[รีวิวซีรีส์] Doctor Cha – เมื่อแม่บ้านสุดทน จนต้องลุกขึ้นทำตามฝัน

Our score

7.4

[รีวิวซีรีส์] Doctor Cha – เมื่อแม่บ้านสุดทน จนต้องลุกขึ้นทำตามฝัน

จุดเด่น

1. นักแสดงมากฝีมือ สมบทบาท ทำให้เราเชื่อในตัวละครได้จริง
2. สนุกสนานเฮฮา แต่ปมดราม่าหนักหน่วงชวนคิด
3. สะท้อนสังคมและค่านิยมบางอย่างที่มีต่อผู้หญิงในเกาหลี
4. จุดประกายให้แง่คิด สร้างแรงบันดาลใจ

จุดสังเกต

1. การดำเนินเรื่องเอื่อย ๆ บ้างเป็นบางช่วง
2. ไม่เน้นเรื่องการแพทย์หรือการรักษาที่สมจริง หากใครตั้งใจมาดูฉากผ่าตัดหรือฉากรักษาคนไข้แบบเน้น ๆ อาจผิดหวัง

• บท

  8.0

• โปรดักชัน

  6.5

• การดำเนินเรื่อง

  7.0

• ความสนุกตามแนวซีรีส์

  8.0

ซีรีส์ ‘Doctor Cha – คุณหมอชา’ เป็นซีรีส์เกาหลีแนวดราม่า/วงการแพทย์/การเติบโต มีความคอมเมดี้ตลกร้าย ผสมผสานดราม่าและปมปัญหาสารพัดสารพันของผู้หญิงเกาหลี หรือถ้าเจาะจงกว่านั้นก็คือ “แม่บ้าน” ที่ถูกกดทับจากสังคมในทุกทาง ซึ่งแม้การนำเสนอจะมีความสนุกสนาน เฮฮา ชวนลุ้นไปกับตัวละคร แต่ประเด็นลึก ๆ กลับหนักหน่วงชวนเก็บมาคิด จนกลายเป็นซีรีส์ Netflix ที่หลายคนกำลังติดงอมแงม

ซีรีส์ความยาว 16 ตอนเรื่องนี้ฉายทางช่อง JTBC เป็นผลงานของนักเขียนจองยอรัง (Jung Yeo-Rang) ซึ่งมีผลงานเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ส่วนผู้กำกับคือคิมแดจิน (Kim Dae-Jin) ผู้เคยมีประสบการณ์กำกับซีรีส์ชื่อดังมาหลายเรื่อง อย่างซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ ‘Kill Me, Heal Me’ หรือจะเป็นซีรีส์สืบสวนสอบสวนระทึกขวัญ ‘Less Than Evil‘ ก็ผ่านมือเขามาแล้ว ส่วน ‘Doctor Cha’ จะสนุกน่าติดตามแค่ไหน ลองมาดูรีวิวกันได้เลย

เรื่องย่อ: ชาจองซุก (รับบทโดย ออมจองฮวา – Uhm Jung-Hwa) แต่งงานกับ ซออินโฮ (รับบทโดย คิมบยองชอล – Kim Byung-Chul) สามีผู้เป็นหัวหน้าศัลยแพทย์ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย ในอดีตเธอเคยเป็นนักเรียนแพทย์ผู้เก่งกาจ ผลการเรียนดี แต่กลับหันหลังให้เส้นทางการแพทย์เพราะต้องแต่งงานและมาเป็นแม่บ้าน ชีวิตการแต่งงานตลอด 20 ปีคือการอยู่เพื่อสามี แม่สามี และลูก ๆ เท่านั้น

จนวันหนึ่งชาจองซุกรู้ว่าตัวเองป่วยเป็นโรคตับอักเสบเฉียบพลันและต้องปลูกถ่ายตับ ช่วงเวลานี้เองที่เธอค้นพบว่า ความทุ่มเทตลอด 20 ปีกลับไม่มีใครเห็นคุณค่า ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ต้องอดทนเก็บไว้ เมื่อผ่านพ้นความตายแม่บ้านอย่างเธอเหมือนได้เกิดใหม่ และต่อไปนี้เธอจะไม่ใช้ชีวิตเพื่อใครแต่เพื่อตัวเอง

ตั้งแต่เปิดเรื่องมา ‘Doctor Cha’ สาดความอึดอัดใส่ผู้ชมอย่างเราด้วยชีวิตจืดชืด น่าเบื่อ และถูกกดดันจากคนในครอบครัวของชาจองซุก เธอเป็นแม่บ้านเต็มเวลา หน้าที่เริ่มตั้งแต่ตื่นนอน ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมอาหาร ทำความสะอาด เอาอกเอาใจคนในบ้านทุกอย่าง รวมถึงต้องรับมือกับแม่สามีจอมวางอำนาจ เมื่อไรที่ถูกต่อว่า เธอเลือกจะทำงานหนักมากกว่าเดิมเพื่อให้พวกเขาเห็นคุณค่าของตัวเอง แต่ท้ายที่สุดเมื่อผ่านความเป็นความตายมาได้ เธอก็เบิกเนตร ตระหนักรู้เหมือนเกิดใหม่ว่าจริง ๆ แล้วต้องทนใช้ชีวิตเพื่อคนอื่น (ที่ไม่เห็นคุณค่าของเรา) ไปเพื่ออะไร

ช่วงแรกของซีรีส์นำเสนอภาพชีวิตของคนทั่วไปได้อย่างสมจริง ชีวิตคนเราบางครั้งก็จำเป็นต้องวางมือจากความฝัน เลือกเดินทางที่แตกต่างออกไป แต่แล้ววันหนึ่งหากเราอยากกลับไปทำสิ่งที่ฝันไว้ หรืออยากลองลุกขึ้นมาใช้ชีวิตเพื่อตัวเองบ้างล่ะ เราจะสามารถทำได้หรือไม่ สิ่งที่ ‘Doctor Cha’ บอกเราก็คือไม่มีใครแก่เกินเรียน ไม่มีใครแก่เกินทำตามความฝัน ขอแค่กล้าลุกขึ้นมาและทำเพื่อตัวเอง

นอกจากปมเรื่องการถูกกดทับและการออกมาใช้ชีวิตเพื่อตัวเองแล้ว ซีรีส์เรื่องนี้ยังคงกลิ่นอายตามแบบฉบับซีรีส์เกาหลี คือนำเสนอเรื่องความสัมพันธ์ชุลมุนยุ่งเหยิงได้อย่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นชีวิตแต่งงานที่จืดจางของชาจองซุกและสามีที่ปัจจุบันแยกห้องนอน แถมสามีของเธอยังแอบกิ๊กกับรักครั้งแรกของตัวเองอย่าง ชเวซึงฮี (รับบทโดย มยองเซบิน – Myung Se-Bin) ซึ่งทำงานอยู่ในโรงพยาบาลเดียวกัน ส่วนทางฝั่งชาจองซุกเองก็ดูเหมือนจะมีคุณหมอหนุ่มสุดหล่อมากฝีมือ รอยคิม (รับบทโดย มินอูฮยอก – Min Woo-Hyuk) มาหลงเสน่ห์แบบไม่รู้ตัว

ต้องบอกว่านักแสดงทุกคนเล่นใหญ่ได้ถึงใจ ไม่ว่าจะเป็นคิมบยองซอลในบทผัวตัวดี สามีตัวร้าย ที่ออกมาแต่ละทีทำเอาเราอยากเข้าไปตบแทนนางเอกถึงในจอ เพราะเล่นได้น่าหมั่นไส้เกินทนแถมบทยังส่งแบบสุดตัวอีกต่างหาก นอกจากนี้ยังมีมยองเซบินที่เล่นบทร้ายได้ลึกให้เราระแวงอยู่ตลอดว่าเธอจะใช้วิธีไหนแย่งสามีของนางเอกไปครอบครอง แถมยังมีมินอูฮยอกในบทคุณหมอหนุ่มแสนอบอุ่น เข้าอกเข้าใจ คอยสนับสนุนและให้กำลังใจนางเอกทุกทางมาร่วมสร้างสีสัน ชวนให้ลุ้นว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับตัวเอกอย่างชาจองซุกจะพัฒนาไปมากกว่านี้หรือไม่

ท้ายที่สุดก็คือคุณหมอชาของเราที่รับบทโดยออมจองฮวา นักแสดงสาวมากฝีมือที่สามารถถ่ายทอดอารมณ์และบรรยากาศของแม่บ้านผู้สงบเสงี่ยมกับคุณหมอสาวมือใหม่ได้อย่างถึงเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นช่วงฮาหรือช่วงดราม่าหนัก ๆ ก็สามารถสื่ออารมณ์ผ่านแววตาได้อย่างชัดเจน ยิ่งตอนที่ความกดดันในครอบครัวมาถึงจุดแตกหักและทุกอย่างระเบิดออกมา ก็รู้สึกได้เลยว่าคน ๆ นี้เปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ และต่อจากนี้เธอจะลุกขึ้นมาค้นหาคุณค่าของตัวเอง การแสดงของเธอทำให้เราเชื่อในตัวละครได้ไม่ยาก

ส่วนใครที่เห็นซีรีส์ปะหน้าว่าเป็นเรื่องราวของการแพทย์ก็ต้องบอกก่อนว่าเรื่องนี้อาจจะไม่มีฉากผ่าตัดหรือรักษาคนไข้แบบสมจริงระทึกใจ เพราะเนื้อหาเน้นเล่าเรื่องราวการเติบโตและนาฬิกาชีวิตที่กลับมาเริ่มเดินอีกครั้งของคุณหมอสาวใหญ่ที่เคยทิ้งความฝันของตัวเองไป แต่เราก็ยังพอได้เห็นบรรยากาศของการรักษาคนไข้และชีวิตในโรงพยาบาลแบบบาง ๆ

นอกจากปัญหาเรื่องความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวและการถูกกดจากสามีและแม่สามีแล้ว เรายังได้เห็นปัญหาอีกหลายอย่างที่คิดว่าจะเป็นปมใหญ่ให้ตัวละครแต่ละตัวในเรื่องก้าวผ่านในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องอายุกับการทำงาน การกดดันให้ลูกเดินตามรอยตัวเอง ปัญหาแม่ผัว-ลูกสะใภ้ รวมถึงเรื่องการนอกใจและลูกนอกสมรส ถือว่าทิ้งปมได้อย่างน่าติดตามสำหรับซีรีส์ที่ตอนนี้ฉายมาได้เกือบ ๆ ครึ่งทาง แต่ถึงแม้จะมีประเด็นหนักขนาดนี้ การนำเสนอก็ยังมีความสนุก ฮา กลมกล่อม ดูได้แบบไม่เครียดจนเกินไปแน่นอน

สรุป

‘Doctor Cha’ เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่สนุก ดูเพลิน มีความตลกร้ายและมีประเด็นหลายอย่างให้นำมาขบคิด เพราะชีวิตคนเราสามารถทำผิดพลาดได้ตลอด บางครั้งเราอาจจะตัดสินใจใช้ชีวิตแบบทิ้งความฝัน ด้อยค่าตัวเอง แต่เมื่อไรที่เราคิดได้และเริ่มกลับมาเห็นคุณค่าของตัวเองอีกครั้ง แม้การตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงอาจนำพาไปเจอเรื่องไม่คาดคิด แต่เราอาจพบคุณค่าของตัวเองที่ตามหามานานก็ได้

สามารถรับชมซีรีส์ ‘Doctor Cha – คุณหมอชา’ ตอนใหม่ได้ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ทาง Netflix

ที่มา: AsianWiki

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส