าเมื่อปรุงรวมกันแล้ว ก็ได้รสชาติที่อร่อย ลงตัว หนังเปิดตัวมาแบบสูตรสำเร็จเลย แนะนำพระเอกของเรื่องด้วยปฏิบัติการสั้น ๆ ให้เราได้เห็นความเก่งในระดับซูเปอร์ฮีโรของพระเอก ที่คนเดียวสามารถรับมือกับศัตรูได้เป็นกองทัพแบบไร้รอยขีดข่วน จากนั้นหนังก็อธิบายให้เรารับรู้ว่า อดอง ฟรองโค พระเอกของเรานั้นเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษของทางการฝรั่งเศส ได้รับมอบหมายภารกิจใหม่ให้ไปตามล่า ม็อกตาร์ ผู้ก่อการร้ายจากซูดาน ที่มากบดานในฝรั่งเศส อยู่ในความดูแลของ วิกเตอร์ ปัสเตอร์ มาเฟียตัวเอ้ที่สนิทสนมกับม็อกตาร์ ภารกิจของอดองคือแฝงตัวเข้าไปสมัครเป็นลูกน้องของวิกเตอร์ และสืบหาที่กบดานของม็อกตาร์ เพื่อชี้ช่องให้กับเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปจับกุมตัว
หนังตั้งโจทย์มาว่า พระเอกของเรามีภารกิจหลักในการตามหาตัวม็อกตาร์ แต่กลายเป็นว่าพออดองได้เข้ามาเป็นลูกน้องของวิคเตอร์แล้ว กลับต้องทำงานที่ได้รับมอบหมายหลากหลาย แต่ก็เป็นข้อดีตรงที่ว่าแต่ละงานนั้นเปิดช่องให้หนังได้ใส่ฉากแอ็กชันดุเดือด ทั้งไปคุมบาร์แล้วตีกับนักเลงที่มาป่วน ไปปล้นธนาคารแล้วกลายเป็นฉากสาดกระสุนกลางถนนที่ชวนให้นึกถึง Heat เลย และที่สำคัญสุดก็คือภารกิจดูแลโจนาธาน ลูกเลี้ยงตัวน้อยของวิคเตอร์ ที่ดูแล้วต้องบอกว่านี่มัน Man on Fire ชัด ๆ แถมยังมีการสืบหาตัวหนอนบ่อนไส้ในแก๊งของวิคเตอร์อีก ทำให้ช่วงกลางเรื่องนี่ทำให้เราลืมภารกิจหลักของอดองไปเลย
อัลเบน เลอนัวร์ (Alban Lenoir) พระเอกของเรื่องนี่ ถ้าดูที่หน้าตาก็ต้องบอกว่าไม่หล่อเอาเสียจริง แต่ด้วยความบึกบึนทะมัดทะแมง ก็ดูสมกับบทบาทอดีตทหารรับจ้างดี เลอนัวร์เข้าวงการมาตั้งแต่ช่วงปลายยุค 90’s นู่น ไต่เต้ามาจากการเป็นสตันท์แมนมาหลายเรื่อง รวมถึง Taken ด้วย ผ่านมา 20 ปี ถึงได้โอกาสก้าวมาอยู่หน้าจอบ้าง เคยผ่านบทพระเอกมาแล้วจาก Lost Bullet ภาค 1 และ ภาค 2 ที่มีให้ดูบน Netflix นี่แหละ พอมารับบทเป็น อดอง ฟรองโค ก็มาในมาดเดียวกับ John Wick เลย คือหน้านิ่งไม่แสดงสีหน้าอารมณ์ พูดน้อย ต่อยเยอะ แล้วบท อดอง ฟรองโค ก็เปิดโอกาสให้เขาแสดงความสามารถในฉากแอ็กชันมากมาย ต่อสู้มือเปล่า อาวุธทั้งมีดและปืน หักแขนหักขาคนหน้าตาเฉย เชื่อว่า AKA นี่เปิดโอกาสให้เลอนัวร์ได้ฉายรัศมีและต่อยอดให้เขาขึ้นเป็นพระเอกแอ็กชันที่น่าจับตามองอีกคน ปีนี้เลอนัวร์เพิ่งจะ 42 ปี ยังหากินกับงานแอ็กชันได้อีกหลายปี ดู เลียม นีสัน ไว้เป็นตัวอย่างได้
ส่วนผู้กำกับ มอร์แกน เอส. ดาลีเบิร์ต (Morgan S. Dalibert) นั้น เรื่องนี้เหมารวมหน้าที่ทั้งกำกับและเขียนบท ก็ถือว่าสอบผ่านนะ ทั้งที่เพิ่งจับงานกำกับหนังยาวเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 เอง ดาลีเบิร์ตก้าวมาจากผู้กำกับภาพ เคยร่วมงานกับเลอนัวร์มาแล้วจาก Lost Bullet 2
แม้ว่า AKA จะเป็นหนังแอ็กชันอย่างชัดเจน แต่จุดเดือดของหนังกลับไม่ใช่ฉากไคลแมกซ์ของเรื่อง แต่เป็นเรื่องราวระหว่างทางเสียมากกว่า ทั้งฉากปล้นธนาคาร และฉากอดองลุยเดี่ยวไปถล่มแก๊งตรงข้ามถึงถิ่น แต่ละฉากนั้นลากยาว ดูสนุก น่าติดตาม เห็นถึงการวางแผนที่ดี ใช้ตัวแสดงมาก มีทั้งใช้มีด ปืน กำปั้น และข้าวของรอบตัวที่หยิบมาเป็นอาวุธ ฉากฆ่าโหดหวาดเสียว บางรายถึงกับร้อง ‘หยึย’ ออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ถ้าได้ดูบนจอใหญ่น่าจะได้อรรถรสกว่านี้อีก บวกกับการที่เราได้รู้จักตัวตนของอดองมาพอควร ว่าเขาเป็นนักฆ่าที่โหด ยิงหัวกบาลเลยแบบไม่ต้องเจรจากัน ฆ่าคนได้แบบตาไม่กะพริบ แต่พอถึงฉากไคลแมกซ์ท้ายเรื่องนั้น กลับไม่ได้เล่นใหญ่เท่าฉากก่อนหน้า แต่ทางผู้สร้างเลือกที่จะใช้ฉากนี้เผยเรื่องราวหักมุมเสียมากกว่า ว่าใครคือคนร้ายที่แท้จริงของเรื่องนี้ ซึ่งก็พลิกล็อกแหละแต่ก็พอคาดเดาได้ ไม่ใช่บทเฉลยที่ชวนเหวอมากมายนัก
อย่างที่กล่าวไป หนังมีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมายที่ยัดใส่รวมมาในเวลา 2 ชั่วโมง 2 นาที ทำให้กระจายและลงลึกเนื้อหาบางส่วนได้ไม่มากพอ อย่างเช่นปูมหลังของอดอง ในฐานะพระเอกของเรื่อง ผู้มีปมในอดีตพอควร แต่หนังก็มีฉากแฟลชแบ็กแค่สั้น ๆ ส่วนใหญ่อาศัยเล่าผ่านบทสนทนาให้คนดูปะติดปะต่อเอาเอง เผยให้เห็นเขาว่ามีปัญหาแผลใจบางอย่างในช่วงวัยรุ่น ที่ยังฝังใจและส่งผลให้เขารู้สึกผูกพันกับโจนาธาน ซึ่งตรงนี้ก็เป็นอีกแผลเล็ก ๆ ของหนัง ตรงที่ว่าหนังเหลือเวลาให้คนดูได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างอดองกับโจนาธานน้อยมาก ได้พูดคุยกันแค่ไม่กี่นาที แต่กลับเป็นฝ่ายโจนาธานที่รู้สึกชอบพอในตัวอดอง จึงต้องใช้เรื่องราวในอดีตของอดองมาเสริมในจุดนี้ เพื่ออธิบายว่าทำไมอดองถึงต้องยอมฝ่าดงกระสุนไปช่วยโจนาธานออกมา
อีกปัญหาหนึ่งของหนังก็คือจำนวนตัวละคร ที่เยอะมากจริง ๆ โดยเฉพาะตัวละครที่เป็นลูกน้องของวิคเตอร์ แรก ๆ ก็พอจำได้อยู่หรอก แต่นานเข้าก็จำชื่อจำหน้าไม่ไหวจริง ๆ โดยเฉพาะพวกผิวดำที่ดูเหมือน ๆ กันไปหมด มีบางตัวก็โดนทิ้งหายไปอย่างน่าเสียดาย อย่างเช่น บ็อกดัน ชายร่างยักษ์ที่โดนอดองเล่นงานตั้งแต่ต้นเรื่อง ที่คาดว่าน่าจะเป็นตัวปัญหาสำหรับอดอง แต่ก็ถูกส่งไปรักษาตัวแล้วก็หายไปเกือบทั้งเรื่องเลย พอกลับมาก็ไม่ได้มีพิษสงอะไรมากนัก และความสัมพันธ์ในครอบครัววิคเตอร์อีก ที่ต้องตั้งใจฟังบทสนทนาถึงจะพอไล่ตามได้ว่า วิคเตอร์ เมีย ลูกสาว ลูกชาย นี่เกี่ยวดองกันอย่างไรบ้าง อีกตัวละครที่ควรแก่การเอ่ยถึง ก็คือ เอริก ก็องโตนา (Eric Cantona) นักบอลระดับตำนาน ที่แขวนสตั๊ดแล้วก็มาเอาดีในวงการแสดง มารับบทสำคัญเป็น วิคเตอร์ ปัสเตอร์ ด้วยวัยบวกกับหนวดเครา แล้วเหมาะมากกับเจ้าพ่อใหญ่ ที่ดูน่าเกรงขาม
สรุป AKA เป็นหนังแอ็กชันที่ออกมาตอกย้ำมาตรฐานของหนังแอ็กชันฝรั่งเศส ว่านี่คือของจริง แม้เนื้อหาจะวนเวียนหากินกับของเก่า แต่ก็เล่าออกมาได้สนุกน่าติดตาม ตอบสนองคอหนังแอ็กชันได้อย่างน่าพอใจ โดยไม่ต้องใช้ทุนสร้างมหาศาล แต่มี ครบหมดทั้งฉากสาดกระสุน ยิงกันเลือดสาด ฉากฆ่าโหด ๆ คนตายในเรื่องหลายสิบล่ะ น้อง ๆ John Wick เลย