[รีวิวซีรีส์] Delete – ตีแผ่เรื่องซ่อน/หา(ย) สุดดาร์กในสังคมไทยได้ชวนติดตาม
Our score
8.3

Release Date

28/06/2023

จำนวนตอน

8 ตอน

แนวซีรีส์

ระทึกขวัญ สืบสวนสอบสวน

ผู้กำกับ

ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ

นักแสดง

นพชัย ชัยนาม ณัฏฐ์ กิจจริต ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์ ษริกา สารทศิลป์สุภา

[รีวิวซีรีส์] Delete – ตีแผ่เรื่องซ่อน/หา(ย) สุดดาร์กในสังคมไทยได้ชวนติดตาม
Our score
8.3

[รีวิวซีรีส์] Delete – ตีแผ่เรื่องซ่อน/หา(ย) สุดดาร์กในสังคมไทยได้ชวนติดตาม

จุดเด่น

  1. เป็นซีรีส์ที่มีบทที่แข็งแรง วางปมดีละเอียดละออ
  2. การแสดงระดับเทพทั้งทีม
  3. งานโปรดักชันระดับโลกฝีมือคนไทยที่แท้จริง

จุดสังเกต

  1. ในส่วนการหักมุมตอนท้ายส่งผลกับความน่าเชื่อถือของเรื่องไปอย่างน่าเสียดาย
  2. การแสดงของ ฟ้าษริกา และ เจ้านาย ยังดึงฝีมือออกมาจากเสน่ห์ส่วนตัวไม่ได้
  • บทซีรีส์

    8.5

  • การแสดง

    8.0

  • โปรดักชัน

    9.0

  • ความบันเทิง

    8.0

  • ความคุ้มค่าในการรับชม

    8.0

เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ ‘ทีไทย ทีมันส์’ ของ Netflix ที่หลายคนเฝ้าจับตาสำหรับซีรีส์ ‘Delete’ ที่หยิบจับพลอตแนวแฟนตาซีดาร์ก ๆ ที่เราไม่ค่อยได้เห็นในคอนเทนต์ไทยมาผูกโยงเรื่องราวเกี่ยวกับโทรศัพท์เครื่องหนึ่งที่สามารถลบคนคนหนึ่งได้จริง ๆ ผ่านงานกำกับของ โอ๋ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ ที่มีงานหนังสยองขวัญทั้ง “ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ” รวมถึงหนังสั้น “ฝนตกที่ห้วยขาแข้ง” ในโครงการคีตะราชันย์

การหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของ ลิลลี (ษริกา สารทศิลป์ศุภา) ทำให้ เอม (ณัฏฐ์ กิจจริต) นักเขียนพ็อกเก็ตบุ๊คและพิธีกรรายการชื่อดัง-ชายชู้ และ ทู (ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์) สามีเจ้าของฟาร์มผู้ทรงอิทธิพลของลิลลีต่างออกตามหาเธอ โดยมีเบาะแสสำคัญคือโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งที่ลิลลี ได้เคยใช้มันลบเด็กสาวในซูเปอร์มาร์เก็ตอย่างไม่ตั้งใจ โดยมี ยุทธชัย (นพชัย ชัยนาม) สายสืบที่หมกมุ่นกับคดีคนหายอย่างไร้ร่องรอยคอยตามสืบและต่อจิ๊กซอว์เหตุการณ์นี้ทีละชิ้น ๆ จนได้คำตอบที่เกินใครจะคาดคิด

จุดแข็งที่ดีมาก ๆ ของซีรีส์ ‘Delete’ คือบทของซีรีส์ที่มีการวางปมแต่ละปมยั่วล้อไปกับสารทางการเมืองที่มันต้องการสื่อสารออกมา โดยเฉพาะคดี “อุ้มหาย” ที่ถูกแทนภาพเปรียบเปรย (Allegory) ด้วยโทรศัพท์ที่สามารถลบคนให้หายไปได้ ทำให้ปมเรื่องที่ดูเหมือนแฟนตาซีสุดกู่กลับฉายภาพและบรรยากาศคุ้นเคยในสังคมไทยผ่านเสียงข่าวในทีวีทั้งกรณีการอุ้มหายของนักเรียงร้องสิทธิพลเมืองอย่างทนาย สมชาย นีลไพจิตร และ บิลลี่ พอละจี รักจงเจริญ ชาวกะเหรี่ยงที่เรียกร้องสิทธิในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน รวมไปถึงคดีฆาตกรรมมากมายที่หนังเอามาอ้างอิงถูกนำมาเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ “การหายไป” ถูกใช้เพื่อสร้างความสยดสยองในความรู้สึกผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Beartai Buzz รีวิวซีรีส์ Delete
Beartai Buzz รีวิวซีรีส์ Delete

ไม่เท่านั้นบทหนังที่โอ๋ ภาคภูมิ เขียนร่วมกับ จิรัสยา วงศ์สุทิน และ ทศพร เหรียญทอง ยังละเอียดลออในการเล่นกับปมเรื่องทั้งส่วนที่เป็นโมทีฟอย่าง มือถือลบคนได้ ที่ไปสัมพันธ์กับพ็อกเก็ตบุ๊ค ‘Lost and Found’ การวางตัวละครผู้มีอิทธิพลที่ปรากฎตัวพร้อมเสียงดังปังของปืนพก หรือกระทั่งความน่ากลัวของตำรวจสอบสวนให้ภาพเดจาวูของผู้มีส่วนร่วมในการอุ้มหายได้อย่างน่าขนลุก

อีกส่วนที่โดดเด่นมาก ๆ คืองานถ่ายภาพของ สีบาน นฤพล โชคคณาพิทักษ์ ที่เรียกได้ว่าโดดเด่นไปอีกขั้นทั้งการวางเฟรมในฉากไล่ล่า การเล่นกับตำแหน่งตัวละครกับสถานที่ที่สามารถเล่าเรื่องได้ในตัวของมัน หรือกระทั่งฉากง่าย ๆ อย่างคู่รักและชู้อยู่ด้วยกันก็ยังจัดแสงให้อุ่นไอและความเย็นชาที่ต่างกัน จนเรียกได้ว่าสมค่ากับงานอินเตอร์ที่จะลงแพลตฟอร์มสตรีมมิงระดับโลกอย่าง Netflix จริง ๆ

ในส่วนการถ่ายทอดบทบาทที่ได้นักแสดงระดับหัว ๆ ของวงการหนังไทยทั้ง ณัฏฐ์ กิจจริต, ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์ และ ปีเตอร์ นพชัย ชัยนาม นั้นแทบจะกลายเป็นสนามปล่อยพลังการแสดงระดับอัลติเพราะทั้งความผิดบาปของณัฏฐ์ ความคลั่งที่รอปะทุของไอซ์ซึ รวมไปถึงความเยือกเย็นของปีเตอร์ล้วนมีส่วนช่วยให้ ‘Delete’ กลายเป็นงานที่แทบละสายตาจากจอไม่ได้เลยทีเดียว

Beartai Buzz รีวิวซีรีส์ Delete
Beartai Buzz รีวิวซีรีส์ Delete

จะมีติดจริง ๆ เห็นจะเป็น ฟ้า ษริกา สารทศิลป์ศุภ และ เจ้านาย จินเจษฏ์ วรรธนะสิน ที่รู้สึกว่าพวกเขายังดึงการแสดงออกมาจากเสน่ห์เฉพาะตัวไม่ได้จนผู้ชมไม่อาจรู้สึกเห็นใจหรือร่วมลุ้นกับชะตากรรมของตัวละครได้เท่าใดนัก แต่เซอร์ไพร์สในส่วนนักแสดงจริง ๆ ขอยกให้ ชาร์เลท วาศิตา แฮเมเนา ในบทจูนน้องสาวของทูที่มีปมบางอย่างกับลิลลีที่สามารถดึงปมทางจิตวิทยาของตัวละครมาถ่ายทอดได้อย่างละเอียดละออและสร้างความเห็นอกเห็นใจให้ตัวละครของเธอได้แม้การกระทำของจูนจะห่างไกลจากเด็กน่ารักในสายตาผู้ใหญ่ก็ตาม

กระนั้นแล้วตัวซีรีส์ก็ยังอุตส่าห์มีแผลใหญ่ในตัวเองอยู่ดี เมื่อตอนท้าย ๆ มันเริ่มเล่นใหญ่ขยายปมของเรื่องให้ซับซ้อนขึ้นแต่บางคาแรกเตอร์ผู้ชมกลับรู้จักหรือซึมซับข้อมูลบางอย่างน้อยเกินไปหรือกระทั่งการเปลี่ยนบทบาทพลิกไปพลิกมาในเวลาแค่ 8 ตอนก็ส่งผลกับความน่าเชื่อถือและแอบทำให้ผู้ชมคาดเดาเหตุการณ์ต่อไปได้ไม่ยากนัก ยังดีที่ตอนจบซีรีส์หาทางแลนดิ้งได้ไม่น่าเกลียดนักเลยทำให้ ‘Delete’ เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ไทยบน Netflix ที่ลบคำสบประมาทได้สำเร็จไปอีกชิ้นหนึ่งนั่นเอง

Beartai Buzz รีวิวซีรีส์ Delete
กดที่ภาพเพื่อชมซีรีส์ทาง Netflix

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส