[รีวิว] Nowhere - คุณแม่สู้ชีวิต หนังเอาตัวรอดชวนลุ้นจนแทบหยุดหายใจ

Our score

7.6

[รีวิว] Nowhere – คุณแม่สู้ชีวิต หนังเอาตัวรอดชวนลุ้นจนแทบหยุดหายใจ

จุดเด่น

บทที่ดีทำให้เรื่องราวน่าติดตาม ชวนลุ้นตลอดทั้งเรื่อง
นักแสดงมีฝีมือ สามารถแบกหนังได้ตั้งแต่ต้นจนจบ
ตัวละครมีพัฒนาการชัดเจน ทำให้อยากเอาใจช่วย

จุดสังเกต

เรื่องราวมีความสูตรสำเร็จตามสไตล์หนังเอาชีวิตรอดอยู่บ้าง
มี Trigger Waring สำหรับคนกลัวเลือด กลัวที่แคบ กลัวเข็มและกลัวทะเลลึก

บท

7.5
โปรดักชัน

7.0
การดำเนินเรื่อง

7.5
ความสนุกตามแนวหนัง

8.0
ความคุ้มค่าในการรับชม

8.0

‘Nowhere’ หนังแนวเอาชีวิตรอดออริจินัลเรื่องใหม่ล่าสุดจาก Netflix ที่แค่ปล่อยตัวอย่างออกมาก็ทำเอาชวนลุ้นจนอยากดูฉบับเต็ม ใครชอบหนังแนวเอาตัวรอดจากสถานการณ์อันยากลำบากในสถานที่ปิดห้ามพลาด เพราะ ‘Nowhere’ จะพาเราไปตามติดหญิงสาวท้องแก่ที่ต้องเอาตัวรอดจากตู้คอนเทนเนอร์กลางมหาสมุทรเพียงลำพัง!

เรื่องย่อ: ‘Nowhere’ เปิดเรื่องด้วยการหลบหนีออกนอกประเทศของสองสามีภรรยา นิโค (รับบทโดย ทาร์มา โนบัส – Tamar Novas) และมีอา (แอนนา คาสติญโญ – Anna Castillo) ซึ่งท้องแก่ใกล้คลอดเต็มที ทั้งคู่เลือกหลบหนีเนื่องจากประเทศสเปนในตอนนี้เกิดภาวะขาดแคลนทรัพยากรอย่างรุนแรงจนต้องลดจำนวนประชากรกลุ่มเด็กและหญิงตั้งครรภ์ลงตามมาตรการของรัฐ พวกเขาจ้างนายหน้าให้พาไปซ่อนในตู้คอนเทนเนอร์เพื่อเดินทางข้ามทะเล แต่เรื่องราวกลับไม่ราบรื่นอย่างที่คิด เพราะมีอาและนิโคต้องถูกพรากจากกัน แถมมีอายังต้องเอาตัวรอดจากการลอยอยู่กลางทะเลเพียงลำพัง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อต้องติดตามรับชมทาง Netflix

‘Nowhere’ หนังออริจินัลเรื่องใหม่จาก Netflix เป็นผลงานล่าสุดของอัลเบิร์ต ปินโต (Albert Pinto) ผู้เคยกำกับซีรีส์ของ Netflix อย่าง ‘Money Heist’ ซีซัน 5 ตอนที่ 7 มาแล้ว ส่วนฝีมือเขียนบทเป็นของ เออร์เนสต์ ริเอรา (Ernest Riera) ผู้มีผลงานร่วมเขียนบท ’47 Meters Down’ หนังเอาชีวิตรอดจากการถูกขังอยู่ในกรงฉลามใต้ทะเลลึก

เมื่อเริ่มเรื่อง ‘Nowhere’ ทำให้เราเห็นภาพของสเปนในอนาคตที่เกิดภาวะขาดแคลนอาหารและทรัพยากรจนรัฐต้องออกมาตรการขั้นรุนแรงเพื่อลดจำนวนประชากร กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และเด็กคือคนกลุ่มแรกที่ต้องโดนจับแยกจากครอบครัวและนำไปกำจัด วิธีแก้ไขปัญหาอย่างสุดโต่งนี้ทำให้ประชาชนไม่พอใจ บางส่วนลุกขึ้นต่อต้าน และบางส่วนก็เลือกที่จะหนี

คู่สามีภรรยาอย่างนิโคและมีอาเองก็เช่นกัน พวกเขาเลือกวิธีว่าจ้างนายหน้าเพื่อให้มีพื้นที่ในตู้คอนเทนเนอร์ขนสินค้าสำหรับการขนส่งข้ามทะเล โดยหวังว่าจะไปถึงจุดหมายปลายทางเพื่อให้ห่างไกลจากประเทศอันโหดร้ายและอดีตที่ขมขื่น แต่แล้วก็เกิดเรื่องให้ทั้งคู่ต้องพลัดพรากกัน เหลือเพียงมีอาที่ต้องเอาตัวรอดเพียงลำพังในตู้คอนเทนเนอร์ที่ร่วงหล่นจากเรือเพราะพายุครั้งใหญ่

ว่าด้วยพล็อตเรื่องก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ การดำเนินเรื่องเป็นไปตามสูตรของหนังแนวเอาชีวิตรอดที่เราคุ้นเคย นั่นคือการสร้างสถานการณ์อันยากลำบากให้ตัวเอก ก่อนจะให้พวกเขาหาทางแก้ปัญหาและเอาตัวรอดจากความลำบากนั้นให้ได้ แต่ถึงจะดำเนินเรื่องตามสูตร ‘Nowhere’ ก็สนุกและดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม เพราะโจทย์ที่มีอาต้องเจอนั้นยากจนเราอยากรู้ว่าเธอจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไร

อุปสรรคต่าง ๆ ที่ตัวเอกอย่างมีอาต้องเอาชนะให้ได้นั้นเรียกได้ว่าโหดหิน แต่คาสติลโญก็เอาอยู่ เธอสามารถตรึงสายตาของผู้ชมให้ร่วมลุ้น ร่วมเอาใจช่วย จนบางครั้งก็แทบหยุดหายใจกับเรื่องราวที่คุณแม่ใจแกร่งคนนี้ต้องเจอ ตั้งแต่ต้นจนจบเราจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละครมีอาได้อย่างชัดเจนโดยเฉพาะในด้านการเอาตัวรอดและสัญชาตญาณความเป็นแม่

แม้จะแอบเสียดายที่ประเด็นการเมืองการปกครองสุดดาร์กกลายเป็นแค่การเรียกน้ำย่อยในช่วงต้นเท่านั้นเพราะหนังเน้นการเอาตัวรอดมากกว่า แต่ตรงจุดนี้ก็มีข้อดีคือเราสามารถโฟกัสกับการเอาใจช่วยตัวละครได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องสมาธิหลุดไปกับประเด็นอื่นในเรื่อง

นอกจากนี้ในหนังยังมีฉากชวนลุ้นหลายฉาก อาจไม่เหมาะกับคนที่กลัวทะเล กลัวที่แคบ กลัวเลือดและเข็ม เพราะแต่ละฉากนั้นค่อนข้างชัดเจนจัดเต็ม ทำให้มีความสมจริง ทำให้เข้าถึงอารมณ์กดดันและเจ็บปวดที่ตัวละครต้องเผชิญได้เป็นอย่างดี

ด้วยความที่บทกระชับ จับประเด็นที่หนังต้องการสื่อได้ดี ทำให้สามารถเล่าเรื่องได้สนุก ตื่นเต้น สมใจคนชอบหนังแนวเอาตัวรอดแน่นอน แม้จะมีช่วงให้พักหายใจหายคอกันบ้าง แต่อยากจะบอกว่าหนังก็ทำให้เราได้ลุ้นจนถึงวินาทีสุดท้ายจริง ๆ

สรุป

‘Nowhere’ จาก Netflix เป็นหนังเอาตัวรอดที่สนุก ตื่นเต้น และชวนลุ้น คนชอบหนังแนวเอาตัวรอดไม่ควรพลาด นักแสดงอย่างคาสติญโญสามารถแบกหนังได้จนจบและทำให้คนดูอย่างเรารู้สึกเอาใจช่วยคุณแม่สุดแกร่งอย่างมีอาได้จริง ๆ แม้จะมีความสูตรสำเร็จตามสไตล์ของหนังแนวนี้อยู่บ้าง แต่ด้วยอุปสรรคและการวางบทที่ดีทำให้เรื่องราวไม่น่าเบื่อ

สามารถรับชม ‘Nowhere’ ได้ทาง Netflix

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส