[รีวิว] The Out-Laws : คอมเมดี้ที่ขยันยิงมุกทุกนาทีแต่ไม่ติดเลยสักมุก
Our score
2.0

Release Date

07/07/2023

Rate

R

Run Time

1h 35m

Genre

Action, Comedy, Crime

Director

Tyler Spindel

Writer

Ben Zazove, Evan Turner

Stars

Adam Devine, Pierce Brosnan, Ellen Barkin

[รีวิว] The Out-Laws : คอมเมดี้ที่ขยันยิงมุกทุกนาทีแต่ไม่ติดเลยสักมุก
Our score
2.0

[รีวิว] The Out-Laws : คอมเมดี้ที่ขยันยิงมุกทุกนาทีแต่ไม่ติดเลยสักมุก

จุดเด่น

จุดสังเกต

  1. อึดอัดกับมุกที่ยัดเยียดจนถี่ยิบ แต่ไม่ขำเลย
  2. นักแสดงไม่มีคนปกติธรรมดา
  3. บทหลงทาง จะคอมเมดี้แต่ก็มีฉากยิงหัวกบาล
  4. สงสาร เพียร์ซ บรอสแนน ที่ต้องมาอยู่ในหนังคุณภาพแบบนี้
  5. อดัม เดวีน ยังขาดเสน่ห์ไม่พอที่จะเป็นพระเอกของเรื่องได้
  • โปรดักชัน

    6.0

  • นักแสดง

    2.0

  • บทภาพยนตร์

    1.0

  • ความบันเทิง

    1.0

  • คุ้มค่าเวลารับชม

    0.0

The Out-Laws ผลงานสร้างของ ‘Happy Madison’ บริษัทสร้างหนังของ อดัม แซนด์เลอร์ (Adam Sandler) ที่รอบนี้เจ้าตัวไม่ได้กลับมารับบทนำ แต่มอบหมายให้ อดัม เดวีน (Adam Devine) นักแสดงอารมณ์ดีมารับบทนำแทน หลาย ๆ คนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาเดวีนจาก ‘Pitch Perfect’ และ ‘Jexi’และหน้าที่กำกับเป็นของ ไทเลอร์ สพินเดล (Tyler Spindel) ที่กำกับหนังคอมเมดี้มาแล้วหลายเรื่องทั้งภาพยนตร์และทีวีซีรีส์ และรอบนี้ก็เป็นผลงานที่สร้างเพื่อสตรีมมิงทาง Netflix โดยเฉพาะ หลังปล่อยออกมาไม่กี่วันหนังก็ขึ้นอันดับ 1 ได้ในหลายประเทศ ก็น่าจะด้วยบารมีของ เพียร์ซ บรอสแนน นั่นแหละ

เนื้อหาของ ‘The Out-Laws’ มาในสไตล์ ‘Meet the Parents’ ที่เราคุ้นเคยกันดี เพราะฮอลลีวูดขยันสร้างหนังคอมเมดี้พล็อตแบบนี้ออกมาหลายเรื่องละ เมื่อ โอเว็น บราวนิง บทของ อดัม เดวีน กำลังจะแต่งงานกับ พาร์กเกอร์ แม็กเดอร์มอตต์ (นินา เดเบรฟ – Nina Debrev) ก็เลยเป็นโอกาสที่ต่างฝ่ายต่างจะได้เจอกับพ่อแม่ของฝ่ายตรงข้าม พอวางพล็อตมาแนวนี้ แน่ล่ะ ที่บทหนังต้องเขียนให้พ่อแม่แต่ละฝ่ายมีความประหลาดผิดมนุษย์มนาเผื่อเป็นช่องทางในการสอดแทรกมุกได้มากมาย อย่างใน ‘The Out-Laws’ จึงเลือกเขียนให้ บิลลี่ และ ลิลลี่ แม็กเดอร์มอตต์ พ่อและแม่ของพาร์กเกอร์นั้น เป็นคู่ผัวตัวเมียที่ลึกลับ เพราะอยู่ในป่าแอฟริกาและบินมาเพื่องานแต่งงานนี้โดยเฉพาะ ก่อนที่จะเปิดเผยว่าทั้งคู่เคยเป็น โจรผัวเมียชื่อกระฉ่อนมีฉายาว่า “โกสต์แบนดิต” เคยก่อเหตุปล้นธนาคารมาแล้วนับร้อยครั้ง ก่อนจะโกง ‘เรฮาน’ เพื่อนร่วมแก๊ง แล้วบินหนีไปกบดานที่แอฟริกา การกลับมาของทั้งคู่จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเผชิญกับเรฮาน ที่วันนี้กลายเป็นอริและต้องการทวงหนี้แค้นกับบิลลี่และลิลลี่

เอลเลน บาร์กิน และ เพียร์ซ บรอสแนน

พล็อตเรื่องฟังดูเข้มข้นนะครับ เหมือนหนังแอ็กชันสาดกระสุนเลยทีเดียว มีทั้งโจรปล้นธนาคารจอมเก๋าเกมและอริที่แค้นฝังหุ่น ต้องสางบัญชีแค้นโดยที่ลูกสาวไม่เคยรู้ตัวตนที่แท้จริงของพ่อแม่มาก่อนเลย แต่นี่คือหนังของ Happy Madison ที่กำหนดว่าจะต้องเป็นหนังคอมเมดี้เท่านั้น ภารกิจของทีมเขียนบทอย่าง เบน ซาโซฟ (Ben Zazove) และ อีแวน เทอร์เนอร์ (Evan Turner) ทั้งคู่เคยผ่านงานเขียนบทมาแค่เรื่องเดียว ก็ต้องพยายามยัดเยียดมุกลงไปเพื่อให้หนังกลายเป็นคอมเมดี้ให้ได้ มันก็เลยกลายเป็นมุกฝืน ๆ ที่สอดแทรกไปในบทสนทนา หรือยัดเยียดให้บรรดาตัวละครทุกตัวจะต้องมีฉากที่ทำท่าทางประหลาด ๆ อย่างที่มนุษย์ปกติเขาไม่ทำกัน และที่สัมผัสได้ก็คือ ซาโซฟและเทอร์เนอร์เป็นมือเขียนบทที่ขยันยัดมุกอย่างมาก จนเห็นได้ชัดว่ามีการยิงมุกออกมาแทบทุกนาทีของหนัง แทบทุกคำพูดที่ตัวละครเอ่ยออกมา ยิงมุกกันแบบเรี่ยราด ยิงทิ้งขว้าง เล่นหมดทั้งมุกบนสะดือ ใต้สะดือ ประมาณว่าเอามากไว้ก่อน ติดสักมุกสองมุกก็ดีใจแล้ว แต่ผลที่ได้ก็เลยกลายเป็น ‘มุกขยะ’ เสียมาก เพราะรู้สึกเหมือนถูกยัดเยียด มันไม่สามารถเรียกเสียงหัวเราะได้เลย

บทหนังเองก็ดูเหมือนจะหลงทาง ว่าจะไปทิศทางไหนดี โดยเฉพาะ เรฮาน (พัวร์นา จากานนาธาน – Poorna Jagannathan) ที่เปิดตัวมาแบบสาวโหด ฆ่าคนตาไม่กะพริบ คุย ๆ กันอยู่ ก็ยกปืนมาจ่อหน้าผาก โป้ง! โอ้ว สับสน หนังคอมเมดี้จำเป็นต้องมีตัวร้ายโหดขนาดนี้เลยหรือ แต่ผ่านไปสักพัก เรฮานก็กลายเป็นตัวละครปัญญาอ่อนตามคนอื่น ๆ ไปอยู่ดี ด้วยความอ่อนด้อยประสบการณ์ของมือเขียนบท เมื่อได้โจทย์ว่าต้องเขียนหนังคอมเมดี้ก็เลยเขียนให้ตัวละครทุกตัวดูไร้สาระกันไปหมด เพื่อพร้อมจะยิงมุกออกมาให้ได้มากที่สุด ที่จริงแล้ว มุกฮาแรง ๆ ก็สามารถสร้างได้จากตัวละครฮา ๆ เพียงคนเดียวที่ต้องเอาตัวรอดในแต่ละสถานการณ์ ยกตัวอย่างง่าย ๆ เลยก็อย่างเช่น มิสเตอร์บีน หรือ จิม แครีย์ ที่คนรอบข้างก็ล้วนแต่ปกติธรรมดากันทั้งสิ้น แต่ก็เรียกเสียงฮาได้ทุกฉากที่ออกมา แต่สำหรับ ‘The Out-Laws’นี่ ทุกตัวละครที่ถูกเขียนให้ผิดปกติธรรมดาไปหมด มันก็เลยไปกระทบกับเนื้อหาในส่วนที่จริงจังของหนัง อย่างในฉากที่โกสต์แบนดิตออกปฏิบัติการปล้นธนาคารนั้น ก็ดูไม่มีความน่าเชื่อถือเลย นี่หรือโจรมากประสบการณ์ที่ปล้นมาแล้วนับร้อยครั้ง ไม่มีเทคนิคเฉพาะตัว ไม่มีอุปกรณ์ไฮเทค ไม่มีแผนการณ์แยบยลใด ๆ เลย

ปัญหาอีกอย่างก็คือ อดัม เดวีน แม้ด้วยภาพลักษณ์จะเป็นหนุ่มร่างเล็กอารมณ์ดี แต่ก็ไม่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ไร้เสน่ห์ดึงดูดอย่างที่พระเอกคอมเมดี้ควรจะมี และนี่ก็คือผลงานเรื่องที่ 2 ตามหลัง ‘JEXI’ (2019) ที่พิสูจน์ได้ว่าเขายังไม่แกร่งพอที่จะอยู่ในตำแหน่งพระเอกหรือตัวละครนำของเรื่องได้ และเห็นได้ชัดว่าเดวีนตั้งใจและพยายามอย่างมากกับโอกาสครั้งที่ 2 นี้ โดยการแสดงแบบโอเวอร์แอ็กติ้งเต็มที่ จนไม่มีนาทีไหนเลยที่ดูเป็นคนปกติ และทำให้ขัดกับบทที่เขียนให้เขาเป็นผู้จัดการธนาคาร พอเข้าฉากกับบรอสแนน ก็โดนรัศมีของพระเอกตลอดกาลกลบมิด

จุดที่น่าเสียดายที่สุดก็คือ เพียร์ซ บรอสแนน (Pierce Brosnan) นี่แหละ ที่ต้องบอกว่าเปลืองตัวจริง ๆ กับการมาปรากฎตัวในเรื่องนี้ และถูกใช้เป็นชื่อขายเรียกคนดูบนโปสเตอร์ บรอสแนนในวัย 70 ที่มาพร้อมกับลุคหนวดเคราสีเทาและหุ่นยังคงสะโอดสะอง คือภาพลักษณ์น่ะเหมาะแล้วกับบทอดีตโจรชื่อกระฉ่อนวงการ แต่กับหลาย ๆ ฉากก็สงสารที่อดีตพระเอกต้องมาโดนปู้ยี้ปูยำในหนังตลกสัปดี้สัปดนเรื่องนี้ มุกเดียวในเรื่องที่พอให้ยิ้ม ๆ ได้ ก็มาจากมุกที่บรอสแนนแซวตัวเองว่า “เจมส์ บอนด์ คนที่ 5 นั้นหล่อและเท่ที่สุดแล้ว” เอลเลน บาร์กิน (Ellen Barkin) อดีตนางเอกแอ็กชันยุค 90’s ยังคงดูดีในวัย 69 ทั้งวัยและภาพลักษณ์ทำให้เธอดูเข้าขากับบรอสแนนได้ดี

กลายเป็นว่า ‘The Out-Laws’ เป็นหนังที่สามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้เขียนได้สัมผัสว่าหนังคอมเมดี้ที่โดนยัดเยียดมุกจนรู้สึกอึดอัดมันเป็นแบบนี้นี่เอง แม้หนังจะแค่ 90 นาที แต่ก็ทำให้รู้สึกยาวนานได้ อย่าคิดว่ากดดูหนังคอมเมดี้ขำ ๆ สักเรื่องเพื่อผ่อนคลาย แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก ต้องบอกสำหรับ ‘The Out-Laws’ไม่ใช่หนังตลกแล้วดูผ่อนคลายครับ เพราะมันไม่ตลกเลย ดูแล้วสงสารนักแสดงเถอะครับ ที่ต้องโดนผู้กำกับบังคับให้ทำท่าทางบ้า ๆ บอ ๆ อะไรกันแบบนี้ โดยที่คนดูไม่ได้ขำตามไปด้วยเลย ไม่มีคำชมให้กับหนังเรื่องนี้…………………หนีไป